วันพุธที่ 13 เมษายน
เหลียงชิงฟานเพิ่งเคยมาเหยียบแผ่นดินเมืองจิงโจวเป็นครั้งแรก เขามองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์ด้วยความใคร่รู้
คนขับรถที่เถิงต๋าส่งมารับขับรถได้ดีและนุ่มมากๆ เหลียงชิงฟานคิดว่าอีกเดี๋ยวเขาก็จะได้พบบอสเผยแล้ว
พอคิดเรื่องนี้เขาก็อดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
ตอนนี้เหลียงชิงฟานทำงานอยู่ที่บริษัทรับออกแบบโครงสร้างและตกแต่งภายในเกาหลิ่ง
บริษัทเกาหลิ่งเป็นบริษัทด้านการออกแบบโครงสร้างและตกแต่งภายในชั้นหนึ่งของประเทศ งานหลักของบริษัทคือการวางแผนจัดการพื้นที่ ควบคุมรูปแบบ ดูแลเรื่องเทคนิคและอื่นๆ และยังรับวางแปลนแต่ละชั้น วางแผนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ดูด้านสถาปัตยกรรม ออกแบบภูมิทัศน์ ออกแบบภายใน และรีโนเวตการตกแต่ง
เนื้อหาการออกแบบหลักของบริษัทมีตั้งแต่พื้นที่เพื่อการพักผ่อนและพื้นที่เพื่อความบันเทิง เช่น ห้องตัวอย่าง สำนักงานขาย คลับเฮ้าส์ ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและอื่นๆ ทั้งยังออกแบบอาคารให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นหนึ่งของประเทศมาแล้วเป็นพันๆ แห่ง และมีชื่อเสียงอย่างมากในอุตสาหกรรมนี้
โจวหนานหลิ่งผู้ก่อตั้งบริษัทได้รับรางวัลสถาปนิกทั้งในและต่างประเทศมาแล้วหลายรางวัล เขาเคยออกรายการเรียลลิตี้มาก่อนและได้รับการขนานนามว่า ‘พ่อมด’
ในรายการเรียลลิตี้ โจวหนานหลิ่งเปลี่ยนห้องชุดขนาดเล็กจิ๋ว 12 ตารางเมตร ซึ่งมีความสูงของเพดานสูงสุด 5.1 เมตร ส่วนความสูงของเพดานต่ำสุด 3.1 เมตรให้กลายเป็นห้องชุดสองห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น และหนึ่งห้องน้ำได้ พื้นที่ทุกนิ้วถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และดีพอสำหรับคนสี่คน
แม้เขาจะรีโนเวตที่พักอาศัยให้ครอบครัวคนทั่วๆ ไปในรายการเรียลลิตี้โชว์ แต่ในชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้ที่ครอบครัวฐานะปานกลางจะมีเงินจ้างนักออกแบบระดับเขา
ปกติแล้วโจวหนานหลิ่งและบริษัทรับออกแบบโครงสร้างและตกแต่งภายในเกาหลิ่งรับเฉพาะโปรเจ็กต์ที่มีมูลค่าสูงกว่าหนึ่งล้านหยวนเท่านั้น ตัวอย่างเช่น พวกเขารับออกแบบโรงแรมระดับสูง ห้างสรรพสินค้า หรือออกแบบห้องตัวอย่างสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ
บ่ายวานนี้บริษัทได้รับสายจากเถิงต๋าคอร์ปอเรชันซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชื่อดังของเมืองจิงโจว เถิงต๋าคอร์ปอเรชันต้องการทำแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อว่า ‘บ้านจอมเฉื่อย’ และต้องการเป็นพันธมิตรร่วมกันในระยะยาวจึงเชิญสถาปนิกของเกาหลิ่งคนหนึ่งไปยังเมืองจิงโจว
โจวหนานหลิ่งตั้งใจจะส่งสถาปนิกมากประสบการณ์ไปเจรจากับเถิงต๋า แต่เถิงต๋ากลับระบุว่าอยากได้สถาปนิกที่อายุต่ำกว่าสามสิบปีซึ่งเข้าใจความต้องการของคนรุ่นใหม่
นับว่าเป็นข้อเรียกร้องที่น่าขำไม่น้อย
เพราะในแวดวงนี้ สถาปนิกผู้มากประสบการณ์มักเป็นที่ต้องการ ยิ่งมีอายุก็ยิ่งดี สถาปนิกที่อายุต่ำกว่าสี่สิบปีจะถูกมองว่าอายุยังน้อย เป็นเรื่องยากสุดๆ ที่สถาปนิกอายุต่ำกว่าสามสิบปีจะมีชื่อเสียงขึ้นมา
แม้ข้อเรียกร้องของเถิงต๋าคอร์ปอเรชันจะดูแปลกๆ แต่เกาหลิ่งก็มีหน้าที่ทำทุกอย่างเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าอยู่แล้ว
ดังนั้นเหลียงชิงฟานวัย 27 ปีจึงได้รับโอกาสอันแสนล้ำค่าให้เดินทางไปยังจิงโจวเพื่อทำงานในโปรเจ็กต์สำคัญด้วยตัวเอง
เหลียงชิงฟานรู้จักบริษัทเกมเถิงต๋าดีเพราะเคยเล่นเกมฐานทัพกลางทะเลมาก่อน
และเพราะภาพยนตร์วันพรุ่งนี้ที่สดใสรวมถึงมือถือ OTTO เร็วๆ นี้เขาจึงค้นพบว่าเถิงต๋าคอร์ปอเรชันไม่ได้ทำแค่เกมเท่านั้นแต่ยังมีกิจการอื่นๆ ด้วย
หลังจากค้นหาในเชียนตู้และเว็บไซต์ TPDb แล้ว เหลียงชิงฟานก็พบว่าเถิงต๋าคอร์ปอเรชันมีกิจการมากมายทีเดียว
เหลียงชิงฟานยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่เมื่อได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและครัวส่วนตัวหมิงหยุน
เขาอดจินตนาการไม่ได้ว่าถ้าการคุยงานคราวนี้เป็นไปได้ด้วยดี เขาอาจได้รับงานออกแบบจากกิจการต่างๆ และพัฒนาความร่วมมือกับเถิงต๋าคอร์ปอเรชันได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หากทุกอย่างเป็นไปตามนั้นจริงๆ เขาอาจจะสร้างชื่อของตัวเองในเมืองจิงโจวแล้วออกมาเปิดบริษัทรับออกแบบอาคารสถานที่ของตัวเองที่เมืองนี้ก็ได้
เหลียงชิงฟานอดตั้งความหวังกับอนาคตขึ้นมาไม่ได้
“คุณคนขับครับ เราจะไปพบบอสเผยกันเลยมั้ยครับ” เหลียงชิงฟานถาม
เสี่ยวซุนส่ายศีรษะ “ไม่ครับ บอสเผยให้คุณเข้าพักในโรงแรมและพักผ่อนก่อน จากนั้นวันพรุ่งนี้คุณค่อยเข้าไปคุยงานกับบอสครับ”
เหลียงชิงฟานรีบพูดขึ้นมาทันที “ไม่จำเป็นเลยครับ ตอนนี้เพิ่งเที่ยงเอง อีกอย่างของที่ผมเอามาด้วยก็มีไม่มาก มีแค่กระเป๋าใบเดียว
“ถ้าบอสเผยสะดวก ผมก็อยากพบบอสเพื่อคุยเรื่องโปรเจ็กต์ตอนนี้เลย หลังจากคุยเสร็จผมจะได้โล่งใจซะที”
เสี่ยวซุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้น “ก็ได้ครับ งั้นผมขอโทรหาบอสเผยก่อน”
เสี่ยวซุนจอดรถริมถนน จากนั้นก็ต่อสายหาบอสเผยและพูดคุยอยู่สองสามประโยค
“บอสเผยตกลงครับ งั้นผมจะพาคุณไปส่งที่คอมมูนิตี้สู่กวงเลยนะครับ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เสี่ยวซุนก็พาเหลียงชิงฟานไปถึงคอมมูนิตี้สู่กวง
เผยเชียนรออยู่หน้าตึกบ้านจอมเฉื่อยที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครเรียบร้อยแล้ว
เหลียงชิงฟานรีบลงจากรถแล้วตรงไปหาบอสเผยทันที
“บอสเผยครับ!”
“คุณเหลียง!”
คนทั้งคู่ทักทายกันอย่างอบอุ่นราวกับคุ้นเคยกันมานาน
เผยเชียนมองสำรวจเหลียงชิงฟานและรู้สึกพึงพอใจวัยของอีกฝ่ายอย่างมาก
เผยเชียนลงแรงไปไม่น้อยกว่าจะได้สถาปนิกที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง
ถึงแม้เขาจะทุ่มเงินแพงๆ จ้างสถาปนิกชื่อดังได้ แต่การทำแบบนั้นก็จะดึงดูดความสนใจที่ไม่ได้ต้องการเช่นกัน โจวหนานหลิ่งเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงในประเทศ เผยเชียนคงผลาญเงินไปไม่น้อยถ้าจะจ้างคนคนนี้ แต่การทำแบบนั้นก็ไม่ต่างจากการเอาป้ายทองมาติดตรงหน้าตึกบ้านจอมเฉื่อย
ถ้าผู้คนมากมายต่อสู้แย่งชิงกันมาเช่าห้องชุดของตึกนี้เพราะรู้ว่าโจวหนานหลิ่งเป็นคนออกแบบจะทำยังไง
เพราะงั้นเผยเชียนจึงจ้างคนที่ดังเกินไปไม่ได้
แต่ก็จะจ้างมั่วๆ ไม่ได้เหมือนกัน
จุดประสงค์หลักๆ เป็นเพราะเผยเชียนเองก็จะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย!
ถ้าไปจ้างสถาปนิกฝีมือกากๆ มาออกแบบจนเละเทะ เผยเชียนต้องรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย แล้วก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาแน่ๆ
ดังนั้นหลังจากครุ่นคิดอย่างหนัก เผยเชียนจึงส่งข้อเรียกร้องพิเศษไปยังบริษัทเกาหลิ่งว่าต้องการสถาปนิกที่อายุน้อยกว่าสามสิบปี
สถาปนิกอายุประมาณนี้ประสบการณ์ย่อมมีไม่มาก งานที่ออกแบบก็ไม่น่าแพงและไม่เป็นที่สนใจ เผยเชียนจะได้มั่นใจได้ว่าคนคนนี้จะไม่ดึงดูดความสนใจใดๆ ก็ตามที่ตนไม่ต้องการเข้ามา
ขณะเดียวกันสถาปนิกที่โจวหนานหลิ่งแนะนำมาก็ย่อมไม่แย่ เขาต้องไม่ออกแบบมั่วซั่วจนห้องชุดเละแน่ เผยเชียนจะได้ไม่ต้องมามัวหงุดหงิดใจ пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ
สรุปก็คือเหลียงชิงฟานดูคุ้มค่าจ้าง!
ขณะที่เหลียงชิงฟานกำลังช็อกกับอายุของบอสเผย เขาก็ดูออกจากแววตาของบอสเผยว่าอีกฝ่ายยินดีต้อนรับและพึงพอใจเขาจากใจจริง ไม่มีสายตาดูถูกหรือขุ่นข้องใจแม้แต่น้อย
ซึ่งทำให้เหลียงชิงฟานชื่นชอบบอสเผยเข้าไปใหญ่!
ในฐานะสถาปนิกที่ถือว่าอายุน้อยสุดๆ เหลียงชิงฟานมักรู้สึกว่าลูกค้าคลางแคลงความสามารถของเขาเพราะอายุที่ยังน้อย แม้จะไม่มีลูกค้าสักคนที่พูดความกังวลใจนี้ออกมา แต่เหลียงชิงฟานก็ยังรู้สึกได้อยู่ดี
ดังนั้นท่าทีของบอสเผยจึงทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างมาก
พวกเขาพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่เผยเชียนจะนำเหลียงชิงฟานไปที่ลิฟต์ เพื่อไปดูห้องตัวอย่างของตึกแห่งนี้
ทันทีที่เข้าไป เหลียงชิงฟานก็เห็นว่าพื้นที่รูปพัดขนาดหนึ่งในสี่ของห้องถูกทำเป็นโซนนั่งเล่น มีทั้งโซฟา โต๊ะกาแฟ โทรทัศน์ โต๊ะกินข้าวทรงกลม เปียโน และเก้าอี้สองตัวไว้จิบชาริมหน้าต่าง
รวมๆ แล้วก็ดูเป็นไปตามมาตรฐาน
เห็นได้ชัดว่าผู้สร้างอาคารไม่ได้จ้างสถาปนิกชื่อดังมาออกแบบห้องตัวอย่าง แต่จากหน้าตาของห้อง เหลียงชิงฟานก็เดาได้ว่าสถาปนิกที่รับงานนี้นั้นไม่ได้แย่นัก คนคนนี้ทำเต็มที่เท่าที่ทำได้แล้ว
เหลียงชิงฟานสำรวจรอบๆ ห้องจากนั้นก็ถามขึ้น “บอสเผยครับ ห้องชุดทุกห้องตกแต่งหมดแล้วใช่มั้ยครับ
เผยเชียนพยักหน้า “ถูกต้องครับ”
เหลียงชิงฟานห่อเหี่ยวเล็กน้อย ในเมื่อทุกห้องตกแต่งเรียบร้อยแล้ว จะไปปรับเปลี่ยนอะไรใหญ่โตก็คงเป็นไปไม่ได้ จะขอให้แงะกระเบื้องปูพื้น เปลี่ยนผนัง ทุบผนังที่ไม่จำเป็นออก แล้วทำใหม่ทั้งหมดตั้งแต่แรกคงเป็นไปไม่ได้
การออกแบบก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องรื้อทุกสิ่งมาทำใหม่ เพราะทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้เสร็จล้าช้าเข้าไปใหญ่
เหลียงชิงฟานมองเฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่างอีกครั้ง “บอสเผย แล้วเฟอร์นิเจอร์…”
เผยเชียนโบกมือ “เปลี่ยนใหม่หมดเลยครับ!
“ที่ผมเชิญคุณมาครั้งนี้เพราะอยากให้รีโนเวตการตกแต่งทั้งหมด
“ผมจัดสรรงบในการรีโนเวตแต่ละชั้นไว้ที่ห้าแสนหยวน
“เราจะจ่ายค่าตอบแทนให้สถาปนิก 30%
“ส่วนเรื่องสไตล์ ถ้าออกแบบให้ดูมินิมอลเพื่อตอบสนองรสนิยมของคนรุ่นใหม่ก็จะดีมาก ไม่เอาแบบหรูๆ ที่พวกไฮโซชอบกัน
“เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายที่สุด โซฟาต้องนุ่มสบาย ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ โทรทัศน์ต้องเอาแบบจอใหญ่ๆ เลเซอร์โปรเจกเตอร์ มีเกมคอนโซล แผ่นเกม ลำโพง เก้าอี้นวดระดับไฮเอนด์ และอื่นๆ
“ทั้งหมดทั้งมวลคือสภาพห้องชุดต้องสอดคล้องกับชื่อบ้านจอมเฉื่อย ซึ่งหมายถึงว่า ทันทีที่เหล่าคนรุ่นใหม่ย้ายเข้ามา พวกเขาจะเริ่มทำตัวเป็นคนเฉื่อยและไม่คิดย้ายออกอีกเลย!”
เผยเชียนร่ายสิ่งที่ต้องการออกมารวดเดียว
สรุปแล้วเป้าหมายอันดับหนึ่งก็คือทำให้เขาพึงพอใจ
ส่วนผู้เช่ารายอื่นน่ะเรอะ…
จะดีเสียยิ่งกว่าดีถ้าพวกเขาไม่ชายตามองที่นี่!
เหลียงชิงฟานอดรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ฟังความต้องการของบอสเผย
ความต้องการของบอสชัดเจนสุดๆ แต่ชื่อบ้านจอมเฉื่อยดูไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย!
บริษัทเกาหลิ่งเคยรีโนเวตการตกแต่งมาก่อน แต่ทั้งหมดล้วนเป็นห้องตัวอย่างสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ ทั้งนั้น สไตล์โดยรวมจึงเป็นแบบหรูหรามีระดับทั้งหมด
หรือจะเรียกว่าสไตล์ ‘วิลล่าในสวนสวย’ ก็ได้
มีแต่พวกเศรษฐีที่สามารถซื้อห้องชุดใหญ่โตแบบนั้นได้ และพวกเขาก็ชื่นชอบสไตล์วิลล่าในสวนสวยไม่ใช่สไตล์มินิมอล
สไตล์มินิมอลนั้นเหมาะกับห้องชุดเล็กๆ และเหล่าคนรุ่นใหม่
แต่คนรุ่นใหม่ย่อมไม่มีเงินพอจะซื้อห้องชุดขนาดใหญ่
อีกอย่างความต้องการของบอสเผยก็ดูจะเกินเรื่องไปเล็กน้อย นอกจากเขาจะอยากให้รีโนเวตห้องชุดให้ดูมินิมอลด้วยของคุณภาพดีแล้ว ยังจัดงบรีโนเวตมาถึงห้าแสนหยวนต่อชั้น และในห้องก็ต้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงครบครันด้วย
แบบนี้กลุ่มเป้าหมายของห้องชุดนี้ก็แคบสุดๆ ไปเลยไม่ใช่เหรอ
แต่พอคิดดูอีกทีแล้วเหลียงชิงฟานก็นึกขึ้นได้ว่าบ้านจอมเฉื่อยนี้มีไว้เพื่อเช่าไม่ใช่เพื่อขาย ดังนั้นหากค่าเช่าเหมาะสม เหล่าคนรุ่นใหม่ก็น่าจะอยากมาเช่ากัน
ตอนนี้ค่าเช่าห้องชุดขนาด 60 ตารางเมตร สองห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น ที่ทำเลค่อนข้างดีหน่อยในเมืองจิงโจวตกอยู่ที่ประมาณ 2,300 ต่อเดือน
หากอิงตามมาตรฐานนี้ ห้องชุดหนึ่งห้องของบ้านจอมเฉื่อยก็น่าจะอยู่ได้สักสามถึงห้าคน หากบอสเผยคิดค่าเช่าห้องละหกพันหยวน และเหล่าคนรุ่นใหม่ที่มาเช่าหารค่าเช่ากัน ห้องชุดนี้ก็น่าจะเป็นที่ต้องการทีเดียว
เมื่อคิดได้ดังนี้เหลียงชิงฟานก็ไม่คิดแย้งอะไรและจดสิ่งที่บอสเผยต้องการเงียบๆ จากนั้นก็เริ่มคิดว่าจะออกแบบยังไงเพื่อให้ออกมาตามที่บอสเผยต้องการ
ขณะเดียวกันเผยเชียนก็กำลังคิดว่าจะตั้งราคาค่าเช่าที่ระบบอนุญาตซักแปดพันหยวนต่อเดือน เพื่อไล่พวกที่อยากมาเช่าไปให้หมด