📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 482

บทที่ 482 - ตึกสุดประหลาดที่ ‘ไม่เคยสิ้นแสง’
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ทุกคนตื่นตัวขึ้นมาทันทีหลังจากที่ฟังจูเสี่ยวเช่อพูด

ถูกต้องที่สุด ถ้าพวกเขามัวนอนน้ำลายยืดอยู่บ้านทุกวันคงเสียเวลาเสียโอกาสไปเปล่าๆ ปลี้ๆ!

ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อจบสายนี้โดยตรง แถมนอกจากบอสเผยแล้วเขายังเป็นแกนหลักที่ทำให้วันพรุ่งนี้ที่สดใสประสบความสำเร็จด้วย แล้วพวกเขาจะมามัวแต่หลงระเริงอยู่แบบนี้ได้ยังไง ถ้าแม้แต่คนที่คุณสมบัติครบถ้วนอย่างผู้กำกับจูยังไม่เหลิง แถมยังพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมออีก!

ทุกคนในเฟยหวงสตูดิโอเข้าใจสิ่งที่จูเสี่ยวเช่อต้องการจะสื่ออย่างรวดเร็ว.

ปกติแล้วถ้าได้ลาพักร้อนแบบรับเงินเดือนทุกคนควรพักผ่อนให้เต็มที่

แต่ถ้าพวกเขาใช้เวลานั้นให้เกิดประโยชน์ด้วยการหาความรู้เพิ่มเพื่อทำให้ตัวเองเก่งขึ้นก็จะไม่ใช่การลาพักร้อนแบบรับเงินเดือน แต่เป็นการลาไปศึกษาเพิ่มแบบรับเงินเดือนมากกว่า

แต่เรื่องนี้ก็ควรดูเป็นกรณีๆ ไป

ปกติคนที่ได้ลาพักร้อนแบบรับเงินเดือนนั้นเป็นเพราะทำงานหนักจนต้องหยุดพักบ้าง

แต่พนักงานที่เฟยหวงสตูดิโอไม่ได้โหมงานหนักแทบเป็นแทบตายขนาดนั้น!

พวกเขาเหนื่อยมากๆ ก็จริงตอนถ่ายทำ ตัดต่อ และโปรโมตวันพรุ่งนี้ที่สดใส แต่หลังจากหนังฉายทุกคนก็ได้พักครึ่งเดือนแล้ว!

ระหว่างนั้นทุกคนเอาแต่ไถดูแอปโก่วเหยี่ยนโดยไม่ได้ทำอย่างอื่น

ถึงจะต้องเข้าออฟฟิศแต่ส่วนมากก็เข้าไปเล่นเกม ดูหนัง กินอาหารขยะ ดังนั้นพวกเขาจึงหายเหนื่อยตั้งนานแล้ว

ตอนนี้หลายคนเริ่มอยากหาอะไรทำมากกว่า

คำสั่ง ‘ช็อกบำบัด’ ของบอสเผยถือเป็นการสั่งห้ามไม่ให้พวกเขาทำงาน แต่ก็ไม่ได้ห้ามทำอย่างอื่นนี่นา

พวกเขาสามารถใช้เวลาระหว่างพักร้อนหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาตัวเองได้ นี่เป็นโอกาสดีที่อาจจะไม่มีมาอีกก็เป็นได้!

พวกเขาต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายแน่ๆ ถ้าต้องลาออกมาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม แล้วถ้ามัวมานั่งคิดมากเรื่องเงินก็คงไม่มีกะจิตกะใจไปทุ่มให้กับการหาความรู้

แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับปัญหานี้ เพราะยังได้เงินเดือนอยู่!

อีกอย่างสิ่งที่จูเสี่ยวเช่อพูดก็ทำให้พวกเขาคิดได้ว่าทัศนคติแบบนี้อันตรายขนาดไหน

วันพรุ่งนี้ที่สดใสอาจจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าดวงก็มีส่วนมาก ทีมของพวกเขาอาจยังไปไม่ถึงขั้นทำหนังได้ 200 ล้านหยวนหากวัดที่ความสามารถจริงๆ

ถ้าหนังเรื่องต่อไปที่พวกเขาสร้างเจ๊งล่ะ

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากตกม้าตายหลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

เพราะแบบนี้ทุกคนถึงต้องพัฒนาตัวเองไปอีกขั้น!

พวกเขาต้องใช้โอกาสนี้ทำให้ตนเองเก่งขึ้น จะได้ไม่ต้องพึ่งบอสเผยมาก พวกเขาต้องทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีกให้สมกับความคาดหวังของบอสเผย

อารมณ์ของทุกคนพลุ่งพล่าน ความมุ่งมั่นมาเต็ม

“แล้วเราจะไปทำให้ตัวเองเก่งขึ้นได้ที่ไหน”

“ได้ยินมาว่าหลายมหา’ลัยมีคลาสเรียนการกำกับหนังขั้นสูงที่รับเฉพาะคนมีประสบการณ์ตรงสายเท่านั้น หลักสูตรอัดเอาเนื้อหาสี่ปีมาไว้ในปีเดียว แถมอาจารย์ที่สอนยังเก่งมากด้วย!”

“ไม่ได้หรอก นั่นมันคอร์สหนึ่งปี เรามีเวลาแค่ไม่กี่เดือน”

“เอ่อ คอร์สนั้นอาจจะมีประโยชน์สำหรับพวกเรา แต่น่าจะไม่มีประโยชน์กับผู้กำกับจูนะ แม้แต่อาจารย์ที่สอนเองอาจจะทำหนังได้เงินได้ไม่เท่าทีมเราเลย นักเรียนยิ่งไม่ต้องพูดถึง…”

จูเสี่ยวเช่อตอบ “อย่าคิดแบบนั้น จริงอยู่ที่เราประสบความสำเร็จ แต่อาจารย์พวกนั้นเป็นมืออาชีพในวงการ เราไม่ควรเหลิงขนาดนั้นแค่เพราะทำหนังดังสองเรื่อง เราต้องให้เกียรติคนเก่าคนแก่ในวงการ”

หวงซื่อปั๋วตอบ “ใช่ ทุกคนเป็นครูของเรา แม้แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการก็เป็นครูของเราได้ ยิ่งคนที่คร่ำหวอดในแวดวงหนังยิ่งไม่ต้องพูดถึง”

จูเสี่ยวเช่อเอ่ย “เวลาเรามีจำกัด ผมคิดว่าทุกคนควรเลือกคอร์สปริญญาโทที่มหา’ลัยฮั่นตง คอร์สนี้เรียนวันเสาร์อาทิตย์รวมแล้วสองปีด้วยกัน

“แบบนี้หลังจากที่เฟยหวงสตูดิโอเลิกโดนช็อกบำบัดแล้ว เราก็ไปเรียนวันเสาร์อาทิตย์ได้

“แต่ ‘คอร์สเรียน’ แค่นี้ไม่พอ นอกจากฟังบรรยายแล้วผมจะจัดคลาสให้ศึกษานอกห้องด้วย

“ทุกคนต้องดูและวิเคราะห์หนังทุกวัน เขียนวิจารณ์หนังด้วย แล้วก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับหนังโรงและละครทุกสัปดาห์ จดโน้ตเยอะๆ…

“เดี๋ยวผมจะลองถามอาจารย์ว่าจะจัดอะไรได้อีกตอนกลับไปที่คณะ พอสรุปเนื้อหาได้แล้วจะมาบอกทุกคนนะ”

ทุกคนรู้สึกวางใจเมื่อเห็นแผนการเรียนรู้ที่จูเสี่ยวเช่อวางไว้ให้

เขาจบสายภาพยนตร์โดยตรง ต่อให้มีข้อสงสัยตรงไหนก็กลับไปถามอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยได้

แถมเขายังเป็นคนสร้างวันพรุ่งนี้ที่สดใสอีก มหาวิทยาลัยมาขอให้เขากลับไปบรรยายให้รุ่นน้องฟังหลายรอบแล้ว เรื่องแค่นี้จึงไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงสักนิด

หวงซื่อปั๋วเองก็ต้องการแบบนี้เหมือนกัน

เขาย้ายสายมาจากวงการเกม และคิดอยู่ตลอดว่าตัวเองไม่มีพื้นฐานอะไรเลยด้านการสร้างหนัง ยังมีอีกหลายอย่างมากที่ไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้หวงซื่อปั๋วมัวแต่ยุ่งอยู่กับการช่วยจูเสี่ยวเช่อ เลยยังไม่มีเวลาเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับแวดวงหนัง

ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้อุดช่องโหว่นี้เสียที!

ตัวเขาเองก็แอบดีใจอยู่เหมือนกัน

ในขณะที่หวงซื่อปั๋วกำลังดีใจอยู่นั่นเอง เขาก็ได้รับข้อความเข้า

“อ้าว

“เงินเข้าแล้วนี่!”

เผยเชียนหาวหวอดใหญ่อยู่ในออฟฟิศ และกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน

ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าแรงกดดันที่จะต้องทำธุรกิจขาดทุนของเขาเบาบางไปเล็กน้อย หลังจากจัดการเรื่องรุ่ยหยู่เฉินกับโมหยูเดลิเวอรี่เรียบร้อย

แต่ขณะที่เขากำลังจะออกจากออฟฟิศก็ได้รับข้อความจากหวงซื่อปั๋ว

“บอสเผยครับ เงินค่าตั๋วหนังเข้าแล้วนะครับ!”

หัวใจของเผยเชียนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

เร็วขนาดนี้เลยเรอะ!

ถึงเขาจะจัดการสั่งช็อกบำบัดเฟยหวงสตูดิโอไปแล้ว แต่เรื่องรายรับของหนังยังไม่จบ!

ในชั่วพริบตาเงินอีก 70 ล้านหยวนก็ถูกโอนเข้าบัญชีบริษัท.

เผยเขียนรู้สึกถึงแรงกดดันที่ถาโถมลงมาบนตัวอีกครั้ง

ไอ้เฟยหวงสตูดิโอนี่มีแต่สร้างเรื่องให้ไม่หยุดหย่อนจริงๆ!

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเงินก้อนนี้ต้องเข้าบัญชีมา แต่นี่มันเร็วกว่าที่คิดไว้ตั้งสามวัน เผยเชียนจึงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย

ชายหนุ่มทำเป็นมองไม่เห็นข้อความแล้วยัดมือถือใส่ลงกระเป๋าเหมือนเดิม

“ไอ้หวงซื่อปั๋วนี่ วันๆ ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ฉันเลย! เหอะ ดีนะที่ฉันคิดไว้แล้วว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไร

“ไม่งั้นมีหวังจบเห่แน่”

เผยเชียนตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะรีบออกไปจัดการเรื่องเงินให้เสร็จด้วยความเร็วแสง ถ้าไม่เห็นยอดเงินเขาก็จะได้ไม่หงุดหงิด!

หวงซื่อปั๋วหันมองโทรศัพท์หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง

บอสเผยยังไม่ตอบเขาเลย

“เฮ้อ บอสเผยคงยุ่งหัวหมุนอีกแล้วสินะ”

หวงซื่อปั๋วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ตอนแรกเขาคิดว่าพอบอสเผยตอบกลับเขาจะรายงานเรื่องเรียนให้รู้

แต่บอสไม่ตอบ เขาเลยได้แต่เก็บความคิดนั้นเอาไว้ในใจ

หลังจากสงบใจและคิดอยู่ครึ่งชั่วโมงเขาก็เปลี่ยนใจ

ชายหนุ่มตัดสินใจไม่บอกให้บอสรู้ ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm

ปกติเจ้านายทั่วไปจะมีปฏิกิริยาอยู่สองอย่างถ้ารู้ว่าลูกน้องเริ่มหาความรู้เพิ่มเติมให้ตัวเองเก่งขึ้น อย่างแรกคือคิดว่าลูกน้องน่าจะว่างมากจนต้องหาอะไรทำ อย่างที่สองคือคิดว่าอยากเพิ่มสกิลตัวเองเพื่อไปสมัครงานที่บริษัทอื่น

แบบนี้เผลอๆ บอสจะใจร้ายกับลูกน้องและบีบพวกเขามากขึ้นอีก

แต่หวงซื่อปั๋วรู้ดีว่าบอสเผยไม่ใช่เจ้านายแบบนั้น

บอสเผยเป็นคนดีที่ให้ความสำคัญกับเวลาพักและความเป็นส่วนตัวของลูกน้องมาก เพราะแบบนี้เลยไม่มีใครที่เถิงต๋าคิดเปลี่ยนงานแม้แต่คนเดียว

ถ้าทุกคนใช้เวลาว่างในการพัฒนาตัวเอง ก็จะทำงานที่บอสเผยมอบหมายมาได้ดีกว่าเดิม และยังตระหนักถึงคุณค่าของตัวเองมากขึ้นอีกด้วย

แต่ต่อให้เป็นแบบนั้นก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องรายงานให้บอสรู้

หวงซื่อปั๋วรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเอามาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ในเถิงต๋า แล้วเขาจะบอกบอสเผยไปทำไม

บอกไปก็น่าจะไม่ดีต่อตัวเขาเองเพราะดูเหมือนเอาหน้า

บอสเผยเกลียดคนชอบเอาหน้าที่สุด

ดังนั้นหวงซื่อปั๋วจึงโยนความคิดนี้ทิ้งไป และเริ่มคุยเรื่องแผนการเรียนรู้กับคนอื่นๆ ในเฟยหวงสตูดิโอในแชตกลุ่มแทน

วันอังคารที่ 12 เมษายน

เผยเชียนนั่งอยู่ในรถพร้อมแผนที่บนหน้าจอที่บอกว่าเขากำลังไปไหน : คอมมูนิตี้สู่กวง[1] ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ที่ค่อนข้างหรูหราในเมืองจิงโจวทีเดียว

ที่เผยเชียนสนใจคอมมูนิตี้นี้เพราะเหตุผลสองข้อด้วยกัน ข้อแรกคือคอมมูนิตี้นี้อยู่ใกล้บริษัท เขาเดินยี่สิบนาทีก็ถึง อีกข้อคือคอมมูนิตี้นี้มีสิ่งที่เขาอยากได้อยู่

แต่จะรู้ว่าตรงปกหรือเปล่าเขาต้องไปดูของจริงที่หน้างานจริง

เผยเชียนตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอาเงินที่ได้จากยอดขายตั๋ววันพรุ่งนี้ที่สดใสไปทำอะไร

ซื้อตึกยังไงล่ะ!

แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ตึกธรรมดา

ระบบไม่ให้เผยเชียนเก็งกำไรจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ไม่ได้ห้ามให้เผยเชียนเอาเงินไปซื้อตึก ความแตกต่างคือตึกที่ซื้อนั้นเขาต้องเอามาใช้ดำเนินธุรกิจ

ก็เหมือนตอนที่เขาซื้อวิลล่ามาทำครัวส่วนตัวหมิงหยุน เขาจะซื้อแล้วปล่อยมันทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ได้ แต่สามารถเปิดเป็นร้านอาหารได้

คราวนี้เผยเชียนจะซื้อตึกมาทำแบรนด์เพื่อปล่อยเช่า เขาตั้งชื่อเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วว่า ‘บ้านจอมเฉื่อย’

ธุรกิจใหม่นี้มีข้อดีสามข้อด้วยกัน

ข้อแรกคือการซื้อตึกต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ตอนนี้เงินตั้งต้นของเผยเชียนคือ 20 ล้านหยวน สินทรัพย์ถาวรคิดเป็น 10% แปลว่าเขาใช้เงิน 60-70 ล้านหยวนซื้อตึกได้ เขาสามารถใช้ตึกนี้เป็นสวัสดิการให้พนักงานได้ด้วย เผยเชียนจะย้ายเข้ามาอยู่ในตึกนี้แล้วใช้เงินจากระบบจ่ายก็ได้

ไหนจะค่าตกแต่ง ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าทำความสะอาดรายวัน ค่าซ่อมนู่นซ่อมนี่ แถมยังมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ อีก… ทุกอย่างเป็นค่าใช้จ่ายได้หมด

แน่นอนว่าแผนการนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน

ความเสี่ยงที่ว่านั้นก็คือถ้าแบรนด์เกิดดังขึ้นมาแล้วทุกคนแห่เข้ามาจองต้องทำกำไรได้แน่

แต่เผยเชียนก็คิดถึงปัญหานี้ไว้แล้ว และหาทางออกเพื่อไม่ให้มันทำกำไรได้แล้วด้วย

อย่างแรกคือประเภทห้อง อย่างที่สองคือราคาขาย

เขาดูแปลนของตึกจากมือถือแล้วก็เห็นว่าตึกที่อยู่ในคอมมูนิตี้สู่กวงนั้นเป็นตึก ‘ระดับไฮเอนด์’ ที่หาได้ยากมากๆ

ตึกที่ ‘ไม่เคยสิ้นแสง’ แห่งนี้แสงสว่างสามารถส่องเข้ามาได้ 360 องศาจากทิศตะวันออก ตะวันตก เหนือและใต้โดยไม่มีมุมบอดเลย!

ตึกรูปทรงกระบอกนี้รับแสงอาทิตย์ตอนกลางวันและรับแสงจันทร์ตอนกลางคืน

ได้รับแสงไปเต็มๆ ทั้งกลางวันกลางคืนแบบนี้ เหมาะกับการทำงานแบบไม่หลับไม่นอนเป็นที่สุด

พอเผยเชียนเห็นแปลนเขาก็รู้สึกอยากก่นด่าขึ้นมาทันที ตึกหลังนี้เหมาะที่สุดกับการเป็นเรือนกระจกให้ดอกทานตะวัน รับรองว่าคนที่อยู่ในตึกต้องได้สังเคราะห์แสงทั้งวันทั้งคืนชนิดไม่พลาดสักวินาทีเดียว

แต่ตึกแบบนี้แหละคือสิ่งที่เผยเชียนกำลังตามหา!

……………

[1] 曙光 แปลว่ารุ่งอรุณ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset