วันจันทร์ที่ 24 มกราคม
เผยเชียนเดินเข้าออฟฟิศแล้วตรงเข้าห้องทำงานด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแวะไปดูตู้โทรศัพท์ให้เช่าตามห้างต่างๆ ทั้งยี่สิบเอ็ดตู้ กว่าจะดูครบ ใจเขาก็แตกสลายไม่มีชิ้นดี
ตู้ทั้งหมดยี่สิบเอ็ดตู้ ตู้ที่ห้างหวนยู่เทียนเจี่ยจางวั่งเป็นคนทำขึ้นเอง ที่เหลืออีกยี่สิบตู้ผลิตโดยโรงงาน
ตอนนี้ทุกตู้มีภาพวาดฮีโร่เกม GOG ด้านในเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตู้โทรศัพท์เลยในความคิดของเผยเชียน เช่น ตู้กดเครื่องดื่ม ตู้คาราโอเกะ ตู้กาชาปอง และอื่นๆ
ตู้โทรศัพท์ให้เช่าที่ตอนแรกกำลังไปได้สวย ตอนนี้กลายเป็นห้องนันทนาการขนาดมินิหลากฟังก์ชันไปแล้ว!
นอกจากนี้ทุกตู้ยังมีแถวต่อยาวเหยียดอยู่ด้านหน้า หลายคนเดินทางมาไกลเพื่อถ่ายรูปและเข้าไปดูด้านในโดยเฉพาะ!
เผยเชียนไปหาจางวั่ง เขารู้สึกอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แต่ก่อนจะทันได้ถามอะไร จางวั่งก็นำเสนอผลประกอบการตู้โทรศัพท์ให้เช่าให้เขาฟังอย่างภาคภูมิใจ
ต้นทุนตู้โทรศัพท์ให้เช่าอยู่ที่ประมาณหนึ่งหมื่นหยวนต่อตู้ รวมค่าบริการเสริมต่างๆ ค่าเครื่อง AED และค่าเช่า ทุนตั้งต้นของแต่ละตู้จะอยู่ที่ประมาณเกือบสี่หมื่นหยวน
รวมค่าวาดภาพหน้าตู้แล้วอยู่ที่เจ็ดหมื่นหยวน
แต่ตู้โทรศัพท์ให้เช่ามีคนใช้บริการเฉลี่ยวันละเจ็ดถึงแปดชั่วโมง
ค่าบริการตกชั่วโมงละสี่สิบหยวน รวมรายได้จากตู้กดเครื่องดื่มกับตู้กาชาปอง แต่ละตู้ทำเงินได้ประมาณสามร้อยหยวนต่อวัน เท่ากับราวๆ หนึ่งหมื่นหยวนต่อเดือน
ถึงจะหักค่าซ่อมบำรุงและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ยังทำเงินได้เจ็ดถึงแปดพันหยวนต่อเดือนอยู่ดี
หมายความว่าตู้โทรศัพท์ให้เช่าจะหาทุนคืนได้ภายในหนึ่งปี จากนั้นก็จะเริ่มทำกำไร
ถึงตอนนั้นตู้โทรศัพท์ให้เช่าทั้งยี่สิบเอ็ดตู้ก็จะทำเงินให้เผยเชียนได้เป็นแสนๆ หยวนต่อเดือน!
แน่นอนว่าสำหรับนักรบเจนศึกอย่างบอสเผย เงินหลักแสนเป็นจำนวนที่ยังสามารถจัดการได้
เหตุผลหลักที่ทำให้เผยเชียนรู้สึกท้อแท้คือโปรเจ็กต์นี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนล้มเหลวครั้งใหญ่
“ขนาดโปรเจ็กต์ที่ดูไม่น่าไปรอดยังทำกำไรได้ซะงั้น!”
ในทางจิตใจแล้ว เผยเชียนเจ็บหนักกับโปรเจ็กต์นี้มากกว่าโปรเจ็กต์ทำกำไรอื่นๆ ที่ผ่านมา
ดังนั้นตอนที่เดินเข้าออฟฟิศเมื่อเช้า สภาพจิตใจเลยยังไม่ค่อยสู้ดีนัก
“บอสเผยคะ เกม GOG เปิดให้ทดสอบอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ”
เผยเชียนอ่านข้อความมือถือแล้วตอบกลับไปแค่ว่า “โอเค”
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เผยเชียนก็ส่งข้อความไปนัดหลินฉางให้มาเจอกันที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เผยเชียนมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องตู้โทรศัพท์ให้เช่าจนต้องเลื่อนนัดหลินฉางครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ต้องเลื่อนมาเช้าวันนี้อย่างช่วยไม่ได้
พอดีเลย ไปเจอหลินฉางแล้วก็เช็กสถานการณ์เกม GOG ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูด้วยเลย
‘เปิดให้ทดสอบอย่างเป็นทางการ’ คือปล่อยตัวเกมเวอร์ชันทดลองลงบนแพลตฟอร์มเกมอย่างเป็นทางการให้เกมเมอร์ได้โหลดไปทดลองกันตามใจชอบ
แน่นอนว่า เพื่อไม่ให้เซิฟเวอร์รับภาระหนักเกินไป จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิ์สมัครบัญชีเพื่อเข้าร่วมทดสอบ แต่แฟนเกมของเถิงต๋าจะเข้าถึงสิทธิ์นั้นได้ง่ายกว่าหน่อย
พอเปิดให้ผู้เล่นได้ทดสอบเกมและให้คำแนะนำ ทีมงานก็จะพบบั๊กกับปัญหาต่างๆ ในเกมและแก้ไขได้
แน่นอนว่าตัวเกมเวอร์ชันทดสอบต้องมีบั๊ก แต่เกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมเวอร์ชันทดสอบจะไม่ค่อยใส่ใจปัญหาต่างๆ มาก ส่วนใหญ่จะมองหาอะไรใหม่ๆ มากกว่าจะมานั่งคิดเล็กคิดน้อยเรื่องบั๊ก
เผยเชียนคิดว่าคงประเมินสถานการณ์ที่แท้จริงของเกม GOG ผ่านการอ่านคอมเมนต์บนอินเทอร์เน็ตอย่างเดียวไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพื่อทดสอบด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีที่วางใจได้มากกว่า
…
คอร์สอบรมเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน หรือที่เหล่านักเขียนเรียกกันว่า ‘โซนคุก’
ตอนเที่ยง ทุกคนนั่งกินข้าวที่โต๊ะประชุมและพูดคุยกัน
พวกนักเขียนไม่ต้องทำงานวันเสาร์อาทิตย์ บางคนจึงเอางานที่เขียนไว้ล่วงหน้ามาลงในช่วงสองวันที่ผ่านมา บางคนเขียนงานต่อในโน้ตบุ๊กของตัวเองที่โรงแรม
ผ่านมาแล้วสามวันที่ทุกคนเจอหมิงอวี่และชุยเกิ่งครั้งล่าสุดก่อนจะโดนบอสเผยเลือก
“หมิงอวี่ ชุยเกิ่ง วันศุกร์ไปทำอะไรมา เล่าให้ฟังหน่อย” นักเขียนบางคนอยากรู้ว่าทั้งสองไปทำอะไรมาบ้าง
หมิงอวี่กระแอมกระไอก่อนจะตอบเสียงเบา “ฉันเจอร้านอินเทอร์เน็ตใกล้ๆ ที่ตกแต่งสวยเชียว ช่วงเช้าก็เลยแอบเขียนนิยายไปสามตอนแล้วเซฟไว้ ช่วงบ่ายก็เล่นเกมยาวๆ”
นักเขียนส่วนหนึ่งอึ้งไป “ไม่ใช่ว่าเขาห้ามเขียนงานหรอกเหรอ”
หมิงอวี่ยิ้ม “ใช่ แต่ก็ไม่มีใครไปเฝ้า ฉันก็แค่รอเอางานไปลงวันเสาร์อาทิตย์ พวกเขาจับไม่ได้หรอก”
ทุกคนอดทึ่งขึ้นมาไม่ได้ ช่างเป็นคนที่ขยันจริงๆ! โดนบังคับให้หยุดงานยังแอบไปเขียนงานอีก!
เพราะจูซิงอันไม่อยู่ เหล่านักเขียนเลยคุยกันทุกเรื่องได้ตามใจชอบ
ก่อนหน้านี้หม่าอี้ฉวินให้จูซิงอันมาดูแลนักเขียน แต่หลังจากบอสเผยแวะมาดูรอบก่อน เขาก็ย้ายจูซิงอันไปที่อื่นแล้วปล่อยให้นักเขียนดูแลกันเอง
หมิงอวี่หันไปถามชุยเกิ่ง “พี่ชุยล่ะ ไม่ได้ไปอบรมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าจริงจังใช่มั้ย”
นักเขียนอีกคนเข้ามาผสมโรง “เออใช่ พี่ชุย พี่ประกาศ ‘แจ้งจบเรื่อง’ ไปงั้นๆ เหรอ”
สำหรับนักเขียนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร พฤติกรรมของชุยเกิ่งนั้นเป็นที่น่าสับสนมาก
เขาไปสำนักงานใหญ่เถิงต๋าวันศุกร์แล้วประกาศ ‘แจ้งจบเรื่อง’ ตอนเย็น ทำเอานักอ่านขวัญหายกันหมด
ตอนแรกพวกเขาคิดว่านิยายจะตัดจบตรงนั้นเลย แต่วันเสาร์ชุยเกิ่งกลับลงตอนใหม่รวดเดียวสี่ตอน!
วันเสาร์ วันอาทิตย์ จนถึงเช้าวันจันทร์ ชุยเกิ่งเขียนงานอย่างขยันขันแข็ง แถมจำนวนคำก็ไม่ได้ลดลงเลย ไม่เห็นแววว่าอยากจะรีบตัดจบ
การกระทำของเขาชวนสับสนสุดๆ
เมื่อวันศุกร์เกิดอะไรขึ้น ชุยเกิ่งจะเขียนนิยายเรื่องนี้ต่อรึเปล่า
ในหมู่นักเขียนทั้งหมดที่เข้าร่วมคอร์ส ชุยเกิ่งทำผลงานได้ในระดับท็อปๆ
นักเขียนหน้าใหม่หลายคนจะยื้อเขียนนิยายที่มียอดผู้ติดตามห้าถึงหกพันคนไปเรื่อยๆ
พอเจอคำถามของทุกคน ชุยเกิ่งก็ยิ้ม “วันศุกร์ฉันไปเรียนรู้เรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋ามาจริงๆ แต่ไม่ได้เป็นการอบรมแบบเดิมๆ ที่ทุกคนคิดกัน ฉันได้เรียนรู้ผ่านวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์มาก
“ถ้าได้ไปลองจะรู้เอง เป็นวิธีที่น่าสนใจมากๆ
“ส่วนเรื่องนิยาย ตอนแรกฉันว่าจะรีบตัดจบให้เร็วที่สุด แต่เพราะ…
“ฉันบรรลุแล้ว เลยอยากรีบเขียนเรื่องนี้ให้จบจะได้เริ่มเรื่องใหม่ที่ดีกว่า!”
ชุยเกิ่งตาเป็นประกาย
ช่วงที่ผ่านมาเขาคิดโครงเรื่องเกมผีเสื้อมาตลอด และตั้งตารอเวลาไปรวบรวมข้อมูลจากกิจการต่างๆ ของเถิงต๋า จากนั้นจะได้เริ่มเขียนงานซะที
หมิงอวี่รู้สึกสงสัย เขาคิดว่าทัศนคติของชุยเกิ่งดูเปลี่ยนไปจากเดิม ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
ก่อนหน้านี้ชุยเกิ่งมีปัญหาเรื่องการชอบผัดวันประกันพรุ่งขั้นร้ายแรง ชอบอู้เป็นพักๆ และอวดดีหน่อยๆ
ว่ากันตามตรง หมิงอวี่คิดว่าชุยเกิ่งเอาพรสวรรค์ตัวเองมาเสียเปล่า
เขาน่าจะทำยอดผู้ติดตามห้าถึงหกพันคนได้ง่ายๆ แต่กลับไม่ยอมลงงานอย่างจริงจัง มักจะตัดจบกลางทาง หรือไม่ก็ตัดจบตามใจชอบ
หมิงอวี่คิดว่าถ้าชุยเกิ่งเขียนงานจริงจังและลงงานวันละหกถึงแปดพันคำ ยอดผู้ติดตามต้องพุ่งกระฉูดแน่
แต่สีหน้าของชุยเกิ่งตอนนี้เหมือนเปลี่ยนเป็นคนใหม่ไปแล้ว
การอบรมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าได้ผลจริงๆ เหรอ
ชุยเกิ่งพูดต่อ “หลังได้เรียนรู้เรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋า ฉันก็เข้าใจเรื่องหนึ่ง ฉันไม่ควรเลี่ยงหรือรู้สึกแย่ที่จะต้องพักผ่อนหรือเล่นสนุก แต่ควรเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อทำให้ตัวเองพร้อมทำงานมากขึ้น
“ฉันไม่ควรใส่ใจแค่เรื่องจำนวนคำ แต่ต้องรักษาคุณภาพงานตัวเองด้วย
“หมิงอวี่ นายถามฉันตลอดไม่ใช่เหรอว่าทำยังไงถึงมียอดผู้ติดตามห้าพันคนได้ ฉันว่าจุดสำคัญตอนนี้คือนายควรลดจำนวนคำที่เขียนต่อวันแล้วไปเพิ่มคุณภาพงานแทน”
ได้ยินอย่างนั้นหมิงอวี่ก็คิดตาม
“อืม… ก็จริงนะ
“งั้นวันนี้ฉันเขียนงานให้น้อยลงจะได้ไปทุ่มเทเรียนรู้จิตวิญญาณของเถิงต๋าแทนดีกว่า”
ถึงจะได้หยุดงานแต่หมิงอวี่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
ในฐานะนักเขียนที่ขยันที่สุดในคอร์ส เขาสนใจเรื่องเขียนงานให้เยอะและดีขึ้นมากกว่า
พอเห็นชุยเกิ่งเปลี่ยนไปเป็นคนละคนหลังอบรมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าแค่ครั้งเดียว หมิงอวี่ก็สนใจอยากเรียนบ้าง
นักเขียนอีกคนพูดขึ้น “โห ฉันก็อยากไปอบรมบ้าง!”
“ฉันด้วย!”
คนบนโต๊ะเกินครึ่งอยากไปเข้าอบรมบ้างจะได้รู้ว่ามันช่วยให้ ‘จอมเท’ ในตำนานจัดการกับปีศาจในใจได้ยังไง
แต่มีคนอยากไปเยอะขนาดนี้จะจัดการยังไง
หมิงอวี่คิดอยู่พักหนึ่ง “เอางี้เป็นไง ทุกคนเขียนงานกันให้เต็มที่ตามความสามารถของตัวเอง คนที่เขียนได้น้อยที่สุดก็ได้ไปอบรม คนที่เคยไปอบรมมาแล้วก็ต้องพยายามเขียนงานให้เยอะขึ้นจะได้ไม่ต้องไปอีก
“ถ้าได้จำนวนคำเท่ากันหลายคน ให้คนที่ยอดผู้ติดตามน้อยที่สุดไป”
ทุกคนพิจารณาดูแล้วก็เห็นดีเห็นงามด้วยจึงพากันพยักหน้าทีละคน
ชุยเกิ่งไม่ต้องมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ เพราะหลังจากจัดการเรื่องต่างๆ อีกสองวัน เขาจะออกจากคอร์สเพื่อไปเริ่มงานใหม่ (รวบรวมข้อมูล) ในกิจการต่างๆ ของเถิงต๋า
…
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เผยเชียนมาถึงก่อนหลินฉางเล็กน้อย แต่แทนที่จะนั่งจิบกาแฟ เขากลับเดินไปรอบๆ โซนอินเทอร์เน็ต
สถานการณ์ไม่ได้ดีเหมือนที่คิดไว้ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
ตอนแรกเขาคิดว่าเกม GOG จะเจ๊งไม่เป็นท่า
เพราะนอกจากเกม GOG จะต้องแข่งกับเกมออนไลน์เดิมอย่างเกมฐานทัพกลางทะเลแล้ว ยังต้องแข่งกับเกมแนวเดียวกันอย่าง IOI กับ Gods Rising ด้วย
เกม Gods Rising มีฐานแฟนเกมที่ใหญ่มาก ส่วนเกม IOI ก็เป็นที่นิยมในต่างประเทศอย่างรวดเร็วจนลามมาถึงประเทศจีน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเองก็ลงเกม IOI เซิฟเวอร์ต่างประเทศและลงม็อด[1]ภาษาจีนเพิ่มเหมือนร้านอื่นๆ ถึงจะหน่วงหน่อย แต่ลูกค้าก็ยังเพลิดเพลินกับเกม
เผยเชียนเลยคิดว่าน่าจะมีคนเล่นเกม GOG แค่ไม่กี่คน
แต่พอมาถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาก็พบว่ามีหลายคนกำลังเล่นเกม GOG อยู่ จำนวนคนที่เล่นเกม GOG นั้นเกือบจะเท่าๆ กับจำนวนคนที่เล่นเกม Gods Rising กับ IOI!
แน่นอนว่า เกม IOI มีแต้มต่อเรื่องคุณภาพกราฟิกและความสมบูรณ์ของเกม
หลังจากเดินรอบโซนอินเทอร์เน็ต เผยเชียนก็เริ่มครุ่นคิด
“อืม… ดูเหมือนว่าตอนนี้เกม IOI จะราบรื่นดี
“เพราะร้านลง IOI เวอร์ชันต่างประเทศเลยเล่นได้หน่วงๆ หน่อย ผู้เล่นก็พูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมได้ลำบาก ตรงนี้คือจุดด้อย
“ถึงอย่างนั้นในร้าน IOI ก็เป็นที่นิยมกว่า GOG มีคนเล่นเยอะกว่า
“พอเกม IOI เปิดเซิฟเวอร์จีน ปัญหาเรื่องความหน่วงและการสื่อสารก็หมดไป พอถึงตอนนั้นต้องเป็นที่นิยมกว่า GOG แน่นอน
“แสดงว่าเกม GOG น่าจะเจ๊ง ฉันน่าจะคิดถูก”
เผยเชียนไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วสรุปได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้น พูดได้ว่าเป็นไปในทางบวก แต่ก็ยังต้องระวังอยู่
ตอนที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ หลินฉางก็มาถึงพอดี
“บอสเผย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” หลินฉางยิ้ม
เผยเชียนรู้สึกว่ารอยยิ้มของหลินฉางมีอะไรซ่อนอยู่ เหมือนมีเรื่องบางอย่างเก็บซ่อนไว้
“ช่วงนี้บอสหลินก็ยุ่งๆ เหมือนกันเหรอครับ”
หลินฉางหัวเราะคิกคัก “งานเล็กน้อยครับ ผมจัดการเสร็จแล้วในฐานะผู้ประสานงาน”
…………………..
[1] การดัดแปลงตัวเกม
