วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์
หมิ่งจิ้งเชา เยว่จือโจว และทีม FV ออกเดินทางสู่สนามบินเซี่ยงไฮ้ พวกเขาจะบินตรงไปลอสแอนเจลิสอีกครั้งเพื่อไปเที่ยวทริปพักร้อนชดเชย
ทุกคนใช้เวลาช่วงที่ผ่านมาสะสางงานก่อนออกเดินทาง
โดยเฉพาะหมิ่งจิ้งเชา เขาทำตามที่บอสเผยสั่งและบอกให้ทีมนักออกแบบเปลี่ยนฮีโร่เกม Mission & Choice ที่จะลงเกม GOG จากฉินอี้เป็น ‘นักรบสกายลาร์ก’ เขาเปลี่ยนตัวละครเฉพาะเป็นตัวละครประกอบกว้างๆ
ส่วนเยว่จือโจวช่วยหวังเสี่ยวปินคิดแบบร่างราวตากผ้าออกกำลังกายอัจฉริยะ
โจวเผิงหย่วนเป็นโค้ชสโมสร DGE เขาเตรียมการฝึกซ้อมให้สมาชิก DGE ชุดใหม่ก่อนออกเดินทาง การฝึกซ้อมประจำวันและการลงแรงก์ระดับสูงต้องทำต่อไป พอกลับจากลอสแอนเจลิสเขาก็จะมาเช็กดูว่าสมาชิกคนไหนทำตามที่มอบหมายไว้ไม่เสร็จและต้องฝึกซ้อมต่อ
คนอื่นๆ ส่งงานต่อให้เพื่อนร่วมงานเพื่อให้มั่นใจว่าจะพักงานส่วนของตัวเองและไปทริปพักร้อนที่ลอสแอนเจลิสได้อย่างสบายใจ
แน่นอนว่าสมาชิกสโมสร FV ไม่ได้มีงานอะไรให้ต้องส่งต่อ พวกเขายังคงสุขสมกับตำแหน่งแชมป์ที่ได้มา
ชื่อเสียงของสโมสร FV และสมาชิกทีมติดลมบนไปแล้ว ส่วนบอสสโมสรอย่างอู๋เยว่ต้องเจรจาเรื่องสัญญาแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมและพูดคุยกับตัวแทนจากหลายบริษัทจนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยๆ เขาจึงคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ไปเปลี่ยนบรรยากาศผ่อนคลายอารมณ์ที่ลอสแอนเจลิสสักหน่อย
พวกเขาออกจากจิงโจวอย่างสุขใจและมุ่งหน้าไปยังเซี่ยงไฮ้
คนที่อารมณ์ขัดกับทุกคนในกลุ่มคือเปาซวี่
เขาเพิ่งใช้ทริปพักร้อนห้าวันที่ได้จากงานประชุมประจำปีเสร็จ กลับมาจิงโจวได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องแบกกระเป๋าเตรียมไปบินต่อ
ทุกคนพูดคุยกันเรื่องทริปสู่อเมริกาอย่างตื่นเต้นบนรถไฟความเร็วสูงมุ่งหน้าสู่เซี่ยงไฮ้ มีแค่เปาซวี่ที่นั่งคอตกอยู่กับที่และเหม่อมองภาพรถไฟความเร็วสูงออกตัวอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก
…
ขณะเดียวกัน ชุยเกิ่งเดินออกจากรถไฟความเร็วสูงในจิงโจวแล้วขึ้นแท็กซี่ตรงไปเข้าคอร์สอบรมของเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน
เขาถอนหายใจด้วยความรู้สึกเศร้าใจอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อเห็นทิวทัศน์เมืองที่คุ้นเคยด้านนอกหน้าต่าง
“ชีวิตของฉันจะเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจได้ยังไง”
ชุยเกิ่งถามคำถามจี้ใจ
ตอนนี้เขามีทั้งหมดสามตัวตนซึ่งได้แก่ทายาทรุ่นสองของตระกูลร่ำรวย นักเขียนตัวท็อปของเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน และผู้สังเกตการณ์พิเศษของเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน
ทั้งสามตัวตนมีลักษณะเหมือนกันอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือทำให้แรงจูงใจในการทุ่มเททำงานลดลงอย่างมาก พอทั้งสามตัวตนมาร่วมกันก็ทำให้เขาอยู่ในสภาพ ‘มีแรงฮึดเป็นพักๆ ใช้ชีวิตไปวันๆ และเฝ้ารอความตาย’
เมื่อไหร่ที่ในที่สุดก็มีแรงฮึดอยากตั้งใจทำงานขึ้นมา พอผ่านไปสองวันก็จะหมดไฟฮึด
ชุยเกิ่งไปๆ กลับๆ ระหว่างเมืองบ้านเกิดกับจิงโจว
ไม่ใช่ว่าเขาใช้ชีวิตเหมือนนักธุรกิจ แต่หลักๆ เป็นเพราะรู้สึกว่าถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเดิมนานเกินไปจะทำให้ขี้เกียจได้ง่าย การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมช่วยให้มีแรงจูงใจในการทำงาน
มีไฟได้สักสามนาทีก็ยังดีกว่าน้ำนิ่งสงบ
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเล็กน้อย
ที่ทำให้เรื่องแย่ไปกว่านั้นคือเกมผีเสื้อปิดเรื่องไปสักพักใหญ่แล้ว
ข่าวดีคือนิยายจบตามปกติและไม่ได้จบแย่ ถึงช่วงสุดท้ายจะเร่งเขียนแต่ก็ดันไปถึงเกือบๆ สามล้านคำได้ ซึ่งก็มอบบทสรุปที่สร้างความพึงพอใจให้กับนักอ่านส่วนใหญ่
นี่คือความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์ของชุยเกิ่ง นักอ่านที่โดนปล่อยลอยแพมาตลอดเองก็รู้สึกประทับใจ
ข่าวร้ายคือแรงบันดาลใจทั้งหมดก่อนหน้านี้ใช้ไปหมดแล้ว เขาเขียนตอนเปิดนิยายเรื่องใหม่อยู่หลายครั้ง แต่พอลองย้อนอ่านดูก็รู้สึกไม่พอใจ ชุยเกิ่งเลยลบทิ้งหมดและยังไม่ได้เขียนเรื่องใหม่จนถึงวันนี้
ชุยเกิ่งรู้สึกเหมือนจินตนาการของเขามาถึงจุดติดขัด ความกระตือรือร้นในการสร้างสรรค์ผลงานลดน้อยลงเรื่อยๆ
แน่นอนว่านอกจากตัวตนทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวยกับนักเขียนเว็บโนเวลแล้ว ชุยเกิ่งยังมีอีกตัวตนหนึ่งซึ่งก็คือผู้สังเกตการณ์พิเศษของเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน
ตัวตนผู้สังเกตการณ์พิเศษทำให้เขารวบรวมข้อมูลได้มากมายในการเขียนเกมผีเสื้อ และยังได้ช่วยอู๋ปินจากแผนก HR เรียบเรียงเนื้อหาคู่มือจิตวิญญาณเถิงต๋า
แต่ชุยเกิ่งรู้ดีว่าตัวเองเป็นแค่นักเขียนเว็บโนเวลธรรมดาๆ ไม่ได้เข้าใจเรื่องธุรกิจหรือเรื่องการจัดการบริหาร ดังนั้นเขาจึงแค่แวะไปกิจการต่างๆ ของเถิงต๋าเป็นพักๆ เพื่อเก็บข้อมูล ไม่เคยให้คำแนะนำหรือทำอะไรที่กระทบกับงานของกิจการต่างๆ ของเถิงต๋าในฐานะคนนอก
ดังนั้นตัวตนของเขาในฐานะ ‘ผู้สังเกตการณ์พิเศษ’ จึงให้แค่สิทธิ์เข้าออกกิจการต่างๆ ของเถิงต๋าได้ตามใจชอบ
ชุยเกิ่งเข้าร่วมคอร์สของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ก็คิดไอเดียอะไรไม่ออก นิยายเรื่องใหม่ยังไม่มีวี่แววได้ผุดได้เกิด
เขาจึงกลับบ้านช่วงเทศกาลตรุษจีนไปนอนอ่านนิยายทุกวัน ลืมนิยายเรื่องใหม่ไปโดยสิ้นเชิง
แต่สองสามวันหลังจบช่วงตรุษจีน ชุยเกิ่งก็ได้รับข่าวจากจูซิงอันว่าเว็บจงเตี่ยนจงเหวินกำลังจะจัด ‘คอร์สสร้างแรงบันดาลใจ’
นอกจากนั้นอีกฝ่ายยังเชื้อเชิญชุยเกิ่งอย่างอบอุ่นและถามไถ่ว่าอยากเข้าระบบซื้อลิขสิทธิ์ไหม แถมยังบอกด้วยว่าบอสเผยใส่ใจเรื่องนี้มากและอยากให้ความสำคัญกับชุยเกิ่งก่อนเป็นลำดับต้นๆ
ชุยเกิ่งรู้สึกไม่พอใจตอนได้ยินเรื่องระบบซื้อลิขสิทธิ์
ฉันเป็นนักเขียนระดับท็อปที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเงิน เป้าหมายของฉันคือการเขียนนิยาย!
ตอนนี้อุตสาหกรรมเว็บโนเวลพัฒนามาได้ระดับหนึ่งแล้ว ระบบซื้อลิขสิทธิ์และแบ่งค่าตอบแทนก็ใช้มาได้สักพัก
เหล่านักเขียนได้ข้อสรุปกันไปนานแล้วว่า นอกจากนักเขียนจำนวนน้อยมากที่ใช้ระบบซื้อลิขสิทธิ์แล้วสามารถเขียนได้ดีและบรรลุสถานการณ์แบบได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายได้ ผู้เขียนส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบซื้อลิขสิทธิ์มักขาดทุนหรือไม่ก็มีสภาพไม่สู้ดีนัก
นักเขียนที่ใช้ระบบซื้อลิขสิทธิ์มักจะมีผลงานดังๆ บ้าง แต่การซื้อลิขสิทธิ์หมายความว่านอกจากค่าต้นฉบับแล้ว กำไรนอกเหนือจากนั้นก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาอีกซึ่งฝั่งนักเขียนเสียเปรียบมาก กลับกันเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ นักเขียนบางคนไม่ได้เขียนโดยใช้ฝีมือเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ สุดท้ายก็เริ่มตามกระแสไม่ทัน โครงเรื่องพัง เขียนต่อไปก็เปล่าประโยชน์ ถึงจะเปลี่ยนมาใช้ระบบแบ่งค่าตอบแทนก็ไม่มีใครอ่าน
ดังนั้นการตอบสนองแรกของชุยเกิ่งตอนที่ได้ยินอีกฝ่ายเชิญให้เข้าระบบซื้อลิขสิทธิ์จึงเป็นการปฏิเสธ
แต่พอได้ฟังคำอธิบายของจูซิงอัน ชุยเกิ่งก็ตระหนักว่าระบบซื้อลิขสิทธิ์ของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินนั้นแตกต่างจากเว็บไซต์อื่นๆ มาก เรียกได้ว่าแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ข้อแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือจำนวนคำน้อยมากแต่ค่าตอบแทนสูงลิ่ว!
ยกตัวอย่างจากกรณีของชุยเกิ่ง ถ้าเว็บไซต์อื่นต้องการมาดึงตัวเขา ก็เสนอจ่ายเงินสูงกว่าส่วนแบ่งค่าตอบแทนที่ได้ตอนนี้เล็กน้อย เพราะยังไงชุยเกิ่งก็เป็นนักเขียนตัวท็อปของเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน ส่วนแบ่งค่าตอบแทนที่ได้จึงสูงมาก ไม่มีช่องให้เพิ่มราคาได้มากนัก ถ้าพยายามทุ่มเงินดึงตัวก็อาจจะขาดทุนมากกว่าได้กำไร
แต่เว็บจงเตี่ยนจงเหวินกลับกำหนดให้เขียนงานในช่วงหนึ่งแสนถึงห้าแสนคำเท่านั้น ห้ามเกินห้าแสนคำ แถมค่าต้นฉบับต่อหนึ่งพันคำที่เว็บจงเตี่ยนจงเหวินเสนอให้ยังสูงกว่าส่วนแบ่งค่าตอบแทนเดิมถึงสามเท่า!
นอกจากนั้นหลังจากเข้าระบบซื้อลิขสิทธิ์แล้ว เขายังได้รับสิทธิ์เข้าร่วม ‘คอร์สสร้างแรงบันดาลใจ’ เป็นลำดับแรกๆ อีกด้วย
ชุยเกิ่งไม่รู้ว่า ‘คอร์สสร้างแรงบันดาลใจ’ เป็นแบบไหน แต่คอร์สอบรมที่ผ่านมาก็ส่งผลต่องานเขียนของเขาแบบเห็นผลทันตา โดยช่วยให้เขาพัฒนาจากจอมขี้เกียจมาเป็นนักเขียนผู้จริงจังซึ่งสามารถคิดหาไอเดียใหม่ๆ และเขียนนิยายจนจบได้
‘คอร์สสร้างแรงบันดาลใจ’ นี้จะช่วยเรียกแรงบันดาลใจที่มอดหายไปแล้วได้รึเปล่านะ
ชุยเกิ่งสงสัยมาก
เขาจึงกลับมาจิงโจวอีกครั้งด้วยอารมณ์ผสมปนเป
…
ไม่นานรถแท็กซี่ก็มาถึงจุดหมาย
คอร์สสร้างแรงบันดาลใจครั้งนี้จัดที่อาคารสำนักงานเดียวกับที่จัดคอร์สอบรมรอบก่อน แต่อยู่คนละชั้น
คอร์สอบรมรอบก่อนประสบความสำเร็จมากจึงจัดขึ้นหลายครั้งและขยายสเกลขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกมีแค่หนึ่งห้อง แต่ตอนนี้ขยายไปเป็นสามห้องแล้ว
ถึงอย่างนั้นนักเขียนของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินก็ยังสมัครเข้ามาไม่หยุด จำนวนผู้สมัครเต็มโควตาตลอด ทีมบรรณาธิการต้องคัดสรรอย่างละเอียดโuเวลกูดoทคฺอม
โควตาสำหรับคอร์สสร้างแรงบันดาลใจยิ่งมีจำนวนน้อยกว่า แถมมีแค่นักเขียนระดับท็อปของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินเท่านั้นที่จะเข้าร่วมได้
หลังจากถึงที่หมายชุยเกิ่งก็เข้าไปฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมซึ่งคุ้นเคยเป็นอย่างดี แล้วมุ่งหน้าไปคอร์สสร้างแรงบันดาลใจทันที
ถึงคอร์สสร้างแรงบันดาลใจจะเปิดอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ แต่ชุยเกิ่งก็มาเข้าร่วมคอร์สอบรมหลายครั้ง เขาจึงคุ้นเคยกับที่ทางและระบุสถานที่ได้อย่างง่ายดาย
พอไปถึงชั้นที่จัดอบรม ชุยเกิ่งก็เห็นทีมบรรณาธิการที่คุ้นหน้าคุ้นตากันจำนวนหนึ่งกำลังเก็บข้าวของอยู่
ทีมบรรณาธิการรู้จักชุยเกิ่งดี หลังจากทักทายกันเสร็จพวกเขาก็อนุญาตให้เขาเข้าไปชมสถานที่จัดคอร์สสร้างแรงบันดาลใจได้ตามใจชอบ
ความคิดแรกของชุยเกิ่งคือสถานที่กว้างเกินเหตุ!
ถึงจะอยู่ในอาคารสำนักงานเดียวกันแต่คอร์สอบรมนักเขียนกับคอร์สสร้างแรงบันดาลใจจัดอยู่คนละชั้นและใช้พื้นที่คนละส่วน
คอร์สสร้างแรงบันดาลใจมีผู้เข้าอบรมแค่หนึ่งส่วนห้าของคอร์สอบรมนักเขียน แต่กลับใช้พื้นที่ใหญ่กว่าคอร์สอบรมนักเขียนมากกว่าสองเท่า!
พอสังเกตดูดีๆ อุปกรณ์ในคอร์สสร้างแรงบันดาลใจนั้นแตกต่างจากคอร์สอบรมนักเขียนลิบลับ
ในคอร์สอบรมนักเขียนมีโต๊ะคอมพิวเตอร์และเก้าอี้ตามมาตรฐาน มองแวบแรกดูเหมือนร้านอินเทอร์เน็ตหรือห้องเรียนคอมพิวเตอร์ แต่เก้าอี้เป็นเก้าอี้แบบเออร์โกโนมิกส์ โต๊ะสามารถปรับความสูงได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์การเขียนที่สะดวกสบายให้กับนักเขียน
ในคอร์สสร้างแรงบันดาลใจไม่มีเก้าอี้แบบเออร์โกโนมิกส์ แต่มีโซฟาเดี่ยวแบรนด์ดังจากต่างประเทศ!
เทียบกับโซฟาเดี่ยวสุดหรูแล้วจุดที่เหมือนกันกับเก้าอี้แบบเออร์โกโนมิกส์คือออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เมื่อนั่งไปนานๆ จะไม่รู้สึกเหนื่อยและสร้างผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใช้งานน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเก้าอี้แบบอื่นๆ
แน่นอนว่าไม่ว่าจะออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ได้ดีขนาดไหน ถ้านั่งไปนานๆ ยังไงก็ต้องรู้สึกเมื่อย ต้องลุกขยับตัวไปมาบ้างเป็นพักๆ แต่อย่างน้อยก็ถูกหลักสรีรศาสตร์ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อร่างกาย
ความแตกต่างระหว่างเก้าอี้ทั้งสองตัวคือเก้าอี้แบบเออร์โกโนมิกส์เหมาะสำหรับการใช้ทำงานในออฟฟิศ ส่วนโซฟาเดี่ยวเหมาะสำหรับใช้พักผ่อน
เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดที่นั่งระดับ VIP ในโรงหนังส่วนใหญ่จึงใช้โซฟาเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ที่วางมือสามารถปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า จะนั่ง เอนตัว หรือไขว่ห้างก็สะดวกสบายสุดๆ
ในเมื่อไม่ใช่เก้าอี้สำนักงานจึงไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะ ฝั่งตรงข้ามโซฟาเดี่ยวคือชั้นวางทีวี ด้านบนชั้นมีทีวีจอ OLED ระดับไฮเอนด์ยึดกับโครงซึ่งมีความสูงและระยะการรับชมที่ดีที่สุด
ทีวี OLED เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในช่วงปีนี้ มีขนาดเล็กกว่าทีวีแบบดั้งเดิม แต่ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่น เหตุผลที่ราคาแพงขนาดนี้หลักๆ เป็นเพราะ TV OLED มีเวลาตอบสนองต่ำสุดๆ ซึ่งอยู่ที่ประมาณหนึ่งมิลลิวินาที ฉายภาพได้โดยไร้ความหน่วง และสามารถควบคุมแสงระดับพิกเซลได้ จึงแสดงผลภาพแบบ HDR ได้ดีกว่า ขณะเดียวกันสีก็ตรงกว่าและมีขอบเขตสีที่เป็นธรรมชาติสูง… พูดง่ายๆ คือคุณภาพเหนือกว่าทีวีแบบดั้งเดิมแทบทุกด้าน และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเวลาใช้ดูหนังรวมถึงเล่นเกม
แน่นอนว่าอัตรารีเฟรชเรตต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับจอมอนิเตอร์สำหรับอีสปอร์ตที่แพงเท่าๆ กัน แต่ทีวีในคอร์สสร้างแรงบันดาลใจมีไว้ใช้ดูหนังและเล่นเกมบนเครื่องคอนโซลเป็นหลัก ข้อกำหนดเรื่องอัตรารีเฟรชเรตจึงไม่สูงมาก สิ่งที่สำคัญกว่าคือขนาดของจอ
ถึงขนาดจะเล็กกว่าทีวีแบบดั้งเดิมแต่ก็เอาไว้สำหรับดูคนเดียว แถมยังเป็นการดูระยะใกล้ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการดูหนังเมื่อพิจารณาจากขนาดและคุณภาพ
บนชั้นทีวีมีคอมพิวเตอร์แบรนด์ ROF เครื่องเกมคอนโซล และแผ่น Blu-rays มากมาย นอกจากนั้นยังมีแผ่น Blu-rays และนิยายอื่นๆ เรียงอยู่บนชั้นหนังสือข้างผนังอีกเพียบ
ข้างโซฟาเดี่ยวมีหูฟังระดับไฮเอนด์ เมาส์ คีย์บอร์ด และโต๊ะพับขนาดเล็ก
นอกจากนั้นยังมีไฟสำหรับอ่านหนังสือข้างโซฟาฝั่งละตัว สามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ เอาไว้สำหรับอ่านนิยายเวลาดูหนังจนเบื่อแล้ว
ชุยเกิ่งแปลกใจเล็กน้อยจึงหันไปถามบรรณาธิการ “แบบนี้ก็ไม่น่าจะสะดวกสำหรับการเขียนงานเท่าไหร่นะครับ”
ถึงโซฟาเดี่ยวจะสะดวกสบายและเหมาะมากๆ สำหรับการดูหนังและเล่นเกม แต่ก็อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อต้องเขียนงาน
เพราะโซฟาเดี่ยวไม่ได้มีไว้สำหรับเขียนงาน
บรรณาธิการอธิบาย “อ๋อ คีย์บอร์ดมีไว้สำหรับเสิร์ชหาหนังหรือบันทึกแรงบันดาลใจที่จู่ๆ นึกขึ้นมาได้ครับ
“ถ้าอยากเขียนงานสักอย่างจริงๆ ให้ไปที่โซนทำงานตรงนู้น”
ชุยเกิ่งหันไปมองแล้วพบว่าถัดออกไปเป็นโซนทำงานซึ่งมีโต๊ะทำงานมาตรฐาน เก้าอี้แบบเออร์โกโนมิกส์ และคีย์บอร์ดกลไก โดยโซนนี้แยกออกมาต่างหาก
เห็นได้ชัดว่าจุดประสงค์ของโซนพักผ่อนหย่อนใจคือให้นักเขียนมีสมาธิกับการดูหนังและรวบรวมแรงบันดาลใจ
ชัดเจนว่าถ้าจัดออกมาแบบนี้ก็คงไม่ใช่ระบบ ‘คุกมืด’ ที่บังคับให้เขียนงานทุกวัน
บรรณาธิการอธิบายต่อ “ตรงนู้นมีสตูดิโอขนาดใหญ่ ติดฉนวนกันเสียงทั้งห้อง มีเครื่องโปรเจ็กเตอร์และระบบเสียงระดับโรงหนังให้ใช้ได้ตามการลงเวลา
“ถ้าอยากได้ประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดก็สามารถไปดูหนังทั้งเรื่องในห้องนั้นได้ ถ้าแค่อยากรวบรวมข้อมูลและไม่มีข้อกำหนดเรื่องคุณภาพของภาพ หรืออยากกดข้ามบางตอนก็ดูตรงที่นั่งของตัวเองได้ครับ”
ชุยเกิ่งอดตกใจขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ยินที่บรรณาธิการอธิบาย
นี่คือ…สวรรค์รึเปล่า