📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 564

บทที่ 564 - มุมที่ย้อนแย้งของบอสเผย
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เสียงปรบมือดังก้องหอประชุม

ถังอี้ซู่โค้งตัวด้วยความขวยเขิน จากนั้นก็รีบลงเวทีไป

ตอนเดินเข้าไปหลังเวที เธอก็สะดุดกับสายไฟที่อยู่บนพื้น โชคดีที่เธอเตรียมตัวไว้พร้อมล่วงหน้าจึงคว้าม่านที่อยู่ด้านข้าง ทำให้รอดได้หวุดหวิด

เหล่านักศึกษาไม่ทันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาปรบมืออย่างต่อเนื่องขณะพูดคุยกันถึงการบรรยายเมื่อครู่

“สมเหตุสมผลสุดๆ ทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดที่เรามีไม่ใช่เงิน แต่เป็นสมาธิ”

“เขาส่งเสริมให้เราใช้เงินกับการพัฒนาตัวเองและใช้สมาธิของเราให้ดีขึ้น การบรรยายนี้ดีกว่าพวกการบรรยายที่ส่งเสริมให้เราประหยัดอดออม เก็บเงิน หรือ ‘ซื้อของที่ตัวเองชอบ’ อีก!”

“บอสไม่ได้ประสบความสำเร็จเพราะความบังเอิญจริงๆ ด้วย!”

“มีใครอัดเอาไว้มั้ย”

“ฉันอัดไว้ เดี๋ยวแกะเป็นคำพูดแล้วโพสต์ในเว็บบอร์ดมหา’ลัย จะได้เอามาทำความเข้าใจให้ละเอียดลึกซึ้งอีกรอบ!”

ตอนแรกพวกนักศึกษาคิดว่าการบรรยายนี้คงไม่ต่างจากการบรรยายเรื่องมุมมองต่อความมั่งคั่งอื่นๆ ที่เน้นวิธีการใช้เงิน

เป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่จะคิดแบบนั้นเมื่อนึกถึงเรื่อง ‘ความมั่งคั่ง’

แต่จดหมายของบอสเผยมอบมุมมองใหม่เอี่ยมให้พวกเขา ซึ่งก็คือการใช้สมาธิให้เกิดประโยชน์ นั่นก็เพราะในความเป็นจริง มนุษย์ต้องใช้สมาธิของตัวเองในการหาเงิน

การใช้สมาธิอย่างสิ้นเปลืองนั้นน่ากลัวกว่าการใช้จ่ายเงินอย่างสิ้นเปลือง เพราะการใช้เงินทำให้เงินที่มีหมดไป แต่การใช้สมาธิจะทำให้สูญเสียความสามารถในการสร้างมูลค่า

การบรรยายนี้สั้นมาก ไม่มีทฤษฎียืดยาวหรือการสาธยายยาวเหยียด เนื้อหาทั้งหมดคือการชี้มุมมองใหม่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ทันสังเกตเห็น คนทั่วไปเลยยอมรับได้ง่ายกว่า

วันพุธที่ 29 มิถุนายน

ฝ่าย HR เถิงต๋าคอร์เปอเรชัน

อู๋ปินและชุยเกิ่งกำลังจัดการกับต้นฉบับที่ได้รับมาก่อนหน้านี้

ทั้งสองแบ่งหน้าที่กันชัดเจน อู๋ปินรับผิดชอบเรื่องการรวบรวมข้อมูลและหาผู้ให้สัมภาษณ์ ส่วนชุยเกิ่งรับผิดชอบถอดความจากเสียงที่อัดมาและจัดทุกอย่างให้เป็นระบบระเบียบ

ข้อมูลที่ได้มาจะนำมาใช้ตีความจิตวิญญาณของเถิงต๋า ขณะเดียวกันก็เป็นการบันทึกวิธีการที่บอสเผยใช้จัดการปัญหาด้วย

“บทถอดความการบรรยายของบอสเผยที่มหา’ลัยฮั่นตงเป็นกระแสดังในเว็บบอร์ดของมหา’ลัย เราควรเอามาเพิ่มเติมในข้อมูลปัจจุบันของเราดีมั้ยครับ” ชุยเกิ่งถาม

อู๋ปินคิดดูแล้วส่ายหน้า “อย่าเพิ่งรีบไป

“ตอนนี้เรื่องนี้มีกระแสแค่ในมหา’ลัยฮั่นตง แถมว่ากันตามตรง บทบรรยายนั้นก็เป็นแค่ทฤษฎี ถ้าไม่มีตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจงก็จะจูงใจคนได้น้อยมาก

“ที่สำคัญที่สุดเลยคือ บอสเผยไม่ได้เป็นคนเขียนบทเอง ถึงจะมีองค์ประกอบของสิ่งที่บอสน่าจะพูด แต่บอสก็ยุ่งมาก บทนี้เลขาซินน่าจะเป็นคนเขียน”

หลังจากคิดดูอยู่ครู่หนึ่ง ชุยเกิ่งก็พูดขึ้น “ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่บทนี้ก็แสดงให้เห็นถึงแนวคิดของบอสเผย มันก็ไม่ต่างกันนะครับ”

อู๋ปินคิดตาม “อืม…ก็จริง งั้นเราเอาตรงนี้มาพิจารณาก็ได้ แต่ต้องกรองข้อมูลอย่างละเอียด เพราะสิ่งที่เราจะสร้างขึ้นมาคือบันทึกจิตวิญญาณเถิงต๋า ทุกอย่างต้องถูกต้อง”

ทั้งสองจัดการงานไปได้ไม่เร็วนัก เอาเข้าจริงถือว่าค่อนข้างช้า

นั่นก็เพราะพวกเขาอยากได้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมในการอธิบายแนวคิดของบอสเผยและจิตวิญญาณของเถิงต๋า แน่นอนว่าพวกเขาต้องเลี่ยงการตีความที่กำกวม และต้องบันทึกเนื้อหาทุกอย่างไว้ให้ดี

ตัวอย่างเช่น การประเมินของบอสหลี่และเหล่านักลงทุนสามารถใช้เป็นหลักฐานได้

สิ่งที่บอสเผยทำจริงๆ ก็สามารถเอามาใช้เป็นหลักฐานได้

ถ้านำทั้งสองอย่างมารวมกัน เนื้อหาก็จะมีความสมจริงและดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

แต่ก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ถ้าจะเอาบทถอดความการบรรยายมาใส่เพิ่ม นอกเสียจากว่าจะพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกันแล้ว

“ได้เวลาแล้ว”

อู๋ปินเหลือบมองนาฬิกา วันนี้พวกเขาต้องไปสัมภาษณ์เหลียงชิงฟาน และตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเดินทางแล้ว

อู๋ปินเลือกผู้ให้สัมภาษณ์อย่างละเอียด

บอสหลี่แห่งบริษัทลงทุนฟู่หุยให้ข้อมูลบอสเผยจากมุมมองของคู่แข่งทางการค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ส่วนเหลียงชิงฟานนั้นเป็นมุมมองของผู้เชี่ยวชาญจากวงการอื่นที่เพิ่งเริ่มทำงานกับบอสเผย

ในหมู่ผู้ดูแลกิจการต่างๆ เหลียงชิงฟานเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับบอสเผยน้อยที่สุด ไม่แน่พวกเขาอาจจะได้แรงบันดาลใจบางอย่างจากความประทับใจแรกของอีกฝ่าย

ครึ่งชั่วโมงต่อมา อู๋ปินกับชุยเกิ่งก็มาถึงอาคารหมายเลข 9 ในคอมมูนิตี้ปินหู

ทั้งสองตึกอยู่ระหว่างการก่อสร้างเร่งด่วน มองจากด้านนอกก็ดูออกว่าตึกมีสภาพทรุดโทรมและไม่มีคนพักอาศัยมาหลายปี ทีมก่อสร้างกำลังเร่งโปรเจ็กต์ เสียงเจาะพื้นทุบผนังดังให้ได้ยินเป็นพักๆ

รออยู่ด้านล่างได้สองนาที เหลียงชิงฟานก็ลงมาพร้อมหมวกนิรภัยบนหัว

เขายื่นหมวกนิรภัยให้พนักงานในไซต์ก่อสร้าง จากนั้นก็หันมายิ้มให้อู๋ปินกับชุยเกิ่ง “ตอนนี้ไซต์ก่อสร้างวุ่นวายมากครับ ไปสวนสาธารณะใกล้ๆ กันเถอะ”

ทั้งสามมาถึงทะเลสาบขุดในสวนสาธารณะแล้วนั่งลงบนม้านั่งยาว

อู๋ปินพูดขึ้น “คุณเหลียงครับ วันนี้หลักๆ พวกเรามาถามคุณเรื่องความประทับใจที่มีต่อบอสเผยนะครับ”

ก่อนหน้านี้ อู๋ปินติดต่อเหลียงชิงฟานทางโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นทั้งสองฝ่ายจึงเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ไว้เรียบร้อย

เหลียงชิงฟานหันมองคลื่นกระเพื่อมเบาๆ บนทะเลสาบ ในใจอัดแน่นไปด้วยความรู้สึก “ตรงๆ เลยนะครับ ตอนนี้ผมไม่เข้าใจบอสเผยเลยสักนิด”

อู๋ปินยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ ไม่แปลกเลย

“ถ้าเข้าใจง่ายคงไม่ใช่บอสเผย

“เราอยากสัมภาษณ์หลายๆ คนเพื่อรวบรวมความประทับใจจากกลุ่มคนที่หลากหลายให้ได้มากที่สุด จากนั้นเราจะเอาความประทับใจทั้งหมดมารวมกันเพื่อเติมเต็มภาพให้สมบูรณ์

“ก่อนหน้านี้ เราก็สัมภาษณ์คู่แข่งทางการค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของบอสเผยมาและได้ข้อมูลเชิงลึกเยอะเลย

“ในฐานะพนักงานเถิงต๋าคอร์เปอเรชันที่ทำงานกับบอสเผยมานาน พวกเราเห็นบอสแค่ด้านเดียว

“คุณเพิ่งเข้ามาทำงานภายใต้เถิงต๋าคอร์เปอเรชันและยังทำงานกับบอสเผยได้ไม่นาน ความประทับใจแรกของคุณต่อบอสน่าจะทำให้เราเห็นมุมมองที่สดใหม่”

เหลียงชิงฟานพยักหน้า “โอเคครับ งั้นขอผมเล่าคร่าวๆ แล้วกัน

“ตอนนี้ผมมั่นใจว่าแนวคิดบางอย่างของบอสตรงกับผมและนักออกแบบฝีมือโดดเด่นหลายๆ คน พูดง่ายๆ คือ บอสเผยต้องการสิ่งที่ดีที่สุด

“นั่นคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ตอนทำโปรเจ็กต์รีโนเวตบ้านจอมเฉื่อย”

เหลียงชิงฟานอธิบายคร่าวๆ ว่าบ้านจอมเฉื่อยแห่งแรกผ่านการรีโนเวตและตกแต่งมายังไงบ้าง เขาเน้นเป็นพิเศษว่าบอสเผยทิ้งเรื่องการใช้งานและการพักอาศัยได้จริง เพื่อให้ได้สิ่งที่บอสมองว่าเป็นความมินิมอลแบบสุดโต่งที่ดีที่สุด пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ

“อพาร์ตเมนต์พวกนี้ก็เหมือนกันครับ

“ความคิดของบอสตรงข้ามกับคนธรรมดาแบบคนละขั้ว ถ้าจะเลือกอพาร์ตเมนต์ คนทั่วไปมักเน้นเรื่องทำเลกับมูลค่าเพิ่มเติมของอพาร์ตเมนต์ ส่วนการรีโนเวตนั้นจะประหยัดให้ได้มากที่สุด เพราะคิดว่ายังไงก็เอาไว้ปล่อยเช่า ไม่ได้อยู่เอง

“แต่บอสเผยกลับทำตรงข้าม บอสไม่สนเรื่องทำเลหรือมูลค่าเพิ่ม แถมยังทุ่มเงินเกือบครึ่งของราคาที่ซื้ออพาร์ตเมนต์ไปกับการรีโนเวต

“ผมคิดว่าแค่นี้ก็พอที่จะแสดงให้เห็นว่า ความต้องการทางศิลป์ของบอสเผยสุดโต่งและไร้ขีดจำกัด

“บอสเผยชอบความเป็นมินิมอลแบบสุดโต่งมาก เลยสอดแทรกความชอบส่วนตัวเข้ามาในโปรเจ็กต์บ้านจอมเฉื่อย

“ถึงจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะเจ๊ง แต่บอสเผยก็ไม่คิดถอยและยืนกรานไม่ละทิ้งความต้องการทางศิลป์อันสุดโต่ง…”

อู๋ปินขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น

เหลียงชิงฟานเองก็สังเกตเห็น เขาหยุดพูดแล้วรอให้อู๋ปินแสดงความคิดเห็น

หลังจากคิดอยู่นาน อู๋ปินก็พูดขึ้น “แต่…มันขัดแย้งกับที่บอสหลี่อธิบายถึงบอสเผยเลยนะครับ

“บอสหลี่บอกว่าบอสเผยเป็นคนนิ่งแต่ก็ไร้ความปรานี บอสนิ่งขนาดที่ว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ยังจัดการกับปัญหาได้อย่างมีเหตุผลและไม่ลำเอียง ทำให้ตัดสินใจได้ถูกต้องทุกครั้ง

“ซึ่งก็หมายความว่า บอสเผยน่าจะเลือกความเป็นมินิมอลแบบสุดโต่งจากการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว บอสต้องคิดว่าถ้าทำแบบนี้จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

“อีกอย่างข้อสรุปของบอสหลี่ก็มีตัวอย่างเหตุการณ์สนับสนุน ค่อนข้างเชื่อถือได้ทีเดียว”

เหลียงชิงฟานเงียบไปครู่ใหญ่ “ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่โปรเจ็กต์บ้านจอมเฉื่อยจะ ‘ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่’ มากสุดก็น่าจะเป็นโปรเจ็กต์เล็กๆ อันงดงามที่สร้างชื่อเสียงได้ แต่ทำเงินไม่ได้”

อู๋ปินเงียบไปอีกครั้ง

ที่ทั้งสองฝ่ายพูดก็สมเหตุสมผลดี

พอเห็นว่าการสัมภาษณ์มาถึงทางตัน ชุยเกิ่งก็พูดขึ้น “บางที… ความประทับใจต่อบอสเผยของทั้งสองคนอาจจะไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่อาจเป็นมุมที่แตกต่างกันของบอสซึ่งสามารถนำมาผสานกันได้อย่างลงตัวในแบบที่เราคิดไม่ถึง

“ก็เหมือนกับที่บอสเผยหาทางเปลี่ยนกรวดให้เป็นทอง ทำให้โปรเจ็กต์ที่ดูจะเป็นไปไม่ได้โด่งดังขึ้นมาในชั่วข้ามคืน”

อู๋ปินพยักหน้า “จริงด้วย…ฟังดูสมเหตุสมผล!

“เราสามารถมองให้ลึกลงไปในมุมมองที่ย้อนแย้งกันได้…”

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม

โฮสเทลเขย่าขวัญก่อสร้างเสร็จอย่างเป็นทางการ

เผยเชียนยืนอยู่หน้าทางเข้าโซนอุตสาหกรรมเก่า เอ๊ย ทางเข้าโฮสเทลเขย่าขวัญ ในใจของเขารู้สึกผสมปนเป

ตอนแวะมาครั้งที่แล้ว โปรเจ็กต์ยังอยู่ในช่วงเร่งก่อสร้าง มองไปทางไหนก็เห็นแต่นั่งร้านกับวัสดุอุปกรณ์สำหรับการก่อสร้าง ดูเป็นไซต์ก่อสร้างที่วุ่นวายจนไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร

แต่ตอนนี้ โฮสเทลเขย่าขวัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด พร้อมต้อนรับลูกค้ากลุ่มแรก!

ถึงเผยเชียนจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่พอมาเห็นต่อหน้าด้วยตาตัวเองก็ทำเอาตะลึงไปเหมือนกัน

ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือน แต่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้เชียว!

นี่คงจะเป็นความตื่นตะลึงของพวกคลั่งเรื่องการก่อสร้าง

แน่นอนว่า เผยเชียนคิดแบบนั้นเพราะพวกบอสหลี่มาขัดแผนเดิมของเขา

แผนเดิมของเผยเชียนคือสร้างบ้านผีสิงช่วยผลาญเงินในโซนอุตสาหกรรมร่างห่างไกลผู้คนที่ไม่มีใครสนใจ

แต่บอสหลี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ มาจุ้นจ้านสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ แถมยังปรับปรุงพื้นที่โดยรอบเสียใหม่จนแตกต่างจากเดิมลิบลับ

เผยเชียนเริ่มไม่แน่ใจขึ้นมาสุดๆ

ตอนนี้ดูดีมากเลย จะยังขาดทุนได้อยู่มั้ยนะ

ความพยายามตลอดสองรอบบัญชีที่ผ่านมากำลังจะสูญเปล่า…

เผยเชียนถอนหายใจระหว่างเดินเข้าไป

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset