รุ่ยยู่เฉินหยิบตะเกียบคีบชิ้นปลาตาเดียวจี่กระทะที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ 2.0 เข้าปาก
จากนั้นก็คีบแก้วมังกรชิ้นเล็ก ไข่ มะเขือเทศเชอร์รี ฝักข้าวโพด มันม่วงหวาน กุ้ง สาหร่ายวากาเมะ และอื่นๆ เข้าปาก
เขารู้สึกแปลกใจทุกครั้งที่คีบสิ่งต่างๆ กิน
ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากเอาทุกอย่างเข้าปากแล้ว รุ่ยยู่เฉินก็พบว่าวัตถุดิบเหล่านี้ไม่ได้แค่หยิบมาวางเฉยๆ แต่ผ่านกรรมวิธีบางอย่างมาแล้ว
ตัวอย่างเช่น วิธีที่เฮลตี้ที่สุดในการกินกุ้งคือต้มกับเกลือเล็กน้อยหรือผัดในกระทะด้วยน้ำมันน้อยๆ แต่กุ้งตัวนี้ชัดเจนว่าดองเกลือมาและมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
ไข่เองก็ไม่ได้ต้มเฉยๆ ตัวไข่มีกลิ่นชาอ่อนๆ แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนมากเหมือนไข่ต้มชาทั่วไป
ร้านตามข้างทางที่ขายไข่ต้มชามักใช้ใบชาที่ใช้ซ้ำมาแล้วหลายครั้งและเติมซอสถั่วเหลืองเพิ่มเข้าไป ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ห้องวิจัยอาหารเลิศรสเอาจุดนี้มาพิจารณา แล้วไม่ต้มไข่นาน ให้แค่พอมีรสชาติเล็กน้อยก็พอ
วัตถุดิบทั้งหมดผ่านกรรมวิธีต่างๆ ก่อนค่อยนำมาทำสลัด ถือเป็นการยกระดับรสชาติไปอีกระดับเมื่อเทียบกับอาหารเพื่อสุขภาพ 1.0
รุ่ยยู่เฉินกินอาหารหมดจานในเวลาสั้นๆ
พนักงานเสิร์ฟถามขึ้นอย่างระแวง “รสชาติเป็นไงบ้างครับบอสรุ่ย”
รุ่ยยู่เฉินพยักหน้า “ก็โอเค”
พนักงานเสิร์ฟถามต่อ “ถ้างั้น…เราใส่เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ 2.0 ในร้านอื่นๆ ได้รึยังครับ”
การใส่เมนูใหม่เข้าไปหมายความว่าเชฟทุกร้านจะต้องฝึกทำจนชำนาญให้รสชาติออกมาเหมือนกันให้ได้ก่อน
พวกเขาต้องคุมคุณภาพและเวลาในการปรุงวัตถุดิบต่างๆ ให้แม่นยำที่สุด แถมตัวเชฟเองก็ต้องฝึกซ้ำจนเชี่ยวชาญด้วย
เพราะงั้นหลังอัปเดตเมนูตามร้านสาขาต่างๆ แล้วก็ต้องใช้เวลาสักพักก่อนจะนำเสนอเป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ 2.0 ให้ฟิตเนสต่างๆ ได้
รุ่ยยู่เฉินวางตะเกียบลง “ยัง”
พนักงานเสิร์ฟอึ้งไปเมื่อเห็นรุ่ยยู่เฉินกินอาหารเพื่อสุขภาพจนหมดจาน และเห็นได้ชัดว่าอาหารเพื่อสุขภาพจานนี้อร่อยมาก
แล้วทำไมไม่ยอมเพิ่มเมนูเข้าร้านทั้งๆ ที่อาหารก็ออกมาตรงตามเงื่อนไข ‘อาหารเพื่อสุขภาพที่ดี’ แล้ว
รุ่ยยู่เฉินไม่ได้อธิบายอะไรมาก เขาบอกแค่ว่า “จานนี้เพิ่มเป็นเมนูธรรมดาได้ ส่วนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ 2.0… ผมต้องคิดดูอีกที”
รุ่ยยู่เฉินเดินออกไป ปล่อยให้พนักงานเสิร์ฟเก็บจานด้วยสีหน้าว่างเปล่า
…
หลังกลับออกจากร้านโมหยูเดลิเวอรี่หมายเลขหนึ่ง รุ่ยยู่เฉินก็เดินเตร็ดเตร่ผ่านร้านอาหารหลายแห่ง
เขาได้กลิ่นอาหารลอยมาแตะจมูก ถึงจะกินจนอิ่มไปครึ่งท้องแล้ว ก็ยังรู้สึกอยากกินอยู่ดี
“อาหารสุขภาพจานนั้นอร่อยก็จริง แต่…เหมือนยังขาดอะไรบางอย่างอยู่
“นานๆ กินทีก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ให้กินทุกวัน หลายคนคงจะรับไม่ได้
“ทำไมกันนะ
“ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อย แต่เพราะสลัด…ไม่ตรงกับนิสัยการกินของคนจีน ดูไม่ใช่สิ่งที่ขาดไม่ได้
“แล้วอาหารที่คนจีนคุ้นชินเป็นแบบไหนล่ะ
“อันดับแรกต้องร้อน แต่สลัดมักจะเย็น ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ใช่มื้ออาหารจริงจัง สอง ต้องรสจัด รสอ่อนๆ แบบนี้จะทำให้รู้สึกต่อต้านและปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ และสุดท้าย ต้องมีเนื้อมากกว่านี้
“สลัดเพื่อสุขภาพทั่วๆ ไปเลยไม่ตอบโจทย์
“เพราะงั้นคน 99% ถึงยอมแพ้แม้จะอยากลดน้ำหนัก มีสุขภาพแข็งแรง และตั้งใจจะกินอาหารเพื่อสุขภาพทุกวัน ถึงจะได้กินอาหารเพื่อสุขภาพที่มีรสชาติดี แต่ก็กินไปตลอดไม่ได้
“สาเหตุก็เพราะมันขัดแย้งกับสัญชาตญาณการกินอาหารของคนจีนแบบสุดๆ
“อืม… ปัญหานี้ร้ายแรง ร้ายแรงมากๆ! อาจกระทบกับแผนในภาพรวมของบอสเผยได้!”
รุ่ยยู่เฉินตื่นตัวขึ้นทันที
เขาพอจะเดาออกตั้งแต่ตอนที่ได้รับหน้าที่นี้มาว่าบอสเผยอยากผลักดันโมหยูเดลิเวอรี่เต็มสูบ เพื่อชี้นำให้ผู้บริโภคหันมาใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีผ่านการกิน ซึ่งเถิงต๋าก็สามารถใช้โอกาสนี้ในการวางรากฐานที่แข็งแกร่งไว้ล่วงหน้าให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมอื่นๆ
จุดนี้เองที่ทำให้รุ่ยยู่เฉินกล้าเปิดสาขาและขอเงินกับบอสเผยเพิ่ม
เพราะเขารู้ว่าบอสเผยจะสนับสนุนกลยุทธ์นี้
บอสเผยให้โมหยูเดลิเวอรี่เตรียมอาหารสุขภาพซึ่งขายเป็นแพ็กเกจกับฟิตเนสฝากประจำ เห็นได้ชัดว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เรื่องสุขภาพที่ดีขึ้น
ตอนแรกรุ่ยยู่เฉินคิดว่าปัญหาเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพนั้นแก้ได้ง่ายมาก แค่ทำให้อร่อยขึ้นก็พอแล้ว
แต่ตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าแค่ทำให้รสชาติดีขึ้นยังไม่พอ!
ถ้าวันนี้ไม่คิดเรื่อง ‘นิสัยการกินของคนจีนไม่มีทางยอมรับสลัด’ ขึ้นมาได้ แล้วเสนออาหารสุขภาพ 2.0 ไปให้ฟิตเนส ผลลัพธ์ที่ออกมาต้องแย่มากแน่
นอกจากอาหารสุขภาพจานนี้จะไม่ช่วยอะไรแล้ว อาจจะทำให้ลูกค้าหนีหายไปด้วย!
อาหารจานนี้อาจดีต่อสุขภาพ แต่ก็ขัดกับวิถีการกินของคนส่วนใหญ่ มีเพียงจำนวนน้อยมากที่มุ่งมั่นกินต่อไปได้
ถ้าไม่ได้ขายเป็นแพ็กเกจกับฟิตเนสแล้วเกิดเบื่อขึ้นมาก็ยังกินอย่างอื่นได้ ไม่กระทบกับระบบของฟิตเนส
แต่ฟิตเนสฝากประจำขายอาหารเพื่อสุขภาพพ่วงด้วย ถึงจะไม่อยากกินก็ต้องกิน จุดนี้จะทำให้ลูกค้าหลายคนหนีหายจากฟิตเนสได้
เท่าที่รุ่ยยู่เฉินรู้มา มีลูกค้าจำนวนหนึ่งขอเงินคืนกันแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ยกเลิกบริการเพราะอาหารสุขภาพ
แสดงว่าถ้ารุ่ยยู่เฉินไม่คิดในจุดนี้แล้วปล่อยให้เพิ่มเมนูเพื่อสุขภาพนี้เข้าไป ฟิตเนสฝากประจำอาจทำกำไรไม่ได้ แผนของบอสเผยก็จะพังหมด!
แน่นอนว่าเรื่องนี้โทษบอสเผยไม่ได้
บอสเผยยุ่งมาก จะให้แบ่งเวลามาชี้ๆ ว่าอาหารเพื่อสุขภาพต้องออกมาแบบไหนได้ยังไง
รุ่ยยู่เฉินคิดว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเอง
“เกือบไปแล้วๆ เกือบเผอเรอสร้างปัญหาใหญ่ไปแล้วไง!
“ถ้าฟิตเนสฝากประจำเจ๊งเพราะอาหารเพื่อสุขภาพ ฉันก็เป็นตัวต้นเหตุ บอสเผยจะต้องผิดหวังที่คาดหวังในตัวฉัน!”
รุ่ยยู่เฉินรีบเดินกลับออฟฟิศ เตรียมตัวจะใช้เวลาสองสามวันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ!
…
…
วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม
เสียงคลื่นเบาๆ ดังข้างหูปลุกเผยเชียนให้ตื่น
นี่คือส่วนหนึ่งของบ้านอัจฉริยะที่ออกแบบโดยเหลียงชิงฟาน เทียบกับเสียงนาฬิกาปลุกทั่วไปแล้ว เสียงนี้นุ่มนวลต่อหูมากกว่า
เผยเชียนอยากหลับต่อ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าวันที่มีประชุมผู้ปัดงานฝึกผลาญครั้งแรก
เขาปัดป่ายมือไปมาแล้วกดลงตรงแผงควบคุมโปร่งใสข้างเตียง
กระจกเต็มบานโปร่งแสงทันที แสงอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาทั่วห้อง
เผยเชียนลุกนั่ง เขาหาวพลางหันไปมองกระจกข้างเตียงที่ใช้เป็นแผงควบคุมได้ ใต้ตาของเขาเป็นรอยดำคล้ำ
เผยเชียนพอใจกับที่พักใหม่ของตัวเองมากหลังจากย้ายเข้ามาได้สองวัน ไม่ติดขัดในจุดไหนเลย
รอยดำใต้ตาไม่ได้เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอเพราะอยู่อาศัยไม่สบาย แต่เป็นเพราะเมื่อคืนเล่นเกมจนถึงดึกดื่น
ช่วยไม่ได้นี่นา ทีวีจอใหญ่มันล่อตาล่อใจ
…
ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว ห้องประชุมชั้นสิบหก
เผยเชียนกวาดตามองถังอี้ซู่และผู้ปัดงานฝึกผลาญทั้งสิบเจ็ดคน เขารู้สึกโล่งใจแปลกๆ เหมือนว่าตัวเองแอบทำอะไรไม่ดีไว้แล้วยังไม่ถูกใครจับได้
เป็นความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนแอบหนีไปร้านอินเทอร์เน็ตสมัยเรียนมัธยม
พนักงานของเขาจะรู้สึกแบบนี้มั้ยนะตอนที่แอบทำงานล่วงเวลา
เผยเชียนอดคิดเชื่อมโยงขึ้นมาไม่ได้
อืม…น่าจะใช่!
ไม่งั้นคงไม่กระตือรือร้นอยากทำงานล่วงเวลากันขนาดนั้นหรอก
แต่พอได้เห็นรอยดำใต้ตาของบอสเผย เหล่าผู้ปัดงานฝึกผลาญกลับคิดว่าช่วงที่ผ่านมาบอสน่าจะทำงานหนักมาก
เผยเชียนหันมองถังอี้ซู่ เธอเข้าใจความหมายทันทีจึงพูดขึ้น “เริ่มรายงานได้”
ผู้ปัดงานฝึกผลาญทั้งสิบเจ็ดคนที่แทรกซึมไปอยู่ในกิจการต่างๆ ของเถิงต๋ากรุ๊ปเริ่มรายงานตามลำดับที่นั่งโนiวลกูดอทคอม
แน่นอนว่าพวกเขาเลือกที่นั่งกันมั่วๆ ยังไงทุกคนก็ต้องรายงานผลอยู่แล้ว ใครจะรายงานก่อนก็ไม่สำคัญ
เผยเชียนที่นั่งฟังเงียบๆ พร้อมจะถามคำถามขึ้นทุกเมื่อ
เขายกมือส่งสัญญาณให้ผู้ปัดงานฝึกผลาญจากกิจการที่ห้าซึ่งก็คือฟิตเนสฝากประจำหยุดพูด
“สี่กิจการที่พูดไปแล้วมีการวางแผนใช้เงินขนานใหญ่อย่างขึ้นเงินเดือน ปรับโครงสร้างสวัสดิการ ยกระดับสภาพแวดล้อมการทำงาน ขยายกิจการ หรืออัปเกรดอะไรบ้างรึเปล่า”
เผยเชียนมองผู้ปัดงานฝึกผลาญสี่คนที่เพิ่งจะรายงานจบไป
ผู้ปัดงานฝึกผลาญทั้งสี่คนพยักหน้า
ผู้ปัดงานฝึกผลาญอีกส่วนพูดขึ้นบ้าง
“กิจการของหนูก็เหมือนกันค่ะ”
“บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งก็เหมือนกัน”
“เว็บจงเตี่ยนจงเหวินเองก็มีแผนคล้ายๆ กัน”
เผยเชียนอึ้ง
เขาไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไรตอนที่ผู้ปัดงานฝึกผลาญคนแรกรายงาน แค่ใช้จ่ายเงินบ้างไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร
แต่กลายเป็นว่าหลายกิจการกำลังวางแผนใช้จ่ายเงินพร้อมกัน
แปลกมากๆ
เผยเชียนกวาดสายตามองรอบห้องแล้วพบว่ากิจการเดียวที่ไม่มีแผนใช้จ่ายเงินคือนี่เฟิงโลจิสติกส์ที่ลู่หมิงเหลียงรับผิดชอบ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ ทุกคนปรึกษาหารืออะไรกันเหรอ
นี่เฟิงโลจิสติกส์…
เผยเชียนคิดอยู่พักหนึ่งก็ตาเป็นประกายขึ้นมา
อ๋อ รางวัลรากฐานแห่งเถิงต๋า!
นี่เฟิงโลจิสติกส์ชนะรางวัลรากฐานแห่งเถิงต๋า ทำให้กิจการอื่นๆ อยากชนะรางวัลนี้บ้าง!
ชัดเจนเลยว่ากิจการอื่นๆ รู้สึกอิจฉา!
พวกเขาเข้าใจแล้วเหรอว่าข้อความบนถ้วยรางวัลที่นี่เฟิงโลจิสติกส์ได้ไปต้องการจะสื่ออะไร รู้แล้วใช่มั้ยว่าจริงๆ แล้วฉันส่งเสริมให้ทุกคนผลาญเงิน
ไม่งั้นทำไมทุกกิจการถึงผลาญเงินพร้อมกันล่ะ
อีกอย่างแผนการใช้จ่ายเงินของพวกเขาคือการปรับโครงสร้างเงินเดือน เพิ่มค่าจ้าง และปรับสภาพแวดล้อมการทำงาน แสดงให้เห็นว่าในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจสักที!
พวกเขาน่าจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลยพากันโกรธ!
เยี่ยมไปเลย!
กิจการพวกนี้เริ่มผลาญเงินบ้างก็ดี!
แบบนี้ต้องส่งเสริม!
เผยเชียนจดเรื่องนี้ลงสมุดอย่างสุขใจ เขาวางแผนว่าจะแนะนำนโยบายใหม่ตอนเข้าออฟฟิศวันจันทร์เพื่อช่วยให้คนเหล่านั้นผลาญเงินได้เร็วขึ้นและลดภาระของพวกเขาลง
เผยเชียนไม่ได้แสดงออกทางสีหน้ามากนักระหว่างจดบันทึก และส่งสัญญาณบอกให้ผู้ปัดงานฝึกผลาญจากฟิตเนสฝากประจำพูดต่อ
เผยเชียนเคยเจอคนคนนี้มาก่อนและรู้ว่าอีกฝ่ายรับหน้าที่เป็นฝ่ายวางแผนในฟิตเนสฝากประจำสาขาหลัก จึงมีข้อมูลทั้งหมดของฟิตเนส
“พี่ครับ ฟิตเนสฝากประจำอยู่ในสภาวะขาดทุน สัปดาห์นี้มีลูกค้าสี่คนขอคืนเงินครับ”
เผยเชียนแสนสุขใจ
ข่าวดีนี่นา!
กะแล้วว่าฟิตเนสฝากประจำไม่มีทางทำให้ผิดหวังแน่!
พยายามไล่ลูกค้าต่อไปอย่างเต็มที่นะทุกคน!
ผู้ปัดงานฝึกผลาญรายงานต่อ “แล้วก็สัปดาห์ก่อน เทรนเนอร์ย่าหลิงหานักเรียนมาได้เพิ่มสิบหกคนครับ”
?
สิบหก?
อีกแล้วเหรอ
นี่เธอหาลูกค้าได้เพิ่มกี่คนแล้วเนี่ย
พนักงานคนนี้คือตัวปัญหาจริงๆ!
เผยเชียนระแวงขึ้นมาทันที แต่ก็อดแอบดีใจขึ้นมาไม่ได้
ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ได้แต่รอโดนแทงข้างหลังเข้าสักวันอย่างเดียว
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะบอสเผยมีหน่วยสืบราชการลับ!
ไม่มีอะไรหลุดรอดสายตาของฉันไปได้!
สายตาของเผยเชียนคมกริบขึ้นกว่าเดิม
ต้องหาทางจัดการเนื้อร้ายนี้!