📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 748

บทที่ 748 - จิตวิญญาณเถิงต๋าพัฒนาไปอีกขั้น?
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เหลียงชิงฟานอธิบาย “แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ดังๆ ที่เราอยากร่วมงานด้วยปฏิเสธเงื่อนไขความร่วมมือของเรา

“มีแค่แบรนด์เล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักที่ยอมให้ทีมตรวจสอบของเราเข้าไปกำกับดูแล

“เราตรวจดูคร่าวๆ แล้วเลือกร่วมงานกับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือครับ

“แต่ก็ต้องบอกว่ามีแบรนด์เล็กๆ แค่ไม่กี่แบรนด์ที่ยอมร่วมมือกับเราสุดๆ พวกเขายอมรับการกำกับดูแลของทีมตรวจสอบ แถมยังเชิญเราไปเองอีกต่างหาก

“อย่างโซฟาตัวนี้ จริงๆ ผมออกแบบร่วมกับเจ้าของฟางหลันเฟอร์นิเจอร์ เพิ่งส่งมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเองครับ”

เผยเชียนเพิ่งจะสังเกตเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างโซฟาในห้องนี้กับโซฟาในห้องของเขา 

เหลียงชิงฟานอธิบาย “โซฟาหนังแท้ตัวนี้เป็นโซฟาไฟฟ้า ที่นั่งซ้ายสุดกับขวาสุดปรับเอนพนักพิงได้ ทำให้เอนตัวนอนได้อย่างสะดวกสบาย

“เทียบกับโซฟาในห้องตัวอย่างของเจ้าของโครงการที่ชั้นสามแล้ว โซฟาตัวนี้พนักพิงไม่ได้สูงมาก เลยดูไม่เทอะทะ ออกแบบมาให้เข้ากับสไตล์มินิมอล แถมถ้าเทียบกับโซฟาอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 1.0 โซฟาตัวนี้ตอบโจทย์ในเรื่องการเอนนอน

“ขณะเดียวกัน ส่วนขาและที่วางแขนของโซฟาก็บางมากและทำจากไม้ ไม้วอลนัตดำจากอเมริกาเหนือมีพื้นผิวที่เห็นได้ชัดเจน หนา และละเอียดอ่อน ให้ความรู้สึกเหมือนผ้าเนื้อดีและให้ความรู้สึกสบายมือ นอกจากจะมีพื้นผิวที่ชัดเจนแล้ว ยังมีความแวววาวอย่างเป็นธรรมชาติ รูปลักษณ์และผิวสัมผัสเองก็ดีมาๆ

“นอกจากนั้นแล้ว ความแข็งแรง ความหนา และความคงทนก็ไม่เลวเลยครับ ถือเป็นหนึ่งในวัสดุไม้ระดับไฮเอนด์ที่เอามาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ 

“เทียบกับอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 1.0 แล้ว จุดที่เหนือไปอีกขั้นในครั้งนี้คือการที่ผมได้ออกแบบโซฟาร่วมกับเจ้าของฟางหลันเฟอร์นิเจอร์ เราจับที่พักแขนไม้วอลนัตดำมารวมกับโซฟาหนังไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะตรงกับสไตล์มินิมอลลิสต์แล้ว ยังเพิ่มประโยชน์ใช้สอยและคุณภาพของโซฟาได้สูงสุดอีกด้วย

“ถือเป็นผลงานที่มีส่วนผสมของวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก ตอนแรกผมกังวลอยู่หน่อยๆ ว่าเอามาวางแล้วจะดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ดูแล้ว ผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างดีทีเดียวครับ”

เผยเชียนถาม “ฟางหลันเฟอร์นิเจอร์นี่… เป็นแบรนด์ผลิตโซฟาเหรอ”

เหลียงชิงฟานยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ ฟางหลันเฟอร์นิเจอร์เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์เปิดใหม่ ทำทั้งโซฟา ตู้ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ 

“แต่แตกต่างจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์อื่นตรงที่เจ้าของแบรนด์เป็นคนออกแบบ จริงๆ แล้ว เขาสนใจเรื่องการออกแบบมากที่สุด เพราะอยากให้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีเอกลักษณ์

“อย่างโซฟาตัวนี้ ผมพยายามเต็มที่เพื่อผสมเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์จีนเข้ากับโซฟาไฟฟ้า ไอเดียนี้ค่อนข้างสุดโต่ง ตอนแรกผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่พอเริ่มออกแบบก็พบว่าจริงๆ ก็ไม่ได้แย่

“พวกเขาเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่กระตือรือร้นอยากร่วมงานกับอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยมากที่สุด ถึงขั้นเชิญทีมตรวจสอบเข้าไปดูออฟฟิศและโรงงานเองเลยครับ”

เผยเชียน “ทำไมล่ะ”

เหลียงชิงฟานอธิบาย “เพราะแนวคิดด้านสินค้าของพวกเขาตรงกับอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยครับ

“ผู้ก่อตั้งฟางหลันเฟอร์นิเจอร์เป็นนักออกแบบที่อยากเดินเส้นทางสายสินค้าระดับพรีเมียมคุณภาพสูง พูดอีกอย่างคือ อยากการันตีคุณภาพ บริการหลังการขาย และการออกแบบ แต่ก็อยากขายในราคาแพง 

“แบรนด์เล็กๆ ที่ไม่มีชื่อเสียงไม่มีทางเดินเส้นทางสายนี้ได้

“อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์มีการแข่งขันสูง อย่างเรื่องไม้วอลนัต บางแบรนด์บอกว่าเฟอร์นิเจอร์ตัวเองทำจากไม้วอลนัต ถ้าถามรายละเอียด พวกเขาจะบอกว่า ‘เป็นไม้วอลนัตจากแอฟริกาหรือไม้วอลนัตลายทอง เป็นไม้ประเภทเดียวกันกับไม้วอลนัตจากอเมริกาเหนือ แค่โตคนละพื้นที่’

“แต่จริงๆ นอกจากต้นจะสายพันธุ์ต่างกันแล้ว คุณสมบัติยังต่างกันด้วย โดยพื้นฐานแล้วไม่มีความสัมพันธ์กันทางพฤกษศาสตร์ แถมยังมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างมาก ผู้ผลิตที่ใช้ไม้เกรดต่ำชนิดนี้มักจะไม่ประณีตในขั้นตอนการผลิต ถ้าไม่ใส่ใจให้ดี เฟอร์นิเจอร์ที่ออกมาจะไม่ดีเท่าเฟอร์นิเจอร์ไม้ธรรมดาทั่วไป

“มีแค่ไม้วอลนัตจากอเมริกาเหนือที่เชื่อถือได้

“แต่ลูกค้าทั่วไปไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ พวกเขามักจะเปรียบเทียบราคาดูแล้วเลือกอันที่ถูกกว่า

“แบรนด์แบบฟางหลันเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้มีชื่อเสียงที่ดีมากพอจึงทำสินค้าระดับพรีเมียมไม่ได้ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์อื่นจะตัดต้นทุนในส่วนของวัสดุ เพราะงั้นราคาของเฟอร์นิเจอร์ชนิดเดียวกันอาจจะถูกกว่าเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับของฟางหลันเฟอร์นิเจอร์ พวกเขาไม่มีทางสู้ได้เลย

“นี่เป็นเหตุผลที่แบรนด์ใหญ่ๆ หลายแบรนด์ไม่ยอมร่วมงานกับเรา ส่วนหนึ่งก็เพราะคิดว่ากิจการตัวเองใหญ่ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเข้ามาควบคุม อีกส่วนอาจเป็นเพราะมีเล่ห์กลอะไรที่เราไม่ควรรู้ซ่อนอยู่”

เหลียงชิงฟานแตะมือลงบนที่วางแขนโซฟา “แต่ฟางหลันเฟอร์นิเจอร์แตกต่างออกไป พวกเขามั่นใจในวัสดุและคุณภาพของสินค้า พวกเขาแทบจะปูพรมให้ทีมตรวจสอบของเราเข้าไปประเมินคุณภาพฟรีๆ

“อีกอย่างถ้าร่วมงานกับเรา พวกเขาก็จะใช้แบรนด์อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยเป็นตัวพิสูจน์ได้ว่าสินค้าของพวกเขาคุณภาพดีจริง

“พูดอีกอย่างคือ สิ่งที่พวกเขาขาดมากที่สุดคือความเชื่อมั่นของลูกค้า ซึ่งเราเติมเต็มในจุดนี้ได้”

เผยเชียนนั่งลงบนโซฟา “โซฟาตัวนี้ราคาเท่าไหร่”

เหลียงชิงฟาน “ประมาณสามหมื่นครับ”

เผยเชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อืม เยี่ยมเลย ร่วมงานกับฟางหลันเฟอร์นิเจอร์ต่อไป”

ร่วมมือกับแบรนด์แบบนี้น่าพอใจที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ 

อันดับแรกเลยคือ เฟอร์นิเจอร์เป็นของคุณภาพสูง ปราศจากสารอันตราย ซึ่งช่วยการันตีได้ว่าจะไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยในอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย ถึงจะปล่อยเช่าเป็นเวลานานก็ไม่น่าจะมีปัญหาด้านคุณภาพที่ร้ายแรงมาก 

สอง ยิ่งพรีเมียมก็ยิ่งแพง นี่คือประเด็นที่สำคัญมากๆ 

เพราะจริงๆ แล้ว โมเดลของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยคือ เผยเชียนจ่ายเงินซื้อตึกเอามารีโนเวตใหม่ ใส่เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน แล้วค่อยปล่อยให้เช่า 

ยิ่งเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง เขาก็ยิ่งผลาญเงินได้มากขึ้น!

โซฟาที่เผยเชียนซื้อมาไว้ที่สำนักงานใหญ่เถิงต๋าราคาหกหมื่นหยวน แต่มาตรฐานของเครื่องใช้สำนักงานในห้องรับรองนั้นต่างกัน ระบบถือว่าเป็นหน้าตาของบริษัท เลยให้ขีดจำกัดสูงมาก 

โซฟาในอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยแพงเกินไปไม่ได้ สามหมื่นหยวนถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงมาก 

แต่เมื่อเทียบกับโซฟาทั่วไปที่ราคาสามถึงห้าหันหยวนแล้ว โซฟาราคาสามหมื่นหยวนถือว่าเป็นสินค้าระดับไฮเอนด์

ห้องชุดห้องเดียวใช้โซฟาราคาเกินสองหมื่น ถ้าใช้กับสักร้อยห้องล่ะ ไหนจะตู้ ชั้นวางทีวี โต๊ะกินข้าว ชั้นหนังสือ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อีก

รวมแล้วจะราคาขนาดไหนกัน!

เผยเชียนเดินไปรอบๆ ห้องแล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อืม อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 ทำได้ดีเลย ไปกันต่อแบบนี้แหละ

“อ้อ อย่าลืมอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยโมเดลเก่าล่ะ ดูแลให้ดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นิติบุคคลแต่ละตึกต้องรายงานและจัดการทันที ไม่ต้องกลัวเรื่องใช้เงิน”

เหลียงชิงฟานรีบพยักหน้า “ได้ครับบอสเผย”

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm

การสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋า 

งานรับพนักงานใหม่ช่วงต้นเดือนจัดการเสร็จหมดแล้ว พนักงานใหม่ส่วนใหญ่ทำงานที่ออฟฟิศมาได้สัปดาห์กว่าแล้ว ตอนนี้สามารถเข้าสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าครั้งแรกได้ 

เผยเชียนแวะไปที่ออฟฟิศเพื่อดูผลลัพธ์ของข้อสอบจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ปรับใหม่โดยเฉพาะ 

แต่เขาไม่ได้เข้าไปกำกับดูแลในห้องประชุมใหญ่ 

เพราะเขาไม่อยากทำให้ทุกคนเข้าใจผิด ถ้าทุกคนคิดว่า ‘บอสเผยดูจริงจังกับการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋ามาก’ สถานการณ์อาจจะแย่ลงกว่าเดิม 

ดังนั้นเผยเชียนจึงอยู่ในห้องทำงาน แสร้งทำเป็นว่าเข้ามาทำงาน ไม่ได้สนใจเรื่องการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าเลยสักนิด 

พอเสร็จสิ้นการสอบเมื่อไหร่ เขาจะแอบเข้าไปดูคำตอบของพนักงานใหม่เพื่อประเมินว่าข้อสอบจิตวิญญาณเถิงต๋ามีข้อผิดพลาดตรงไหน 

พนักงานใหม่เดินหน้าเคร่งเครียดเข้าไปในห้องประชุม พวกเขานั่งประจำที่ของตัวเองแล้วเริ่มทำข้อสอบ 

แต่พอเห็นข้อสอบ หลายคนก็แสดงสีหน้าแปลกใจแล้วหันมองคนอื่นๆ 

ทำไมมีช่องให้กรอกด้วยล่ะ 

ไหนรุ่นพี่บอกว่าเป็นข้อสอบแบบปรนัยหมดไง 

คนคุมสอบเป็นพนักงานจากฝ่าย HR เขากระแอมกระไอและย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎในห้องสอบ 

พนักงานใหม่ไม่กล้าหันมองกันอีก พวกเขารีบก้มหน้าก้มตาตอบคำถาม 

อู๋ปินเองก็เข้ามากำกับดูแลการสอบด้วย ตอนแรกเขาไม่ได้จริงจังอะไร แค่ทำหน้าที่ตามปกติ 

ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของเขาและหัวหน้ากิจการคนอื่นๆ จิตวิญญาณเถิงต๋าที่เดิมเป็นสิ่งลึกล้ำและคลุมเครือก็ค่อยๆ แพร่กระจายในบริษัทและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น 

คู่มือจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ชุ่ยเกิ่งทุ่มเทเขียนขึ้นมาก็ได้แจกจ่ายให้หัวหน้ากิจการต่างๆ เรียบร้อย 

ถึงคู่มือนี้จะส่งให้พนักงานทุกคนโดยตรงไม่ได้ โดยเฉพาะพนักงานใหม่ ขอแค่หัวหน้ากิจการมีจิตวิญญาณเถิงต๋า ก็จะมีอิทธิพลทางอ้อมกับพนักงานหลักและกระจายต่อไปให้กับพนักงานใหม่ 

บางครั้งการกระทำหรือคำพูดของพนักงานรุ่นพี่อาจจะเป็นการเปิดเผยจิตวิญญาณเถิงต๋าโดยไม่ได้ตั้งใจ และเป็นตัวอย่างให้กับพนักงานใหม่ 

พอเวลาผ่านไป พนักงานใหม่ก็จะปรับตัวเข้ากับวิธีคิดนี้ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนการสอบ ขอแค่หัวหน้ากิจการหรือพนักงานรุ่นพี่ให้คำใบ้มากพอ พนักงานใหม่ก็จะสอบผ่านได้อย่างราบรื่น 

ดังนั้นอัตราการผ่านของการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋ารอบก่อนๆ จึงสูงมาก ถึงรอบแรกจะไม่ผ่าน ยังไงก็ผ่านภายในโควตาสี่รอบแน่นอน 

อู๋ปินคิดว่านี่เป็นแค่การสอบพอเป็นพิธี เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก 

แต่เขาก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อพบว่าการสอบครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน 

เพราะเขาพบว่าผู้เข้าสอบใช้คีย์บอร์ดกันหมดทุกคน 

ถือเป็นเรื่องที่แปลก 

อู๋ปินเคยสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋ามาก่อนและได้คุมสอบอยู่หลายครั้ง เขาจำได้แม่นว่าการสอบรอบก่อนๆ เป็นข้อสอบปรนัย ที่ต้องทำก็แค่คลิกเมาส์ 

ทำไมรอบนี้ต้องใช้คีย์บอร์ดล่ะ 

หรือว่า… การสอบได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม มีข้อสอบอัตนัยเพิ่มเข้ามาเหรอ 

ไม่น่าใช่ 

บอสเผยเป็นคนออกข้อสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าเอง ซึ่งระบบจะตรวจคำตอบโดยอัตโนมัติ ถ้าเพิ่มข้อสอบแบบอัตนัยเข้ามาจะให้คะแนนยังไง 

บอสคงไม่อ่านคำตอบข้อสอบอัตนัยทีละข้อแน่ แถมฝ่าย HR ก็ไม่ได้รับคำสั่งอะไรเกี่ยวกับ ‘การตรวจข้อสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋า’

งั้น… เกิดอะไรขึ้นกันแน่ 

อู๋ปินงงมาก 

หรือจิตวิญญาณเถิงต๋าจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นแล้ว 

นี่คือภารกิจใหม่ของฉันเหรอ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset