📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 107.2

บทที่ 107.2 - ทำความดีชดเชยความผิด
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“สมควรตาย…” สวี่ชีอันก่นด่าไปพลางเช็ดมือกับชุดนักโทษ

“หนิงเยี่ยน หนิงเยี่ยนเจ้าไม่ต้องตายแล้ว!” พอผู้คุมหยิบกุญแจเปิดประตูแล้ว ซ่งถิงเฟิงก็กล่าวพลางหัวเราะร่า

“ฝ่าบาทอนุญาตให้เจ้าใช้ผลงานชดเชย ทำความดีล้างความผิด”

ฝ่าบาทเหรอ?

สวี่ชีอันชะงักนิ่ง ความคิดแรกคือ ‘ฉิบหาย หมายเลขหนึ่งคือฝ่าบาทหรือนี่!’

จากนั้นเขาก็ปฏิเสธการคาดเดาของตัวเอง ยกมือเช็ดบ่าของซ่งถิงเฟิงอย่างสงบแล้วเอ่ยเสียงขรึม “เกิดอะไรขึ้น”

ซ่งถิงเฟิงกำลังกระตือรือร้นที่จะแบ่งปันความยินดี เขาจึงไม่ได้สังเกตว่าตนถูกลอบคิดบัญชีอยู่ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้สวี่ชีอันฟังอย่างละเอียด

ซังผอระเบิด…วัดหย่งเจิ้นซานเหอพังทลาย…นัยน์ตาของสวี่ชีอันหดเกร็ง ทันใดนั้นก็นึกไปถึงเสียงขอความช่วยเหลือแปลกประหลาดที่ตนได้ยินตอนที่บวงสรวงบรรพบุรุษ

ก็หมายความว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ไม่ผิด

เสียงขอความช่วยเหลือนั่นไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เขา เขาเพียงแค่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือเพราะความพิเศษบางอย่างเท่านั้น

เช่นนั้น เสียงขอความช่วยเหลือที่ดังมาจากในซังผอนั้น ดังให้ใครได้ยิน

“กระบี่เทพที่ประดิษฐานอยู่ในวัดล่ะ” สวี่ชีอันนิ่งคิดอยู่เนิ่นนานจึงเอ่ยถาม

ซ่งถิงเฟิงส่ายหน้า แสดงออกว่าตนรู้ไม่เยอะ แล้วเอ่ยขึ้นอีก “เพราะเรื่องของเจ้า หัวหน้าจึงถูกไล่ออก หลังจากเจ้าถูกส่งมาที่คุกแล้ว เขาก็วิ่งไปที่หอเฮ่าชี่ ก่นด่าหน่วยงาน ตบหน้าเว่ยกงในที่สาธารณะ…”

นี่เป็นเรื่องที่พี่ชุนสามารถทำออกมาได้จริงๆ…ในใจสวี่ชีอันรู้สึกซาบซึ้ง

เขารับเครื่องแบบ ป้ายห้อยเอวและดาบพกมาจากผู้คุม จากนั้นสวี่ชีอันที่ได้รับแจ้งว่ากระจกหยกใบเล็กถูกญาติผู้น้องนำไปแล้วก็โล่งอก

ตามที่คาดไว้ เว่ยเยวียนไม่ได้คิดจะฆ่าเขา แม้จะไม่มีการอภัยโทษของฝ่าบาท พ่อเว่ยก็คิดจะช่วยเขาอย่างถูกทำนองคลองธรรมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เมื่อออกจากคุก ทั้งคู่ก็เดินออกจากหน่วยงานราชการ เมื่อใกล้ถึงประตูใหญ่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตีฆ้องดังขึ้นมา

หลี่อวี้ชุนถูกฆ้องทองแดงสองสามคนคุ้มกันมายังหน่วยงานราชการ ฆ้องทองแดงที่นำหน้าตีฆ้องพลางตะโกนลั่นเสียงดังว่า

“หลี่อวี้ชุนคืนสู่ตำแหน่ง…”

เจ้าพนักงานและพวกหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลพากันออกมาดูแล้วชี้ไม้ชี้มือไปที่หลี่อวี้ชุน

พี่ชุนหูแดงหน้าแดง ก้มหน้าเดินเร็วๆ

ไม่ไกลนัก พี่น้องตัวน้อยทั้งสามมองหน้ากัน สวี่ชีอันเอ่ยขึ้นก่อน “หัวหน้าคืนสู่ตำแหน่ง เป็นเรื่องน่ายินดี พวกเราอย่าไปรบกวนเลย”

ขาดคนผู้นี้ไปไม่ได้เลยจริงๆ…ซ่งถิงเฟิงและจูกว่างเสี้ยวพยักหน้า ทั้งสามความคิดเป็นเอกฉันท์

พี่ชุนกำลังถูกเว่ยเยวียนเล่นงานอยู่น่ะสิ เมื่อวานเจ้าตบหน้าเขากลางฝูงชน วันนี้เขาก็ตบหน้าเจ้ากลับด้วยการตีฆ้องร้องป่าว…สวี่ชีอันลอบตัดสินใจว่าต่อไปห้ามขัดใจเว่ยเยวียนง่ายๆ

สวี่ชีอันมีกลิ่นเหม็นสาบทั่วตัวและรีบร้อนจะกลับบ้านไปบอกข่าวดี จึงไม่ได้รั้งอยู่ที่หน่วยงานต่อ เขาขึ้นขี่แม่ม้าตัวน้อยที่รักของเขาแล้วรีบกลับบ้านอย่างกระตือรือร้น

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยาม เขาก็กลับมายังจวนตระกูลสวี่

เหล่าจางคนเฝ้าประตูเกือบจะร้องไห้เพราะความดีใจ สวี่ชีอันโยนเชือกม้าให้เขาแล้วเข้าไปในบ้าน คิดจะบอกข่าวดีกับคนในบ้านก่อน

เวลานี้ ในบ้านคงกินข้าวเช้ากันไปแล้ว อารองไปทำงานแล้ว เหลือแค่สวี่ซินเหนียนที่อยู่บ้านคนเดียว เขากำลังพูดคุยกับมารดาอยู่ที่โถงด้านหลัง

เมื่อเห็นสวี่ชีอันกลับมาแล้ว ดวงตาคู่งามของอาสะใภ้ก็เปล่งประกาย สะกดกลั้นความดีใจเอาไว้ทันทีแล้วแสดงท่าทางรังเกียจตามความเคยชินให้กับหลานชายแทน

สวี่ซินเหนียนเอ่ยอย่างดีใจ “องค์หญิงใหญ่ลงมือเร็วเช่นนี้เลยหรือ”

สวี่ชีอันตกตะลึง ทันใดนั้นลำดับความคิดได้ มิน่าจักรพรรดิหยวนจิ่งถึงรู้จักคนตัวเล็กๆ อย่างเขาซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด

ที่แท้ก็เป็นองค์หญิงใหญ่ที่แนะนำตนต่อหน้าจักรพรรดิหยวนจิ่ง…อืม ก็ต้องไม่ตัดเรื่องที่เว่ยเยวียนคว้าโอกาสนี้มาให้เขา สร้างโอกาสใช้ความดีชดเชยความผิดให้กับเขาด้วย

“อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีเร็วเกินไป มีเรื่องแล้ว…” สวี่ชีอันเหลือบมองอาสะใภ้แล้วนิ่งเงียบ “พวกเราค่อยกลับมาคุย…อ๊ะ สองวันนี้ทำให้อาสะใภ้ใจเสียแล้ว ละอายใจนัก ได้ยินฉือจิ้วบอกว่าอาสะใภ้นอนไม่หลับทั้งคืนก็เพราะข้านี่”

อาสะใภ้ได้ยินแล้วก็เดือดดาล ตวัดตาไปมองลูกชายที่ไม่รู้จักปิดปากด้วยท่าทางแข็งกร้าว แล้วเชิดคางแหลมขาวราวหิมะขึ้น “ฮึ~”

สวี่ซินเหนียนกล่าวต่อ “เมื่อวานท่านพ่อไปที่สำนักโหราจารย์ คิดจะขอร้องพวกโหรชุดขาว แต่กลับได้ยินข่าวร้ายมา”

เขาลังเลครู่หนึ่ง “ท่านโหราจารย์ป่วย”

“อะไรนะ” สวี่ชีอันเอ่ยอย่างสงสัย “ท่านโหราจารย์ป่วยหรือ”

โหรระดับหนึ่ง ป่วยอย่างนั้นเหรอ

อีกทั้งยังเป็นโหรสายบำเพ็ญตนที่เริ่มบำเพ็ญด้วยการช่วยเหลือคนตายรักษาคนเจ็บอีกต่างหาก

นักสืบมือเก๋าสวี่ชีอันคิดเชื่อมโยงได้ทันที หรือนี่จะเกี่ยวข้องกับความแปลกประหลาดของซังผอ ไม่มีทางที่จะเป็นเพราะท่านโหราจารย์ขึ้นไปดูโลกมนุษย์บนแท่นแปดทิศ แต่มองไปมองมาก็ถูกลมพัดโชยจนเป็นหวัดแน่ๆ

“สถานการณ์อย่างละเอียดยังไม่รู้แน่ชัด” สวี่ซินเหนียนเอ่ย “ข้าจะไปหาท่านพ่อที่ค่ายของทหารกองดาบ ทำให้ใจเขาสงบ”

มารดาที่ทั้งวันเอาแต่พร่ำบ่นใส่ญาติผู้พี่ยังเป็นกังวลจนนอนไม่หลับขนาดนี้ คิดดูก็รู้แล้วว่าบิดาจะไม่สบายใจแค่ไหน

“ได้!” สวี่ชีอันกล่าว “ข้าจะไปเยี่ยมหลิงเยวี่ยกับหลิงอินก่อน อีกเดี๋ยวข้ามีธุระบางอย่าง ต้องกลับไปหน่วยงานอีกรอบ”

เรื่องของซังผอค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้ไม่รีบร้อนโuเวลกูดoทคoม

“จริงสิ กระจกนั่นข้าวางไว้ที่ห้องหนังสือ กลับไปพี่ใหญ่ก็ไปหยิบเอาเองเถอะ พระภิกษุที่เจ้าให้ข้าไปหารูปนั้นจากไปแล้ว บอกว่ามีเบาะแสของศิษย์น้อง” สวี่ซินเหนียนกล่าว

ข้าก็ว่าแล้ว หมายเลขหนึ่งจะเป็นองค์จักรพรรดิได้อย่างไร เรื่องนี้หมายเลขหนึ่งยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ..ยังเป็นท่านพ่อเว่ยของข้ากับองค์หญิงใหญ่นี่เองที่เชื่อถือได้

สวี่ชีอันมายังเรือนด้านหลัง มองเห็นสวี่หลิงอินนั่งอยู่ใต้ชายคาอย่างท้อแท้ ตัวเล็กตัวน้อยยิ่ง

ไม่มีใครเล่นกับนาง และไม่มีใครมีอารมณ์จะสนใจนางด้วย

เจ้าเด็กโง่รู้ว่าพี่ใหญ่เกิดเรื่องแล้ว เล่นกับห่านน้อยจึงไม่มีความสุข ท้อแท้ใจ หยิบกิ่งไม้กิ่งหนึ่งมาวาดเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่บนพื้น

“เอ๋ นี่มันเด็กโง่จากบ้านไหนกันเนี่ย” สวี่ชีอันยืนอยู่ไม่ไกล เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

สวี่หลิงอินพลันเงยหน้าขึ้นแล้วมองเขาด้วยท่าทีทึ่มทื่อ ผ่านไปครู่หนึ่ง ใบหน้าเล็กๆ ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มสว่างไสว

“พี่ใหญ่!”

นางผุดลุกขึ้นทันใด ก้าวเดินด้วยขาสั้นเล็ก อ้าแขนสองข้าง ก่อนพุ่งมาหาสวี่ชีอัน

สวี่ชีอันก็พุ่งเข้าไปเช่นกัน ท่ามกลางสีหน้าแย้มยิ้มดีใจของสวี่หลิงอิน กลับผิดตัว เขาไปกอดพี่สาวที่อยู่ข้างหลังแทน

สวี่หลิงอินที่พุ่งไปหาอากาศหันกลับมาทันใด

“ฮือๆๆ…พี่ใหญ่…”

สวี่หลิงเยวี่ยกอดเอวสวี่ชีอันไว้แน่น ฝังร่างอ่อนนุ่มของตนไว้กับอ้อมอกของญาติผู้พี่แล้วร้องไห้จ้า

เขากอดเอวแน่งน้อยของน้องสาวไว้ เส้นผมส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมา บนร่างก็มีกลิ่นของแป้งชมพูจางๆ เช่นกัน

สวี่ชีอันกอดหลังของนางแล้วเอ่ยปลอบ “ไม่เป็นไรแล้ว พี่ใหญ่กลับมาแล้ว”

สวี่หลิงเยวี่ยไม่สนใจ นางบิดเอวบาง ร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม

ครั้งก่อนพี่ใหญ่ถูกนำตัวไปขังที่หน่วยงานกรมอาญา สวี่หลิงเยวี่ยก็เสียใจมากแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นความขัดแย้งกับหน่วยงานราชการของตนเอง สุดท้ายก็คือความแค้นส่วนตัว

และครั้งนี้ หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลที่มาส่งข่าวในจวนก็บอกว่าพี่ใหญ่จะถูกตัดเอวที่ลานไช่ซื่อโข่ว

ลักษณะของมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

แน่นอนว่า ที่สวี่หลิงเยวี่ยใส่ใจขนาดนี้นั้นเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับญาติผู้พี่ที่รุดหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ด้วย

อา ยังเป็นน้องสาวในยุคนี้ที่ดีนัก ช่างตัวนุ่มนิ่มน่ารัก สวี่ชีอันกอดเรือนร่างงดงามของน้องสาว ลอบทอดถอนใจ

ชาติก่อนเขาไม่มีน้องสาว แต่มีญาติผู้น้องคนหนึ่ง ไม่รู้จักทำตัวออดอ้อนแอ๊บแบ๊ว ไม่รู้จักร้องไห้แสดงท่าทางอ่อนแอออกมา ทำเป็นแต่ยิ้มเย็นเย้ยหยันให้เขาว่า ‘เฮ้อ โง่เง่า’

“พี่ใหญ่ๆ…” สวี่หลิงอินกระโดดอยู่ที่เดิมสองครั้งแล้วกล่าวอย่างดีใจ “ข้าจะไปบอกท่านแม่ ท่านแม่ต้องยังไม่รู้ว่าท่านกลับมาแล้วแน่ๆ”

สวี่ชีอันอยากจะบอกนางว่าตนเดินเข้ามาทางประตู ไม่ได้กระโดดข้ามกำแพงกลับมา แต่คิดดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องอธิบาย

เขาพยักหน้า “ไปเถอะ!”

“จริงสิ” เขาตะโกนเรียกสวี่หลิงอินเอาไว้อีกแล้วเอ่ยว่า “เจ้าดีใจขนาดนี้ เป็นเพราะตอนเย็นจะได้ยินข้าวสามชามใช่หรือเปล่า”

สวี่หลิงอินตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าพี่ใหญ่จะรู้ความคิดของตน พี่ใหญ่ร้ายกาจจริงๆ

นางวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset