ชิวหงถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดต่อ “ระบบปฏิบัติการแบบปิดและเป็นเอกลักษณ์ที่ติดมากับเครื่องเกมคอนโซลคือปราการปกป้องลิขสิทธิ์เกมสแตนด์อโลนที่แข็งแกร่งมากแม้จะมีการพยายามแก้ไขไฟล์ ปราการป้องกันนี้กลายเป็นกำลังสำคัญของเกมต่างประเทศ ซึ่งช่วยการันตีผลกำไรของบริษัท
“ไม่ว่าเกมออนไลน์จะพัฒนาไปยังไง เกมสแตนด์อโลนในต่างประเทศก็กินส่วนแบ่งตลาดถึง 60% สูงกว่าเกมออนไลน์ ในขณะที่ตลาดเกมสแตนด์อโลนในประเทศของเราในช่วงประมาณปี 2001 นั้นมีสัดส่วนอยู่ที่ศูนย์
“การไม่มีเครื่องเกมคอนโซลทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น และเกมเถื่อนที่ได้รับความนิยมสูงก็ทำลายตลาดเกมสแตนด์อโลนไป
“คนที่เกิดไม่ทันยุคนั้นจะไม่รู้เลยว่าตลาดเกมสแตนด์อโลนในตอนนั้นกระเสือกกระสนขนาดไหน พูดง่ายๆ คือ เกมสแตนด์อโลนนั้นกระเสือกกระสนมากขนาดลดราคาเหลือเกมละสิบห้าหยวน ผู้เล่นก็ยังเลือกซื้อเกมเถื่อนราคาหกหยวนอยู่ดี
“ตอนนั้นเกมที่ผลิตในประเทศยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ เพราะอุปสรรคทางวัฒนธรรมทำให้ไม่สามารถขายในต่างประเทศได้ เราเลยขายได้แค่ในตลาดจีน
“ก่อนหน้านี้ เกมสแตนด์อโลนในประเทศหลายเกมตั้งราคาไว้หลายสิบหยวนและขายได้กำไรดี แต่แค่หนึ่งถึงสองปี เกมแท้ก็ต้องสู้สงครามราคากับเกมเถื่อน เพื่อต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ ราคาจึงลดเหลือแค่สิบแปดหยวนและถึงขั้นแจกเกมบางส่วนไปกับนิตยสาร แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
“การลดราคาเกมไม่ได้ทำให้เกิดสถานการณ์อย่างทำกำไรได้น้อยแต่คืนทุนไว กลับกัน รายได้ของผู้พัฒนานั้นลดลงมาก พอรายได้ลดลง ต้นทุนการผลิตก็ลดลงด้วย คุณภาพของเกมก็ลดทอนไปตามกัน
“นอกจากนี้ บริษัทขยะหลายแห่งก็พัฒนาเกมขยะออกมาจำนวนมาก ซึ่งทำลายความกระตือรือร้นของเกมเมอร์กลุ่มเล็กๆ ที่อยากสนับสนุนจากใจจริง สุดท้ายก็กลายเป็นวงจรอุบาทว์ ทุกคนมีภาพจำว่าเกมสแตนด์อโลนจีนนั้นคุณภาพต่ำ
“พอเกมแท้ราคาสิบแปดหยวนยังไม่สามารถเอาชนะเกมเถื่อนราคาหกหยวนได้ ทุกอย่างก็ดับอนาถ ไม่ว่าจะต่อสู้ดิ้นรนขนาดไหนก็ไม่ช่วยอะไร กระแสของเกมออนไลน์กลับทำให้ผู้ผลิตเกมอย่างผมมีหนทางไปต่อ ผมต้องทำเกมออนไลน์เพื่อให้ตัวเองยังอยู่ในอุตสาหกรรมเกม ไม่งั้นผมอาจจะต้องไปหางานที่บริษัทอินเทอร์เน็ตและผันตัวไปเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์แทน
“ดังนั้นเกมสแตนด์อโลนไม่ได้ตายเพราะเกมออนไลน์ แต่เป็นเพราะเกมเถื่อน ในทางกลับกัน เกมออนไลน์กลับเป็นฟางเส้นที่ช่วยชีวิตเหล่าผู้พัฒนาเกม
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “แต่ถ้าเกมดีพอ ยังไงก็มีคนยอมจ่ายไม่ใช่เหรอครับ ผมได้ยินมาว่าต่างประเทศทำเกม AAA ระดับขึ้นหิ้งออกมาเยอะแยะ แต่ก็ไม่เห็นออกมาตรการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์อะไรเลยนี่ครับ”
ชิวหงพยักหน้า “ใช่ครับ คุณหม่าพูดถูก ถูกต้องที่สุด
“คำถามคือ มาตรฐานของ ‘ดีพอ’ อยู่ตรงไหน
“คุณทำเกม AAA ระดับเดียวกับผู้พัฒนาต่างประเทศได้รึเปล่า หรือในบรรดาผู้พัฒนาในประเทศ คุณอยากเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาที่ดีที่สุดมั้ย
“นั่นหมายความว่า มีเพียงตอนที่คุณไต่ขึ้นไปอยู่ปลายยอด 1% ของอุตสาหกรรม คุณถึงจะดีพอและมีคนจำนวนมากให้ความสนใจและจ่ายเงินให้คุณ
“บางคนบอกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ช่วยขยายศักยภาพส่วนแบ่งการตลาดได้มาก ประโยคนี้เหลวไหลมาก และถึงจะจริง ก็ส่งผลกระทบต่อกลุ่มปลายยอด 1% ของอุตสาหกรรมเพียงเล็กน้อย”
“ถ้าผูกขาดได้เหมือนระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ การละเมิดลิขสิทธิ์อาจช่วยให้คุณต่อสู้กับคู่แข่งและรักษาส่วนแบ่งตลาดได้
“แต่มีกี่บริษัทที่สามารถขึ้นไปอยู่ปลายยอด 1% ได้บ้าง แล้วมีสักกี่บริษัทกันเชียวที่สามารถผูกขาดตลาดได้
“ปล่อยให้บริษัทใหญ่ๆ กับบริษัทที่ผูกขาดตลาดเจริญรุ่งเรือง
“แล้วปล่อยให้อีก 99% ที่เหลือตาย?”
“มันไม่มีความหมายเลยที่จะพูดถึงปลายยอด 1% ของอุตสาหกรรม จะมีสักกี่คนที่สามารถไต่ขึ้นไปปลายยอด 1% ในแวดวงของพวกเขาได้ ถ้ามีคนบอกคุณตอนนี้ว่าในอุตสาหกรรมของคุณมีเพียงปลายยอด 1% เท่านั้นที่ได้รับการยอมรับและไปต่อได้ ถ้าคุณเลือกไปต่อ อีก 99% ก็มีแต่จะอดตาย คุณจะยังอยู่ในวงการนี้ต่อรึเปล่า
“ผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างเหออันที่สร้างเกมสแตนด์อโลนประสบความสำเร็จมากมายยังเปลี่ยนไปทำเกมออนไลน์ด้วยเลย พอฐานหอคอยพัง ตลาดทั้งหมดจะหดตัวลงรอบด้าน ถ้าหนึ่งหรือสองบริษัทที่อยู่บนยอดหอคอยยังเปลี่ยน แล้วตลาดทั้งหมดล่ะ?
“ดังนั้นอุตสาหกรรมที่ดีควรเป็นเหมือนพีระมิดหรือภูเขาน้ำแข็ง ปลายยอดของพีระมิดหรือภูเขาน้ำแข็งที่อยู่เหนือทะเลคือส่วนที่สูงที่สุด 1% ที่จะได้ดื่มด่ำกับความรุ่งโรจน์ ในขณะที่ฐานของพีระมิดหรือภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ด้านล่างน้ำเป็นรากฐานสำคัญที่มีส่วนช่วยในการดำรงอยู่ของอุตสาหกรรม
“ปลายยอดจะคงอยู่ได้ยังไงถ้าฐานพังไปแล้ว
“ดังนั้นไม่ว่าปลายยอด 1% จะอยู่ดีกินดีหรือไม่ก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดสถานะของอุตสาหกรรม สิ่งที่กำหนดความอยู่รอดของอุตสาหกรรมจริงๆ คือดูว่าชั้นล่างกับชั้นกลางจะอยู่รอดได้หรือเปล่า
“วงจรไม่จบสิ้นจะเป็นประมาณนี้
“ผู้พัฒนา: พวกเราต้องการให้คุณซื้อเกมแท้เพื่อเราจะได้พัฒนาเกมให้ดียิ่งขึ้น!
“ผู้เล่น: งั้นก็ให้ประสบการณ์การเล่นที่ดีที่สุดกับเราก่อน! ถ้าเกมคุณดีที่สุดจริงๆ เราจะเลิกซื้อเกมเถื่อนแล้วหันมาซื้อเกมแท้!
“ผู้พัฒนา: แต่พวกคุณต้องเลิกซื้อเกมเถื่อนและจ่ายเงินให้เราก่อน เราถึงจะมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้พวกคุณได้!
“ผู้เล่น: ถ้างั้นก็ต้องให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดกับเราก่อน เราถึงจะเลิกซื้อเกมเถื่อน!
“ผู้พัฒนาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสร้างเกมออนไลน์
“ตลาดมาทางนี้ ผู้เล่นเลือกทางนี้กันเอง พวกเขาบอกว่าเปิดรับแค่เกมออนไลน์กับเกมเถื่อนเท่านั้น เกมแท้ขอบาย เพราะงั้นเกมแท้จึงล้มหายตายจากไปอย่างที่พวกเขาต้องการ
“สำหรับผู้เล่นแล้ว แนวคิด ‘จ่ายให้กับสิ่งที่ดีพอเท่านั้น’ ไม่ใช่ปัญหาและไม่ควรถูกตำหนิ แต่ใช้ได้กับตลาดที่ดีและมีระบบระเบียบแล้วเท่านั้น
“ถ้าตลาดเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม แนวคิด ‘จ่ายให้กับสิ่งที่ดีพอเท่านั้น’ ก็จะหมายความว่านอกจากปลายยอด 1% ของผู้พัฒนาชั้นน้ำแล้ว ผู้พัฒนาเนื้อหาทั่วไปที่เหลืออีก 99% จะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งผู้ที่ลงแข่งและผู้ที่ทำลายกฎของตลาดจะไปไม่รอด
“ก็เหมือนตอนนี้ คอนเทนต์ครีเอเตอร์มากมายทำงานอย่างหนักอยู่สามวันเพื่อทำคลิปขึ้นมา แต่ก็โดนขโมยไปลงใหม่ คุณใช้เวลาสามวัน ขโมยใช้เวลาแค่หนึ่งวินาที แบบนี้จะแข่งกับเขาได้ยังไง ถ้าผู้ชมไม่ตระหนักเรื่องนี้ คิดแค่ว่ายังไงเนื้อหาก็เหมือนกัน ดูจากของคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ได้ ใครจะสนว่าเจ้าของคลิปเป็นใคร ทีนี้คุณว่านอกจากกลุ่มที่อยู่ปลายยอดสุดแล้ว จะมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์สักกี่คนที่อยู่รอด
“เพราะงั้นก็ต้องขอบคุณแพลตฟอร์ม ESRO ที่เปิดตัวขึ้นในปี 2006 ถ้าไม่มีแพลตฟอร์มนี้ ตลาดเกมสแตนด์อโลนในประเทศคงยังเป็นทะเลทรายจนถึงตอนนี้ ไม่มีหญ้าขึ้นให้เห็น
“แม้จะมีต้นกล้าแค่ต้นเดียวหรือสองต้น แต่ก็เป็นแค่ไฟปะทุในกระทะขึ้นมาแวบเดียว ไม่มีวันเติบโตเป็นต้นไม้สูงตระหง่านได้
“เพราะไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้จริงๆ”
ชิวหงจิบกาแฟหน้าเศร้า
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “งั้น… ถ้าสถานการณ์ของเกมสแตนด์อโลนในประเทศดีขึ้นอีกครั้งในปี 2006 ทำไมคุณไม่ยึดมั่นในความฝันและกลับมายืนหยัดทำเกมแนวสแตนด์อโลนล่ะครับ”
ชิวหงยิ้มดูแคลนตัวเอง “เพราะผมทิ้งความฝันของผมไปแล้ว
“จำที่ผมพูดตอนแรกได้มั้ย การพยายามทำตามความฝันเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่นำไปสู่ความล้มเหลว
“ผมสร้างเกมสแตนด์อโลนตอนเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้เป็นครั้งแรก ตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาเกมมาเกือบสองปี และทนอยู่ต่ออีกกว่าสองเดือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้จักชื่อเกมด้วยซ้ำ
“ผมเลยล้มเลิกความฝันและสร้างเกมออนไลน์ตีมเทพนิยายที่เน้นระบบเติมเงิน เกมนี้ทำให้ผมได้รับโบนัสโปรเจ็กต์ปีละล้าน ซึ่งก็พูดได้ว่าประสบความสำเร็จโนiวลกูดอทคอม
“ความฝันของผมสำคัญมั้ย มีใครสนรึเปล่า ผมยึดมั่นในฝันนี้ไปเพื่อใคร ถ้าการยึดมั่นในความฝันทำให้ต้องดื่มน้ำเย็นและกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน ส่วนการละทิ้งความฝันช่วยให้ผมมีชีวิตที่ดีและไร้ซึ่งความกังวล ไม่ต้องสนใจผู้เล่นหลายหมื่นคน ทำไมผมต้องยึดมั่นในฝันต่อไปด้วยล่ะ
“ตั้งแต่นั้นมา ผมก็ตัดสินใจว่าฉันจะสร้างเกมทำเงินเท่านั้น เป้าหมายของผมคือทำเงินให้มากขึ้น ส่วนภารกิจสุดยิ่งใหญ่ในการชุบชีวิตเกมสแตนด์อโลนนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย แม้แต่ผู้เล่นเองยังไม่สนใจด้วยซ้ำ แล้วผมเป็นใคร ทำไมต้องพยายามเพื่อเกมสแตนด์อโลนด้วย
“เอาเข้าจริง ในบรรดาผู้พัฒนาเกมทั้งหมดที่อยู่ในยุคเดียวกับผมและเข้าสู่อุตสาหกรรมในช่วงแรกนั้น มีใครบ้างที่ไม่มีความฝัน
“แต่กลุ่มที่ยึดมั่นในความฝันได้หายออกจากวงการนี้ไปหมดแล้ว มีแค่คนที่ละทิ้งความฝันแบบผมเท่านั้นที่อยู่รอดมาได้
“บอสหม่า คุณอาจจะคิดว่าประสบการณ์ของผมใช้ไม่ได้กับยุคนี้
“เพราะสถานการณ์เกมสแตนด์อโลนในประเทศกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ให้เห็น และผู้คนจำนวนมากก็จ่ายเงินซื้อเกมสแตนด์อโลนจีนมากขึ้น
“แต่ความจริงยังคงเหมือนเดิม ระหว่างความฝันกับความจริง มีคนจำนวนน้อยที่สามารถกอดทั้งสองอย่างไว้ได้ คนส่วนใหญ่เลือกกินยาขมได้แค่เม็ดเดียวคือ จะยอมละทิ้งความฝัน หรือถูกสอนให้เติบโตขึ้นด้วยความเป็นจริง
“บอสหม่าครับ นี่คือเรื่องสุดท้ายที่ผมอยากฝากไว้จากก้นบึ้งของหัวใจ
“มันอาจใช้ไม่ได้กับทุกคน หรืออาจจะใช้ได้ก็ได้ แต่ผมก็หวังว่ามันจะช่วยให้แรงบันดาลใจกับคุณ”
เผยเชียนยกกาแฟขึ้นจิบและไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่
เพราะหัวข้อนี้หนักเกินไป
เผยเชียนไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างแพลตฟอร์ม ESRO การสูญพันธุ์ของเกมเถื่อน และการพัฒนาตามปกติของเกมสแตนด์อโลนในโลกนี้แม้แต่น้อย ตอนนี้เขารู้แค่ว่าเป็นเพราะการจัดตั้งแพลตฟอร์ม ESRO ขึ้นมาและการควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด ทำให้ตลาดเกมสแตนด์อโลนในประเทศฟื้นกลับคืนมาและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โลกนี้แตกต่างจากโลกในความทรงจำของเขา
ความแตกต่างเล็กๆ ทำให้สิ่งต่างๆ แตกต่างออกไปมาก
ชิวหงบอกว่าถ้าไม่มีแพลตฟอร์ม ESRO เกมในประเทศจะเป็นทะเลทรายจนถึงทุกวันนี้
เผยเชียนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง
เพราะทุกอย่างเคยเกิดขึ้นในความทรงจำของเขา
เผยเชียนจึงรู้สึกว่าตัวเองควรจะพูดอะไรสักอย่าง
สถานการณ์ในปัจจุบันเรียกว่าเป็นสวรรค์ได้ ที่ชิวหงรู้สึกว่าเขาอยู่ในนรกก็เพราะเขาไม่เคยเห็นนรกที่แท้จริง
เผยเชียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “บอสชิว ผมรู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะเข้าใจหัวอกกันอย่างแท้จริง บางคนพูดได้เพราะไม่เคยผ่านประสบการณ์ความเจ็บปวด ผมเลยแนะนำคนอื่นอยู่บ่อยๆ ให้ใจกว้างเข้าไว้ เรื่องพวกนี้ก็เหมือนโดนฟ้าผ่านั่นแหละ
“แต่ผมอยากพูดอะไรกับคุณสักนิดหน่อยจะได้มั้ยครับ”
ชิวหงพยักหน้า “ได้อยู่แล้วครับ บอสหม่า เราเป็นเพื่อนคู่คิดกัน เพราะงั้นก็พูดกันได้ทุกเรื่องแหละครับ”
เผยเชียนพูดเสียงจริงจัง “ผมรู้ว่าการให้แต่ไม่ได้สิ่งที่สมควรได้รับมันเจ็บปวด ทุกคนต้องโกรธอยู่แล้วถ้าความพยายามของตัวเองถูกขโมยไป โลกนั้นเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรม บางครั้งคุณไม่สามารถแม้แต่จะแยกแยะออกได้ว่าสุดท้ายแล้วใครถูกใครผิด ไม่ใช่ทุกภัยพิบัติจะหาคนรับผิดชอบได้
“มีหลักความคิดหนึ่งในชีวิตที่ทุกคนไม่สามารถยึดถือได้ แต่ทุกคนรู้ว่ามันถูกต้อง ซึ่งก็คือ ทำเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมโดยไม่หวังถึงอนาคต
“บอสชิวครับ อย่าปล่อยให้โศกนาฏกรรมของยุคสมัยกลายเป็นโศกนาฏกรรมส่วนตัวของคุณ”
ชิวหงนิ่งเงียบและทวนประโยคสุดท้ายซ้ำไปมา
ผ่านไปพักใหญ่ เขาก็เงยหน้าขึ้น “บอสหม่า ดีจริงๆ ครับที่คุณคิดได้แบบนี้
“ขอบคุณครับ”