เผยเชียนยกชาขึ้นจิบแล้วพูดต่อ “เราจะเสนอซื้อลิขสิทธิ์กับนักเขียนตัวท็อปของเว็บไซต์เราเท่านั้น
“เพราะเงื่อนไขของสัญญานี้ดีกว่า เทียบเท่ากับเป็นการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับนักเขียนในเว็บของเรา เราจะไม่มอบสิทธิ์ประโยชน์นี้ให้จนกว่านักเขียนคนอื่นๆ จะพิสูจน์ความสามารถของพวกเขาให้เราเห็น
“จำนวนคำต่อเรื่องในการซื้อลิขสิทธิ์ต้องอยู่ระหว่างหนึ่งแสนถึงห้าแสนคำ เกินห้าแสนคำไม่ได้
“ค่าลิขสิทธิ์จะคำนวณจากสามเท่าของรายได้ของนิยายเรื่องก่อน ตัวอย่างเช่น ส่วนแบ่งรายได้ของนิยายเรื่องก่อนหน้านี้ของนักเขียนอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันหยวนต่อหนึ่งพันคำ ค่าลิขสิทธิ์ของนิยายเรื่องนี้ก็จะเท่ากับสามพันหยวนต่อหนึ่งพันคำ
“ไม่มีข้อกำหนดขั้นต่ำในการลงนิยายรายวัน อยากเขียนเท่าไหร่ก็เขียน ยิ่งเขียนช้าก็ยิ่งพิถีพิถัน
“และเราจะไม่รับงานออริจินอล จะรับแค่ผลงานที่เขียนตามที่กำหนดโดยเราจะเป็นคนกำหนด IP ให้นักเขียน”
เผยเชียนอดประทับใจความฉลาดของตัวเองขึ้นมาไม่ได้หลังพูดจบ
ซื้อลิขสิทธิ์+กำหนดงานเขียน แบบนี้ก็กวาดล้างนักเขียนชื่อดังของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินและทำให้เป็นหมันกันทั้งหมดได้เลยสิ
คนที่อ่านเว็บโนเวลบ่อยๆ จะรู้ว่าการซื้อลิขสิทธิ์และการเขียนงานตามกำหนดคือทางที่ง่ายที่สุดในการผลิตผลงานขยะ
เพราะเงื่อนไขแรกของการสร้างผลงานดีๆ ขึ้นมาคือความเป็นอิสระ
นักเขียนจะรังสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมได้ก็ต่อเมื่อสามารถเขียนถึงประเด็นที่ตัวเองเชี่ยวชาญและสนใจได้อย่างอิสระ
ถ้านักเขียนที่ถนัดนิยายแนวไซไฟต้องไปเขียนนิยายแนวโรแมนติก ผลงานที่ออกมาต้องแย่แน่นอน
กลับกันงานเขียนตามกำหนดมักเป็นงานที่ลูกค้าต้องการผลลัพธ์การประชาสัมพันธ์ในระดับหนึ่ง เมื่อเป็นแบบนั้นจินตนาการของผู้เขียนก็จะโดนจำกัดโดยลูกค้า
ลูกค้าต้องแนะนำให้แก้ไขหรือเข้ามาแทรกแซงโครงเรื่องของนักเขียนเพื่อให้งานออกมาตรงตามความต้องการแน่นอน กลับกันนักเขียนก็ไม่สามารถเขียนงานได้ตามไอเดียของตัวเอง ทัศนคติของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไป เป็นไปไม่ได้เลยที่รังสรรค์ผลงานแบบ 120% ได้
เพราะเป้าหมายแรกของงานเขียนกำหนดเองคือลูกค้า ไม่ใช่นักอ่าน ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงมากที่นักอ่านจะไม่ชอบผลงานที่ออกมา
นอกจากข้อจำกัดต่างๆ ในการเขียนงานตามกำหนดแล้ว การเซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์จะยิ่งทำให้ความกระตือรือร้นในการรังสรรค์งานของผู้เขียนลดลงไปอีก
เพราะการเซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์หมายความว่าจะมีรายได้ที่มั่นคง ค่าตอบแทนการเขียนงานตามกำหนดก็สูงมาก นักเขียนแค่ต้องใช้หัวเล็กน้อยเขียนงานออกมาให้ได้สักหกสิบคะแนนเพื่อทำตามความต้องการของลูกค้า ไม่จำเป็นต้องพยายามอย่างหนักเขียนงานให้ได้แปดสิบหรือแม้แต่ร้อยคะแนน
ถึงจะอยากเขียนงานให้ได้ร้อยคะแนนเต็มก็ทำไม่ได้อยู่ดีเพราะมีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานไม่เพียงพอและต้องแต่งแนวที่ตัวเองไม่ถนัด
ดังนั้นเผยเชียนจึงใช้ไพ่ตายซื้อลิขสิทธิ์+กำหนดงานเขียนเพื่อ ‘เอาเงินฟาดหัว’ นักเขียนตัวท็อปในเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน
สำหรับนักเขียนตัวท็อปเหล่านี้ จะเขียนงานเพื่อขายลิขสิทธิ์หรือกินส่วนแบ่งรายได้ยังไงก็ได้เงินเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าทางไหนทำเงินได้มากกว่ากัน
การเขียนงานตามกำหนดนั้นง่ายกว่า ค่าต้นฉบับตามจำนวนคำก็เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า เขียนเล่นๆ ขำๆ ทุกวันก็ทำเงินได้เหมือนที่ผ่านมา มีเหตุผลอะไรให้ไม่ทำด้วยล่ะ
ถ้าส่วนแบ่งรายได้ที่ผ่านมาอยู่ที่หนึ่งพันหยวนต่อหนึ่งพันคำ นักเขียนก็จะได้เงินสามแสนหยวนต่อเดือนจากการเขียนนิยายสามแสนคำ ตามเกณฑ์การซื้อลิขสิทธิ์ค่าต้นฉบับจะเพิ่มเป็นสามเท่าเพราะงั้นเขียนแค่หนึ่งแสนคำต่อเดือนก็ได้เงินเท่าเดิมแล้ว
แต่ภาระงานลดลงจากเดิมมาก!
ถึงระบบซื้อลิขสิทธิ์จะขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ไม่ได้มัดมือชก แต่เผยเชียนก็คิดว่าคงไม่มีใครปฏิเสธข้อเสนอดีๆ แบบนี้หรอก
มีใครบ้างที่จะไม่สนเงิน
ทำแบบนี้รายได้ของนักเขียนก็จะไม่ได้รับผลกระทบและถ้าเว็บไซต์ขาดทุนเผยเชียนก็บรรลุเป้าหมาย
เห็นได้ชัดว่าหม่าอี้ฉวินก็รู้เรื่องนี้ดี เขาจึงตกใจมาก ไม่รู้ว่าบอสเผยต้องการจะทำอะไรกันแน่
ถึงจะขึ้นอยู่กับนักเขียนว่าอยากขายนิยายหรือไม่ แต่จากราคาที่เสนอให้ก็น่าจะมีนักเขียนตัวท็อปแค่ไม่กี่คนที่ปฏิเสธ
แน่นอนว่าเป็นเรื่องดีสำหรับนักเขียน แต่สำหรับเว็บไซต์ถือว่าเสี่ยงมาก ถ้าไม่ระวังอาจขาดทุนครั้งใหญ่ได้
หม่าอี้ฉวินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “บอสเผยครับ สัญญาซื้อลิขสิทธิ์มีข้อจำกัดเพิ่มเติมไหมครับ ถ้าไม่มีใครอ่านผลงานที่นักเขียนเขียนจะทำยังไงเหรอครับ ให้นักเขียนตัดจบก่อนกำหนดหรือบังคับให้แก้งานได้ไหมครับ”
เผยเชียนส่ายหน้า “ไม่มีข้อจำกัดอื่น แต่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนคำ แต่ละเรื่องต้องมีจำนวนคำระหว่างหนึ่งแสนถึงห้าแสนคำ ถ้าเกินห้าแสนคำจะไม่ได้เงิน ต้องเปิดเรื่องใหม่”
สาเหตุที่ต้องกำหนดจำนวนคำก็เพื่อสร้างความลำบากให้กับนักเขียนเหล่านี้ที่เคยชินกับการเขียนนิยายยาวๆ
ตอนนี้มาตรฐานจำนวนคำของเว็บโนเวลอยู่ที่สองถึงสามล้านคำ มีหลายคนที่เขียนได้เกินห้าล้านคำ
ดังนั้นเวลานักเขียนวางโครงเรื่องพวกเขาจะคุ้นชินกับการวางโครงเรื่องยาวสองล้านคำขึ้นไป นักเขียนมากประสบการณ์สามารถรังสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมที่มีความยาวประมาณนี้ได้สบายๆ เพราะเคยชินแล้ว
แต่พอต้องบีบเนื้อเรื่องให้เหลือหนึ่งแสนถึงห้าแสนคำและแต่งเป็นเรื่องสั้น พวกเขาก็ต้องรังสรรค์งานในแบบที่ตัวเองไม่ถนัด
กลับกันนักอ่านเว็บโนเวลส่วนใหญ่ชอบอ่านผลงานยาวๆ และไม่สนใจเรื่องสั้น
ทำแบบนี้โอกาสที่จะทำเงินได้จากนิยายเหล่านี้ก็จะลดลงไปอีก
หม่าอี้ฉวินถามขึ้นอีก “เราสามารถบอกเลิกสัญญาในกรณีที่นักเขียนทำผลงานไม่ดีออกมาติดต่อกันได้ไหมครับ”
เผยเชียนอยากจะตอบว่าไม่ได้แต่ก็รู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผล นักเขียนเข็นออกมาแต่ผลงานขยะแต่ทางเว็บไซต์กลับยังซื้องานในราคาสูงลิ่ว แบบนี้ดูไม่สมเหตุสมผลเกินไป
ดังนั้นหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ตัดสินใจใช้แผนที่ค่อนข้างประนีประนอม “ถ้าผลงานออกมาไม่ดีติดต่อกันสองถึงสามเรื่องก็ให้กลับไปใช้ระบบส่วนแบ่งรายได้เหมือนเดิม ถ้าผลงานกลับมาดีเมื่อไหร่ค่อยให้กลับมาใช้ระบบซื้อลิขสิทธิ์”
ทำแบบนั้นนักเขียนที่อยากอู้ก็จะเขียนงานรับลิขสิทธิ์เพื่อโกงเอาเงินแล้วกลับไปเขียนงานรับส่วนแบ่งรายได้ กฎของเว็บไซต์แทบจะเป็นการประกาศว่า ‘มาโกงเงินฉันเร็ว’ และ ‘ไอ้หน้าโง่นี่หลอกเอาเงินได้ง่ายๆ เลยนะพวก’
หม่าอี้ฉวินถามต่อ “งานเขียนตามกำหนดเป็นแบบไหนเหรอครับ
“เรารับงานเขียนตามกำหนดจากบริษัทอื่นได้ไหมครับ”
เผยเชียนส่ายหน้าทันที “ไม่ได้! เราให้เขียนได้แค่ IP ที่เถิงต๋าถืออยู่”
หม่าอี้ฉวิน “…”
ถ้ารับงานเขียนตามกำหนดจากบริษัทอื่นก็อาจมีโอกาสทำกำไรได้
ตัวอย่างเช่นถ้าเกมออนไลน์ยอดนิยมอยากโปรโมตเกมตัวเอง หม่าอี้ฉวินก็จะแนะนำนักเขียนฝีมือเยี่ยมให้กับบริษัทนั้น ขอให้บริษัททุ่มเงินจ้างนักเขียนทำผลงาน ทำแบบนี้เว็บจงเตี่ยนจงเหวินก็จะได้ค่าโฆษณาก้อนโตโนเวลกูดฺอทคอม
แต่บอสเผยปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ทันที
ข้อกำหนดของบอสเผยเรื่องผลงานตามกำหนดแปลกมาก
ห้ามเป็นผลงานออริจินอลและห้ามเป็นงานตามกำหนดโดยบริษัทอื่น ต้องใช้ IP ของเถิงต๋าเท่านั้น
เถิงต๋าถือ IP อะไรอยู่บ้าง
หม่าอี้ฉวินลองคิดดู ก็มีเกมต่างๆ ที่เถิงต๋าทำออกมาอย่างกลับใจคือฟากฝั่ง ฐานทัพกลางทะเล ดิ้นรน และอื่นๆ
มีคลิปสั้นและหนังของเฟยหวงสตูดิโออย่างวันพรุ่งนี้ที่สดใสและหนังคัตซีนของเกม Mission & Choice ที่กำลังถ่ายทำอยู่
มี IP ต่างๆ ที่ซื้อมาทำฮีโร่เกม GOG และฮีโร่ออริจินอลของเกมอย่าง Modest กับ Ruan
มีทีมซูเปอร์ฮีโร่จากค่าย Hurricane
นอกจากนั้นนิยายดังๆ บางเรื่องบนเว็บจงเตี่ยนจงเหวินและยิบย่อยอื่นๆ ก็ถือว่าเป็น IP ของเถิงต๋า
ดูเหมือนจะเยอะ แต่ทำผลงานตามกำหนดด้วย IP พวกนี้จะได้อะไรขึ้นมา
บทบาทเดียวคือการเติมเต็มเรื่องราวในคลัง ‘เถิงต๋ายูนิเวิร์ส’ แต่หลายๆ IP ก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มเติมอะไรอีก เนื้อหาในผลงานดั้งเดิมก็นำเสนอได้อย่างชัดเจนและครบถ้วนแล้ว ทำไมต้องเอามาทำต่อด้วย
ถ้านักเขียนพวกนี้ไม่ยอมเขียนอย่างจริงจังจะเขียนเรื่องราวเทียบเคียงกับต้นฉบับได้รึเปล่า หม่าอี้ฉวินคิดว่าไม่มีทางเพราะผลงานต้นฉบับหลายๆ ชิ้นเขียนขึ้นโดยบอสเผยเอง ถึงจะพยายามขนาดไหน เหล่านักเขียนก็ไม่มีทางเทียบชั้นได้
แถมเทียบกับเงินที่จ่ายเพื่อซื้อผลงานเหล่านี้แล้วก็ถือว่าขาดทุนมาก
เพราะแผนการซื้อลิขสิทธิ์ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่นักเขียนคนเดียวแต่เป็นนักเขียนตัวท็อปของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินทุกคน ถ้านักเขียนเหล่านี้ตั้งใจจะหลอกโกงเงิน เว็บจงเตี่ยนจงเหวินก็จะเสียเงินก้อนโตไปกับขยะ การันตีผลประโยชน์ของเว็บไซต์ได้ยากมาก
หม่าอี้ฉวินคิดอยู่นานแต่ก็ยังสับสนกับการตัดสินใจของบอสเผย
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกเมื่อเห็นสีหน้ามั่นใจของบอสเผย
เพราะยังไงการกระทำของบอสเผยก็ไม่เคยคาดเดาได้เลยสักครั้ง ไม่ว่าการตัดสินใจของบอสเผยจะแปลกประหลาดและบ้าขนาดไหนในตอนแรก สุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความคิดเบื้องลึกและประสบความสำเร็จสุดๆ
หม่าอี้ฉวินจึงพยักหน้า “โอเคครับบอสเผย ผมจะรีบจัดการตามนี้”
เผยเชียนพอใจกับทัศนคติของอีกฝ่ายมาก “อืม ดีมาก
“แล้วก็มีเรื่องคอร์สนักเขียนด้วย
“คอร์สนี้จัดมาได้พักใหญ่แล้ว ถึงเวลาต้องปรับปรุงกันสักหน่อย
“ผมคิดว่าจะทำ ‘คอร์สสร้างแรงบันดาลใจ’ โดยอ้างอิงจากคอร์สอบรมของเรา
“รวบรวมนักเขียนตัวท็อปโดยเฉพาะคนที่ตัดสินใจเขียนงานตามกำหนดมาร่วมคอร์สสร้างแรงบันดาลใจนี้
“ในคอร์สสร้างแรงบันดาลใจ เราจะเตรียมนิยาย หนัง และเกมมากมายไว้ให้พวกเขารวบรวมข้อมูลทุกวัน จากนั้นจะให้แลกเปลี่ยนความรู้และเทคนิคการเขียนรวมถึงแนะนำเกมหรือหนังที่คิดว่าสนุกให้กันและกัน
“คอร์สสร้างแรงบันดาลใจนี้ต้องมีการลงทุนเบื้องต้น เช่น จอภาพต้องใหญ่ หูฟังต้องดี ที่นั่งต้องสบาย แหล่งข้อมูลต่างๆ ในคอร์สต้องซื้อแผ่น Blu-ray ความละเอียดสูงพิเศษของแท้ทั้งหมดเพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดกับทุกคน
“ในคอร์สที่ผ่านมานักเขียนได้แค่เขียนงานและค้นหาข้อมูล ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น ในคอร์สสร้างแรงบันดาลใจนี้นักเขียนสามารถทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจเป็นเวลาแปดชั่วโมง และเขียนงานได้แค่สองชั่วโมงต่อวัน”
หม่าอี้ฉวินผงะไป “ครับ? เอ่อ…”
นี่ไม่ใช่คอร์สสร้างแรงบันดาลใจแล้ว นี่มันคอร์สพากันอู้และเล่นสนุกชัดๆ!
สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้คอร์สอบรมก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จคือ ‘คุกมืด’ ซึ่งทำให้นักเขียนที่มีความสามารถในการควบคุมตัวเองต่ำมีสมาธิจดจ่อกับงานเขียนภายใต้สภาพแวดล้อมนี้ได้ ผลงานยอดเยี่ยมมากมายจึงถือกำเนิดขึ้นมา
แต่ตอนนี้ทุกคนสามารถดูหนังได้ตามใจชอบ เล่นเกมได้ตามใจอยาก นอกจากจะไม่โดนขังในคุกมืดแล้วยังโดนจำกัดให้เขียนงานได้แค่สองชั่วโมงต่อวันอีก
แบบนี้ไม่เท่ากับส่งเสริมให้พวกเขาอู้งานเหรอ
แถมบอสเผยยังบอกว่าคอร์สสร้างแรงบันดาลใจนี้มีไส้สำหรับนักเขียนที่ตัดสินใจเขียนงานตามกำหนดเป็นหลัก ข้อกำหนดการลงงานของคนกลุ่มนี้ต่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วและใช้ความคิดสร้างสรรค์ไม่สูงมาก นี่ยังจะจัดสภาพแวดล้อมที่เพลิดเพลินใจและแสนสะดวกสบายให้อีก…
คนพวกนี้ติดเล่นจนใช้การไม่ได้แน่!
พวกเขาคือนักเขียนตัวท็อปและเสาหลักของเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน ถ้ากลายเป็นนักเขียนใช้การไม่ได้ขึ้นมา นอกจากจะส่งผลกระทบกับรายได้ของเว็บไซต์แล้ว ยังส่งผลกระทบกับจำนวนผลงานขึ้นหิ้งและความคิดเห็นของนักอ่านบนเว็บไซต์ด้วย…
หม่าอี้ฉวินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “บอสเผยครับ สภาพแวดล้อมแบบนี้จะไม่ผ่อนคลายเกินไปเหรอครับ”
เผยเชียนยิ้ม “ใช่เลย!
“นักเขียนตัวท็อปพวกนี้ไม่ได้ขาดทักษะและความสามารถ ถ้าอยากให้พัฒนาก็ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาเยอะๆ พวกเขาต้องทำงานให้ช้าลงและพิถีพิถันขึ้น!
“ทุกวันนี้นิยายหลายเรื่องยาวหลักล้านคำ พวกเขาต้องลงงานหลายพันหรืออาจจะเป็นหมื่นคำทุกวัน จะให้พวกเขาสร้างผลงานดีๆ ภายใต้ความกดดันแบบนั้นได้ยังไง
“บอกให้พวกเขาเขียนงานให้ช้าลงและขัดเกลางานให้ดีขึ้น!”
หม่าอี้ฉวินอ้าปากอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็พูดไม่ออก
เห็นได้ชัดว่าความคิดของบอสเผยดูไม่อยู่บนหลักความเป็นจริงเลย เว็บโนเวลมีไว้เพื่อความบันเทิง ถ้าทำงานให้ช้าลงและขัดเกลางานให้ดีจะเป็นยังไง จะสร้างผลงานชื่อเสียงโด่งดังได้เหรอ
แต่ก็บอกไม่ได้ว่าความคิดของบอสเผยผิด เขาบอกได้แค่ว่าบอสเผยมีวิสัยทัศน์สูงกว่าและมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง
หม่าอี้ฉวินลังเลอยู่ครู่แต่ก็พยักหน้าในที่สุด “โอเคครับบอสเผย เดี๋ยวผมจะจัดการตามนี้ครับ!”