📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย World’s Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ – ตอนที่ 393

บทที่ 393 - อสูรกายไล่ล่า
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ตะขอเกี่ยววิญญาณทิ้งตัวลง และอนุญาตให้กู่ฉิงซานถือมัน

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม บรรทัดแสงตัวอักษรขนาดเล็กเด้งเตือนขึ้นทันที

“ค้นพบ ตะขอเกี่ยววิญญาณแห่งสายธารแห่งการหลงเลือน กล่าวได้ว่านี่เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะจากปรภพ เป็นอุปกรณ์เฉพาะของเทพวิญญาณ”

“คุณไม่อาจทราบถึงคุณสมบัติทั้งหมดของสิ่งประดิษฐ์เทวะได้ และคุณจะไม่ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องใดๆกับมัน เว้นเพียงแต่ว่าคุณจะได้รับการยอมรับเป็นนายของมันเท่านั้น”

กู่ฉิงซานไม่สนใจที่จะอ่านมัน เขาหันหลังกลับและเริ่มต้นใช้ออกด้วยย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้วทันที

แล้วเขาก็ไปปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งนอกวิหาร

ขณะเดียวกันจิตสัมผัสเทวะแปลกๆก็กวาดเข้ามาปะทะเขาจากเบื้องหน้า

–ในโลกมนุษย์ คนอื่นๆจะไม่ใช้จิตสัมผัสเทวะกัน ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงสามารถใช้มันทั้งจับตำแหน่ง ตรวจสอบ หลบหนี ฯลฯ … หรือเรียกง่ายๆว่าโกงคนอื่นได้อย่างไร้ยางอาย

ทว่ากับที่นี่ ที่ซึ่งมารแมงมุมเขมือบวิญญาณกำลังควบคุมจิตสัมผัสเทวะอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เขามิอาจทำเช่นนั้นได้อีกต่อไป

กู่ฉิงซานตระหนักได้ถึงจิตสัมผัสนี้ เขาจึงถอนจิตสัมผัสเทวะทั้งหมดของตัวเองกลับคืน

เขาจะไม่ยอมปล่อยให้จิตสัมผัสเทวะของตนออกจากร่างกาย แล้วไปปะปนเข้ากับของมันเด็ดขาด

“ข้าจะหยุดมันเอง!” ชูร่าชายตะโกนขึ้นและทะยานออกไป

“เจ้าก็รีบหนีไปเร็วเข้า!”

ชายชราตะโกน และกระโจนไปยังทิศทางมารแมงมุม

ทว่าไปได้เพียงครึ่งทาง จู่ๆทั้งสองก็หายวับไป!

ดูเหมือนว่าจะถูกบังคับเรียกกลับไปแล้ว!

พอเห็นฉากนี้ มารแมงมุมก็หัวเราะออกมา “เจ้าพวกคนตายที่ชวนปวดหัว ในที่สุดก็หมดไปซะที”

คู่ดวงตาแนวตั้งของมันจดจ้องกู่ฉิงซานอย่างรอบคอบ ก่อนที่สายตาของมันจะตกลงไปยังตะขอเกี่ยววิญญาณที่อยู่ในมือของกู่ฉิงซาน

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นหนอนแมลงจากโลกมนุษย์สินะ จู่ๆก็บุกมาที่วิหารสักการะสิ่งประดิษฐ์เทวะ ข้าสมควรชื่นชมเจ้าว่าช่างหลักแหลม .. หรือว่าไร้เดียงสาดี?”

ร่างใหญ่ของมันงอตัวลงเล็กน้อย และแปรเปลี่ยนเป็นเส้นแสง เหลือทิ้งไว้เพียงภาพติดตาในตำแหน่งเดิมอย่างฉับพลัน

บังเกิดกระแสลมรุนแรงพัดกระพือ ปากมารแมงมุมอ้าคำราม ขณะที่เท้าทั้งแปดย่ำพื้นดินพรวดเข้าหากู่ฉิงซาน

ช่างว่องไวจริงๆ!

กู่ฉิงซานลอบพูด

“ข้าจะขวางมันเอง!” วิหคขาวร้องออกมา

“ไม่จำเป็น!”

กู่ฉิงซานเหยียดมือไปคว้ากระบี่ภูติตัดกระดูก และใช้ออกด้วยย่นระยะทันที

ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมามัวต่อสู้ ตัวเขาจำเป็นต้องค้นหาความจริงก่อนเป็นอันดับแรก!

มารแมงมุมปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าทางเข้าวิหาร ทว่ากู่ฉิงซานกลับหายไปจากที่นี่ และผุดออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าตรงชายฝั่งบริเวณตีนเขาแทน

เขาพุ่งเข้าไปในสายธารแห่งการหลงเลือน

และสายธารก็แยกออก ยอมรับเขาให้เข้าไปภายในของมัน

หลังจากเขาเข้าไปแล้ว กระแสธารก็หุบปิดกลับคืนดังเดิมทันที

และแทบจะในวินาทีต่อมา เสียงหอนด้วยความเดือดดาลก็ดั่งลงมาจากทางบริเวณชายฝั่ง

มารแมงมุมเคลื่อนกายอีกครั้ง และปรากฏตัวขึ้นบนชายฝั่งของสายธารแห่งการหลงเลือน

มันโน้มตัวลงมาข้างหน้า เพื่อพยายามจะดูว่ากู่ฉิงซานอยู่ที่ไหน

เห็นได้ชัดว่าเกือบจะจับเจ้ามนุษย์นั่นได้อยู่แล้ว!

น่าแปลกใจนัก อีกฝ่ายมีกลิ่นอายของการฝึกยุทธแท้ๆ แต่เพราะเหตุใดกันมันจึงมิได้ปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกมา?

มารแมงมุมคืบคลานไปทั่วชายฝั่ง ทว่ามิกล้าที่จะก้าวลงสู่สายธารแห่งการหลงเลือน

เพราะสายธารแห่งการหลงเลือนคือกฏเกณฑ์แห่งปรภพที่น่าหวาดกลัวที่สุด มันเป็นตัวแทนของดินแดนแห่งการเกิดใหม่และความตาย

นี่คือกฏดั้งเดิมของปรภพ

กระทั่งมาร ก็ยังมิอาจต่อกรกับสายธารอันยิ่งใหญ่นี้ได้

กู่ฉิงซานนำตะขอเกี่ยววิญญาณกับกระบี่ภูติทิ้งระยะห่างออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่บินอยู่ใต้น้ำมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็หยุดลง

“ยินดีที่ได้รู้จัก ข้ามีนามว่ากู่ฉิงซาน” เขาหันไปกล่าวกับตะขอเกี่ยววิญญาณ

“เจ้ามิจำเป็นต้องเอ่ยสิ่งใด ข้ารู้เรื่องราวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุหรือผลกระทบที่ตามมา ข้าได้ล่วงรู้ทุกอย่างจนหมดแล้ว แม้กระทั่งเป้าประสงค์ของเจ้าที่มาที่นี่” ตะขอยาวกล่าว

“ข้าคือตะขอเกี่ยววิญญาณ และข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับทุกชีวิตและคนตายในปรภพ ได้อยู่ในจิตใจของข้า”

“นอกจากนี้ข้ายังรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เจ้าประสบพบเจอในปรภพ และสิ่งที่เจ้าต้องการจะถามอีกด้วย”

กู่ฉิงซานพยักหน้า ในที่สุดหัวใจของเขาก็คลายลง

–ท่ามกลางสิ่งที่ถูกรังสรรค์ขึ้นในปรภพ ในที่สุดก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่สามารถสื่อสารกันได้อย่างปกติปรากฏตัวขึ้นเสียที

“เช่นนั้นโปรดสำแดงตัวให้ข้าได้เห็นด้วยเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว

“เจ้ากำลังหมายถึงจิตอาร์ติแฟคของข้าใช่ไหม? ข้าก็อยู่ที่นี่นั่นล่ะ เพียงแต่ตัวข้ามิอาจมองเห็นได้ก็เท่านั้นเอง”

บนตะขอเกี่ยววิญญาณ มีรังสีแสงสีเหลืองอ่อนแผ่กระจายออกมาจางๆ

“ตลอดทั้งโลกปรภพ ที่ใดที่รังสีแสงนี่ ที่นั่นก็จะมีข้า” มันตอบ

‘หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงสามารถรู้เรื่องราวทุกอย่าง ช่างเป็นพลังอำนาจที่ร้ายกาจจริงๆ’ กู่ฉิงซานลอบสรรเสริญอย่างลับๆ

“เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับปรภพ?” เขาเอ่ยถาม

“แน่นอน ขอเจ้าจงเชื่อมต่อกับข้าด้วยจิตสัมผัสเทวะ แล้วข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อ2-3วันที่ผ่านมา”

“เข้าใจแล้ว”

กู่ฉิงซานปล่อยจิตสัมผัสเทวะของเขา จมลงสู่ตะขอเกี่ยววิญญาณ

หลังจากนั้นไม่นาน ชั้นเหงื่อเย็นก็เริ่มเปียกชุ่มบนแผ่นหลังเขา ทั้งคนทั้งร่างยืดตัวตรง

ความโศกเศร้าและเสียงของความเจ็บปวดพรั่งพรูเข้าไปในจิตใจของกู่ฉิงซาน

ภาพเคลื่อนไหวค่อยๆขยายออกอย่างช้าๆ

บนท้องฟ้าเหนือภูเขาล้อมเหล็ก ปรากฏมวลกลุ่มแสงที่กระจ่างชัดกำลังลอยนิ่งอยู่อย่างสงบ

บางครั้งมันก็มีแสงหลากสีสันทะยานเข้าหามัน โถมเข้าใส่บอลแสงด้วยเจตนาร้าย

แต่ทุกๆครั้งเลย ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่ปะทะกัน 1-2กลุ่มแสงก็จะร่วงตกลงมา

กลุ่มแสงร่วงกระแทกเข้ากับภูเขาล้อมเหล็ก และเผยให้เห็นถึงร่างมนุษย์ ก่อนที่ร่างดังกล่าวจะแปรสภาพกลายเป็นเถ้าถ่าน สลายไปอย่างรวดเร็ว

กู่ฉิงซานพยายามเบิ่งตาของเขาออกให้เต็มที่ แต่แท้จริงแล้วเขากลับสามารถมองเห็นได้แค่เพียงร่างอันน่าสังเวชของอีกฝ่ายก่อนที่จะสลายหายไปก็เท่านั้น

และร่างสังเวชที่ว่า นั่นคือเทพวิญญาญแห่งปรภพ!

บนใบหน้าของพวกเขา ล้วนเผยถึงความเจ็บปวดสุดจะทานทน แล้วก็ตกตายไป

อีกด้านหนึ่ง สุดปลายของภูเขาล้อมเหล็ก

ปรากฏถึงเผ่ามารที่คราคร่ำ เบียดเสียกระจุกตัวกันอยู่ฟากฝั่งหนึ่งของภูเขาล้อมเหล็ก พวกมันกำลังเฝ้ารอคอยให้เทพวิญญาณตกตายลงโดยสมบูรณ์อย่างเงียบๆ

และตรงพื้นที่ท่ามกลางภูเขาที่ว่างเปล่าระหว่างเทพกับมารนั่นเอง

มีอสูรกายอยู่ตนหนึ่งยืนหยัดอยู่

มันกำลังมุ่งหน้าเดินไปยังทิศทางของเทพแห่งปรภพ และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยที่กล้าจะย่างกรายเข้าไปใกล้มัน

“โฮ่!!”

ทุกย่างก้าว อสูรกายจะเปล่งเสียงร่ำร้องออกมา

ขณะนี้ ในมือทั้งสองข้างของอสูรกายกำลังถือหอกเล่มหนึ่งอยู่

สายตาของกู่ฉิงซานมองลงไปที่หอก ขณะเดียวกันสีหน้าของเขาก็ค่อยๆกลายเป็นหนักอึ้ง

นี่คือหอกขนาดใหญ่ ที่แม้กระทั่งอสูรกายก็ยังจำต้องใช้มือทั้งสองข้าง จึงจะสามารถเกาะกุมมันได้

และเมื่อดูจากสีหน้าของอสูรกาย บ่งบอกชัดเจนว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่แต่เพียงแต่หนักหน่วง ทว่ามันยังแฝงไว้ซึ่งพลังอำนาจอันแปลกประหลาดอีกด้วย

ตัวหอกเปล่งประกายหลากสีสัน ส่องแสงงดงามสุกใสขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า ฉากนี้แท้จริงแล้วสมควรจำเริญตา

แต่อสูรกายกลับโห่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

กู่ฉิงซานจึงได้ลองเฝ้าสังเกตมันอย่างรอบคอบอีกครั้งโนเวลกูดอทคอม

แล้วเขาก็พบว่าแม้มันจะเปล่งแสงสุกสกาวสาดส่องจนแสบตาออกมา ทว่าตามตัวหอกกลับสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

บนตัวหอก ถูกแกะสลักไว้ด้วยอักษรรูนที่ดูบิดเบี้ยวและซับซ้อนมากมาย ขณะเดียวกันก็แผ่กลิ่นอายอำนาจอนันต์อันหาผู้ใดเทียบเปรียบได้ออกมา

ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตทั้งมวลตลอดทั้งสวรรค์และโลก ยามเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน จักต้องทิ้งเข่าลงก้มกราบกรานหอกเล่มนี้

บนตัวหอก ถูกแปะไว้ด้วยยันต์ที่กำลังสาดแสงสีทองอยู่

บนตัวยันต์เปล่งแสงสีทองออกมาอย่างต่อเนื่อง และห่อหุ้มปกคลุมตลอดทั้งหอกเอาไว้

แม้กระทั่งแสงหลากสีสันบนตัวหอก ก็ยังถูกยับยั้งเอาไว้ด้วยแสงสีทองนี้ ขณะเดียวกันก็มีบ้างเป็นครั้งคราวที่แสงและเงาหลุดลอยออกมาจากมัน ทิ่มแทงไปยังตำแหน่งที่เทพวิญญาณอยู่บนภูเขา

และยามเมื่อเทพวิญญาณถูกมันทิ่มแทง พวกเขาก็จะตกตายลงทันที

กู่ฉิงซานเฝ้ามองภาพเบื้องหน้าเขา สมองหมุนเร็วจี๋ ขณะที่เขาหัวใจของเขาสั่นไหว

เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของตลอดทั้งสองช่วงชีวิตของเขา ชัดเจนว่าหอกนี้ไม่ได้ดูเหมือนกับว่าจะเป็นอาวุธของเผ่ามาร

เนิ่นนานสักพัก อสูรกายก็ยังมิได้ก้าวออกไปข้างหน้า

บนภูเขาล้อมเหล็ก หลากหลายเทพวิญญาณก็เร่งฉวยโอกาสนี้ พุ่งเข้าหาอสูรกายอย่างรวดเร็ว

อสูรกายบังเกิดปฏิกริยาตอบสนองอย่างทันท่วงที มันดึงยันต์สีทองออกจากหอกในฉับพลัน!

ทันใดนั้น บนตัวหอกก็ระเบิดเฉดแสงและเงาหลากสีออกมา จ้วงแทงออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า กระจายไปยังทุกทิศทางรอบกาย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมหลากสีสันของหอกนี้ เหล่าเทพวิญญาณก็ล้มตัวลงกับพื้น สิ้นใจอย่างมิอาจต้านทาน

ทว่าดูเหมือนจะมิใช่เทพวิญญาณเพียงฝ่ายเดียวที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน เบื้องหลังของอสูรกาย บัดนี้เหลือทิ้งไว้เพียงซากศพมารนับพันหมื่น!

แม้กระทั่งอสูรกายเอง ที่กำลังถือหอกมากสีสันนี้ ก็ยังต้องคุกเข่าลงกับพื้น

ตามด้วยชิ้นส่วนของเลือดและเนื้อหนังที่ร่วงตกลงจากตัวมัน

ต่อให้เปิดใช้งานยันต์ทองคำแล้วก็ตามที ทว่าอสูรกายก็ยังมิอาจทานทนต่ออนุภาพของหอกที่มันกำลังใช้อยู่ได้

ทั้งคนทั้งร่างของมันกำลังพังทลายลง

สีหน้าของกู่ฉิงซานแปรเปลี่ยนกลับกลาย!

เพียงแค่ลอกยันต์สีทองออก มารตนนั้นก็สามารถใช้หอกสังหารเทพได้! แม้กระทั่งเผ่ามารนับพันหมื่นก็ยังต้องสิ้นชีพลง!

นี่นับว่าช่างเป็นอำนาจอันน่าสะพรึงกลัว น่าสะพรึงเกินไปแล้วจริงๆ

ในช่วงเวลานั้นเอง หลากหลายอสูรกายร่างใหญ่ก็วิ่งฝ่าออกมาจากกลุ่มมาร ทุกตนมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือวิ่งตรงเข้าหาหอก แต่ทว่า

ขณะเดียวกัน เฉดแสงและเงาขอหอกหลากสียังคงสาดประกายออกมาอย่างต่อเนื่่อง ส่งผลให้เหล่าอสูรกายร่างใหญ่ถูกเฉดสีเหล่านั้นทิ่มแทงเอาระหว่างทาง ร่วงกลิ้งลงกับพื้น บังเกิดเสียงร่ำร้องโหยหวนไปทั่ว

จนกระทั่งหลงเหลืออสูรกายตัวสุดท้าย มันเลือกที่จะหลบซ่อน และใช้ร่างของสหายเบื้องหน้าเป็นชั้นป้องกัน ทำให้สามารถรอดชีวิตมาได้

และท้ายที่สุดมันก็มาถึงใจกลางของภูเขา มือเร่งคว้ายันต์ทองคำที่ตกอยู่ขึ้นมา และแปะมันกลับคืนลงบนหอกหลากสี

ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง แสงและเงาทั้งหมดบนตัวหอกก็จางหายไป

ตลอดทั้งหอกได้ถูกปกคลุมด้วยแสงสว่างสีอร่ามอีกครั้ง

อสูรกายตนใหม่คว้าจับหอกหลากสีขึ้นมาในมือ และทำเฉกเช่นเดียวกันตนก่อนหน้า ย่ำฝีเท้าก้าวเดินกดดันเทพวิญญาณที่อยู่อีกฟาฟฝั่งของเขาล้อมเหล็กต่อไป

เบื้องหลังมัน ที่แต่เดิมพลุกพล่านไปด้วยอสูรกายที่วิ่งเข้ามาหมายจะคว้าจับหอก บัดนี้ถูกเปลี่ยนเป็นทะเลเลือด เอ่อล้นหลั่งไหลลงไปตามสายธารแห่งการหลงเลือน

เพียงแค่หอกเล่มเดียว … ทว่ากลับสามารถโจมตีอสูรกายมากมายถึงตายได้มากมายขนาดนี้!

อสูรกายตนใหม่ยืนหยัดขึ้น แบกหอกในมือ และเริ่มก้าวเดินต่อไป ทว่ามันก็ได้เพียงแค่สองก้าวเท่านั้น

เพราะจู่ๆเทพวิญญาณจากอีกฟากภูเขาก็กระจายตัวแยกจากกัน ทั้งคนทั้งร่างของพวกเขาสาดแสงสีขาวนวลออกมา กวาดปกคลุมออกไปทั่วฟ้า

และแสงสีขาวที่ว่านี้ก็กดทับลงไปทางอสูรกาย

อสูรกายกระชากยันต์ทองคำออกทันที! และจ้วงปลายหอกไปทางแสงสีขาว!!

ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ!

เฉดแสงและเงาอันคมชัดทะยานออกจากตัวหอก

พร้อมกับแสงที่ขาวที่กระเจิงออกไป

บนท้องฟ้าเหนือภูเขาล้อมเหล็ก เมื่อเผชิญหน้ากับคมหอกนี้ เทพปรภพตนแล้วตนเล่าก็พากันตกตายลง ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้า

ขณะเดียวกัน กระทั่งอสูรกายผู้ใช้หอกเล่มนี้ มันก็ได้ตกตายลงไปด้วยเช่นกัน

และแน่นอน ว่าไกลออกไปเบื้องหลังอสูรกายที่ใช้หอก เผ่ามารอีกหลายหมื่นตนก็ตกตายลงอีกคราภายใต้เฉดแสงและเงาของคมหอกนี้

พื้นที่โดยรอบถูกเปลี่ยนเป็นทะเลเลือดอีกครั้ง!

กู่ฉิงซานสูญสิ้นกระแสเสียงของเขา “การโจมตีนี้ … มันไม่แบ่งแยกมิตรหรือศัตรู!”

เห็นเพียงแค่อสูรกายตนนั้นล้มลง และอสูรกายอีกหลายตัวได้วิ่งเข้ามา

อสูรกายตนใหม่คว้าจับยันต์ทองคำ แปะกลับคืนบนหอกหลากสี ยกถือมันในมือ รับช่วงต่อก้าวเดินออกไปเบื้องหน้า

โดยไม่ใยดีอสูรกายตัวก่อนหน้าที่ล้มลงกับพื้น ที่ไร้ซึ่งชีวิตอีกต่อไปเลยแม้แต่น้อย

กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

ฉากตรงหน้านี้ ได้อยู่เหนือล้ำยิ่งกว่าจินตนาการของเขาไปไกลแล้ว

ทำลายสิ้นโดยไม่สนใจว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู กระทั่งอสูรกายและทวยเทพก็ยังไม่มีข้อยกเว้น!

อาวุธนี่มันอันใดกัน!!!?

อสูรกายเดินไปทั่วภูเขาล้อมเหล็กอยู่สักพักหนึ่ง

ทว่าจนถึงเวลานี้ ก็ยังไม่มีเทพวิญญาณคนใดพุ่งเข้ามาโจมตีมัน

อย่างไรก็ตามขณะที่มันกำลังย่ำเดินกดดันอยู่นั้นเอง จู่ๆฝีเท้าของมันก็เริ่มซวนเซ

ไม่นานนักมันก็จำต้องคุกเข่าลงกับพื้น … และสิ้นใจลง

ถึงแม้ว่าจะมียันต์ทองคำคอยปรามพลังอำนาจเอาไว้ ทว่าพลานุภาพของหอกก็ยังค่อยๆเอ่อล้นออกมาภายนอก สังหารอสูรกายที่ถือจับมันอยู่ดี

พลังอำนาจนี้ มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

เมื่อถึงฉากนี้ อสูรกายร่างใหญ่อีกตนที่เปี่ยมไปด้วยพลังก็ก้าวออกมาข้างหน้า

อสูรกายตนใหม่รับช่วงต่อหอกมา และก้าวเดินสำรวจภูเขาล้อมเหล็กต่อไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก มันก็คุกเข่าลงกับพื้น และตกตายจากไป

ทว่าอสูรกายก็ตนใหม่ก็ยังมารับช่วงต่อหอก และเริ่มทำการสำรวจอย่างหาร่องรอยของเทพวิญญาณต่อไปอย่างรอบคอบ

กล่าวได้ว่าบัดนี้ หลังจากที่สูญสิ้นอสูรกายไปกว่าร้อยตน พวกมันก็สามารถกดดันเทพวิญญาณจนดิ้นรนเฮือกสุดท้าย ตกตายกันจนหมดสิ้น

เผ่ามารที่ถึงขั้นยอมจ่ายราคามหาศาลหนักหน่วงเช่นนี้ออกมา ในที่สุด ก็ได้มาถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลกำไรจากการลงทุนของพวกมันแล้ว!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
World’s Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

World’s Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

All-Heaven Armageddon Online, Chư Giới Tận Thế Online, WAO, 诸界末日在线
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 2212 Chapters (จบแล้ว)
อาณาจักรทั้งมวลถึงคราวล่มสลาย จอมมารหมายจะเก็บเกี่ยวชีวิตมนุษย์ทุกชีวิต ท่ามกลางความสิ้นหวังอันมืดมน ชายคนหนึ่งได้ฉีกเส้นแบ่งของเวลาและมิติ หวนคืนสู่โลกในช่วงเวลาก่อนที่มันจะถูกทำลายลงโดยสมบูรณ์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset