สิ่งที่เผยเชียนทำย่อมมีความหมายบางอย่างแน่นอน
คอร์สจัดมาได้หนึ่งสัปดาห์ ช่วงที่ผ่านมานักเขียนกินนอนด้วยกัน เดิมพวกเขาก็เป็นคนที่มีแนวโน้มที่จะตะเกียกตะกายเพื่อให้ตัวเองสำเร็จอยู่แล้ว ทำให้ตอนนี้ยิ่งชักจูงให้มีแนวคิดเหมือนๆ กันมากขึ้น
เผยเชียนอยากลดภาระให้พวกเขา แต่ก็โดนปฏิเสธกลับมา ดูเหมือนว่าปัญหานี้จะไม่ได้แก้ได้ภายในชั่วข้ามคืน
ดังนั้นเขาจึงคิดจะขุดหลุมขึ้นมาก่อน!
ให้พวกขยันที่เขียนได้เยอะที่สุดหยุดหนึ่งวัน จะได้พักผ่อนอย่างไร้ความกดดัน ปล่อยให้ได้สนุกอย่างเต็มที่
ส่วนพวกที่เขียนได้น้อยที่สุดจะได้สัมผัสกับจิตวิญญาณของเถิงต๋า ใช้สภาพแวดล้อมที่สุดแสนบันเทิงเริงใจของเถิงต๋าดับไฟในการเขียน กลายเป็นคนติดเล่น!
คนที่เขียนได้น้อยที่สุดย่อมเป็นคนที่ขี้เกียจที่สุดในหมู่นักเขียน และเป็นจุดที่ใช้ในการบุกทะลวงได้
ถ้าพาคนที่เขียนได้น้อยสุดมาที่เถิงต๋าและปรนเปรอด้วยความบันเทิงใจ พอกลับไปนักเขียนคนนั้นต้องไปบอกคนอื่นๆ แน่
พอนักเขียนคนอื่นรู้ว่าคนที่เขียนได้น้อยที่สุดได้ไปสนุกหรรษาที่สำนักงานใหญ่เถิงต๋า พวกเขาต้องพากันอู้และเขียนให้น้อยลง กลายเป็นการแข่งกันอู้
ไม่นานจะต้องมีกลุ่มนักเขียนที่เขียนงานได้น้อยลงเรื่อยๆ การต่อสู้นี้จะสร้างพันธมิตรที่พากันกอดคอกันล่มจม!
ยิ่งคิดเผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกว่าแผนนี้สมบูรณ์แบบสุดๆ
…
ตอนค่ำ
ทีมงานกองถ่ายภาพยนตร์วันพรุ่งนี้ที่สดใสมากินเลี้ยงกันที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุน ก่อนจะแยกย้ายกันอย่างเป็นทางการ
ทุกคนยืนบอกลากันหน้าวิลล่า
“บอสเผย ขอบคุณมากครับที่ดูแลผมตลอดช่วงที่ผ่านมา! ถ้ามีอะไรก็ติดต่อผมได้ตลอดเลยนะครับ ผมยินดีมาช่วยแน่นอน!”
“ขอบคุณที่เลี้ยงนะครับ! นี่เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยครับ!”
“ถ้าผมมาจิงโจวอีก บอสเผยจะมาต้อนรับผมมั้ยครับ”
“ขอให้หนังดังถล่มทลาย!”
“บอสเผย ผมรู้จักผู้จัดจำหน่ายกับคนในวงการหนัง ถ้าต้องการผมช่วยติดต่อให้ได้นะครับ…”
เผยเชียนกล่าวลาทุกคนอย่างจริงใจและเชิญให้แวะมาเที่ยวเล่นที่จิงโจวได้ตลอด
เพราะยังไงก็พาไปเลี้ยงเพื่อผลาญเงินได้
เขาปฏิเสธแค่ข้อเสนอสุดท้าย
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องโปรโมตหนังหรอกครับ ผมเตรียมการเอาไว้แล้ว!”
ในที่สุดก็ส่งทุกคนกลับไปจนหมด
เผยเชียนถอนหายใจยาว ช่วงที่ผ่านมามีหลายเรื่องให้จัดการ เรื่องนี้เสร็จเรื่องใหม่มาวนไปไม่หยุด
แน่นอนว่าถึงจะปิดกองไปแล้ว เขาก็ยังวางใจไม่ได้จนกว่าจะถึงวันออกฉาย
แต่ก็ยังอีกตั้งหนึ่งเดือนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งก็อีกนาน
เขาควรจัดการกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อน
เผยเชียนครุ่นคิดด้วยความหนักใจ “ค่อยๆ จัดการทีละเรื่อง เริ่มจากเว็บจงเตี่ยนจงเหวินก่อน แล้วไปจัดการแอปมาสิเด็กหัวกะทิ…
“อืม เหมือนจะลืมอะไรไปบางอย่าง…
“เออใช่ ตู้โทรศัพท์ให้เช่า!”
เขาตั้งใจจะแวะไปดูวันจันทร์ แต่สัปดาห์นี้มีอะไรให้จัดการเยอะ ทั้งสอบ กินเลี้ยง บอสหลี่สร้างประเด็น เว็บของหม่าอี้ฉวินผุดปัญหาไม่คาดฝัน ก็เลยลืมไปเสียสนิท
“เพิ่งผ่านมาห้าวันเอง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก”
เผยเชียนครุ่นคิด ห้าวันที่ผ่านมา หร่วนกวางเจี่ยนน่าจะวาดได้มากสุดสองตู้ นับรวมตู้แรกอย่างมากสุดก็แค่สามตู้
สามตู้จะไปทำอะไรได้
น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่แน่นอนว่าสัปดาห์นี้ก็ต้องไปเช็กดูเผื่อไว้
เผยเชียนกลัวว่าจะลืมเลยรีบจดเรื่องนี้ลงสมุดเล่มเล็กของตัวเอง
…
…
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม
ชุยเกิ่งลงจากรถตรงชั้นจอดรถด้วยความประหม่า เขาขึ้นลิฟต์ไปชั้นสิบหกของตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวพร้อมคนขับรถ
เมื่อคืนเขากับหมิงอวี่ทิ้งข้อความลาหยุดไว้
แต่คอมเมนต์จากนักอ่านของทั้งสองคนแตกต่างกันลิบลับ
หมิงอวี่แจ้งนักอ่านว่าเขาลงงานได้เยอะที่สุดในคอร์สจึงได้สิทธิ์ไปทำอะไรตามใจชอบหนึ่งวัน เพราะงั้นวันพรุ่งนี้จะไม่ได้ลงงาน แต่จะลงงานวันละหนึ่งหมื่นห้าพันคำติดต่อกันสามวันเป็นการชดเชย
คอมเมนต์ส่วนใหญ่เป็นไปในทางให้กำลังใจโนเวลกูดอทคoม
“สุดยอดเลยท่านนักเขียน!”
“พักผ่อนเยอะๆ เรารองานตู้มใหญ่จากคุณอยู่!”
“แท็กพวกปีศาจลงตอนเดียวเทมาดูงานเร็ว!”
ชุยเกิ่งขอหยุดลงงานโดยไม่ได้บอกเหตุผลที่ชัดเจน เขาบอกแค่ว่ามีธุระต้องหยุดลงงานหนึ่งวัน
ตอนแรกเขาคิดว่าจะไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น แต่คอมเมนต์ของเหล่านักอ่านกลับทิ่มแทงหัวใจเหลือเกิน
“จบแล้ว ขยันได้สัปดาห์เดียวก็ยอมแพ้ ไม่มีความมุมานะเลย!”
“ไม่พูดถึงเรื่องลงงานด้วย! สมแล้วที่เป็นนาย!”
“โจรลักพาตัวได้ค่าไถ่เลยยอมปล่อยตัวเขาไปแล้วเหรอ อย่าเลย ขังเขาไว้ก่อน เดี๋ยวเราเพิ่มเงินให้!”
“ข่าววงในจากกลุ่มนักเขียน! เห็นว่าไอ้จอมเทโดนส่งไปปรับทัศนคติเพราะเขียนได้น้อยที่สุด ฮ่าๆๆ!”
“เป็นคนที่เขียนงานได้น้อยที่สุดในคอร์สเหรอ ก็ดูเป็นหมอนี่ดี!”
ชุยเกิ่งถอนหายใจ รู้สึกได้ถึงความสองมาตรฐาน
เฮ้อ ต่างคนต่างมาตรฐานจริงๆ!
อีกคนได้หยุดพักผ่อน นักอ่านดีใจ
แล้วฉันล่ะ ฉันต้องมาปรับทัศนคติที่สำนักงานใหญ่ แถมยังโดนนักอ่านแดกดันอีก
ชีวิตมันยากจัง!
ระหว่างที่คิดนั่นคิดนี่อยู่ ชุยเกิ่งก็ได้ยินเสียง ‘ติ๊ง’ เมื่อลิฟต์จอดที่ชั้นสิบหก
ชุยเกิ่งเดินออกจากลิฟต์ไปยังโต๊ะรับรองเพื่อแจ้งจุดประสงค์ที่มากับแฝดสาว ไม่นานก็มีคนเข้ามาทักทายแล้วเดินนำเขาเข้าไปข้างใน
“สวัสดีครับ ผมอู๋ปินจากฝ่าย HR”
อู๋ปินยิ้มกว้าง ส่วนชุยเกิ่งรู้สึกหัวใจเย็นเฉียบ
ฝ่าย HR!
เท่าที่ชุยเกิ่งรู้ บริษัทใหญ่ๆ ส่วนมากจะใช้ฝ่าย HR รวบรวมข้อมูลและจัดการกับพวกต่อต้าน
การปรับทัศนคติวันนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องสบายๆ…
ชุยเกิ่งรู้สึกได้ถึงความกดดันมหาศาลในฐานะคนชอบอู้งาน
แต่อู๋ปินกลับเปิดประตูห้องนันทนาการ “เชิญครับ”
ชุยเกิ่ง “?”
เขาชะโงกเข้าไปข้างในเห็นทีวีจอใหญ่ เครื่องเกมคอนโซล แผ่นเกมกองเป็นตั้ง คอมพิวเตอร์สเป็กสูง และตู้เกมเครื่องโต
นิยาย มังงะ นิตยสาร…เรียงรายอยู่เต็มผนัง
เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ แต่ถ้าจะให้สรุปสั้นๆ ก็คงเป็นเหมือน…ได้ขึ้นสวรรค์
ชุยเกิ่งหันมองอู๋ปินด้วยแววตาสงสัย
นี่หมายความว่ายังไงกัน
ให้ลิ้มรสความสุขเป็นครั้งสุดท้ายเหรอ
เขาอยากจะถามอะไรออกไป แต่อู๋ปินก็ยิ้มขึ้นก่อน “เชิญเข้าไปข้างในครับ บอสเผยเป็นคนจัดเตรียมไว้ให้”
พอได้ยินว่าบอสเผยเป็นคนเตรียมให้ ชุยเกิ่งก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในฐานะนักเขียนเว็บโนเวล จินตนาการของเขากว้างไกลมาก
ภาพหลิงชง[1]ถูกลวงให้เข้าไปในหอพยัคฆ์ขาวผุดขึ้นในหัวชุยเกิ่ง
แต่พอคิดๆ ดูก็ออกจะเหลวไหลไปหน่อย โอกาสที่บอสเผยจะออกอุบายลวงเขานั้นเท่าๆ กับโอกาสที่คนตรงหน้าจะปลอมพระราชกฤษฎีกา ซึ่งโอกาสที่ว่าก็แทบจะเป็นศูนย์
ถึงจะยังแคลงใจ แต่ไม่มีจอมขี้เกียจตัวเป็นขนคนไหนทนต่อแรงยั่วยุของห้องนันทนาการได้
ชุยเกิ่งเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่ลังเล เขานั่งลงบนโซฟาแล้วหยิบเกมขึ้นมาเล่น
อู๋ปินปิดประตูไปเงียบๆ
ชุยเกิ่ง “…
“ไม่รู้ว่าจะเป็นแผนอะไรรึเปล่า แต่จะอะไรก็มาเถอะ…”
ชุยเกิ่งขี้เกียจคิดอะไรต่อให้มากความ เขาเลือกเล่นเกมที่ชอบ
หลังปิดประตู อู๋ปินก็กลับไปนั่งที่โต๊ะ
ภารกิจของเขาวันนี้บอสเผยเป็นคนมอบหมายให้โดยเฉพาะ
อู๋ปินแปลกใจเล็กน้อยกับจุดประสงค์ของบอส
บอสเผยสั่งให้พาชุยเกิ่งไปห้องนันทนาการกับดูแลเรื่องอาหารเที่ยง อีกฝ่ายอยากทำอะไรก็ปล่อยให้ทำไป จะอยู่ต่อหรือกลับก็ไม่ต้องสนใจ
บอสบอกแค่ว่า ‘ถ้าชุยเกิ่งถามเกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าก็ให้ใบ้ๆ ไป’
…
สิบโมงเช้า เผยเชียนตื่นตามปกติ เขาลุกขึ้นนั่งพร้อมหาวหวอด
ชายหนุ่มหันมองนาฬิกา ชุยเกิ่งน่าจะไปถึงออฟฟิศแล้วและน่าจะโดนจิตวิญญาณของเถิงต๋าชักจูงอยู่
เมื่อวานเผยเชียนสั่งให้อู๋ปินรับผิดชอบเรื่องการต้อนรับชุยเกิ่ง
เผยเชียนมองว่าอู๋ปินผ่านการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋ารอบสอง น่าจะอู้งานบ่อยพอควร
ให้อู๋ปินพาชุยเกิ่งไปปล่อยไว้ห้องนันทนาการสักหนึ่งวันก็น่าจะพอ
ถ้าชุยเกิ่งยังไม่เข้าใจอีก เขาก็จะให้อู๋ปินไปบอกใบ้หนทางการเป็นจอมอู้งาน
แผนสองชั้นขนาดนี้ไม่มีทางพลาดแน่
สรุปคือ ชุยเกิ่งจะเอาเมล็ดพันธุ์ ‘คนขี้เกียจ’ ไปฝังรากไว้ในตัวนักเขียนคนอื่นๆ หลังกลับไปเขียนงานต่อในคอร์ส
เมล็ดพันธุ์นี้จะทำให้พวกเขาเปรียบเทียบกันเอง สร้างแนวคิดใหม่ และทำลายคอร์สอบรมจากภายใน…
เมื่อคิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ลุกขึ้นไปแปรงฟันด้วยความเบิกบานใจ
—
[1] ตัวละครหนึ่งในวรรณกรรมจีนชื่อดังเรื่องซ้องกั๋ง