เผยเชียนรีบกดเข้าไปดูหน้าประชาสัมพันธ์ของหนังเรื่องนั้นอย่างรวดเร็ว
Flying Star Journey
แอกชัน/ไซไฟ/แฟนตาซี 3D IMAX
สหรัฐอเมริกา/ 134 นาที
ฉายวันที่ 12 มีนาคม 2011
เรื่องย่อ
หนึ่งวันก่อนที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งจะอุบัติขึ้น อดีตนายทหารที่มีบาดแผลทางใจ (รับบทโดยจอห์น สแตนตัน) บังเอิญเดินทางไปยังดาวเคราะห์ลึกลับและต้องเข้าไปพัวพันกับข้อพิพาทมากมายบนดาวเคราะห์ดวงนั้น กลุ่มอำนาจต่างๆมองว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญที่จะยุติข้อพิพาทได้ อีกทั้งเขายังเอาชนะใจเจ้าหญิงลินน์แสนสวย (รับบทโดย เดก้า มอร์ตัน) ได้ด้วย แต่เขาจะสามารถลืมอดีตและพลิกโชคชะตาของดาวเคราะห์ดวงดีได้จริงๆ หรือไม่
อารมณ์ที่กำลังดีๆ อยู่ของเผยเชียนถูกทำลายไปทันทีที่อ่านเรื่องย่อจบ
เนื้อเรื่องไม่เห็นจะน่าสนใจเท่าไหร่เลย!
แต่…ดูเหมือนว่าหนังจากสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ก็จะออกมาแนวนี้ทั้งนั้น หนังที่ดังระเบิดระเบ้ออย่างเรื่องอวาตาร์ก็เกี่ยวกับการอพยพไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่น จากนั้นก็ตกหลุมรักสาวชาวพื้นเมืองของดาวเคราะห์ดวงนั้นหัวปักหัวปำ
ก็เกือบจะคล้ายๆ กันแหละ
ผู้กำกับกับเงินลงทุนต่างหากที่ถือเป็นปัจจัยหลัก!
ตราบใดที่ผู้กำกับน่าเชื่อถือและเงินลงทุนสูงพอ มันย่อมลากวันพรุ่งนี้ที่สดใสไปกับพื้นได้อย่างแน่นอน
เผยเชียนรีบเช็กข้อมูลที่เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ทันที
หลังจากตรวจดูอย่างละเอียด เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ยอดเลย!
ผู้กำกับดารีลกำกับแอนิเมชันสั้นเรื่องแรกของเขาตั้งแต่เมื่อปีค.ศ.1988 เขากำกับหนังมาแล้วหลายเรื่อง และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาหลายต่อหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน เมื่อปีค.ศ.2005 แอนิเมชันสั้นของเขากวาดรายได้ทั่วโลกไป 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และได้รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม และภาพยนตร์แอนิเมชันแนววิทยาศาสตร์ของเขาก็ได้รางวัลนี้อีกครั้งเมื่อค.ศ.2008
อีกอย่างหนังเรื่อง ‘Flying Star Journey’ ยังสร้างจากนิยายวิทยาศาสตร์คลาสสิกที่ตีพิมพ์เมื่อปีค.ศ.1911 ในสหรัฐอเมริกา ปีนี้ครบหนึ่งร้อยปีของการตีพิมพ์นิยายเรื่องนี้ ส่วนเงินลงทุนของหนังเรื่องนี้ก็สูงถึง 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดาราชื่อดังต่างตบเท้าแสดงกันจำนวนมาก
จอห์น สแตนตันที่รับบทพระเอกต้องออกกำลังกายอย่างเข้มงวดเพื่อฟิตหุ่น เขาลดน้ำหนักได้ถึงยี่สิบห้าปอนด์ ทั้งยังต้องทนทรมานกับความเจ็บปวดขณะถ่ายทำหนังเรื่องนี้ นับว่าเป็นต้นแบบของความเป็นมืออาชีพจริงๆ
สรุปคือเผยเชียร์รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีเมื่อได้อ่านข้อมูลหนังอย่างละเอียด
นี่มันหนังฟอร์มยักษ์ตามแบบฉบับของสหรัฐอเมริกาชัดๆ!
ดูจากไลน์อัปแสนหรู เงินลงทุนอลังการ ผู้กำกับชื่อดัง ดาราแถวหน้า บทหนังดีเยี่ยม มันต้องทำเงินได้ 600-700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้อย่างไม่มีปัญหาเมื่อออกฉายทั่วโลก
การทำเงินได้ 500-600 ล้านหยวนในจีนย่อมเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับหนังเรื่องนี้
ความจริงแล้วเผยเชียนประเมินมันในแง่ร้ายด้วยซ้ำ ดูจากเงินลงทุน 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็แค่จุดคุ้มทุนเท่านั้น
ถ้าหนังเรื่องนี้ดังขึ้นมาจริงๆ ก็น่าจะทำเงินได้อย่างน้อยหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐฯ!
เมื่อถึงเวลานั้น โรงหนังใหญ่ๆก็จะพยายามยัดหนังเรื่องนี้เข้าไปในโรง และเบียดวันพรุ่งนี้ที่สดใสออกมา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมากๆ
ตอนนี้พวกเขาเตรียมรอบหนังไว้ทั้งหมด 31.4% เพื่อฉายหนังเรื่องนี้ และจำนวนรอบอาจจะเพิ่มขึ้นอีกถ้าความนิยมของหนังเรื่องนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ!
หนำซ้ำตอนนี้รอบฉายของวันพรุ่งนี้ที่สดใสยังลดลงไปเหลือแค่ 15% ด้วย
สิ่งที่เผยเชียนเสียดายคือ หนังเรื่องนี้ไม่ออกฉายตั้งแต่เมื่อครึ่งเดือนก่อน จะดีสุดๆ ถ้ามันฉายชนกับวันพรุ่งนี้ที่สดใส!
แต่ก็ไม่มีอะไรที่สายเกินไป อย่างน้อยมันก็น่าจะช่วยให้เผยเชียนทำเงินได้น้อยลง!
เผยเชียนรู้สึกมีความสุขมากเมื่อนึกถึงฉากนั้น
…
วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม
วันนี้เป็นวันหยุด ไม่ต้องไปทำงาน แต่เผยเชียนกลับมีภารกิจให้ต้องทำทุกวันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!
เขาตรวจดูยอดอัปเดตล่าสุดของมือถือ OTTO E1 ขณะกินอาหารจากโมหยูเดลิเวอรี่
เป็นไปตามคาด ยอดพรีออเดอร์ไม่ถึงห้าพันเครื่อง รอบนี้เขาน่าจะสต๊อกของได้สี่พันเครื่อง จำนวนยอดพรีออเดอร์ไม่ต่างจากที่เผยเชียนประเมินไว้
ยอดที่ออกมานี้สร้างความขบขันให้ชาวเน็ตไม่น้อย
นั่นเพราะงานแถลงข่าวเปิดตัวมือถือ OTTO E1 นั้นมีชีวิตชีวามาก คลิปที่พูดถึงมือถือรุ่นนี้ติดอันดับบนเว็บอ้ายลี่เต่า การแร็ปสคริปต์ของฉางโหยวก็ดึงดูดความสนใจของนักคัฟเวอร์มากหน้าหลายตา
มือถือขายได้หนึ่งพันเครื่องทันทีในวันแถลงข่าว ทำให้เกิดภาพลวงตาของความนิยม
หลายคนตั้งคำถามว่าหรือก่อนหน้านี้จะเป็นการตลาดแบบล่อให้คนอยากได้ เพราะตอนนี้เมื่อมีการเปิดให้พรีออเดอร์ ยอดพรีออเดอร์กลับน้อยกว่าห้าพันเครื่อง ซึ่งห่างไกลจากมือถือแบรนด์ใหญ่ๆ แบรนด์อื่นที่มียอดพรีออเดอร์เกินหนึ่งหมื่นเครื่อง
ผลก็คือตอนนี้จุดโฟกัสของชาวเน็ตจึงเปลี่ยนไป
“บริษัท OTTO เดินหมากผิดจริงๆ พวกเขาน่าจะใช้วิธีการทำตลาดแบบล่อให้คนอยากได้ต่อ อย่างน้อยจะได้รักษาความดังของมือถือรุ่นนี้เอาไว้ได้ ตอนนี้พวกเขาเปิดพรีออเดอร์ ทุกคนเลยรู้หมดว่ายอดพรีออเดอร์เป็นเท่าไหร่ มียอดพรีออเดอร์แค่ห้าพันเครื่องแบบนี้มันจะไม่น่าอายเกินไปเหรอ”
“แล้วถ้าพวกเขาแก้ยอดล่ะ เขาอาจจะเพิ่มศูนย์ไปตัวนึงข้างหลังก็ได้ น่าอายจริงๆ!”
“ฮ่าๆ ฉันว่ารองประธานฉางผยองเกินไปแล้ว ยอดขายสามพันเครื่องก่อนหน้านี้ทำเอาเขาคิดไปเองว่ามือถือรุ่นนี้ดังมาก เขาก็เลยเปิดพรีออเดอร์แล้วจู่ๆ ก็ตกม้าตาย!”
“ตอนไม่มีสต๊อกพวกคุณก็เรียกว่าการตลาดแบบล่อให้คนอยากซื้อ พอตอนนี้มีสต๊อกกลับบอกว่ามือถือรุ่นนี้ไม่ดังพอ พวกเกรียนคีย์บอร์ดก็แถไปได้ตลอดแหละ…”
“ฮ่าๆ ก็มันจริงนี่ อย่ามาแก้ต่างอะไรเลย ต่อให้ขายได้สามหมื่นเครื่องฉันก็ยังไม่กล้าพูดเลยว่ามือถือรุ่นนี้ดังพอ ปัญหาคือมันจะขายได้ถึงขนาดนั้นรึเปล่า จนถึงตอนนี้ก็ยังขายได้แค่สามพันเครื่องเลย แถมมียอดพรีออเดอร์แค่ห้าพันเครื่อง คงทำได้ดีที่สุดเท่านี้แหละ! ความจริงก็คือ มือถือเครื่องนี้ไปได้ไม่ไกลไปกว่านี้จากการทำการตลาดกับพวกที่ถอดสมองซื้อ!”
เผยเชียนรู้สึกดีมากหลังจากได้อ่านคอมเมนต์เหล่านี้ ความอยากอาหารของเขาเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อได้อ่านข้อความสุดท้าย เพราะมันทั้งตรงไปตรงมาและเต็มไปด้วยคารม พิสูจน์ให้เห็นว่ามือถือของ OTTO หมดอนาคตอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้เผยเชียนรู้สึกดีสุดๆ
ที่น่าเศร้าคือคนเหล่านี้ไม่เข้าใจว่าอุตสาหกรรมนี้ทำงานยังไง การขายมือถือได้แค่สามพันเครื่องก็ทำให้บอสเผยได้กำไรไป 12 ล้านหยวนแล้ว ต่อให้เขาโยกกำไรไปที่บริษัทอื่นๆ แล้วก็ยังมีเงินเหลือมากกว่าหนึ่งล้านหยวนโuเวลกูดoทคoม
ถ้าขายได้สามหมื่นเครื่องจริงๆ บอสเผยจะไม่ตายไปเลยเหรอ
จากนั้นเผยเชียนก็ส่องดูรีวิวของเกม BE QUIET ต่อ
เหล่าเกมเมอร์ยังคงถกเถียงกันเรื่องความยากในการซื้อเกม กระทู้เกี่ยวกับตัวเกมก็มีบ้างแต่น้อยมาก
ถึงแม้ยอดขายของเกมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังขายได้ไม่ถึงหนึ่งหมื่นก๊อบปี้เลย
เรียกได้ว่าล้มเหลวไม่เป็นท่าเมื่อเทียบกับเกมก่อนหน้านี้!
เผยเชียนดีใจมาก เขาอุตส่าห์วางแผนก่อกำแพงไว้อย่างดี เห็นได้ชัดว่ามันได้ผลดีเยี่ยมสุดๆ!
แน่นอนว่าเรื่องนี้ยอมเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้
ประเด็นที่เหล่าเกมเมอร์ถกเถียงกันส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเรื่องนี้อยู่
มีเกมเมอร์ไม่น้อยที่เลี้ยงความโกรธไว้ตั้งแต่วันแรกที่เกม BE QUIET ออกวางขายแต่ไม่สามารถซื้อได้ บางคนถึงกับไม่สนใจเกมนี้ไปเลยพอรู้ว่าพวกเขาจะต้องไขปริศนาก่อน
การไขปริศนาใช้เวลาไปทั้งสัปดาห์ และเมื่อพวกเขากำลังจะเข้าไปซื้อด้วยความดีอกดีใจ ก็พบว่ายังมีขั้นตอนก่อนซื้ออีก!
ขั้นตอนก่อนซื้อเกมสยองขวัญนี้ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง บางคนที่ไม่มีกล้องเว็บแคมที่บ้านก็ต้องไปซื้อกล้องมาติด
แม้เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายและเกมนักออกแบบเกมจะฟรี แต่คนที่ไม่เคยเล่นเกมสองเกมนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอยากดาวน์โหลดมาเล่นแต่อย่างใด
สรุปคือขั้นตอนมากมายพวกนี้ทำให้เหล่าเกมเมอร์ไม่น้อยถอดใจ จนถึงตอนนี้ก็ยังมีการโต้เถียงกันอย่างกว้างขวาง
เกมเมอร์บางคนบอกว่าตอนนี้เถิงต๋าทำตัวหยิ่งผยองเกินไป พวกเขาทำตัวไร้แบบแผนและใช้วิธีทำการตลาดที่ไร้ความหมาย ซึ่งส่งผลต่อยอดขายเกมและเป็นการนั่งรอเวลาให้เกมตายลงช้าๆ
เกมเมอร์บางคนก็บอกว่าวิธีดังกล่าวเป็นการสกรีนคนและป้องกันไม่ให้มือใหม่ที่ไม่มีความอดทนเข้ามาเล่นเกม ซึ่งจะรักษาสภาพแวดล้อมในการเล่นเกม และปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมได้ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การตลาดรูปแบบหนึ่ง และดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จอย่างดีทีเดียว
เผยเชียนอ่านกระทู้เหล่านี้ด้วยความกระปรี้กระเปร่า
และอยากบอกทุกคนจริงๆ ว่าพวกเขาคิดถูกแล้ว!
เขาทั้งอยากให้เกมนี้ตายไปเงียบๆ ทั้งต้องการสกรีนผู้เล่นก่อน พูดถึงเรื่องเดียวกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ!
ท่ามกลางการโต้แย้งอย่างดุเด็ดเผ็ดมันของทั้งสองฝ่าย บางโพสต์ก็ถึงกับทำให้เผยเชียนต้องถอนหายใจให้กับความฉลาดล้ำของเหล่าชาวเน็ต
เกมเมอร์ที่ชื่อว่า ‘สุดยอดนายพล’ โพสต์แนวทางการผ่านขั้นตอนก่อนซื้อเกมแบบละเอียดยิบ เขาบอกระยะเวลาที่ต้องใช้ในการเล่นเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเล บอกวิธีเลือกตัวเลือกในเกมนักออกแบบเกม รวมถึงขั้นตอนในการใส่ข้อมูลในเว็บ TPDb ด้วย
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ เกมเมอร์คนนี้คิดวิธีสุดเจ๋งในการผ่านขั้นตอนก่อนซื้อขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือหาแผ่นกระดาษเอามาเจาะรูแล้วแปะไว้บนหน้าจอ เพื่อที่ว่าดวงตาจะได้โฟกัสแค่พื้นที่เล็กๆ ตรงรู ทำแบบนี้ก็จะไม่ถูกผีที่ปรากฏออกมารอบๆหน้าจอก่อกวน
ก่อนหน้านี้ในขั้นตอนก่อนซื้อขั้นตอนสุดท้าย เกมเมอร์ต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงและต้องมีจิตใจที่มั่นคงพอด้วย แต่ด้วยวิธีนี้หลายคนจึงผ่านขั้นตอนนี้ได้ด้วยการพยายามเพียงครั้งเดียว
เผยเชียนมีคำเดียวให้กับคนที่เขียนโพสต์นี้ขึ้นมา : แสนรู้จริงๆ!
ความจริงเขามีวิธีอุดช่องโหว่เรื่องนี้ นั่นคือปรับวิธีการเล่นเกมให้ผู้เล่นต้องกวาดสายตาไปทั่วทุกมุมของหน้าจอแทนที่จะจ้องไปที่จุดจุดเดียว
แต่เห็นได้ชัดว่าการท้าทายนี้ช่วยสกัดผู้คนได้เพราะจนถึงตอนนี้จำนวนยอดซื้อก็ไม่สูงเท่าไหร่ เผยเชียนเลยทำเป็นมองไม่เห็นเรื่องนี้ไป
ยังไงก็มีเกมเมอร์แค่หยิบมือเท่านั้นที่ผ่านมาถึงขั้นตอนสุดท้ายได้
จากนั้นเผยเชียนก็เปิดแอปโก่วเหยี่ยนขึ้นมาเช็กรายได้วันแรกของการออกฉายหนังเรื่อง Flying Star Journey รายได้ทะลุ 11 ล้านหยวนไปเมื่อเที่ยง ดังนั้นรายได้วันแรกก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 24 ล้านหยวน
เผยเชียนอดขมวดคิ้วไม่ได้ มันดูไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเท่าไหร่
แต่เขาก็คิดไปว่านี่เพิ่งจะวันแรก อาจจะมีเหล่าคนรักหนังแห่กันไปดูในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ยอดสองวันรวมกันน่าจะถึง 60 ล้านหยวนได้ไม่ยาก
ผู้กำกับชื่อดัง+ดาราชื่อดัง+เงินลงทุนมหาศาล+ฉากที่สุดแสนอลังการ มองยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่หนังเรื่องจะไม่ประสบความสำเร็จ จะไม่น่าอายแย่เหรอถ้ารายได้รวมจะไปไม่ถึง 600-700 ล้านหยวน
เผยเชียนจำได้ว่าครึ่งวันแรกรายได้ของหนังวันพรุ่งนี้ที่สดใสอยู่ที่ 8 ล้านหยวน และพอจบวันก็ได้ไป 17 ล้านหยวนแอปโก่วเหยี่ยนประเมินว่ารายได้รวมของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 210 ล้านหยวน
จากนั้นเรตติ้งของวันพรุ่งนี้ที่สดใสก็สูงขั้นเรื่อยๆ แอปโก่วเหยี่ยนจึงประเมินใหม่ว่ารายได้น่าจะถึง 230 ล้านหยวน เผยเชียนรีบเปิดไปดูรายได้ประเมินของ Flying Star Journey ทันที
“320 ล้านหยวน?
“ทำไมพวกเขาประเมินรายได้ของหนังดีๆ แบบนี้ไว้ต่ำจัง ฉันไม่เชื่อหรอก!”
เผยเชียนเกือบจะคิดไปว่าพวกเขาลืมเติมศูนย์ไปหนึ่งตัวเสียด้วยซ้ำ
แต่พอมาคิดดูอีกที ยอดประเมินของแอปโก่วเหยี่ยนก็เป็นแค่ยอดประเมิน ไม่ได้แปลว่าต้องถูกต้อง แถมเป็นการประเมินที่ดูจากรายได้ครึ่งวันแรกเท่านั้น
ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่ได้ประเมินวันพรุ่งนี้ที่สดใสต่ำหรอกเหรอ
Flying Star Journey สู้เขา ฉันเอาใจช่วยนายอยู่นะ!
ถ้าพรุ่งนี้รายได้สูงขึ้นฉันจะไปตบหน้าแอปโก่วเหยี่ยนแน่ๆ ให้พวกเขาได้รู้ว่าการทำตัวอวดดีจะเจอกับอะไร!
เผยเชียนดูตารางฉายหนังของวันพรุ่งนี้อีกรอบ รอบฉายของ Flying Star Journey เพิ่มขึ้นจาก 31.4% เป็น 32.3% ถึงจะเพิ่มไม่มาก แต่ก็น่าจะส่งผลต่อวันพรุ่งนี้ที่สดใสไม่น้อย
เพราะวันพรุ่งนี้ที่สดใสฉายมาแล้วสิบเก้าวัน และอีกสิบวันก็น่าจะลาโรงแล้ว
อีกอย่างคู่แข่งที่จะมาแย่งเวลาการฉายของวันพรุ่งนี้ที่สดใสก็ไม่ได้มีแค่ Flying Star Journey ช่วงนี้มีหนังใหม่อีกมากมายที่กำลังจะเข้าฉาย
รายได้ของวันพรุ่งนี้ที่สดใสตอนนี้ตกมาเป็นอันดับสาม สองอันดับแรกได้แก่ Flying Star Journey และ The Chaser เรื่องหลังเป็นหนังใหม่ที่เพิ่งออกฉายเมื่อสองวันก่อน ยอดขายรวมตอนนี้อาจจะยังไม่สูงเท่าวันพรุ่งนี้ที่สดใส แต่ก็เป็นหนังใหม่ที่ถือได้ว่าอยู่ในอันดับสูง รายได้วันแรกสามารถเอาชนะวันพรุ่งนี้ที่สดใสได้
ตอนนี้รายได้ต่อวันของหนังสามเรื่องนี้อยู่ที่ 20 ล้านหยวน 8 ล้านหยวน และ 4 ล้านหยวน วันพรุ่งนี้ที่สดใสดูเหมือนจะกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสุดท้ายจากการถูกหนังอีกสองเรื่องเบียด