วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม
ครัวส่วนตัวหมิงหยุน
อากาศเริ่มอุ่นขึ้น วันนี้แดดออก ดวงอาทิตย์ส่องแสงจ้าในตอนบ่าย
ในสวนของครัวส่วนตัวหมิงหยุนมีโต๊ะเก้าอี้วางเรียงพร้อมร่มติดโต๊ะ รวมๆ แล้วมีมากกว่าเดิมสิบโต๊ะเพิ่มรับแขกเพิ่ม
ฟ้าโปร่ง ลมพัดเย็น บรรยากาศด้านนอกแตกต่างออกไป
ตอนนี้พนักงานหลักของเถิงต๋าจากกิจการต่างๆ มารวมกันที่นี่ พวกเขากินดื่มพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนานระหว่างที่พนักงานยกอาหารออกมาเสิร์ฟและคอยรินเครื่องดื่มให้ ทั้งภัตตาคารเต็มไปด้วยความครื้นเครง
หัวหน้ากิจการต่างๆ ต้อนรับพวกหร่วนกวางเจี่ยนอย่างอบอุ่น เพื่อให้ทีมงานจากกวงหวงสตูดิโอรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
หัวหน้ากิจการหลายคนใช้โอกาสนี้ขอบคุณหัวหน้ากิจการต่างๆ
ตัวอย่างเช่น ฉางโหย่วจากบริษัท OTTO
ความสำเร็จของ OTTO E1 ต้องยกความดีความชอบให้กับเงินทุนและการสนับสนุนจากกิจการต่างๆ ถึงผู้อำนวยการหลินจะเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้ให้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจของเถิงต๋ากรุ๊ป และบริษัท OTTO จะแบ่งกำไรที่ได้จากการขายมือถือเป็นค่าตอบแทน
ถึงอย่างนั้นฉางโหย่วก็ไม่คิดมองข้ามการสนับสนุนนี้ เขาขอบคุณกิจการอื่นๆ แทนพนักงานทุกคนของบริษัท OTTO เพื่อสร้างรากฐานการทำงานร่วมกันที่มั่นคงต่อไปในอนาคต
หวงซื่อปั๋วจากเฟยหวงสตูดิโอก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง
โฆษณาและโลโก้สุดล้ำในหนังได้มาจากการร่วมมือกันของกิจการต่างๆ ถึงกิจการต่างๆ จะได้ผลประโยชน์ไม่มากก็น้อยจากความสำเร็จของหนัง แต่หวงซื่อปั๋วก็อยากจะกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนอยู่ดี
นอกจากนั้นทุกคนยังให้การต้อนรับเหล่าพนักงานใหม่อย่างอบอุ่น
อย่างเช่น แก๊งหัวหน้าหน้าใหม่จากฝ่ายเกมเถิงต๋า หูเสี่ยนปิน หมิ่งจิ้งเชา และจางหนาน
หลังจากรับไม้ต่อจากหลี่หย่าต๋าและเปาซวี่ ทั้งสามก็ดำเนินการต่อได้อย่างยอดเยี่ยม เกม GOG เวอร์ชันมือถือเป็นกระแสดัง ทำให้ความสามารถของพวกเขาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในบริษัท
เหล่าเพื่อนเก่าใช้โอกาสนี้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและเล่าเรื่องการงานที่ทำอยู่
ส่วนเผยเชียนนั้นไม่ได้มาร่วมงานด้วยวันนี้
เขาคาดการณ์เอาไว้แล้วว่างานเลี้ยงจะเป็นยังไง ถ้าโผล่หน้ามาร่วมงาน สิ่งที่ต้องเจอก็มีแค่อย่างเดียว
โดนเอาเกลือถูแผลแน่!
แค่คิดว่าต้องไปอยู่ในสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วนใจที่หัวหน้ากิจการต่างๆ พากันดื่มอวยพรและอวยยศว่าความสำเร็จคงไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ได้คำแนะนำอันล้ำเลิศจากบอสเผย เขาก็รู้สึกปวดใจแล้ว
เพราะงั้นก็เลยตัดสินใจไม่ไปดีกว่า
ก็เหมือนคำพูดที่ว่าไม่เห็นก็จะไม่คิด ยังไงในอนาคตก็ยังมีโอกาสจัดเลี้ยงที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนอีกมาก เพราะงั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปงานนี้ก็ได้
หัวหน้ากิจการทุกคนรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่พนักงานคนอื่นๆ ที่มาร่วมงานเลี้ยงไม่รู้
พอเริ่มงานได้สักพัก หลายคนจึงถามขึ้น
“อ้าว บอสเผยไม่มาเหรอครับผู้อำนวยการหลิน”
“จริงด้วย ปกติบอสมาตลอดนะ”
“โห… วันนี้วันอาทิตย์ บอสเผยก็ยังทำงานเหรอเนี่ย บอสห้ามเราไม่ให้ทำงานล่วงเวลา แต่บอสกลับทำงานช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ซะเอง”
สายตาของหลายคนเปี่ยมไปด้วยความกังวลและรู้สึกผิด
ที่กังวลก็เพราะไม่รู้ว่าร่างกายของบอสเผยจะรับไหวรึเปล่าที่ต้องทำงานหนักขนาดนี้ ส่วนที่รู้สึกผิดก็เพราะคิดว่าดูไม่เหมาะเลยที่จะมาเลี้ยงฉลองในภัตตาคารกันระหว่างที่บอสเผยทำงานตัวเป็นเกลียว
หลินหวานยกแก้วไวน์แดงขึ้นพลางยิ้ม “ไม่ต้องคิดมากนะคะทุกคน ที่บอสเผยไม่มาวันนี้ไม่น่าจะเพราะเรื่องงานอย่างเดียว อาจจะมีเรื่องอื่นด้วย”
เสียงจอแจเงียบลงไปมากเมื่อทุกคนหันมาทางหลินหวานพร้อมกับถามขึ้น “ผู้อำนวยการหลินรู้ข่าววงในอะไรเหรอครับ”
หลินหวานส่ายหน้า “เปล่าค่ะ แต่ก็พอจะเดาได้!
“หนูคิดว่าที่บอสเผยไม่มาวันนี้น่าจะมีเหตุผลหลักๆ อยู่สองอย่าง”
ทุกคนรอฟังอย่างตั้งใจ
“เหตุผลแรกคือ บอสเผยอยากให้ทุกคนได้มีพื้นที่ส่วนตัว
“บอสอาจคิดว่า ถ้าบอสมางานด้วยจะทำให้พวกเราเกร็งกัน เราอาจจะเกร็งกันใหญ่ถ้าเห็นบอสอยู่ด้วย บรรยากาศงานอาจกร่อยได้
“เพราะงั้นบอสเผยเลยตั้งใจไม่มางาน เพื่อที่พวกเราจะได้ฉลองกันได้ตามสบายไม่ต้องมัวเกร็ง เราจะได้ผ่อนคลายและสนุกสนานกันได้เต็มที่จากความสำเร็จที่เราทำ”
ทุกคนพยักหน้าตามๆ กัน เพราะคิดว่าที่เธอพูดฟังดูมีเหตุผล
บอสเผยเป็นคนเข้าถึงได้ง่ายเพราะไม่เคยวางมาด แต่ยังไงบอสก็เป็นเจ้านายพวกเขาอยู่ดี
แถมบอสเผยยังเป็นคนมองการณ์ไกลและเป็นยอดนักวางแผน เหล่าหัวหน้ากิจการต่างๆ แทบจะเห็นแสงทองส่องออกมาจากหัวบอส เพราะงั้นจึงเกือบเป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนจะมองบอสเป็นคนธรรมดา
ด้วยเหตุนี้บรรยากาศงานต้องเปลี่ยนไปนิดหน่อยแน่ถ้าบอสเผยมา
เพื่อให้ทุกคนได้กินได้พูดคุยและได้ผ่อนคลายกันเต็มที่ บอสเผยจึงตั้งใจไม่มางาน!
หลินหวานยิ้มแล้วอธิบายต่อ “อีกเหตุผลคือ บอสเผยคงทำงานอยู่จริงๆ แต่งานของบอสน่าจะแตกต่างจากที่ทุกคนคิด
“ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ทุกคนไม่สังเกตอะไรที่มันผิดปกติเหรอคะ
“บอสเผยมักจะยุ่งที่สุดตอนที่ทุกโปรเจ็กต์สำเร็จลุล่วงแล้ว!”
ทุกคนลองนึกย้อนกลับไปแล้วก็พบว่าเป็นจริงตามที่เธอพูด
ตอนเริ่มงานแต่ละโปรเจ็กต์ บอสเผยจะให้แค่แนวทางคร่าวๆ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้แต่ละกิจการดำเนินการกันตามสบาย
ระหว่างการค้นคว้าและพัฒนาบอสเผยจะเข้ามาถามไถ่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เร่งการดำเนินการหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดงานอะไร มีแค่ลงโทษคนที่ไม่ยอมทำตามจิตวิญญาณของเถิงต๋า เช่น เร่งงานแบบไม่ลืมหูลืมตาหรือทำงานล่วงเวลา
กลับกันพอโปรเจ็กต์ประสบความสำเร็จและทุกคนเริ่มพักผ่อนกัน บอสเผยจะเริ่มยุ่งขึ้นกว่าเดิม บอสมักหายตัวไปบ่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าบอสทำอะไรอยู่
แถมช่วงนี้บอสยังมักดูกังวลและหนักใจ เหมือนว่ามีเรื่องให้คิดมาก
“ทำไมล่ะครับ” คนหนึ่งถามขึ้น
หลินหวานจิบไวน์แดงแล้วตอบคำถามด้วยน้ำเสี่ยงที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ “รู้มั้ยคะว่าทำไมเราถึงสบายใจกันได้นาน ก็เพราะมีคนคอยแบกภาระให้เราอยู่
“ก็เหมือนคำพูดที่ว่า คนไม่ตรองการณ์ไกล ความยุ่งยากใจก็จะใกล้เข้ามา ทุกคนคิดเหรอคะว่าที่โปรเจ็กต์พวกเราประสบความสำเร็จกันหมดเป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆ”
คำถามของเธอทำทุกคนผงะไป
ทำไมโปรเจ็กต์ถึงประสบความสำเร็จล่ะ
เพราะทุกคนทำงานกันเต็มที่เหรอ
เรื่องนั้นอาจเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่บริษัทที่ทำงานเต็มที่นั้นมีมากมาย ซึ่งก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จกันทุกบริษัท
ที่เถิงต๋า ทุกครั้งที่พวกเขาทำงานหนักโอกาสประสบความสำเร็จจะสูงขึ้น เอาเข้าจริงมันสูงกว่าบริษัทอื่นๆ มากเลยทีเดียว!
อย่างในรอบบัญชีนี้ พวกเขาทำเกมสองเกม ผลิตมือถือ สร้างหนัง ทำตู้โทรศัพท์ให้เช่า และทำแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ โปรเจ็กต์ที่เคยนึกเป็นห่วงในตอนแรกกลับประสบความสำเร็จหมด แค่คำว่า ‘ทำงานเต็มที่’ กับ ‘โชคช่วย’ ไม่น่าจะอธิบายเรื่องนี้ได้
หลินหวานพูดต่อ “ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าที่โปรเจ็กต์ประสบความสำเร็จก็เพราะได้แนวทางที่ถูกต้อง ทุกกิจการเองก็คอยช่วยเหลือกันและกัน ทำให้โอกาสประสบความสำเร็จของเราเพิ่มขึ้นโนiวลกูดอทคอม
“ถ้าเราลงทุนทำหนังหรือพัฒนามือถือตั้งแต่ปีที่แล้ว โอกาสสำเร็จของเราน่าจะน้อยกว่าตอนนี้มาก เพราะขาดความช่วยเหลือจากกิจการอื่นๆ!
“เห็นได้ชัดว่าบอสเผยวางแผนไว้อย่างละเอียดตั้งแต่ต้น บอสคิดเอาไว้แล้วว่าโปรเจ็กต์ไหนทำได้ โปรเจ็กต์ไหนทำไม่ได้
“ทำไมบอสถึงยุ่งที่สุดช่วงหลังจากโปรเจ็กต์เสร็จสมบูรณ์แล้วน่ะเหรอคะ
“ก็เพราะบอสต้องเริ่มวางแผนโปรเจ็กต์ในขั้นต่อไป
“ทุกคนลองคิดดูสิคะ บอสต้องวางแนวทางที่ดีให้กับโปรเจ็กต์และคิดเรื่องผลลัพธ์จากการร่วมมือกันของกิจการต่างๆ มีเรื่องให้บอสคิดตั้งมากมาย แถมยังเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากด้วย ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางเสร็จในวันสองวัน
“อีกอย่างบอสเผยให้แผนที่สมบูรณ์แบบกับพวกเราในช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์แรก แถมยังช่วยผลักดันพวกเราเล็กน้อยตอนสั่งงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากกว่าที่คิดนะคะ!
“บอสเผยอายุยังน้อย แต่กลับวางแผนได้อย่างยอดเยี่ยมและสร้างผลงานได้มากมายขนาดนี้ ความสามารถอันน่าทึ่งนี้อาจมาจากพรสวรรค์ของบอสก็จริง แต่เราจะมองข้ามการทำงานหนักของบอสไม่ได้
“ทุกวินาทีในแต่ละวัน บอสเผยกำลังคิดถึงสิ่งที่เราไม่เคยคิด คิดในเรื่องที่เราเองก็ไม่เคยรู้
“หนูคิดว่าพวกเราทุกคนควรเอาบอสเป็นแบบอย่าง เราไม่ควรสนแค่เรื่องกินเลี้ยงหลังทำโปรเจ็กต์เสร็จ แต่ควรคิดเรื่องแผนงานในอนาคต เพื่อที่จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้!”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่!”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบอสเผยถึงดูเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดในช่วงเวลาดีๆ แบบนี้!”
หลินหวานพูดต่อ “หนูคิดว่าพวกเราไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพบอสเผยด้วยเหมือนกัน
“ในฐานะผู้สร้างจิตวิญญาณของเถิงต๋า บอสเผยน่าจะรู้เรื่องการวางสมดุลระหว่างงาน การพักผ่อน และสุขภาพมากกว่าพวกเราทุกคน บอสบอกเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าให้พักเยอะๆ หาความสุขให้ตัวเองมากๆ บอสต้องเข้าใจเรื่องความสำคัญของการดูแลสุขภาพร่างกายมากกว่าใครทั้งหมด
“อย่าเป็นห่วงไปเลยค่ะทุกคน ดูจากบอสตอนนี้แล้ว บอสน่าจะคอยนำทางเราไปได้อีกสี่สิบปี
“ซึ่งก็บังเอิญตรงกับอายุเกษียณของประเทศเราพอดีเลย!”
ใบหน้าทุกคนเปี่ยมไปด้วยความสุขใจ
“เข้าใจแล้วครับ!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้น แต่ทุกคนก็เริ่มปรบมือกันเกรียวกราว
ใช่แล้ว ปีนี้บอสเผยเพิ่งจะอายุยี่สิบ นักธุรกิจชื่อดังหลายคนยังวนเวียนอยู่ในวงการแม้จะอายุปาไปเจ็ดสิบแปดสิบแล้ว
ถึงในอนาคตบอสเผยจะรู้สึกพอใจกับผลงานของตัวเองแล้วนึกอยากเกษียณ อย่างน้อยบอสก็น่าจะรอให้ถึงหกสิบก่อน
ยังเหลืออีกตั้งสี่สิบปี!
บริษัทสร้างผลงานยอดเยี่ยมได้มากมายในช่วงสองปีที่ผ่านมาภายใต้การนำทางของบอสเผย ใครจะรู้ว่าอีกสี่สิบปีเถิงต๋าจะพัฒนาไปในแนวไหน
การงานของแต่ละคนจะเปลี่ยนไปยังไง
แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!
ถ้าได้ทำงานกับเจ้านายแบบบอสเผย อย่าว่าแค่สี่สิบปีเลย ทุกคนยอมทำงานไปด้วยทั้งชีวิต!
ทุกคนเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา บรรยากาศในภัตตาคารจึงคึกคักขึ้นกว่าเดิม
…
บอสเผยที่อดหลับอดนอนเล่นเกม GOG สะดุ้งตื่นจากฝัน เขาลืมตาขึ้นมาเห็นดวงอาทิตย์ยามบ่ายจึงรีบสงบจิตสงบใจตัวเอง
“ทำไมถึงฝันร้ายตอนกลางวันแสกๆ ได้
“น่ากลัวฉิบหาย ฉันฝันว่าถึงจะทำงานหนักมาทั้งชีวิต ฉันก็ขาดทุนจนกลายเป็นเศรษฐีไม่ได้ ตอนอายุหกสิบยังโดนพนักงานรุมแทงข้างหลังยับอยู่เลย!
“ชีวิตเฮงซวยเกินไปแล้ว!
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉันจะเอาหัวโหม่งเต้าหู้ตาย!
“ใจเย็นๆ ความฝันมักตรงข้ามกับความเป็นจริงเสมอ ไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้…”
เผยเชียนหาวแล้วพลิกตัวกลับไปนอน