วันอังคารที่ 19 เมษายน
บริษัท OTTO
ฉางโหย่วกำลังเล่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของมือถือ OTTO E1 ให้พนักงานหลักของบริษัท OTTO ฟังในห้องประชุม
เผยเชียนเองก็นั่งอยู่ในนั้นด้วย แต่สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยจะมีความสุขสักเท่าไหร่
ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกเหมือนตัวเองหกล้มแล้วโดนกระทืบซ้ำ…
ตั้งแต่มือถือ OTTO ปล่อยออกไปแล้วดังเป็นพลุแตก แบรนด์ก็เริ่มแปลกพิกลขึ้นมา
คำว่าแปลกพิกลเรียกได้ว่าปรานีแล้ว
มือถือมีข้อเสียที่ชัดเจนมาก
ทั้งหนักและไม่ได้มีเทคโนโลยีเอกลักษณ์ของตัวเอง ผลิตแบบ OEM อย่างมากก็พอจะบอกได้ว่าสมดุลและได้มาตรฐานในทุกแง่มุม แต่ก็ไม่มีเทคโนโลยีลับอะไรที่ทำให้มือถือเครื่องนี้โดดเด่นกว่าของเจ้าอื่นๆ
ถึงระบบปฏิบัติการจะใกล้เคียงกับระบบแอนดรอยด์ดั้งเดิม ซึ่งก็ดูสะอาดและเรียบง่ายสำหรับบางคน แต่บางคนก็มองว่าไม่สะดวกและยังดูขาดๆ
แต่จุดแข็งของมือถือเครื่องนี้ก็โดดเด่นมากจนคนลืมไม่ลงหลังจากได้เห็น
แบรนด์มีเอกลักษณ์มาก โลโก้สุดเท่ด้านหลังมือถือเคยปรากฏในภาพยนตร์เรื่องวันพรุ่งนี้ที่สดใสมาก่อน แค่หยิบออกมา คนอื่นก็รู้ว่าเจ้าเครื่องนี้ราคาแปดพันหยวน
ขณะเดียวกัน เดี่ยวไมโครโฟนของฉางโหย่วที่งานแถลงข่าวก็เป็นกระแสอยู่ไม่น้อย สิทธิประโยชน์และบริการเสริมที่ติดมาด้วยทำให้มือถือเครื่องนี้ไม่เหมือนใครในตลาด
สำหรับไฮโซที่อาศัยอยู่ในเมืองจิงโจวหรือใช้งานบริการเถิงต๋าเป็นหลัก ถึงมือถือเครื่องนี้จะราคาไม่ถูก แต่ก็ไม่มีรุ่นใดสามารถแทนที่ได้
จนถึงตอนนี้ OTTO ขายมือถือไปทั้งหมดเกือบหนึ่งแสนหกหมื่นเครื่อง สต๊อกของไม่ขาดอีกต่อไป สามารถรับมือถือได้ทันทีที่สั่ง ถึงยอดขายจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้พุ่งพรวดพราดเหมือนเมื่อก่อน
ผลการดำเนินงานนี้ทำให้บริษัท OTTO ยังจัดอยู่ในหมวด ‘อื่นๆ’ ในตลาดจีนอย่างไม่ต้องสงสัย บริษัทหงเฉิงที่ฉางโหย่วเคยทำงานด้วยก่อนหน้านี้ก็ทำยอดขายมือถือรุ่นใหม่ๆ ของพวกเขาได้ประมาณนี้
บริษัท OTTO น่าจะได้ส่วนแบ่งภายในตลาดจีนแค่ 0.5% ในปัจจุบัน
ถึงอย่างนั้น ที่สุดยอดคือบริษัท OTTO ยังไปได้สวยอยู่หลังทำยอดขายได้เท่านั้น บริษัทหงเฉิงเองก็เคยขายได้จำนวนเท่ากัน แต่ไม่นานก็ต้องปิดตัวไป
สัดส่วนกำไรไม่ได้สูงมากเหมือนๆ กัน แต่ยิ่งมือถือแพง บริษัทก็ยิ่งทำกำไรได้มากขึ้น
ถ้าบริษัทขายมือถือราคาหนึ่งพันหยวนแล้วได้กำไร 5% ก็จะได้กำไรตกสามสิบถึงสี่สิบหยวนต่อเครื่อง ขายไปแสนเครื่องกำไรก็จะได้แค่สามสี่ล้าน เงินจำนวนแค่นี้ไม่เพียงพอต่อการอุดช่องว่างห่วงโซ่อุปทาน
แต่ถ้าบริษัทขายมือถือราคาแปดพันหยวนแล้วได้กำไร 5% ก็จะได้กำไรสี่ร้อยหยวนต่อเครื่อง ขายไปแสนเครื่องก็ได้กำไรสี่สิบล้าน
ดังนั้นถึงจะแบ่งกำไรให้กิจการอื่นๆ และเก็บกำไร 5% ไว้กับตัวเอง บริษัท OTTO ก็ยังทำเงินได้มากมาย!
กลายเป็นวงจรประเสริฐขึ้นมา
เผยเชียนไม่คิดเลยว่าการตั้งราคาแพงหูฉี่จะส่งผลเสียแบบนี้
แน่นอนว่าหลังจากสงบใจตัวเองลง เผยเชียนก็พบว่ายอดขายอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะรับได้
เพราะตลาดมือถือจัดว่าเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในช่วงขาลง แบรนด์และผู้ผลิตเจ้าใหญ่ๆ ครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ที่สามและสี่ยังต้องดิ้นรนอยู่นาน แล้วบริษัท OTTO ที่อยู่ที่สิบจะไปรอดอะไร
ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่บริษัทสามารถขายมือถือได้หลักแสนเครื่อง
ที่น่าเหลือเชื่อคือ ถึงจะจัดอยู่ในหมวด ‘อื่นๆ’ แต่ OTTO E1 ก็โด่งดังมากในโลกออนไลน์ แม้คนส่วนใหญ่จะไม่ยอมซื้อ แต่ก็ยังเป็นกระแสในอินเทอร์เน็ตสุดๆ
ฉางโหย่วภูมิใจในตัวเองมาก
บริษัท OTTO ประสบความสำเร็จก้าวแรกในฐานะแบรนด์ใหม่ แถมพออุปสงค์ลดลงและปัญหาเรื่องอุปทานได้รับการแก้ไขแล้ว ผู้คนก็จะซื้อมือถือเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้นบริษัทก็จะทำกำไรต่อไปได้ในระยะยาว
พอได้ยินอย่างนั้น เผยเชียนก็หงุดหงิดขึ้นมา เขากระแอมกระไอแล้วถามขึ้น “มือถือ OTTO ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลยเหรอ”
ฉางโหย่วตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวลนะครับบอสเผย เดี๋ยวผมแจงให้ฟังเลยครับ!”
เขาเตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว
ฉางโหย่วรู้ว่าบอสเผยไม่ชอบฟังผลความสำเร็จ แต่ชอบค้นหาปัญหามากกว่า ดังนั้นเขาจึงเตรียมตัวไว้พร้อมก่อนการประชุมแล้ว หลังจากอธิบายผลการดำเนินงานเสร็จ เขาจะวิเคราะห์ปัญหาและกำหนดทิศทางการดำเนินงานต่อไป
เผยเชียนหวังให้คำถามตัวเองเป็นเหมือนน้ำเย็นสาดใส่ฉางโหย่ว แต่อีกฝ่ายกลับเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
ทำเอาเขาพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่าพนักงานของเขาจะมีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่งเกินไป หาทางกำราบยากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว…
หลังจากเล่าความสำเร็จของมือถือ ฉางโหย่วก็เริ่มพูดถึงข้อเสียของมือถือ
“ตอนนี้สต๊อกคือปัญหาใหญ่สุดของมือถือเราครับ
“สำหรับผู้ผลิตรายเล็ก สต๊อกมักจะเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ได้ สุดท้ายแล้วก็ต้องใช้เงินจัดการล้วนๆ ถ้าอยากสต๊อกของเพิ่ม ก็ต้องเตรียมเงินให้เพียงพอสำหรับความต้องการของลูกค้า และต้องเอาของไปลงโกดังชุดใหญ่
“การสต๊อกของถือเป็นเรื่องอันตรายมาก ถ้าขายมือถือราคาสองพันหยวนแล้วได้กำไรหนึ่งร้อยหยวน ก็หมายความว่าต้องขายมือถือให้ได้ยี่สิบเครื่องถึงจะได้เงินสำหรับมือถือหนึ่งเครื่อง ถือเป็นสัดส่วนที่น่ากลัวมาก
“แต่ถ้าสต๊อกของไม่พอก็เป็นปัญหาเหมือนกัน เพราะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าได้ทันที พอสต๊อกของไม่พอ พวกเขาก็อาจจะไปซื้อมือถือแบรนด์อื่น
“ถือเป็นสถานการณ์ที่ยากมากสำหรับบริษัทขนาดเล็กแบบเรา
“นอกจากนั้นรายละเอียดต่างๆ ของมือถือเรายังห่างไกลจากที่คิดเอาไว้ สำหรับมือถือระดับไฮเอนด์ รายละเอียดเป็นเรื่องสำคัญมาก…
“…สรุปคือเป้าหมายของเราในขั้นต่อไป คือเดินหน้าต่ออย่างมั่นคงและใช้ชื่อเสียงกับกระแสที่สร้างไว้เพื่อกระตุ้นห่วงโซ่อุปทานและปล่อย E1 เวอร์ชันปรับปรุงในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงต้องพยายามสต๊อกของให้เพียงพอเพื่อที่จะก้าวขึ้นไปอีกระดับ!”
เผยเชียนไม่พูดอะไร
เหมือนว่าเขาจะพบข้อขัดแย้งกัน
หลายๆ ครั้งที่เขาให้คำแนะนำ สถานการณ์จะพลิกผันมาทำกำไรได้อย่างน่าฉงนใจ
แต่พอไม่ให้คำแนะนำแล้วปล่อยไปตามยถากรรม โปรเจ็กต์ก็ยังทำกำไรได้อยู่ดี
ดูอย่างรอบนี้ ฉางโหย่ววางแผนปูทางให้มือถือ OTTO แล้ว แล้วแบบนี้เผยเชียนควรจะเข้าไปยุ่งดีมั้ย
พอฉางโหย่วพูดจบ เขาก็หันไปมองดูปฏิกิริยาของบอสเผยโดยไม่รู้ตัว
บอสเผยกำลังขมวดคิ้วครุ่นคิด
ฉางโหย่วอดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้
บอสกำลังคิดอะไรอยู่
แผนฉันมีปัญหาตรงไหนรึเปล่า หรือบอสกำลังคิดถึงแผนที่ดีกว่านี้
ไม่น่าใช่ บอสเผยเป็นคนมองการณ์ไกล บอสต้องมีแผนที่ดีกว่าเตรียมไว้แล้ว ไม่น่าจะมาเริ่มคิดตอนนี้
หรือบอสเผยจะนึกอะไรขึ้นได้ บอสอยากเปลี่ยนแผนที่ฉันคิดเป็นอันที่ดีกว่าเหรอ
บอสคิดเกินจากที่ฉันคิดไปสองขั้นเลยเหรอ
บอสคิดเรื่องอะไรอยู่กันนะ
ช่างเถอะ คิดไปก็คิดไม่ออก ฉันทำเต็มที่ได้แค่นี้ คงทำได้แค่รอให้บอสเผยตกผลึกความคิดก่อน
ฉางโหย่วจึงได้แต่อดทนรอ
คนอื่นๆ ก็อดทนรอเช่นกัน ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm
เผยเชียนคิดอยู่สองนาทีก็พบว่าทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ แล้วเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขาอย่างคาดหวัง
เผยเชียนเข้าใจแล้วว่าทำไมห้องถึงเงียบ ทุกคนกำลังรอให้เขาพูดอยู่…
บรรยากาศชวนอึดอัดจริงๆ คงต้องพูดอะไรสักอย่าง
จะปล่อยให้ทุกคนรออยู่นานแล้วโพล่งออกมาว่า ‘ผมไม่มีความเห็นอะไร’ ไม่ได้
ไม่งั้นทุกคนจะพากันคิดไปโน่นไปนี่
ทำไมบอสเผยถึงบอกว่าไม่มีความเห็นอะไรทั้งๆ ที่คิดอยู่นานล่ะ หรือบอสจะมีแผนที่ดีกว่าที่เราคิดไม่ถึง เป็นแผนแบบไหนกัน ทำไมบอสไม่ยอมบอกเรา
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ลงความเห็นว่าการปล่อยให้ทุกคนคิดกันไปมั่วซั่วนั้นน่ากลัวกว่า เขาจึงตัดสินใจพาพวกเขาไปผิดทาง ถึงสุดท้ายจะได้กำไรขึ้นมา อย่างน้อยก็ได้ไม่มาก!
พอคิดได้อย่างนั้นเผยเชียนก็พูดขึ้น “ไม่ต้องทำมือถือใหม่ ขายที่มีอยู่ให้หมดแล้วเลิกทำออกขาย”
ฉางโหย่วพยักหน้า “โอเคครับ แล้วยังไงต่อครับ”
เผยเชียน “…”
อะไรเนี่ย ไม่ตกใจกันหน่อยเหรอ
ช่วยตกใจให้กันสักนิดได้มั้ย ฉันจะได้มั่นใจว่าแผนของฉันมันฟังดูประหลาด!
แต่ทุกคนในห้องประชุมกลับมองมาที่เขาอย่างจริงจัง รอฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อ
เผยเชียนถอนหายใจอยู่ภายในแล้วพูดต่อ
“ชะลอเป้าหมายต่อไปออกไปสิบเดือนถึงหนึ่งปี
“ตั้งห้องวิจัยซอฟต์แวร์ขึ้นมาผลิตแอปพลิเคชันให้คนใช้งานเพื่อทำระบบมือถือของเราให้สมบูรณ์และพัฒนาอัลกอริทึมรูปภาพ
“เราสัญญากับลูกค้าไว้ว่าจะปล่อยระบบปฏิบัติการออกมาสองเวอร์ชันและเปิดให้ผู้ใช้งานสลับใช้ไปมาได้ด้วยปุ่มเดียว ตอนนี้เรามีแค่เวอร์ชันเรียบง่าย ยังไม่มีเวอร์ชันฟีเจอร์จัดเต็ม”
“เราต้องทำตามที่สัญญาไว้”
ฉางโหย่วพูดขึ้นเสียงเบา “บอสเผยครับ เวอร์ชันฟีเจอร์จัดเต็มวางไว้ว่าจะพัฒนาไปพร้อมมือถือรุ่นใหม่ เราเคยคุยกันไว้อย่างนั้นครับ”
เผยเชียนงง
คุยกันไว้แล้วเหรอ
เออ น่าจะใช่
แต่เผยเชียนก็ยังตีหน้าเข้มอยู่ “เรามีทรัพยากรสำหรับค้นคว้าและพัฒนาจำกัด เพราะงั้นต้องเอาทรัพยากรไปลงกับประเด็นใหญ่ๆ การค้นคว้าและพัฒนาด้วยกระบวนการเดียวกันแต่ลงทุนไม่เท่ากันนั้นได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันมาก
“อย่าคิดจะหลอกลูกค้าด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชันจัดเต็มที่สร้างโดยไม่ได้ลงแรงอะไรมากมาย ถ้าจะทำก็ต้องทำออกมาให้สมบูรณ์แบบ เข้าใจมั้ย”
ฉางโหย่วพยักหน้าด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ครับ บอสเผย”
เผยเชียนกำลังคิดว่าตอนนี้เริ่มรอบบัญชีใหม่แล้ว เขาสามารถขยายกำหนดปล่อยสินค้าโปรเจ็กต์ใดโปรเจ็กต์หนึ่งออกไปยังรอบบัญชีถัดไปได้
โปรเจ็กต์ที่เขาจะยืดเวลาออกไปรอบบัญชีหน้าจะต้องมีคุณสมบัติสามข้อ หนึ่ง ต้องมีแววอันตราย สอง สามารถลงทุนทรัพยากรได้มากเพื่อผลาญเงินเพิ่ม สาม สินค้าหรือโปรเจ็กต์นั้นจะต้องแล้วเสร็จก่อนปิดรอบบัญชีถัดไป
บริษัท OTTO ผ่านเกณฑ์ทั้งสามข้อ
เผยเชียนเน้นให้สร้างห้องวิจัยซอฟต์แวร์แทนห้องวิจัยฮาร์ดแวร์
ถึงห้องวิจัยฮาร์ดแวร์จะผลาญเงินได้มากกว่า แต่สุดท้ายก็มีโอกาสล่มได้ง่ายๆ
เพราะการผลิตฮาร์ดแวร์ไม่ใช่เรื่องง่าย สินค้าจะใช้การได้รึเปล่านั้นไม่สามารถบอกได้เลย
ถ้าปล่อยสินค้าไม่ได้ก่อนรอบบัญชีถัดไป เขาก็จบเห่กันพอดี
กลับกันห้องวิจัยซอฟต์แวร์เองก็ผลาญเงินได้ไม่น้อยแถมยังผลิตผลงานออกมาได้ง่าย ไม่น่าจะกระทบกับรอบการปิดบัญชี
ถึงห้องวิจัยซอฟต์แวร์จะเป็นแค่การพัฒนาระบบปฏิบัติการ แต่การปล่อยแอปที่พอใช้ได้ออกมาหรือพัฒนาอัลกอริทึมรูปภาพก็ถือเป็นผลลัพธ์อย่างหนึ่งแล้ว ถึงตอนนั้นเผยเชียนค่อยหาจุดทำกำไรมาหลอกระบบเอาก็ได้
ฉางโหย่วตั้งใจจดคำแนะนำของบอสเผยโดยไม่ถามอะไรเลย
บอสเผยวางแผนทุกอย่างไว้ให้มือถือ OTTO E1 แล้ว ตั้งแต่การวางตลาดไปจนถึงการทำตลาดแบรนด์ ซึ่งก็ทำให้ฉางโหย่วคล้อยตามเต็มที่
ตอนนี้หลักการทำงานของฉางโหย่วคือ ถ้าบอสเผยสั่ง เขาจะทำตามเต็มที่ ถ้าบอสไม่สั่งก็ค่อยตัดสินใจเอง
ฉางโหย่วคิดว่าบอสเผยวางเป้าหมายไว้ต่ำไป จะใช้เวลาตั้งสิบเดือนถึงหนึ่งปีไปกับการพัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือ สร้างแอป และพัฒนาอัลกอริทึมรูปภาพเองเหรอ
ฆ่าไก่ด้วยมีดเชือดวัวชัดๆ
แต่บอสเผยเป็นคนแนะนำมา เขาก็ไม่กล้าทะนงตัวเกิน เพราะคำแนะนำของบอสเผยให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมอยู่เสมอ
เผยเชียนมองทุกคนที่กำลังจดบันทึกอย่างตั้งใจ จู่ๆ เขาก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา
ไม่รู้ว่าแต่ละคนจะตีความคำพูดกันไปยังไง
เฮ้อ สวรรค์คงกำหนดไว้แล้วว่าคนพูดจะต้องโดนเข้าใจผิด!
