📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 474

บทที่ 474 - ย้อนรอยอาจารย์เฉียว บีบให้เขาไม่มีที่ไป
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

วันพุธที่ 6 เมษายน

เผยเซียนดิ้นรนอยู่สองวันก็คิดพล็อตหลักของเกม ‘ดิ้นรน’ จนเป็นรูปเป็นร่างได้

เส้นเรื่องของเกมแบ่งออกเป็นช่วงชีวิตใหญ่ๆ ได้คร่าวๆ ดังนี้ ตอนเกิด ตอนเข้าโรงเรียน ตอนสอบ ตอนทำงาน ตอนมีความรัก ตอนแต่งงาน ตอนซื้อบ้าน ตอนมีลูก และวิกฤติวัยกลางคน

ทั้งหมดมีเพียงเท่านั้น ทั้งเวอร์ชันคนจนและคนรวยต้องผ่านช่วงชีวิตเหมือนกัน แต่พวกเขาจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ตัวอย่างเช่น คนรวยมีพี่เลี้ยงคอยดูแลตั้งแต่เกิดจนเข้าโรงเรียน พอโตขึ้นก็จะวิ่งเล่นอย่างมีความสุขในคฤหาสน์ เล่นของเล่นราคาแพง ที่บ้านจ้างครูพิเศษระดับแนวหน้ามาเตรียมความพร้อมให้ก่อนเข้าอนุบาลด้วย

ส่วนคนจนนั้นเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ไม่ได้เลย พวกเขาทำได้แค่นอนดูทีวีและอ่านหนังสือภาพอยู่ที่บ้าน พอพ่อแม่ออกไปทำงานก็ต้องเล่นตามลำพังคนเดียว

ในช่วงชีวิตอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน ใครก็เดาได้ไม่ยากว่าเส้นเรื่องคร่าวๆ จะเป็นยังไง

คนจนไม่ว่าจะทำอะไรก็จะผิดไปหมด ในขณะที่คนรวยอยากทำอะไรก็ไม่มีใครหน้าไหนขัดขวางได้

เผยเชียนกำลังคิดว่าจะเพิ่มแถบแสดงข้อมูลเชิงปริมาณลงไปในเกมด้วย เพื่อให้ผู้เล่นเห็นความแตกต่างระหว่างสองเวอร์ชันชัดเจนขึ้น ตัวอย่างเช่น แถบแสดงค่าความรู้ปัจจุบัน (ความรู้ทางวิชาชีพ ความเข้าใจทางการเงิน และอื่นๆ) แถบแสดงค่าการจัดการอารมณ์ (การรับมือกับคนอื่น การเข้าสังคม และอื่นๆ) แถบแสดงค่าสุขภาพจิต ค่าความร่ำรวยทางวัตถุบางอย่าง และอื่นๆ…

ข้อมูลเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อตัวเลือกของผู้เล่นอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการจัดการทรัพย์สินของคนรวยจะช่วยเพิ่มค่าความร่ำรวยทางวัตถุของตนเองได้เร็วยิ่งขึ้น ความสามารถในการจัดการอารมณ์ก็จะทำให้เขามีโอกาสในการสานสัมพันธ์กับชนชั้นสูงได้มากกว่า ส่วนค่าสุขภาพจิตก็จะทำให้เขาปรับเปลี่ยนอารมณ์ในการทำงานได้ง่ายขึ้น แต่หากเครียดเกินไปก็จะทำให้ปัญหาตามมา…

ทว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น

ในความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้กระทบกับแค่บางเส้นเรื่อง แต่ไม่กระทบกับผลลัพธ์ตอนจบอยู่ดี

เหตุผลที่เผยเชียนออกแบบแบบนี้ก็ง่ายนิดเดียว ถ้าระบบการเล่นยอมให้ผู้เล่นเลือกตอนจบของตัวเองได้ เขาจะทำให้คนเกลียดเกมนี้ได้ยังไง

ถ้าเขียนเกมให้คนจนพลิกชีวิตได้ ส่วนคนรวยหลบหลีกจากชะตาที่ต้องถูกฆ่า จะเป็นตอนจบที่ดีจริงๆ เหรอ

เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด!

ยิ่งกว่านั้นแนวคิดที่ว่า ‘ผู้เล่นมีตัวเลือกก็จริง แต่ตอนจบถูกกำหนดไว้แต่แรกแล้ว’ คือแนวคิดที่ทุกคนในอุตสาหกรรมเกมมองว่าล้มเหลวที่สุด เกมส่วนใหญ่ที่ทำตามแนวคิดนี้ล้วนโดนวิจารณ์ยับทุกราย

เกมจะดำเนินไปจนเข้าสู่วัยกลางคนซึ่งอยู่ที่ราวๆ 50 ปี

อย่างที่สุภาษิตโบราณว่าไว้ อายุ 30 มุ่งมั่นตั้งตัว อายุ 40 หมดความลุ่มหลง อายุ 50 รู้ชะตาฟ้า[1]

สำหรับเผยเชียนแล้ว 50 ปีเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดในการปิดฉากชีวิตผู้เล่นคนรวย

เร็วไปกว่านั้นก็มีอะไรให้เล่นน้อยเกินไป ช้าไปกว่านั้นก็จะไม่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเกลียดชังเกมนี้

เศรษฐีวัย 50 ปีที่ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ การงานเป็นไปได้สวย มีมาตรฐานการครองชีพที่พอดี หลายคนมีชีวิตคู่ที่มีความสุข และมีลูกๆ ที่ฝากความหวังได้ การตายในช่วงอายุนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้เล่นรับไม่ได้มากที่สุดแล้ว

สำหรับคนจน…ปกติอายุขัยของพวกเขาก็อยู่ที่ประมาณ 50 ปีอยู่แล้ว เล่นๆ ไปก็จะเริ่มมองเห็นว่าชีวิตของตัวเองนั้นไม่ต่างจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ วัฏจักรแห่งความยากจนเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่าง

พูดง่ายๆ คือเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดที่จะปิดฉากเกมนี้เหมือนกัน

แน่นอนว่านอกจากช่วงเวลาสำคัญเหล่านี้แล้ว ยังมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันแทรกเข้ามาระหว่างเล่นด้วย

เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์ โรคภัยไข้เจ็บ การกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน โดนหลอกตอนจะซื้อบ้าน ภัยธรรมชาติ และอื่นๆ

สถานการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้เปลี่ยนวิถีของเกมไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และในขณะเดียวกันยังแสดงให้เห็นช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าพวกเขามีความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงต่างกันขนาดไหนเมื่อต้องเผชิญกับเหตุสุดวิสัยในชีวิต

เผยเชียนตั้งใจว่าครั้งนี้จะไม่เพิ่มเสียงบรรยายลงไป หลังเรียนรู้ความผิดพลาดจากกรณีเกมนักออกแบบเกม

เนื้อหาในเกมจะต้องไม่สร้างอารมณ์ร่วมหรือมีสีสันเด่นชัด บทสนทนาและพฤติกรรมทั้งหมดของตัวละครจะต้องสมจริงที่สุด และไม่ชี้นำให้ผู้เล่นเกิดปฏิกิริยาจิตวิทยาย้อนกลับ

ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นคิดเยอะเกินไปว่ามีเรื่องราวอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้น เผยเชียนจึงให้ตัวละครคนจนกับคนรวยมีชีวิตของใครของมัน ไม่มีเส้นเรื่องที่มาตัดผ่านกันเลยแม้แต่น้อย

ชายไร้บ้านที่มาปลิดชีพคนรวยในตอนจบก็ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับคนจนในอีกเวอร์ชัน

ชายไร้บ้านคนนี้ไม่ใช่ชายยากจนจิตใจบริสุทธิ์อย่างที่หลายคนคิดภาพไว้ เขามีมือมีเท้าที่ใช้งานได้ปกติ แต่แค่ขี้เกียจและใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ที่เขาอยากฆ่าคนรวยก็เพราะรู้สึกอิจฉาเฉยๆ ไม่ใช่ด้วยเหตุผลสูงส่งว่าทำไปเพราะถูกกดขี่แต่อย่างใด

คนจนมีโอกาสได้เจอคนที่รวยกว่าก็จริง แต่เจ้านายของเขาก็ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับตัวละครหลักในเวอร์ชันคนรวยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่ได้ถูกปลูกฝังความคิดให้ต้องต่อต้านแต่อย่างใด

เผยเชียนไม่ได้อยากให้ผู้เล่นตีความไปเองว่า ‘คนรวยกดขี่คนจน’

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งคำถามสำคัญ

จะทำยังไงไม่ให้อาจารย์เฉียวผู้น่ารำคาญตีความเกมนี้เกินจริงอีก

เผยเชียนคิดแล้วคิดอีกถึงเรื่องนี้ จนสุดท้ายเขาก็ได้คำตอบ

ก็แค่ออกแถลงอย่างเป็นทางการ ขุดหลุมฝังให้เขาจมดินไปเลย!

ใครจะไปฟังการตีความของแก ในเมื่อฉันอธิบายไปตั้งแต่แรกจนหมดแล้ว แกจะเล่นงานฉันลับหลังได้ยังไง ถ้าไม่มีใครมาเสียเวลาฟังแกตั้งแต่แรก

เผยเชียนพอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าอาจารย์เฉียวจะตีความเกมนี้จากแง่มุมไหน ต้องไม่มีอะไรนอกเหนือจากประเด็นความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวย ทฤษฎี Matthew Effect การกระจายความมั่งคั่งในสังคมที่ไม่สมเหตุสมผล และระบบชนชั้นที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าสมองของเขาทำงานพิสดารกว่านี้อีกหน่อย ก็อาจวิเคราะห์ไปถึงการที่คนจนขาดความเข้าใจทางการเงินและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล รวมถึงวิเคราะห์ว่าทำไมคนรวยจึงไม่มีวันเข้าใจความชั่วร้ายของวัฏจักรชีวิต แม้จะต้องตกต่ำจนถึงขีดสุดก็ตาม…

ยังไงประเด็นช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยก็เป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงกันทั่วทั้งโลกอยู่แล้ว ถ้าอยากจะแตกประเด็นนี้ออกไปก็คงมีหัวข้อให้พูดถึงอีกไม่รู้จบ

เผยเชียนจึงตั้งใจจะแสดงจุดยืนต่อปัญหานี้ให้ชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวเกม

เขาจะย้อนรอยอาจารย์เฉียว อาจารย์เฉียวจะได้ไม่มีที่ไป!

แน่นอนว่าเผยเชียนไม่ได้โง่จนย้อนกลับมาแทงข้างหลังตัวเอง เขาต้องการแถลงถึงประเด็นนี้อย่างเป็นทางการ แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีการเดียวกับที่อาจารย์เฉียวทำแน่นอน

แม้หลักการให้เหตุผลจะเหมือนกัน แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่วิธีสื่อสาร

การเทียบเคียงด้วยสุภาษิตโบราณ เพื่อจงใจเพิ่มน้ำหนักและความลุ่มลึกให้ประเด็นที่จะสื่อสารแบบที่อาจารย์เฉียวทำนั้นดึงดูดใจได้ดีและทำให้คนหลงเชื่อได้ไม่ยาก

แต่เผยเชียนตั้งใจจะใช้ภาษาที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาเพื่อพูดถึงประเด็นนี้ เป้าหมายของเขาคือทำยังไงก็ได้ให้มันออกมาฟังดูน่าเบื่อที่สุด

ดีไม่ดีมันอาจช่วยชี้นำให้ผู้เล่นมีภาพจำต่อเกมแบบผิดๆ ได้ด้วยว่า ผู้สร้างเกมมีตอนจบสองแบบเพื่อตั้งใจให้ผู้เล่นรู้สึกว่า ‘ระบบชนชั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้’ หรือ ‘เราไม่มีอำนาจเหนือโชคชะตา’ เป็นต้น

เหมือนเล่าเรื่องตลกอยู่นั่นแหละ

อาจารย์เฉียวเองก็เล่าเรื่องตลก เต้นรำ กรีดร้อง แหกปากไปเรื่อยเหมือนกัน ตอนแรกเขาจะสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้ผู้ชมลุ้นจนอกแทบแตกตาย ก่อนจะเฉลยคำตอบให้ฟัง ซึ่งก็ได้ผลดีเยี่ยมเลยทีเดียว

แต่เผยเชียนไม่จำเป็นต้องเล่นจำอวดหน้าม่านแบบนั้น เขาแค่อยากพูดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ

พอทำอย่างนี้ ผู้ชมก็จะเข้าใจประเด็นทุกอย่างชัดเจน ดังนั้นไม่ว่าอาจารย์เฉียวจะสร้างบรรยากาศหรือความฉงนฉงายใดๆ ผู้เล่นก็จะไม่ประหลาดใจกับประเด็นนี้อีกต่อไป!

เผยเชียนรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองจะทำ ไม่ต่างกับการชิงประกาศตั้งแต่หน้าแรกของหนังสือการ์ตูนว่าใครเป็นฆาตกร เขาจะไม่ยอมให้คลิป ‘ผลงานเทพสร้าง’ ของอาจารย์เฉียวได้หน้าจากเกมของเขาอีก!

ยิ่งเผยเชียนคิดเรื่องนี้เท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอัจฉริยะที่พอใจกับพรสวรรค์ของตัวเองขึ้นเท่านั้น!

เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ เผยเชียนก็ส่งเรื่องย่อไปให้หูเสี่ยนปินขยายเรื่องต่อ ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ

ระหว่างนั้นตัวละครในเกมแต่ละตัวก็ต้องใช้นักแสดงโมชันแคปเจอร์คนละคนกัน แถมยังต้องเป็นชาวต่างชาติทั้งหมดด้วย พวกเขาจึงต้องเตรียมเรื่องนี้ให้เรียบร้อยตั้งแต่เนิ่นๆ

หลังจากโยนงานให้หูเสี่ยนปินแล้ว เผยเชียนก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก ยิ่งเกมมีปัญหาเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลดีต่อเขามากขึ้นด้วยซ้ำ

ถ้าเกมออกมาดีก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน ตราบใดที่ทุกคนยังเกาะเส้นเรื่องที่เขาเขียนให้อย่างแน่นหนา และไม่ออกนอกลู่นอกทาง!

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน…

เผยเชียนเข้าออฟฟิศตรงเวลาหลังกินอาหารเที่ยงแล้ว เขาส่งเรื่องย่อของเกม ‘ดิ้นรน’ ไปให้หูเสี่ยนปินตั้งแต่บ่ายเมื่อวาน และยังส่งข้อความไปบอกหลินหวานเรื่องเซิฟเวอร์ในประเทศของเกม IOI รวมถึงบอกให้เธอติดต่อเฮ่อเต๋อเซิ่งแล้วด้วย

เขายังไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องเซิฟเวอร์ในประเทศของเกม IOI ยังไงดี

แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรในเกมนี้ จะให้กดราคาฮีโร่และสกินลงก็ยากเกินไป บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงอะไรเรื่องนี้มากนัก เพราะพวกเขาถือหุ้น Finger Games แค่ 20% เท่านั้น

ถ้ามองจากรูปแบบการทำเงินอย่างเดียว เกม IOI นั้นไม่ได้เป็นมิตรเลยเมื่อเทียบกับเกม GOG  เพราะฮีโร่ในเกม GOG แจกฟรีทั้งหมด ส่วนราคาสกินก็ถูกกว่าของ IOI หลายเท่าตัว

แต่เผยเชียนก็ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอะไร ยังไงตอนนี้ประเทศจีนก็มีคนเล่น IOI อยู่แล้ว ฐานผู้เล่นของเกมนี้ค่อนข้างดีทีเดียว

สำหรับผู้เล่น ปัญหาใหญ่ที่สุดไม่ใช่เรื่องราคา แต่เป็นเรื่องความเร็วการเชื่อมต่อต่างหาก

ขนาดใช้โปรแกรมเร่งความเร็วอินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมต่อกับเซิฟเวอร์ต่างชาติแล้ว เกมก็ยังกระตุกเยอะอยู่ดี การจะสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมจากประเทศอื่นนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ผู้เล่นเหล่านี้จะเปลี่ยนมาเล่นเซิฟเวอร์ในประเทศทันทีที่เปิดตัว ดังนั้นการเปิดตัวเซิฟเวอร์ในประเทศของเกม IOI จึงไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง ด้วยความสามารถระดับฉางหยางเกมส์ ยังไงก็สามารถออกตัวได้สวยโดยไม่ต้องเหนื่อยยากอะไรมาก

หลังจากมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้แผนกเกมทั้งสองเป็นการชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว เผยเชียนก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ชะล่าใจ ยังมีอีกหลายอย่างที่รอให้จัดการต่อ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามาในห้องทำงาน เลขาซินนั่นเอง

“บอสเผยคะ นี่เป็นรายงานการสำรวจอุตสาหกรรมสถานออกกำลังกายในเมืองจิงโจว ที่บอสขอมา ถ้าบอสไม่อยากอ่านข้อมูลเยอะๆ พลิกไปดูสรุปที่หน้าสุดท้ายเลยก็ได้ค่ะ”

เผยเชียนพยักหน้าแล้วรับรายงานการสำรวจนั้นมาจากเลขาซิน

เขาพลิกหน้ากระดาษดูผ่านๆ เอกสารส่วนหน้าเต็มไปด้วยข้อมูลและศัพท์เทคนิคอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด เขาไม่เข้าใจมันสักนิด

เผยเชียนค่อยๆ พลิกไปที่หน้าสุดท้ายอย่างใจเย็น แล้วถามขึ้นระหว่างอ่านสรุปรายงานไปด้วย “ตกลงแล้วกิจการฟิตเนสในจิงโจวนี่ทำเงินได้รึเปล่า”

เลขาซินนิ่งคิดครู่หนึ่ง “ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดการมันยังไงน่ะค่ะ”

เผยเชียนถามต่อ “หืม ขอรายละเอียดหน่อยซิ”

ดูเหมือนเลขาซินจะมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมสถานออกกำลังกายอยู่บ้าง เธอได้รับมอบหมายจากบอสเผยให้ทำงานวิจัยเชิงลึกเรื่องกิจการฟิตเนสในเมืองจิงโจว จึงรู้เนื้อหาในรายงานเป็นอย่างดี

“พูดง่ายๆ ก็คือข้อจำกัดของธุรกิจนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเราในปัจจุบันด้วยค่ะ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีนิสัยที่จะเข้าฟิตเนสเป็นประจำอยู่แล้ว ต่อให้เป็นคนที่เข้าฟิตเนสประจำ ก็มักมีรายได้ไม่มากพอจะเอามาจ่ายค่าฟิตเนสหรู

“ธุรกิจนี้มักไปได้ดีกว่าในเมืองใหญ่ที่มีพนักงานออฟฟิศเยอะๆ ถ้าคิดจะทำธุรกิจแบบนี้ในเมืองรองอย่างจิงโจว เราย่อมเห็นปัญหามาแต่ไกลแน่นอน

“กลยุทธ์คิดค่าสมาชิกถูกๆ แบบที่ฟิตเนสหลายแห่งชอบทำเพื่อเรียกลูกค้า นั้นยากที่จะมีรายได้เพียงพอเอามาจ่ายค่าดำเนินการรายวันอย่างค่าเช่า ค่าอุปกรณ์ ค่าแรง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าระบบทำความเย็นและความร้อน ค่าระบบป้องกันอุทกภัย รวมไปถึงค่าต่างๆ ที่ต้องใช้ในการเปิดฟิตเนสซักแห่งด้วย เลิกหวังที่จะคิดเรื่องกำไรได้เลย

“มองจากมุมนี้แล้ว ยังไงกิจการฟิตเนสก็ทำเงินให้เราไม่ได้ค่ะ ฟิตเนสหลายที่ต้องปิดตัวลงก็เพราะเงินไม่พอหมุน ยิ่งลงทุนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกดดันให้ต้องทำการตลาดยิ่งใหญ่ตามไปด้วย

“แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีฟิตเนสอีกหลายแห่งที่ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ กลยุทธ์หลักก็คือต้องขายคอร์สเทรนนิ่งส่วนตัวให้กับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงๆ ยิ่งขายได้มากก็ยิ่งทำเงินได้มาก

“ดังนั้นเป้าหมายหลักของเทรนเนอร์ส่วนตัวในฟิตเนสทั้งหลายจึงไม่ใช่การสอนผู้เรียนให้ดีที่สุด แต่คือการสอนยังไงให้ขายคอร์สได้ต่อเนื่องเรื่อยๆ แวดวงเทรนเนอร์ก็ไม่ต่างอะไรจากแวดวงการตลาด ขายคอร์สได้เก่งเท่าไหร่ก็เป็นที่ต้องการของตลาดมากเท่านั้น

“พูดง่ายๆ ก็คือโมเดลทำเงินของฟิตเนสทุกวันนี้อยู่ที่การทำบัตรสมาชิก โดยเฉพาะสมาชิกใหม่ที่สมัครรายปี สมาชิกใหม่พวกนี้มักจะยังไม่มีนิสัยออกกำลังกายเป็นประจำ และยากมากที่จะสร้างนิสัยนั้นได้ ฟิตเนสจึงได้กำไรจากการที่คนเหล่านั้นสมัครสมาชิกแต่ไม่เข้ามาใช้งานฟิตเนส

“ในขณะเดียวกันราคาบัตรสมาชิกที่ถูกหน่อยก็จะดึงดูดลูกค้าได้มาก เมื่อถึงตอนนั้นเทรนเนอร์ส่วนตัวก็จะเริ่มร่ายมนตร์ของพวกเขา เสาะหาลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง แล้วเป่าหูให้ซื้อคอร์สส่วนตัว กำไรส่วนใหญ่ก็มาจากตรงนี้แหละค่ะ

“อันที่จริงก็มีกลยุทธ์อื่นๆ อีกเพียบ เช่น ให้ทดลองใช้งานฟรี คนรุ่นใหม่มักจะมีปัญหาด้านสุขภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เทรนเนอร์ส่วนตัวพวกนี้จะจงใจขยายปัญหาเหล่านั้นให้ดูน่ากลัว แล้วถือโอกาสขายคอร์สซะเลย

“จริงๆ ดิฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ ว่าในอุตสาหกรรมนี้ยังมีฟิตเนสที่ไม่ฉวยโอกาสจากลูกค้าอยู่ แต่ส่วนใหญ่ฟิตเนสเหล่านั้นมักจะวุ่นวาย และไม่ค่อยมีมาตรฐานเท่าไหร่

“ลูกค้าหลายคนที่ใช้งานฟิตเนสเหล่านั้นมักจะเอือมระอากับความวุ่นวาย แต่เหตุผลที่มันเป็นอย่างนั้นก็ซับซ้อนและไม่อาจแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นๆ

“บอสเผยค่ะ ถ้าบอสอยากลองจับธุรกิจนี้ดู ดิฉันเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อทั้งอุตสาหกรรมเลยล่ะค่ะ แต่บอสก็ต้องพิจารณาถึงปัญหาที่คาราคาซังพวกนี้ให้ดีด้วยนะคะ

“การสร้างฟิตเนสหรูที่มีจรรยาบรรณขึ้นมา แม้จะเป็นบอสเผยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอนค่ะ…”

……………….

[1] สุภาษิตโบราณนี้ตัดทอนมาจากคัมภีร์หลุนอวี่ของนักปราชญ์ชื่อดังอย่างขงจื่อ ซึ่งสุภาษิตทั้งหมดกล่าวไว้ว่า ‘อายุ 15 หมั่นเพียรเรียนรู้ อายุ 30 มุ่งมั่นตั้งตัว อายุ 40 หมดความลุ่มหลง อายุ 50 รู้ชะตาฟ้า อายุ 60 รับฟังไม่หวั่นไหว อายุ 70 ชีวิตเสรี ปล่อยไปตามครรลอง’

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset