วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม
ฉางหยางเกมส์
หลินหวานพลิกมือถือ OTTO E1 ในมือไปมาด้วยแววตาชื่นชม
“เอาเข้าจริง พอเริ่มชินก็ไม่ได้รู้สึกหนักขนาดนั้น
“อีกอย่างตอนแรกรู้สึกว่าหน้าจอใหญ่แบบนี้ใช้งานมือเดียวลำบากมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามองเนื้อหาในจอเล็กๆ ลำบากกว่า
“พอได้สัมผัสหน้าจออัตรารีเฟรชเรตสูงกับแบตสุดอึดก็กลับไปใช้เครื่องเก่าไม่ได้อีก
“ดูเหมือนว่าบอสเผยจะคิดทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้วก่อนวางแนวทางการค้นคว้าและพัฒนามือถือเครื่องนี้ ช่างมองการณ์ไกลจริงๆ”
หลินหวานใช้มือถือรุ่นเรือธงของเฉินฮว่ามาก่อน ตอนเปลี่ยนมาใช้มือถือ OTTO E1 แรกๆ ก็รู้สึกปรับตัวได้ยาก แต่พอผ่านไปสองสามวันปัญหานั้นก็หมดไป
เอาเข้าจริงหลังเล่นเกม GOG ได้ไม่กี่วัน เธอก็สอยสกินในเกมมาครบทุกสกิน
หลินหวานอดรู้สึกตื้นตันใจไม่ได้เมื่องานของเธอผ่านมาจนถึงขั้นนี้
เธอลำบากมากช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เพราะต้องดูแลฉางหยางเกมส์และบริษัท OTTO ไปพร้อมๆ กัน การสลับบทบาทไปมาเป็นเรื่องที่ยากมาก
โดยเฉพาะการค้นคว้าและพัฒนาเกมสยองขวัญนี่แหละที่ทำให้เจองานหนักขึ้นไปอีก
โชคดีที่ได้ไปสัมผัสประสบการณ์บ้านผีสิงที่ต่างประเทศกับทีมพนักงานเสาหลัก ได้ความช่วยเหลือจากคุณหร่วนกวางเจี่ยน และได้บอสเผยช่วยตบให้เข้ารูปเข้ารอย เกม BE QUIET เลยออกมาสมบูรณ์แบบ
ถึงยอดขายจะไม่ได้พุ่งกระฉูด แต่ชื่อเสียงเกมก็อยู่ในระดับดีมาก น่าจะเป็นผลดีในระยะยาว และบอสเผยก็น่าจะพอใจในจุดนี้
ด้านธุรกิจมือถือ หลินหวานทำได้แค่เชื่อมั่นในตัวฉางโหย่ว เพราะเธอแบกภาระงานเยอะเกินไปไม่ไหว
แต่ก็ต้องยกความดีความชอบให้เธอด้วยเหมือนกัน เพราะหลินหวานเป็นคนแนะนำให้เอากิจการอื่นๆ ของเถิงต๋ามาช่วยเพิ่มมูลค่าให้ตัวมือถือ และเธอก็เป็นคนไปเจรจากับกิจการรองต่างๆ เองด้วย
สรุปแล้วหลินหวานพอใจกับผลงานของตัวเองในช่วงที่ผ่านมามาก!
แน่นอนว่าก็มีข้อบกพร่องบ้างเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ยอดขายเกม BE QUIET ไม่ปัง มือถือ OTTO E1 ขายได้แค่ในเมืองจิงโจว โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนเกมของเถิงต๋า ไม่ได้รับการยกย่องให้เป็นมือถือขั้นเทพหรือเป็นของที่ต้องมีทุกบ้าน
แต่มนุษย์เราก็ต้องมีข้อบกพร่องบ้างเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป
หลินหวานมองว่าในแวดวงธุรกิจนั้นตัวเองเป็นแค่คนธรรมดา จะหวังพึ่งบอสเผยตลอดเวลาเพียงเพราะเป็นลูกน้องบอสไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะเป็นการทำร้ายตัวเองและทำลายแรงจูงใจที่จะผลักดันให้ตัวเองทำงานหนักขึ้น
ไม่ว่าจะพยายามหนักขนาดไหน เธอก็ไม่มีทางก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับบอสเผยได้ เพราะงั้นก็ควรใส่ใจจุดที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้ และค่อยๆ ทำงานของตัวเองไป
งานค้นคว้าและพัฒนาจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่ดูแลความเรียบร้อย
ตัวอย่างเช่น เกม BE QUIET เป็นเกมออนไลน์ ที่ต้องดูแลคือต้องคอยแก้บั๊กและปรับปรุงระบบ พร้อมกับปล่อยเนื้อหาใหม่ๆ เพื่อดึงความสนใจผู้เล่นไว้ให้ได้ตลอด
ส่วนมือถือ OTTO E1 ก็ต้องคอยอัปเดตและปรับปรุงระบบด้วยเหมือนกัน
เห็นได้ชัดว่าภาระงานในตอนนี้ไม่หนักเท่าตอนช่วงค้นคว้าและพัฒนา
หลินหวานรู้สึกผ่อนคลายลงมาก เธอเลื่อนดูเว็บช็อปปิ้งออนไลน์เพื่อซื้อกระเป๋าไม่ก็เล่นเกม เรียกได้ว่าชีวิตดีมีความสุข
ขณะเดียวกันเธอก็รอให้บอสเผยมอบหมายงานใหม่ให้ด้วย
เธอนึกถึงตอนบอสเผยมอบงานใหญ่ให้สองงาน คือดูแลฉางหยางเกมส์กับกิจการมือถือ ตอนนั้นหลินหวานคิดว่าตัวเองน่าจะเอาตัวไม่รอดและทำทุกอย่างพังไม่เป็นท่าแน่
แต่ทุกอย่างกลับเป็นไปได้ด้วยดี!
หลินหวานอดรู้สึกประทับใจไม่ได้ เหมือนว่าบอสเผยจะมองขีดความสามารถสูงสุดของพนักงานได้อย่างเฉียบขาด
สุดยอดเกินไปแล้ว!
หลินหวานอดใจรอบอกข่าวคราวความสำเร็จให้ครอบครัวได้รับรู้และอวดผลงานกับหลินหยูแทบไม่ไหวแล้ว
“เฉินฮว่าวางราคามือถือรุ่นเรือธงเกินแปดพันหยวนได้มั้ย ทำได้รึเปล่า!
“แต่เถิงต๋าทำได้นะ!”
หลินหวานนึกภาพหลินหยูหน้าเสียแล้วอดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้!
ระหว่างที่กำลังคิดไปนั่นไปนี่ มือถือก็มีข้อความเข้า
“พรุ่งนี้สตูดิโอของเราจะย้ายไปเมืองจิงโจวอย่างเป็นทางการ! จากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ!”
เป็นข้อความมาจากหร่วนกวางเจี่ยน
หลินหวานตาเป็นประกาย คุณหร่วนจัดการงานที่เซี่ยงไฮ้เสร็จหมดแล้วเหรอ
ยอดเลย!
ธันวาคมปีก่อน หร่วนกวางเจี่ยนมาช่วยออกแบบคอนเซปต์ฮีโร่เกม GOG ให้ถึงจิงโจว ตอนนั้นบอสเผยพยายามป้ายยาดึงตัวเขาไว้หนักมาก
บอสชวนคุณหร่วนไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกา แนะนำสิทธิประโยชน์ของเถิงต๋า แถมยังสร้างบ้านผีสิงให้คุณหร่วนโดยเฉพาะ ทุกอย่างเหมือนจะบอกเป็นนัยว่า
มาอยู่จิงโจวสิ! จิงโจวน่าอยู่จะตาย!
คุณหร่วนเข้าใจที่บอสต้องการจะสื่อดี หลังจากจัดการงานภาพให้เกมสองเกม เขาก็รีบบินกลับไปสะสางงานทั้งหมดที่เซี่ยงไฮ้
ตอนนี้เขาจัดการงานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สามารถย้ายถิ่นฐานได้อย่างเป็นทางการ!
หลินหวานเดาว่าหร่วนกวางเจี่ยนน่าจะมาที่จิงโจวได้สักพักแล้ว แต่คงคิดว่าช่วงที่ผ่านมาเถิงต๋ายุ่งมาก ไม่อยากสร้างความลำบากให้ ก็เลยจัดการเช่าตึก ซื้อเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์สำนักงาน และอื่นๆ เองโดยไม่บอกใคร ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
พอจัดการทุกอย่างเสร็จถึงได้มาแจ้งข่าวให้หลินหวานรู้
หลินหวานรีบถาม “บอสเผยรู้เรื่องนี้รึยังคะ”
หร่วนกวางเจี่ยน “ผมส่งข้อความไปแล้ว แต่บอสยังไม่ตอบกลับ น่าจะยุ่งอยู่มั้งครับ”
หลินหวานพยักหน้าคนเดียว บอสเผยน่าจะยุ่งมาก ไม่งั้นก็คงมาต้อนรับคุณหร่วนอย่างอบอุ่นแล้ว น่าจะจัดกิจกรรมต้อนรับให้แบบยกใหญ่ไฟกะพริบ
ไม่รู้ตอนนี้บอสเผยยุ่งอยู่กับอะไร
ถ้างั้นก็อย่าไปกวนจะดีกว่า
หร่วนกวางเจี่ยนช่วยพวกเธอไว้มากตอนค้นคว้าและพัฒนาเกม BE QUIET ในฐานะที่เป็นคนดูแลฉางหยางเกมส์ หลินหวานรู้สึกว่าต้องต้อนรับหร่วนกวางเจี่ยนให้เหมาะสม
“สตูดิโอของคุณหร่วนอยู่ไหนคะ เดี๋ยวหนูพาพวกเยว่จือโจวไปเยี่ยม” หลินหวานถาม
ไม่นานหร่วนกวางเจี่ยนก็ส่งที่อยู่กลับมาให้
หลินหวานกดเปิดดูแล้วก็ต้องแปลกใจ
“หืม นี่มัน…ตรงข้ามร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหา’ลัยฮั่นตงเลยไม่ใช่เหรอ”
…
ณ ตึกสองชั้นตรงข้ามร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
ตึกนี้เคยเป็นร้านหนังสือมาก่อน เพราะเป็นทำเลใกล้มหาวิทยาลัยฮั่นตง ร้านเลยได้กำไรจากการขายนิยายยอดนิยมกับหนังสือวิชาการ แต่พอการช็อปปิ้งออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นรายได้ของร้านหนังสือก็ตกลงเรื่อยๆ
ร้านนี้กัดฟันเปิดกิจการได้นานกว่าร้านอื่น แต่ก็ต้องแตกพ่ายให้กับกระแสออนไลน์ช็อปปิ้ง ทำให้ต้องปิดตัวไปเงียบๆ
ตอนนี้ทั้งหนังสือและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในร้านถูกขนออกไปหมดแล้ว ด้านในผ่านการตกแต่งใหม่ ก่อนจะขนเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงานระดับไฮเอนด์เข้ามาแทน
คนเดินผ่านไปผ่านมาต่างหยุดมอง แต่พอรู้ว่าไม่ได้จะขายอะไรก็เลิกสนใจแล้วออกเดินต่อ
ฝั่งตรงข้าม ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เผยเชียนกำลังนั่งจิบกาแฟพลางครุ่นคิดถึงชีวิต
บทสนทนากับบอสหลี่เมื่อวันก่อนยังทำเขาเจ็บไม่หาย ทำให้เผยเชียนเลือกที่จะหนีหายไปหนึ่งวัน
เขาไม่มีอารมณ์แม้แต่จะแก้แค้นเฮ่อเต๋อเซิ่งกับหยูผิงอัน
หลังจากไต่ตรองดูอย่างถี่ถ้วน เผยเชียนก็คิดว่าคงไม่เหมาะที่จะไปลงโทษสองคนนั้น เพราะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่พวกเขาดูแลนั้นประสบความสำเร็จดี
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า หนี้ท่วมหัวแต่อย่ามัวเป็นกังวล เผยเชียนโดนพนักงานมากมายแทงข้างหลังจนเริ่มไม่รู้ว่าต้องแก้แค้นใครบ้าง
เผยเชียนพบปัญหาร้ายแรงในการบริหารบริษัท
ดูเหมือนว่าแค่ระบบคัดที่หนึ่งออกจะไม่พอกับการแก้ปัญหา…
พอมีโปรเจ็กต์ทำกำไรมากมายขนาดนี้ การกำจัดหัวหน้าโปรเจ็กต์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดนั้นเปลี่ยนแปลงอะไรในภาพรวมไม่ได้
เขาต้องหาวิธีอื่น
เผยเชียนยกกาแฟขึ้นจิบด้วยความหดหู่พร้อมกับคิดหาวิธีแก้ปัญหา
ช่วงที่เขาหายตัวไปมีคนพยายามติดต่อเข้ามา แต่เขาก็ไม่ยอมเปิดอ่านหรือตอบข้อความเลย
เขากลัวว่าใจของตัวเองจะรับไม่ไหวถ้าได้ฟังข่าวร้าย จนกระทบกับการวางแผนหาวิธีพลิกกำไรเป็นขาดทุน
เหล่าพนักงานเองก็ชินกับการที่บอสเผยชอบหายตัวไป ถึงบอสจะไม่ตอบข้อความ พวกเขาก็ทำงานเสร็จลุล่วงได้ด้วยตัวเอง
เผยเชียนมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตึกสองชั้นฝั่งตรงข้าม ร้านหนังสือปิดกิจการไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว แต่เมื่อสองวันก่อนมีการปรับปรุงตึกใหม่ ไม่รู้ว่าผู้กล้าหน้าใหม่เป็นใครกัน
จริงๆ ทำเลแถวนี้ไม่ได้ดีขนาดนั้น ไม่งั้นเผยเชียนไม่เลือกทำเลตรงนี้มาเปิดสาขาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูหรอก
ที่คนมองว่าที่ตรงนี้มีแววทำกำไรก็เพราะช่วงที่ผ่านมาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูช่วยปลุกกระแสให้กับพื้นที่ละแวกนี้
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้หวังอะไรกับอีกฝ่ายมาก
“ถ้าทนได้ไม่ถึงสามเดือนก็คงต้องเจ๊งไปตามระเบียบ ไม่น่าจะเป็นเพื่อนบ้านกันได้นานหรอก
“เฮ้อ อิจฉาจัง”
เผยเชียนเคยคิดจะเซ้งร้านหนังสือ แต่หลังจากผ่านวงจรอุบาทว์มาหลายครั้ง เขาก็เริ่มจะเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้วว่าโปรเจ็กต์ที่ขาดทุนยับจะพลิกกลับมาทำกำไรได้ทันทีที่เขารับช่วงต่อ
ดูอย่างฉางหยางเกมส์กับแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ สิ…
ถ้าเผยเชียนนั่งดูเฉยๆ โปรเจ็กต์ที่ขาดทุนอยู่ก็จะขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ แต่พอเข้าไปยุ่งปุ๊บ โปรเจ็กต์นั้นก็พลิกมาทำกำไรปั๊บ
อีกอย่างร้านหนังสือก็ไม่น่าจะขาดทุนได้เยอะแยะขนาดนั้น เผยเชียนเลยไม่ซื้อกิจการต่อ แต่ก็มีคนเข้ามาซื้อแทนจนได้
“ช่างเถอะ จะเป็นใครก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันอยู่แล้ว
“เซ้งร้านหนังสือใกล้เจ๊งมาก็ไม่ช่วยให้ผลาญเงินให้ถึงเป้าอยู่ดี เอาเวลาไปคิดหาวิธีขาดทุนให้ได้ตามเป้าก่อนถึงกำหนัดปิดบัญชีรอบนี้ดีกว่า…”
เผยเชียนยกแก้วกาแฟขึ้นแล้วหันกลับมาจิบ
แต่จังหวะนั้นเอง หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นกลุ่มคนหน้าคุ้นเดินเข้าตึกสองชั้นนั้นไป
กลุ่มคนที่ว่าคือหลินหวาน เยว่จือโจว หูเสี่ยนปิน และเฉินคังทั่ว…
“เอ๊ะ”
เผยเชียนคิดว่าตัวเองตาฝาดเลยหันกลับไปเพ่งดูอีกครั้ง คนที่เดินนำหน้าคือหลินหวานจริงๆ ด้วย!
พวกนั้นไปทำอะไรที่ตึกนั้นกัน
ระหว่างที่กำลังงุนงง เขาก็เห็นหร่วนกวางเจี่ยนเดินออกมาต้อนรับพวกหลินหวานอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าไปในตึก
เผยเชียน “???”
ภาพตรงหน้าเป็นเหมือนความฝัน
เขาขยี้ตาแล้วเพ่งดูป้ายที่ห้อยอยู่ตรงหน้าตึกชั้นสอง บนป้ายมีโลโก้สุดอาร์ตกับตัวหนังสือฟ้อนต์สวย
กวงหวงสตูดิโอ!
มือของเผยเชียนข้างที่ถือถ้วยกาแฟอยู่สั่นระริก
เวรเอ๊ย… ย้ายมาเร็วเกิ๊น!