📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 776.3

บทที่ 776.3 - เคราะห์ซ้ำกรรมซัด (3)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

สิบโมงเช้า

ชิวหงกับถังอี้ซู่แวะไปที่ร้านสาวหน้านิ่งแล้วนั่งในมุมที่ไม่ค่อยเด่นนัก

แม้จะยังไม่ถึงเวลาอาหารเที่ยง แต่ในร้านสาวหน้านิ่งก็มีลูกค้าค่อนข้างเยอะทีเดียว ที่นั่งประมาณ 60% มีคนนั่ง ช่วงเที่ยงต้องมีคิวยาวแน่นอน

ถังอี้ซู่มองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน

ทุกอย่างดูปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร

ก่อนมาที่นี่ เผยเชียนบอกให้เธอจับตาดูแบรนด์สาวหน้านิ่งเป็นพิเศษและกลับมารายงานสถานการณ์ตามความเป็นจริง ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่เข้าใจ ไม่ต้องศึกษาอะไรทั้งนั้น แต่สังเกตดูจากความประทับใจแรกก็พอ

แต่ถังอี้ซู่ก็พบว่าไม่เห็นมีอะไรแปลกๆ เลยตั้งแต่เข้ามาในร้าน

ร้านสะอาดและเป็นระเบียบดี ดูเหมือนกิจการจะไปได้สวยทีเดียว พนักงานเสิร์ฟไม่กระตือรือร้นเหมือนร้านฟาสต์ฟู้ดที่อื่นๆ แต่ก็มีรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้า พวกเขาใส่ใจและต้อนรับลูกค้าดีกว่าร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไปด้วยซ้ำ

ในสายตาของถังอี้ซู่ นี่เป็นร้านอาหารทั่วไปที่ทำกำไรได้เป็นอย่างดี

ทั้งสองสั่งเมนูประจำร้าน อาหารมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว

ถังอี้ซู่รู้สึกกลุ้มใจระหว่างกิน เธอไม่พบข้อบกพร่องหรือปัญหาร้ายแรงในร้านเลย

แน่นอนว่าร้านก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะยังไงก็เป็นแบรนด์อาหารจานด่วน เรื่องรสชาติจึงคาดหวังอะไรไม่ได้มาก แต่ก็ถือว่าพอผ่าน

ขณะเดียวกัน เมิ่งชั่งกำลังรอนักลงทุนอยู่อีกมุมหนึ่งที่ไม่เด่นในร้าน

ถึงเมิ่งชั่งจะดูนิ่งในเบื้องหน้า แต่จริงๆ แล้วเขารู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะพวกเขานัดกันไว้ตอนสิบโมง แต่ตอนนี้เหล่านักลงทุนสายไปหลายนาทีแล้ว

ตอนนั้นเองสายตาของเมิ่งชั่งก็เป็นประกาย เขารีบลุกขึ้นแล้วเดินไปทางประตู

ไม่นานเมิ่งชั่งกับนักลงทุนกลุ่มหนึ่งก็เดินพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกเข้ามาในร้าน

“ขอโทษจริงๆ ครับบอสเมิ่ง พอดีรถติดมากเลยมาสายไปหลายนาที ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรเลย เป็นเกียรติมากที่พวกคุณยอมแวะมาร้านผม ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนั้น”

เมิ่งชั่งดูนิ่งและใจเย็นเหมือนทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย เขาก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ของแบรนด์สาวหน้านิ่งให้ทุกคนฟัง

  เขาเล่าผลลัพธ์ของแผนการตลาดล่าสุดของสาวหน้านิ่ง การเตรียมการสำหรับร้านใหม่ กระแสตอบรับเมนูใหม่ รายละเอียดเรื่องบริการต่างๆ ของร้าน และอื่นๆ

แบรนด์สาวหน้านิ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โมเดลการบริหารและรสชาติดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเหล่านักลงทุนจะเคยแวะมากันแล้ว แต่พวกเขาก็เห็นถึงการพัฒนาอย่างชัดเจน

เพราะยังไงเมิ่งชั่งก็ผลาญเงินเพิ่มขึ้น คงจะแปลกถ้าร้านยังเหมือนเดิม

ถังอี้ซู่ที่นั่งอยู่มุมหนึ่งกำลังชิมบะหมี่เย็นย่างพลางเงี่ยหูฟังเนื้อหาการสนทนา

แต่เมิ่งชั่งไม่ได้พูดเสียงดังมาก ถึงจะตั้งใจฟังแต่ก็ได้ยินเป็นช่วงๆ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นกังวล

ถ้าแวะมาร้านสาวหน้านิ่งแล้วไม่ได้อะไรกลับไปเลย จะไปรายงานอะไรให้รุ่นพี่ฟัง

เมิ่งชั่งแนะนำร้านกับนักลงทุนอย่างกระตือรือร้น

“เราปรับสไตล์การตกแต่งร้านนิดหน่อย มีเพิ่มของตกแต่งเข้ามา หลักๆ ก็เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัย ทุกคนจะเห็นว่านั่นคือองค์ประกอบสไตล์จีนดั้งเดิม ส่วนโปสเตอร์ตรงนั้นให้กลิ่นอายความเป็นศิลป์ องค์ประกอบเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์วัฒนธรรมของแบรนด์สาวหน้านิ่ง

“สไตล์ที่ผสมผสานกันทำให้ลูกค้าได้พบบรรยากาศการกินอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ สไตล์การตกแต่งนี้จะเป็นจุดที่ลูกค้ายินดีแชร์ลงเว่ยป๋อหรือวงโซเชียลต่างๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าช่วยโปรโมตร้านให้เราฟรีๆ

“รายละเอียดพวกนี้สะท้อนให้เห็นในทุกแง่มุม ตัวอย่างเช่น โต๊ะและเก้าอี้ของเราสั่งทำพิเศษกับทางโรงงาน โดยออกแบบให้อยู่กึ่งกลางระหว่างความย้อนยุคและความทันสมัย อีกทั้งยังสวยงามและใช้ได้จริง ตามหลักการแล้ว น่าจะใช้ไปได้อีกสิบปีโดยไม่มีปัญหาอะไร…”

เมิ่งชั่งหมุนเก้าอี้ไปพร้อมกับอธิบาย แต่จังหวะนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียง ‘เอี๊ยด’ เบาๆ จากนั้นเก้าอี้ก็ค้างอยู่อย่างนั้น

เมิ่งชั่ง “?”

เขาคิดว่าตัวเองหมุนผิดทาง แต่พอพยายามหมุนไปอีกด้าน เขาก็พบว่ามันค้างไม่ยอมขยับจริงๆ!

บรรยากาศชวนกระอักกระอ่วนใจสุดๆ

เมิ่งชั่งงง เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

เขาไม่ได้โกหก โต๊ะเก้าอี้พวกนี้สั่งทำพิเศษด้วยวัสดุคุณภาพดีจริงๆ ตามหลักการแล้ว น่าจะใช้ไปได้สบายๆ อีกสองสามปี

แต่มีบางอย่างผิดพลาด!

ถึงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แค่แกนหมุนเก้าอี้ค้างโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่สามารถหมุนต่อได้ แต่ความรู้สึกที่เหมือนโดนตบหน้าเข้าอย่างจังก็ทำให้เมิ่งชั่งขายหน้าสุดๆ

ถึงนักลงทุนจะไว้หน้าเขาและพูดอะไร แต่เมิ่งชั่งก็รู้ว่าพวกเขาต้องคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจแน่นอน ข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลต่อการประเมินของนักลงทุน เงื่อนไขการลงทุนที่จะได้รับอาจโหดขึ้น

แต่เมิ่งชั่งก็มีจิตใจที่แข็งแกร่ง อุปสรรคเล็กน้อยแค่นี้ไม่ทำให้เขาตื่นตระหนก เขายิ้มและพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าจะยังมีปัญหานิดหน่อยเรื่องการควบคุมคุณภาพของโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เจอปัญหาจะได้รีบแก้ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรครับ

“เดี๋ยวผมจะบอกให้พวกเขาปรับปรุงเรื่องการควบคุมคุณภาพ

“นอกจากบรรยากาศในการกินอาหารแล้ว การคัดเลือกและสร้างวัฒนธรรมการทำงานในหมู่พนักงานเสิร์ฟของเราก็แตกต่างจากร้านอื่นด้วย…”

ขณะที่กำลังอธิบายอยู่ เขาก็เห็นลูกค้าคนหนึ่งลุกขึ้นอย่างหมดความอดทน ก่อนจะเดินไปต่อว่าที่เคาน์เตอร์ “ทำไมบะหมี่เย็นยังไม่ได้อีก ไหนว่าจะมาเสิร์ฟภายในสิบห้านาที นี่ยี่สิบนาทีแล้วนะ!”

พนักงานประจำเคาน์เตอร์ตอบกลับด้วยความลำบากใจ “ขอโทษด้วยค่ะ เดี๋ยวจะรีบเร่งครัวให้นะคะ”

ลูกค้ากลับไปนั่งที่โต๊ะโดยไม่พูดอะไร

เห็นได้ชัดว่าเหล่านักลงทุนก็เห็นเหตุการณ์นั้น สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เมิ่งชั่งใจตกไปอยู่ตาตุ่มขณะก่นด่าคนในครัวนับร้อยครั้ง

ปกติก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ แถมตอนเช้าเขาก็ย้ำไปหลายรอบว่าให้เสิร์ฟอาหารให้เร็วที่สุด ทำไมถึงมาสร้างปัญหาในเวลาแบบนี้นะ!

เละเทะมาก!

แต่เขาจะมามัวจมกับเรื่องนี้ไม่ได้ ยิ่งหาทางแก้ ยิ่งจะมีข้อบกพร่องเพิ่มขึ้น เขาจึงแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและอธิบายข้อมูลให้นักลงทุนฟังต่ออย่างกระตือรือร้น

แต่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาที ก็มีเรื่องเกิดขึ้นอีก nᴏveʟɢu.ᴄᴏᴍ

ชายร่างกำยำซึ่งดูเหมือนจะทนรออาหารมานานตะโกนขึ้นจากโต๊ะ “ทำไมฉันยังไม่ได้เครื่องเคียงอีก กินบะหมี่จะหมดแล้วเนี่ย! เครื่องเคียงมันไม่ต้องทำใหม่ทุกจานไม่ใช่เหรอ หรือมัวแต่ไปปลูกผักกันอยู่”

พนักงานเสิร์ฟรีบวิ่งเข้าไปขอโทษขอโพยด้วยเสียงแผ่วเบา

มุมปากของเมิ่งชั่งกระตุกเบาๆ รอบนี้เมินไม่ได้อีกแล้ว ครั้งเดียวยังพอถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้ แต่นี่ดันเกิดขึ้นสองครั้ง

สาวหน้านิ่งวางจุดยืนตัวเองเป็นแบรนด์อาหารจานด่วน ซึ่งอาหารจะจัดเสิร์ฟภายในสิบห้านาที ยิ่งเร็วกว่านั้นได้ก็ยิ่งดี แต่พอมีปัญหาเรื่องเวลาในการเสิร์ฟอาหาร นักลงทุนก็จะมองว่าการบริหารจัดการในครัวไม่ดี ส่งผลกระทบโดยตรงกับภาพลักษณ์และชื่อเสียงของแบรนด์สาวหน้านิ่ง

แถมตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงเที่ยงที่ลูกค้าแน่นร้านเลย ยังไงก็ไม่ควรมีปัญหาเรื่องการเสิร์ฟอาหารช้า

ไม่มีทางหลอกพวกเขาได้เลย

เมิ่งชั่งตั้งสติและสำรวมท่าที “ขอโทษด้วยครับ ดูเหมือนจะเกิดปัญหาขึ้นในครัว ขอเวลาสักครู่นะครับ ผมขอตัวเข้าไปจัดการก่อน”

เมิ่งชั่งรีบเดินเข้าไปในครัวแล้วกระซิบถามอย่างโกรธเคือง “เกิดอะไรขึ้น! ทำไมวันนี้เสิร์ฟอาหารช้าขนาดนี้!”

พนักงานเสิร์ฟกำลังยุ่งมือเป็นระวิง พอเห็นเมิ่งชั่ง ทุกคนก็รีบเข้ามาอธิบาย “บอสเมิ่ง! ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น แต่หนูดวงไม่ค่อยดีเลย เมื่อกี้เพิ่งเผลอทำบะหมี่ไหม้ แล้วก็ลื่นล้มตอนจะไปเสิร์ฟจานหลัก ลืมเสิร์ฟเครื่องเคียงด้วยค่ะ…”

เมิ่งชั่งกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ทำไมต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ในช่วงสำคัญด้วย!

แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ไปแล้วและไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้ เขาก็ได้แต่ด่าพนักงานแล้วบอกให้รีบเสิร์ฟอาหารให้เร็วที่สุด

เมิ่งชั่งเดินออกจากครัวด้วยสีหน้าสงบอีกครั้ง

เขาเดินไปที่กลางร้านและปรบมือเบาๆ “ขออภัยลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างยิ่งครับ วันนี้ในครัวมีปัญหานิดหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าใครไม่ได้อาหารภายในสิบห้านาที เราจะให้กินฟรีครับ!”

ในเวลาแบบนี้ วิธีเดียวที่จะดับความโกรธของลูกค้าได้คือการเอาเงินฟาดหัว

ถ้ามีปัญหาก็ต้องรีบแก้ไขทันที นักลงทุนพวกนี้จับตาดูเขาอยู่ ถ้าไม่รีบแก้ เดี๋ยวจะโดนหักคะแนนเอา

ลูกค้าที่กำลังรออาหารด้วยความหงุดหงิดสงบใจลงเมื่อได้ยินว่าจะได้กินฟรี

ชิวหงแปลกใจเล็กน้อยจึงกระซิบถาม “แปลกเนอะ ตอนเรามา อาหารก็มาเสิร์ฟค่อนข้างเร็ว ในครัวมีปัญหาอะไรรึเปล่า”

ถังอี้ซู่ก้มหน้าก้มตากินบะหมี่เย็นย่าง แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอีกฝ่าย

เธอยังจำครั้งแรกที่ไปงานเลี้ยงที่ภัตตาคารบ้านหมิงฝู่ได้ขึ้นใจ ขนาดภัตตาคารระดับสูงของบอสหลี่ยังได้รับผลกระทบ มีปัญหามากมายเกิดขึ้นในครัว

สาวหน้านิ่งเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดธรรมดา ครัวย่อมไม่ดีเท่าภัตตาคารบ้านหมิงฝู่ แล้วจะเอาอะไรไปต้านได้

ถังอี้ซู่รู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย วันนี้เธอมาโดยไม่ได้บอกใคร แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เธอก็กังวลขึ้นมาเล็กน้อยว่าจะทำให้แผนของรุ่นพี่พังรึเปล่า

ถังอี้ซู่หยิบทิชชูมาเช็ดปาก “บอสชิว ไปกันเถอะค่ะ”

ชิวหงผงะไป “อ้าว ไม่ดูต่อแล้วเหรอ”

ถังอี้ซู่ส่ายหน้า “ไม่ค่ะ”

เธอรู้ว่าเผยเชียนลงทุนในแบรนด์สาวหน้านิ่ง ถ้านั่งต่อไปแล้วสถานการณ์ในครัวแย่ลง ผลที่ตามมาคงไม่ดีแน่

รีบกลับให้เร็วที่สุดก่อนจะสร้างเรื่องไปมากกว่านี้น่าจะดีกว่า

ชิวหงไม่พูดอะไรมาก เพราะยังไงถังอี้ซู่ก็มาตรวจสอบโดยไม่บอกใคร ส่วนเขามีหน้าที่พาเธอมา ทั้งสองจึงลุกกลับออกไป

เมิ่งชั่งอธิบายข้อมูลต่างๆ ให้นักลงทุนฟังต่อ แต่ก็สัมผัสได้ชัดเจนว่าเหล่านักลงทุนไม่ได้สนใจเท่าตอนแรกแล้ว

ทำอะไรไม่ได้แล้ว เคราะห์ซ้ำกรรมซัดวันนี้สร้างความเสียหายให้ร้ายแรงเกินไป นักลงทุนส่วนใหญ่ที่รู้สึกสนใจกลับไปอยู่ในสถานะรอดูไปก่อนเหมือนเดิม

“โอเคครับบอสเมิ่ง วันนี้พอแค่นี้ก่อน เราจะกลับไปคุยเรื่องการลงทุนแล้วจะให้คำตอบในอีกสองวันนะครับ”

เหล่านักลงทุนยังสุภาพเหมือนเดิม แต่ชัดเจนว่าทัศนคติเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากตอนที่เพิ่งมาถึงร้าน

เมิ่งชั่งตระหนักเรื่องนี้ดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาได้แต่กัดฟันทำทีเป็นไม่ใส่ใจและเดินไปส่งเหล่านักลงทุนด้วยรอยยิ้ม

เขาถอนหายใจอยู่ภายใน ก่อนจะกลับเข้าร้านแล้วไปนั่งซึมที่โต๊ะ

พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งวิ่งเข้ามากระซิบเสียงเบา “บอสเมิ่งคะ! ในครัวไม่มีปัญหาแล้วค่ะ ลูกค้าส่วนหนึ่งที่ได้อาหารช้าได้กินฟรี เรามั่นใจได้ว่าช่วงเที่ยงที่ลูกค้าแน่นร้านไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ!”

เมิ่งชั่งหันมองเธอ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ท้อใจจริงๆ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset