เพื่อป้องกันการสำรวจของผู้ถักทอชีวิตหุบเหว กู่ฉิงซานปิดความคิดทันทีที่ออกจากโลกดินมา
นี่ก็เพื่อป้องกันอีกฝ่ายไม่ให้มาสำรวจจิตใจจนล่วงรู้เรื่องแผนที่ดวงดาว
หลังกลับจากยุคโบราณ จนถึงตอนนี้ที่ยืนอยู่บนดาวคนคู่ ยืนอยู่บนลำธาร กู่ฉิงซานเข้าใจเรื่องนี้แจ่มแจ้ง
…ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวรู้ไพ่ในมือของเขาทั้งหมด
สิ่งเดียวที่นางไม่รู้คือแผนที่ดวงดาว
หรือก็คือ แผนที่ดวงดาวจะตัดสินความคิดของนาง!
“อา ขอบคุณ ข้าอยากรู้เรื่องนั้นก็จริง แต่ตอนนี้ใครบางคนมาขัดขวางข้าน่ะสิ” กู่ฉิงซานกล่าว
ชายชรานำทางลุกขึ้นจากหินช้าๆ หลังจากได้ยินคำพูดของกู่ฉิงซาน
“ไม่ต้องห่วง เจ้ากินก๋วยเตี๋ยวที่ข้าปรุงไปแล้ว เจ้านับว่าเป็นชายหนุ่มแสนดี ข้าจะช่วยเจ้าหยุดนางเอง”
เขาลอยขึ้นอย่างแผ่วเบาก่อนเหาะมาอยู่ข้างกู่ฉิงซาน
คลื่นที่มองไม่เห็นพวยพุ่งจากร่างกายของเขาก่อนกลายเป็นสายลมกระจายไปรอบข้าง
หญิงสาวร่างสูงมองภาพนี้ สีหน้าค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา
“เป็นไปไม่ได้! ถึงแม้เขาจะเป็นชายชรานำทาง แต่ที่นี่คือดาวคนคู่ ทำไมเขาถึงใช้พลังในร่างกายได้ล่ะ” นางพึมพำ
“แม่นาง เจ้ารีบไปเสียจะดีกว่า ไม่งั้นชายชราจะทำร้ายเจ้าเอาได้” ชายชรากล่าว
ขณะพูด ชายชราส่งสัญญาณไปทางลำธาร
กระแสน้ำพวยพุ่งก่อนกลายเป็นมังกรวารีบินวนไปมาก่อนทะยานขึ้นสู่ท้องนภายามราตรี
บนดาวคนคู่ นี่คือภาพที่ทำเอาสะเทือนปฐพีได้
หญิงสาวร่างสูงมองชายชรา ดวงตาวูบไหวไม่มีสิ้นสุด
ตัวตนของคนคนนี้คืออะไรกันแน่
ใช่แล้ว กู่ฉิงซานครอบครองจี้น้ำเต้าหยกที่มีความสามารถล่องหนและหยิบยืมความสามารถของคนอื่นมาได้
หากคนคนนี้เกิดมาพร้อมกับความสามารถตัวเอง แล้วเขาจะไม่ถูกพันธนาการโดยดาวคนคู่ได้อย่างไร
นางลังเลและไม่พูด แต่กลับตั้งท่าป้องกันโดยไม่เต็มใจ
เมื่อกู่ฉิงซานเห็นดังนั้น เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมรามือโดยง่าย
เขาลอบถอนหายใจ เตรียมดำเนินตามแผนชุดที่สอง
จากนั้นสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น
ทั้งสองฝ่ายต่างคาดไม่ถึงว่าจะมีการเคลื่อนไหวจากใต้ลำธาร
…มีคำกล่าวว่าหากอยากรอดชีวิตในโลกนี้ นอกจากอยู่ในบ้านอิฐแดงแล้วก็ต้องอยู่ใกล้ลำธารเข้าไว้
มีเพียงสองที่นี้เท่านั้นที่ไม่มีสิ่งแปลกประหลาด
บางทีวิชาของฉานนู่ที่สร้างมังกรวารีทะยานขึ้นสู่ท้องนภาอาจจะรุนแรงเกินไป ทำให้ดึงดูดสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ใต้ลำธารมา
ไม่ช้าชายผิวดำที่ท่อนบนเปลือยเปล่าพร้อมกับถือมีดเล่มใหญ่ในมือพุ่งออกจากใต้ลำธาร
ชายร่างใหญ่เห็นพวกเขาสามคนเช่นกัน ดวงตาของเขาจ้องตรงมาที่ฉานนู่
“ชายชรานำทาง!” เขากล่าวอย่างเงียบงัน
อย่างที่ทุกคนรู้ มีชายชราคนหนึ่งในดาวคนคู่ที่มีจุดกำเนิดลี้ลับ ไม่คล้ายกับเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีใครรู้จัก ความสามารถพิเศษคือทำอาหาร ตำนานกล่าวไว้ว่าทันทีที่กินก๋วยเตี๋ยวที่เขาปรุงเข้าไป หากทำให้เขารู้สึกยินดีก็จะได้ข้อมูลไปโลกอื่นจากเขา
ชายร่างใหญ่โยนมีดอย่างไม่ลังเล คุกเข่าลงกับลำธารดังตึงพร้อมกับกล่าวซ้ำไปมาว่า “ท่านผู้เฒ่า โปรดมอบรางวัลให้ข้าเป็นก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามด้วย”
เขาหยิบแท่งเงินจากกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนยื่นให้ด้วยมือทั้งสองข้าง
พวกเขาสามคนแข็งทื่อ
มัน… เกิดเรื่องอะไรขึ้น…
หญิงสาวร่างสูงมองชายชรานำทางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนสงสัยอยู่ในใจว่านี่เป็นกับดักหรือเปล่า
อย่างไรเสีย กู่ฉิงซานก็เป็นคนเจ้าเล่ห์
นางเคยเห็นแล้วว่าเขาทำให้เผ่าพันธุ์เทพกลายเป็นลูกน้องผู้จงรักภักดีได้
ความสามารถนี้มันถูกเรียกว่า…การแสดงหรือเปล่า
ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงนัก!
ผ่านไปสักพัก หญิงสาวร่างสูงยังคงตั้งท่าป้องกันขณะมองด้วยสายตาเย็นชา
กู่ฉิงซานชำเลืองมองฉานนู่อย่างระแวดระวัง
ฉานนู่รู้ทันที
“ฮ่าๆ เจ้าอยากกินอาหารที่ข้าปรุงหรือ” นางถามด้วยเสียงชรา
“ขอรับ ท่านผู้เฒ่า ข้าอยากกินสิ่งที่ท่านปรุงขึ้นมา” ชายร่างใหญ่ยืนยันอีกครั้ง
พูดเป็นเล่น นี่คือชายชราในตำนานที่คอยนำทางเชียวนะ ในเมื่อหาเจอแล้ว เขาจะปล่อยให้โอกาสหลุดมือได้อย่างไร
ฉานนู่ดึงน้ำมาล้างมือ ใช้เครื่องปรุงนานาชนิดแล้วรีบปรุงก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มเผยสีหน้ายินดีออกมา มือคว้าชาม ไม่สนความร้อน ยกขึ้นจ่อตรงปากแล้วกินซุปกับก๋วยเตี๋ยวเข้าไปจนเกลี้ยง
หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวแล้ว ชายร่างใหญ่เผยความทรงจำผ่านสีหน้าก่อนถอนหายใจออกมาเป็นครั้งคราว
ฉานนู่และกู่ฉิงซานไม่พูดอะไร
ผ่านไปสักพัก ชายร่างใหญ่กลับมามีสติก่อนประสานมืออีกครั้งแล้วกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่า ข้าขอบังอาจถามได้หรือไม่ว่าจะไปโลกพายุหิมะได้อย่างไร”
“โห เจ้าอยากถูกส่งไปโลกพายุหิมะหรือ” ฉานนู่ถาม
ชายร่างใหญ่ถอนหายใจออกมา “ในอดีตข้าเคยคิดที่จะเป็นอันดับหนึ่งในโลกพายุหิมะ จนกระทั่งวันหนึ่ง ข้าได้รับพลังวิเศษก่อนทะลวงความว่างจนมาถึงที่นี่ได้ คาดไม่ถึงว่าไก่จะไม่ขับถ่าย นกจะไม่ออกไข่ ความสามารถทั้งหมดไม่อาจใช้ได้ ข้าไม่รู้ว่าจะไปยังไง ดังนั้นจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างลำบากทุกวัน”
ขณะกล่าว เสียงของเขาเหมือนจะร้องไห้ออกมา “ท่านผู้เฒ่าผู้นำทางไปสู่ความหวังนับหมื่นครั้ง ข้าสาบานว่าจะเป็นคนดีหลังจากกลับไปแล้ว จะไม่ทะลวงความว่างเปล่าอีก ดังนั้นได้โปรด!”
ฉานนู่ครุ่นคิดสักพัก เผยรอยยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ากินซุปก๋วยเตี๋ยวของชายชราคนนี้แล้ว ชายชราจะนำทางให้เจ้าเอง”
“เจ้านับว่าโชคดีเช่นกัน…หากเดินไปทิศตะวันออกสามสิบเมตรตามลำธารนี้ จะพบป้ายหยกที่เขียนว่าสายลมตะวันออก เจ้าหยิบมันขึ้นมา แตะหน้าป้ายหยกด้วยนิ้วหัวแม่มือ จากนั้นก็จะถูกส่งไปโลกพายุหิมะ”
ชายร่างใหญ่ถามว่า “จะไม่ถูกฆ่าหรือถูกกินใช่หรือไม่”
“ไม่แน่นอน”
“ไม่ถูกวิญญาณกลืนกินหรือถูกผนึกนับหมื่นปีใช่หรือไม่”
“ไม่แน่นอน”
“ไม่ถูกพัดจนเป็นชิ้นๆ ใช่หรือไม่”
“ไม่แน่นอน… ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าไม่ต้องทำตามที่ข้าพูดก็ได้”
“สามสิบเมตร มันใกล้เหลือเกิน ขอบคุณท่านผู้เฒ่ามาก”
ชายร่างใหญ่กัดฟัน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้
…เขาไม่อยากอยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว
เขาเห็นว่าชายร่างใหญ่วิ่งออกไปอย่างหมดความอดทนก่อนพบป้ายหยกบนพื้นอยู่ห่างจากลำธารสามสิบเมตร
เขายื่นนิ้วหัวแม่มือไปสัมผัสป้ายโuเวลกูดoทคอม
“สายลมตะวันออก!”
เขาขยับอย่างยินดี
ป้ายหยกสั่นไหวอย่างรุนแรง คลื่นความว่างเปล่าอันบิดเบี้ยวปลดปล่อยออกมา
‘พรึ่บ!’
ร่างของชายคนนั้นหายไปจากโลกนี้ เขาไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว
ตอนนี้ เสียงของเทพธิดาฉานนู่ดังขึ้นในใจของกู่ฉิงซาน
“นายท่าน เมื่อครู่ข้ารีบทำตามสิ่งที่ควรทำไปหน่อย เพื่อให้ได้รับความเชื่อใจจากผู้ถักทอชีวิตหุบเหว ข้าจึงส่งคนคนนี้ไปโลกอื่น”
นางอาจจะรู้ว่ากู่ฉิงซานไม่สามารถใช้จิตเทพได้ นางจึงอธิบายต่อว่า
“ที่นั่นคือโลกเวทมนตร์ ตามคำบรรยายบนแผนที่ดวงดาว ผู้ชายบนโลกนั้นสูญพันธุ์ไปแล้ว เหลือเพียงผู้หญิง พวกนางล้วนเก่งกาจ ถึงแม้ผู้ชายจะไม่สามารถเอาชนะพวกนางได้ แต่เขาก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้”
น้ำเสียงของฉานนู่แตกตื่นเล็กน้อย “นายท่าน ท่านไม่พูดกับข้าเลย”
แล้วจะให้กู่ฉิงซานพูดอะไรได้ล่ะ
เขาทำได้เพียงนึกถึงคำแนะนำของโลกในแผนที่ดวงดาวอย่างรวดเร็วเท่านั้น
‘อืม…’
หนึ่ง เพราะการสูญพันธุ์ของผู้ชาย โลกทั้งใบจึงเผชิญหน้ากับหายนะแห่งการสูญพันธุ์
กู่ฉิงซานไอเล็กน้อยขณะสวดภาวนาให้กับชายคนนั้นอย่างเงียบงัน
รักษาตัวด้วย สหาย…
หลังจากชายร่างใหญ่ไปแล้ว การระเบิดของรอยร้าวในความว่างเปล่ากระเพื่อมราวกับคลื่นน้ำ ท้ายที่สุดก็สงบลง
นี่คือคุณลักษณะพิเศษของการเคลื่อนย้ายพริบตาผ่านความว่างเปล่า
หรือก็คือ เมื่อครู่เพิ่งเกิดการเคลื่อนย้ายพริบตา!
หญิงสาวร่างสูงมองป้ายหยกบนพื้น จากนั้นมองชายชราลึกลับที่คอยนำทาง
กู่ฉิงซานไม่มีความสามารถแบบนี้…
ใช่แล้ว กู่ฉิงซานมีวิชามากมาย แต่เขาจะรู้การเดินทางไปโลกที่ไม่ข้องเกี่ยวกันด้วยหรือ
ในที่สุดหญิงสาวร่างสูงก็เชื่อ
ตอนนี้ ชายชรานำทางกล่าวอีกครั้งว่า “แม่นาง ชายหนุ่มคนนี้เป็นสหายข้า หากเจ้ามาขวางทาง ข้าก็ต้องลงมือ”
หญิงสาวร่างสูงกลอกตาแล้วพลันยิ้มออกมา “ท่านผู้เฒ่า ข้าไม่ได้พยายามจะห้ามท่าน ข้าอยากกินอาหารที่ท่านปรุงเช่นกัน”
“เดี๋ยวนะ!” กู่ฉิงซานตะโกน “ท่านผู้เฒ่า ท่านจะให้อาหารนางไม่ได้นะ นางไม่ใช่คนดี!”
ชายชรานำทางชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวอย่างไม่พึงพอใจว่า “คนดีกับคนไม่ดีเป็นแบบไหนล่ะ ขอแค่นางเต็มใจกินก๋วยเตี๋ยวของข้า นางก็คือคนดี”
“ไม่ ท่านผู้เฒ่า นางถึงกับเป็นสัตว์ประหลาด”
ชายชรามองหญิงสาวร่างสูงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสงสัย
หญิงสาวร่างสูงเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ออกมาแล้วกล่าวว่า “ข้าแค่อยากลิ้มลองอาหารจากฝีมืออันยอดเยี่ยมของท่าน โปรดให้ข้าได้ลองด้วย”
ชายชรานำทางยิ้มกว้างก่อนพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “แม่นางช่างตาแหลมนัก!”
ขณะสนทนา มังกรวารีบนท้องนภาหายไป
ชายชราเดินไปหาหญิงสาวร่างสูง วางอุปกรณ์ทำอาหารตรงหน้าแล้วเริ่มทำก๋วยเตี๋ยว
“ท่านผู้เฒ่า ท่านอย่า…” กู่ฉิงซานรีบพูด
“หยุดพูดจาเหลวไหลได้แล้ว!” ชายชรานำทางเมินเขา
กู่ฉิงซานอยู่ไกลจากลำธารจีน ถึงจะอยากห้ามแต่ก็ห้ามไม่ได้ เขาได้แต่เผยสีหน้าจนใจ
เมื่อเห็นท่าทีของเขา หญิงสาวร่างสูงจึงไม่รีบลงมือ
“กู่ฉิงซาน” นางพูดอย่างเกียจคร้าน “ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหน ข้าจะตามไปด้วย คิดว่าดีไหมล่ะ”
“จะว่าไปแล้ว ทันทีที่เจ้าออกจากโลกนี้ไป เมื่อนั้นเจ้าก็จะตาย ฉะนั้นจงยินดีกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเถอะ”
สีหน้าสิ้นหวังปรากฏขึ้นกับกู่ฉิงซาน