ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ตึกสำนักงานที่ทำงานเหล่านักเขียน
หม่าอี้ฉวินพาเผยเชียนไปยัง ‘โซนคุก’ ที่เว็บจงเตี่ยนจงเหวินสร้างขึ้น
ถึงหม่าอี้ฉวินจะยกคอร์สนี้ให้จูซิงอันดูแลทั้งหมด แต่ในเมื่อบอสเผยแวะมาดู เขาก็ต้องเป็นคนรายงานสถานการณ์
“นี่แผนของคอร์สครับบอสเผย
“นี่เป็นแบบสัญญาที่นักเขียนต้องเซ็นครับ
“อันนี้เป็นตารางประจำวัน…”
หม่าอี้ฉวินยื่นเอกสารให้เผยเชียนด้วยท่าทางภาคภูมิใจ ที่รู้สึกอย่างนั้นก็เพราะช่วงที่ผ่านมาสถิติการใช้งานเว็บไซต์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
ถ้ามีนักเขียนลงงานวันหนึ่งเยอะๆ แค่คนเดียว ยอดสถิติก็จะเพิ่มขึ้นแค่นิยายของคนคนนั้น ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเว็บมาก
แต่ถ้ามีนักเขียนลงงานวันหนึ่งเยอะๆ หลายๆ คนขึ้นมาล่ะ
เว็บไซต์มักจะจัดกิจกรรมให้ยอดโหวตนักอ่านสองเท่าหรือกิจกรรมคล้ายๆ กัน เพื่อกระตุ้นให้นักเขียนลงงานเพิ่มขึ้น สถิติการใช้งานเว็บไซต์จะได้เพิ่มสูงตามไปด้วย
ตอนนี้คอร์สของพวกเขาทำให้นักเขียนระดับกลางลงนิยายวันละหลายตอน นักอ่านก็เข้ามาอ่านบ่อยขึ้น สถิติการใช้งานเว็บไซต์จึงสูงขึ้น
“บอสเผยครับ ช่วงที่ผ่านมาสถิติการใช้งานเว็บไซต์พุ่งสูงขึ้น
“กระแสตอบรับของนักอ่านก็ดีขึ้น
“สรุปได้ว่าคอร์สของเราประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ได้ประโยชน์กันหมดทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน นักอ่าน หรือเว็บไซต์!
“พวกเราวางแผนไว้ว่าจะจัดคอร์สต่อไปทันทีหลังคอร์สนี้จบ โดยจะเปิดรับนักเขียนเพิ่มและเปลี่ยนคอร์สนี้ให้กลายเป็นคอร์สที่จัดต่อเนื่อง
“แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะบอสเผยช่วยแนะนำแนวทางครับ!
“ถูกตามที่บอสว่าเลยครับ เราไม่ควรคิดแต่จะดึงนักเขียนระดับเทพจากที่อื่น เราต้องปั้นขึ้นมาเอง
“ผมมาคิดๆ ดูแล้ว ถึงจะไปดึงนักเขียนระดับเทพจากเว็บอื่นมาแล้วเสนอเงินให้สูงๆ แต่สุดท้ายเราก็ไม่มีสภาพแวดล้อมและแรงผลักดันที่เหมาะสมที่จะช่วยรักษาชื่อเสียงของนักเขียนไว้
“คอร์สของเราจะช่วยปั้นนักเขียนระดับเทพขึ้นมา ขอแค่ปั้นนักเขียนระดับกลางพวกนี้ไปเรื่อยๆ ผมมั่นใจว่าเว็บของเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่าจะมีนักเขียนระดับเทพจุติจากนักเขียนระดับกลางกลุ่มนี้เมื่อไหร่!”
เผยเชียน “…”
ถ้าหม่าอี้ฉวินไม่เล่าให้ฟัง เขาคงไม่รู้ว่าปัญหาลุกลามมาถึงขั้นนี้แล้ว
ตอนนี้เหล่านักเขียนออกไปเที่ยวในเมืองจิงโจวกับจูซิงอันยังไม่กลับมา
เพราะงั้นเผยเชียนจึงคุยกับหม่าอี้ฉวินได้โดยที่ไม่มีใครขัดจังหวะ เขากดเปิดเครื่องแล้วพบว่าคอมพิวเตอร์ล็อกให้ใช้แค่โปรแกรมเขียนนิยาย จะทำอะไรเพื่อความบันเทิงกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไม่ได้เลย
จากนั้นเขาก็หยิบสัญญาขึ้นมาอ่าน…
ในฐานะคนอู้งาน เขารู้สึกปวดใจมาก
นี่มันหลุมพรางสุดเนียน!
ทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับโรงงานนรกที่จับพวกอู้งานมาเปลี่ยนเป็นคนขยันขันแข็ง!
เผยเชียนอยากทำลายโรงงานนรกนี้ทิ้ง แล้วปลดปล่อยเหล่านักโทษให้เป็นอิสระภายใต้จิตวิญญาณของเถิงต๋า
แต่พอคิดดูดีๆ ก็พบว่าไม่สามารถจัดการปัญหาตรงหน้าได้
นั่นก็เพราะหม่าอี้ฉวินระบุไว้ว่านักเขียนต้องทำงานวันละแปดชั่วโมง ห้ามทำงานล่วงเวลา
ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ขัดกับจิตวิญญาณของเถิงต๋า นอกจากนี้ยังให้ที่พักกับอาหารฟรี มีเบี้ยเลี้ยง ประกัน และกองทุนให้ด้วย ถือเป็นสิทธิประโยชน์ที่ใครๆ ก็อยากได้
ปัญหาในตอนนี้คือการที่คอมพิวเตอร์ล็อกให้ใช้ได้แค่โปรแกรมเขียนนิยายทันทีหลังเปิดเครื่อง
เผยเชียนคิดว่าเริ่มจากตรงนี้ได้
แต่เขาต้องหาเหตุผลที่เหมาะสมมาใช้อ้าง ต้องได้ความร่วมมือจากเหล่านักเขียน
เผยเชียนเก็บความคิดนั้นไว้กับตัว เขาคุยกับหม่าอี้ฉวินต่อเกี่ยวกับรายละเอียดคอร์สอบรมระหว่างรอนักเขียนกลับมา
พวกเขาออกไปตอนบ่ายโมง อีกสักพักน่าจะกลับมาแล้ว
ไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังมาจากด้านนอก
“สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจิงโจวธรรมดามาก ไม่ค่อยมีอะไรเลย แต่ฉันก็ถ่ายรูปมาบ้าง จะได้ได้อะไรจากทริปนี้บ้าง”
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดีมาก ทำไมเมืองอื่นไม่มีบ้าง”
“จิงโจวก็ดูน่าอยู่เหมือนกันนะ”
ตารางตอนบ่ายไม่มีอะไรมาก เริ่มจากไปสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจิงโจวสองสามแห่งซึ่งก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักนัก เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเมืองจิงโจว หลังจากนั้นก็แวะไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูใกล้ๆ เพื่อพักผ่อน
ไม่มีใครรู้สึกเหนื่อยเพราะไม่ได้ไปไหนมาก
ตอนที่นักเขียนกำลังเดินกลับมาที่ ‘โซนคุก’ ซึ่งใช้ทำงานกันเป็นประจำ พวกเขาก็พบว่าประตูเปิดอยู่ ด้านในมีหม่าอี้ฉวินนั่งอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง
ทุกคนผงะไป ก่อนจะเอ่ยทักทีละคน “บอสหม่า!”
หม่าอี้ฉวินยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน “สนุกกันมั้ยทุกคน ผมขอแนะนำผู้ชายคนนี้ เขาคือบอสเผยเชียน ประธานบริษัทเถิงต๋า วันนี้แวะมาเพื่อเยี่ยมทุกคนโดยเฉพาะ…”
หลังจากหม่าอี้ฉวินแนะนำบอสเผย ทุกคนก็ทักทายเขา
ชายคนนี้คือบอสของบอสพวกเขา เพราะงั้นก็ต้องให้ความเคารพเป็นธรรมดา
นักเขียนส่วนใหญ่ไม่รู้และไม่สนใจวิถีความเป็นไปในโลก แต่พวกเขาก็รู้จักมารยาทขั้นพื้นฐาน
เผยเชียนไม่สนใจเรื่องพิธีรีตอง ที่เขารอก็เพื่อเหตุผลเดียว จึงรีบเข้าเรื่องทันที
“ช่วงที่ผ่านมาทุกคนทำงานหนักกันมากเลยครับ!
“ถ้ามีอะไรขาดเหลือบอกได้เลยนะครับ เดี๋ยวเราจะแก้ให้ทันที
“คิดว่าคอร์สนักเขียนเว็บโนเวลเป็นยังไงบ้างครับ ได้ผลดีรึเปล่า”
เมื่อเห็นว่าบอสเผยสุภาพด้วยมากๆ ทุกคนจึงรีบตอบ “บอสเผยใจดีเกินไปแล้วครับ! บอสหม่าดูแลพวกเราดีมากๆ พวกเรารู้สึกซึ้งใจสุดๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้ติเลยครับ!
“คอร์สได้ผลดีมากครับ เราคิดงานได้ดีขึ้น ใช้ชีวิตเป็นเวลามากขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้น สั้นๆ คือ พวกเรารู้สึกขอบคุณบอสเผยกับทางเว็บไซต์มากที่ให้โอกาสพวกเราเข้าร่วมคอร์ส!”
นักเขียนคนอื่นๆ เออออไปด้วย
เผยเชียน “…”
น่าผิดหวัง!
เผยเชียนหวังให้นักเขียนชี้ปัญหาในคอร์ส ขอแค่คนเดียวก็พอ เผยเชียนจะได้ใช้เป็นข้ออ้างบอกให้หม่าอี้ฉวินแก้ไขคอร์ส
ตัวอย่างเช่น ถ้ามีนักเขียนสักคนบอกว่า ‘เราเล่นเกมหรือดูวิดีโอในคอมพิวเตอร์ตัวเองไม่ได้ ซึ่งไม่สะดวกมากๆ’ เผยเชียนก็จะได้มีเหตุผลใช้บอกหม่าอี้ฉวินให้แก้ตรงที่ตั้งค่าล็อกไว้ ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
แต่พวกนักเขียนกลับเอาแต่เลียแข้งเลียขาเขา!
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก แต่ยิ่งนักเขียนพูดกันแบบนั้น เขาก็ยิ่งอยากเปลี่ยนแปลงสถานการณ์
คอร์สนี้มีประสิทธิภาพมาก หมายความว่ายิ่งต้องแก้!
เผยเชียนกระแอมกระไอก่อนจะพูดออกไปเป็นนัย “ไม่รู้ว่าทุกคนชินกับคอมพ์ที่ตั้งค่าล็อกไว้รึยัง
“ผมว่างานเขียนเป็นงานสร้างสรรค์ ถ้าล็อกให้ใช้ได้แค่โปรแกรมเดียวก็น่าจะไปลดทอนจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
“พวกเรายกเลิกการล็อกดีมั้ยครับ”
เผยเชียนคิดว่าเหล่านักเขียนจะปรบมือดีใจกัน จากนั้นพอได้เสียงส่วนมาก เขาก็บอกให้หม่าอี้ฉวินยกเลิกการตั้งค่าล็อกได้
แต่คำพูดของเผยเชียนกลับทำให้นักเขียนบางส่วนตกใจ พวกเขารีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ได้ครับบอสเผย!
“การล็อกช่วยให้เราไม่ว่อกแว่กและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยกเลิกไม่ได้ครับ!
“ถ้ายกเลิกเราไม่มีทางเขียนได้วันละแปดพันถึงหนึ่งหมื่นคำแน่นอน!”
คนอื่นๆ เห็นด้วย “ใช่ครับๆ อย่ายกเลิกเลย!”
เผยเชียน “???”
แย่แล้ว มีแต่พวกนักเขียนหัวรั้น…
พวกนายไม่อยากให้ฉันจัดการกับคุกนี้ให้เหรอ!
ชุยเกิ่งที่ยืนอยู่หลังสุดอยากจะเห็นด้วยกับที่บอสเผยเสนอ แต่พอคิดดูอีกทีเขาก็ปิดปากเงียบ
ไม่ใช่เพราะเขิน แต่เป็นเพราะเขาหนังหนา!
ถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน ชุยเกิ่งคงเป็นคนแรกที่ขอให้บอสเผยยกเลิกการตั้งค่าล็อกเครื่องให้
แต่ตอนนี้เขากลับนึกลังเล
นั่นเพราะหลังปรับตัวอยู่สองสามวัน ชุยเกิ่งก็พบว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้และการติดอยู่กับคอมพิวเตอร์ที่ล็อกไม่ให้ใช้อย่างอื่น เขาสามารถเขียนงานได้วันละแปดพันถึงละหนึ่งหมื่นคำจริงๆ
ถ้าไม่ติดอยู่ในสภาพนี้ เขาน่าจะกลับไปลงงานวันตอน
หมายความว่าความสำเร็จ รายได้ และความนิยมในหมู่นักอ่านจะลดลงไปเหมือนที่ผ่านมา
จากนั้นระหว่างที่ทุกคนในคอร์สพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ และเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เขากลับย่ำอยู่กับที่…
แบบนั้นก็น่าขายหน้ามาก
อีกอย่างถึงบอสเผยจะยิ้มๆ แต่ใครจะรู้ว่าเขากำลังล่อเหยื่ออยู่รึเปล่า
ถ้ายกมือแล้วโดนหาว่าเป็นตัวอย่างแย่ๆ ขึ้นมาจะทำยังไง
ดังนั้นชุยเกิ่งจึงปิดปากเงียบ
เผยเชียนมองไปรอบๆ ก่อนจะตระหนักว่าไม่มีนักเขียนคนไหนอยากให้ปลดล็อกเครื่อง
เขารู้สึกท้อขึ้นมา
เผยเชียนหันไปหาหม่าอี้ฉวินที่กำลังยิ้มให้เขา ดวงตาหมอนั่นแฝงไปด้วยแววชื่นชม
เหมือนหม่าอี้ฉวินจะกำลังพูดว่า ‘บอสพยายามล่อได้ดีมาก! น่าเสียดายที่ไม่มีใครตกหลุมพราง’
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกว่าความปรารถนาดีของตัวเองโดนมองผิดไปว่าเป็นความประสงค์ร้าย
ในเมื่อ ‘ไม้แข็ง’ ใช้ไม่ได้ผล เขาก็ได้แต่หาทางเลือกอื่น
ตอนนี้นักเขียนจับกลุ่มกันแล้ว หลายคนสนิทกันเพราะทัศนคติขยันหมั่นเพียร เพราะงั้นต้องหาทางแยกคนพวกนี้ออกจากกันแล้วค่อยจัดการ…
เผยเชียนมองเหล่านักเขียน “โอเคครับ ถ้าทุกคนชอบแบบนี้ผมก็จะไม่ยกเลิก
“แต่… ผมคิดว่าวิธีการในตอนนี้ยังไม่พอ มันเรียบง่ายเกินไป ไม่มีรางวัลหรือการลงโทษ
“เพราะงั้นผมจะตั้งระบบลงโทษและให้รางวัล!”
เหล่านักเขียนเศร้าใจขึ้นมา เพราะมั่นใจแล้วว่าไม่มีบอสบริษัทไหนที่ใจดีจริงๆ
หรือบอสเผยกำลังจะแสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้วใครเป็นนาย
แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกไป ได้แต่รอฟังบอสเผยอธิบายต่อ
เผยเชียนกระแอมกระไออีกครั้ง “แต่ละวันนักเขียนที่ลงงานได้เยอะที่สุดไม่ต้องมาทำงานวันถัดไป นักเขียนคนนั้นจะได้สิทธิ์ไปทำอะไรก็ได้ตามใจชอบในวันนั้นเป็นรางวัล แน่นอนว่าห้ามเอาเวลาไปเขียนงานเพิ่ม
“ส่วนนักเขียนที่ลงงานได้น้อยที่สุดจะต้องไปสำนักงานใหญ่เถิงต๋าในวันถัดไป เพื่อเรียนเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าเป็นการลงโทษ!
“ทั้งสองอย่างไม่ได้มีข้อผูกมัดในสัญญาเดิม
“ขอดูหน่อยว่าวันนี้เขียนงานกันได้เท่าไหร่”
เผยเชียนหัวไปหาหม่าอี้ฉวิน
หม่าอี้ฉวินเปิดดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของตัวเอง “คนที่ลงงานได้มากที่สุดวันนี้คือหมิงอวี่ เขียนได้ 8,712 คำ ส่วนคนที่ลงงานได้น้อยที่สุดในวันนี้คือชุยเกิ่ง เขียนได้ 3,287 คำครับ”
เนื่องจากวันนี้มีกิจกรรมช่วงบ่าย จำนวนคำเมื่อครู่จึงเป็นผลลัพธ์จากการทำงานช่วงเช้าสามชั่วโมง
หมิงอวี่เขียนได้เกือบเก้าพันคำในสามชั่วโมง หมอนี่คือปีศาจรยางค์ของจริง
ชุยเกิ่งหน้าซีด “บอสเผย ฟังผมอธิบายก่อน! ตอนเช้าผมปรับพล็อตเพิ่ม ไม่ได้อู้เลยนะครับ…”
ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้พูดจบ เผยเชียนก็ยิ้มแล้วพูดตัดบท “พรุ่งนี้จะมีคนมารับคุณ”
พูดจบเผยเชียนก็กลับออกไป
ชุยเกิ่งรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา เขาแทบยืนไม่อยู่
ซวยแล้ว!
ต้องไปเรียนเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าที่สำนักงานใหญ่เถิงต๋าเหรอ
ในหัวของเขามีแต่ภาพภูเขาที่เต็มไปด้วยมีด บ่อที่เต็มไปด้วยน้ำมันเดือด และผู้คุมแต่งกายด้วยชุดสูท
หมิงอวี่ที่ลงงานได้เยอะที่สุดเกาหัว “ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบเหรอ แล้วจะลงงานเพิ่มได้ยังไง
“ช่างเถอะ เดี๋ยวเขียนต่อที่โรงแรมก็ได้”
ระหว่างที่กำลังพึมพำกับตัวเอง หม่าอี้ฉวินก็เดินมาตบบ่าหมิงอวี่พร้อมถอนหายใจเบาๆ
“เลิกคิดไปได้เลย ถ้าบอสเผยบอกว่าทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ บอสหมายความว่าให้ทำอะไรก็ได้นอกเหนือจากการทำงาน
“รีบไปบอกนักอ่านเลยว่าวันพรุ่งนี้หยุดลงงานหนึ่งวัน”