📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 389

บทที่ 389 - ผู้เข้าอบรมคนแรก
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อย จางวั่งก็เดินไปสั่งชาไข่มุกร้านข้างๆ จากนั้นก็นั่งจิบเครื่องดื่มพลางสังเกตการณ์ตู้โทรศัพท์ให้เช่า

ตอนหร่วนกวางเจี่ยนวาดภาพ มีหลายคนมามุงดูอยู่รอบตู้โทรศัพท์ พอตู้โทรศัพท์ให้เช่าเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ทุกคนก็รีบไปยืนออถ่ายรูป

นอกจากนั้นทุกคนยังทำตัวกันน่ารักมาก

พวกเขายืนต่อแถวเข้าคิวถ่ายรูป Modest ด้านหน้าตู้โทรศัพท์

ระหว่างนั้น คนที่เดินผ่านไปผ่านมาพอเห็นว่าตู้โทรศัพท์ให้เช่ามีอุปกรณ์มาติดตั้งเพิ่มก็พากันนึกสงสัย

“เหมือนว่าตู้โทรศัพท์ให้เช่าจะมีอะไรเพิ่มหลายอย่างเลยนะ”

“เราไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ตู้กดเครื่องดื่มใช่มั้ย”

“แกคิดว่าสิบหยวนจะซดได้ไม่อั้นเลยเหรอ ยังไงก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มอยู่แล้วสิ”

“มีตู้กาชาปองกับไมโครโฟนด้วยสองตัว! แสดงว่าเข้าไปร้องเพลงด้านในได้เหรอ”

“ที่วางอยู่บนเก้าอี้พับคืออะไรน่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

“ฉันว่าด้านในน่าจะมีอะไรหลายอย่างเลย ขอทางหน่อยครับทุกคน ผมอยากเข้าไปดู”

“เฮ้ยๆ ต่อแถวด้วยสิ”

“แบ่งเป็นสองแถวเถอะ เราต่อแถวเพื่อเป้าหมายคนละอย่างนี่ คุณอยากถ่ายรูป พวกผมอยากเข้าไปใช้ตู้ จะได้ไม่ขวางทางกัน”

“แล้วถ้าฉันอยากถ่ายรูปด้วย อยากเข้าไปใช้ตู้ด้วยล่ะ…”

หลังจากถกเถียงกันสักพัก ทุกคนก็แบ่งออกเป็นสองแถว

แถวหนึ่งสำหรับถ่ายรูปกับภาพวาด Modest อีกแถวต่อเพื่อเข้าใช้งานตู้โทรศัพท์ให้เช่า

ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเข้าไปใช้งานตู้โทรศัพท์ให้เช่าเพราะด้านในไม่ค่อยมีอะไร ไม่รู้จะเข้าไปทำไม

ตอนนี้มีหลายอย่างเพิ่มขึ้น ด้านหน้าตู้ก็มีภาพวาด พอดูดีขึ้น หลายคนก็อยากเข้าไปใช้งาน

คนเรามักจะตัดสินกันที่หน้าตา ตู้โทรศัพท์เองก็โดนตัดสินที่รูปลักษณ์

ลูกค้าที่เข้าไปใช้งานกลุ่มแรกคือคู่รัก

ที่แบบนี้ให้เข้าไปใช้งานคนเดียวคงจะแปลก นอกจากจะเหงาแล้ว ยังโดนมองเข้ามาจากด้านนอกด้วย

หลังจากเข้าไปข้างใน ทั้งสองก็ปิดประตูแล้วดึงม่านลง

คนที่รออยู่ด้านนอกเห็นจอเล็กขึ้นแจ้งเตือนว่าเหลือเวลาอีกสิบห้านาที

คนที่ต่อแถวอยู่จะรู้คร่าวๆ ว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่จะถึงตาตัวเอง

แน่นอนว่าฟังก์ชันนี้ยังมีข้อด้อยอยู่ ตัวอย่างเช่น สามารถบอกได้แค่ว่าคนในตู้เหลือเวลาอีกเท่าไหร่จนกว่าจะออกมา แต่บอกอย่างแม่นยำไม่ได้ว่าคนที่อยู่ปลายแถวต้องรออีกนานแค่ไหน

จางวั่งจดเรื่องนี้ไว้ เขาคิดว่าในอนาคตจะเพิ่มฟังก์ชันบอกจำนวนคนที่ต่อแถวอยู่หรือเวลาโดยประมาณว่าอีกนานเท่าไหร่จะถึงคิวตัวเอง

คู่รักเริ่มสำรวจตู้โทรศัพท์ให้เช่าด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“โอ๊ะ เราได้เครื่องดื่มสองแก้ว เลือกได้ว่าจะเอาร้อนหรือเย็น”

“ร้องเพลงได้ฟรีด้วย”

“โห สิบหยวนได้สิบห้านาที ถือว่าคุ้มนะ!”

“มีตู้กาชาปองด้วย เสียดายที่ต้องจ่ายเพิ่ม”

“แหม คาดหวังอะไรอยู่ ถ้าตู้กาชาปองฟรี บริษัทก็ขาดทุนยับเยินกันพอดี”

“ร้องสักเพลงมั้ย”

“จะดีเหรอ น่าอายออก”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่เห็นได้ยินเสียงจากด้านนอกเลย แสดงว่าตู้นี่กันเสียงได้ดีเลย”

ตอนแรกค่าบริการสิบหยวนต่อสิบห้านาทีดูเป็นอะไรที่แพงมาก แต่พอมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นมาหลายอย่างก็ไม่ได้ดูแพงเกินไป แถมยังรู้สึกคุ้มอีกต่างหาก!

ส่วนจางวั่งนั้นได้กำไร

ลูกค้าจะได้เครื่องดื่มแค่คนละแก้ว จะใช้บริการสิบห้านาทีหรือเป็นชั่วโมง จำนวนเครื่องดื่มที่ได้ก็ไม่เพิ่มขึ้น ถ้ากระหายน้ำขึ้นมาก็ต้องซื้อเพิ่ม

นอกจากนั้นต้นทุนตู้กดเครื่องดื่มก็ไม่ได้สูงมาก ยกตัวอย่างเช่นเครื่องดื่มร้อน กาแฟหรือชานมชงสำเร็จถุงหนึ่งกิโลกรัมชงเครื่องดื่มขนาดสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรได้ห้าสิบแก้ว ตกแก้วละห้าเหมา แถมยิ่งซื้อทีละเยอะๆ ต้นทุนก็ยิ่งถูกลงไปอีก

ถึงจะคำนวณค่าน้ำค่าไฟเพิ่มเข้าไป อย่างมากก็ตกแก้วละสองหยวน ยังไงตู้โทรศัพท์ให้เช่าก็ทำกำไรได้อยู่ดี

แน่นอนว่าลูกค้าเลือกให้ชงตามรสที่ชอบไม่ได้

ส่วนตู้กาชาปองก็ต้องเสียเงินเล่นเพิ่ม

คู่รักหยิบไมค์บนโต๊ะขึ้นมาแล้วหันไปเจอกล่องเล็กๆ ใส่ที่ครอบไมค์ฟรี พวกเขาได้ฟรีสองชิ้น ถ้าอยากได้เพิ่มก็ต้องจ่ายเงิน

เสียงดนตรีดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็เริ่มร้องเพลง

ด้านนอกตู้โทรศัพท์ คนที่ต่อแถวอยู่ได้ยินเสียงเพลงเบาๆ ดังออกมาจากด้านในตู้โทรศัพท์

“หืม ร้องเพลงกันจริงๆ เหรอ”

“โห…จะร้องนานแค่ไหนเนี่ย”

“โอ๊ย พวกเขาจ่ายเพิ่มให้อยู่ต่อได้นานขึ้น เวลาบนจอเพิ่มขึ้นแล้ว!”

“…ไปกันๆ ต้องรอนานแค่ไหนก็ไม่รู้!”

ดูเหมือนว่าคู่รักที่เพิ่งเข้าไปในตู้โทรศัพท์ให้เช่าตั้งใจจะใช้งานนานขึ้น เวลาบนหน้าจอแสดงผลใหม่เป็นสามสิบนาที หลายคนที่ต่อแถวเข้าคิวเพื่อลองใช้นึกถอดใจแล้วออกจากแถวไป

แต่จางวั่งที่นั่งอยู่ในร้านน้ำข้างๆ ตระหนักเรื่องบางอย่างขึ้นได้เมื่อเห็นอย่างนั้น

ถ้าคนที่เข้าไปรีบออกมาก็ถือเป็นเรื่องไม่ดี เพราะจะหมายความว่าตู้โทรศัพท์ไม่น่าใช้งาน!

แต่คู่รักที่เข้าไปอยู่ร้องเพลงต่อรวมสามสิบนาที แสดงว่าตัวตู้ไม่มีปัญหาอะไร!

ตู้ที่เหลือใกล้เสร็จแล้วและจะไปตั้งไว้ในห้างต่างๆ ในเมืองจิงโจว…

ต้องเป็นบ่อเงินบ่อทองไปได้นานแน่!

พอตั้งตู้โทรศัพท์ให้เช่าครบทั้งยี่สิบตู้แล้วหาเงินคืนทุนได้ เขาจะรีบไปบอกข่าวดีนี้กับบอสเผยทันที!

ช่วงบ่าย บนแท็กซี่ที่กำลังวิ่งจากสนามบินจิงโจวไปตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวโนlวลกูดอทคoม

ชายหนุ่มเปิดแอปพลิเคชันแพลตฟอร์มนักเขียนบนมือถือเพื่อเปิดตอนใหม่ จากนั้นก็พิมพ์คำว่า ‘พักงาน’ ลงตรงชื่อตอนอย่างช่ำชอง

“ผมต้องไปเข้าร่วมคอร์สนักเขียนเว็บโนเวลของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินจึงมาแจ้งเรื่องขอพักลงนิยาย

“แล้วก็ อย่าลืมกดโหวตเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ!”

เขาพิมพ์ข้อความทั้งหมดรวดเดียวจบ จากนั้นก็เก็บมือถือแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชมบรรยากาศเมืองจิงโจว

ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็หยิบมือถือออกมาแล้วเข้าแอปพลิเคชันเว็บจงเตี่ยนจงเหวินอีกรอบเพื่ออ่านคอมเมนต์จากนักอ่าน

“เบี้ยวเหมือนเดิมอีกแล้ว เดือนก่อนเบี้ยวมากี่ครั้งแล้ว”

“เพิ่งจะบ่ายสามเอง เขียนตอนกลางคืนไม่ได้เหรอ”

“อืม มีพัฒนาการ ที่ผ่านมาสองสามรอบบอกว่าไปงานแต่งเพื่อนตลอด ก็สงสัยนะว่าทำไมเพื่อนแต่งงานติดๆ กันแบบนั้น รอบนี้แก้ตัวได้ดี รักษามาตรฐานไว้นะ!”

“เบี้ยวบ่อยแบบนี้เป็นสัญญาณว่านักเขียนแต่งนิยายไม่จบแน่ บอกมา เรื่องนี้ก็จะโดนเทด้วยเหมือนกันใช่มั้ย”

“ไม่นะ ห้ามเท ฉันเพิ่งมาอ่านเอง เรื่องนี้เพิ่งจะเขียนไปได้แค่หกแสนคำ ยังเป็นลูกอ๊อดอยู่เลย!”

“เบี้ยวแล้วยังมาขอให้โหวตอีก หน้าไม่อายจริงๆ!”

“เห็นโหวตนี่มั้ย ถึงจะเสียไปฟรีๆ ฉันก็ไม่ยอมโหวตให้นายหรอก!”

พอได้อ่านคอมเมนต์จากนักอ่าน ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาเพราะเคยชินกับเรื่องนี้แล้ว

ชุยเกิ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าอบรมที่จะเข้าร่วมคอร์สสำหรับนักเขียนคอร์สแรกของเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน นามปากกาของเขาคือ ‘ปีศาจรยางค์ปั่นงานสู้ชีวิต’ แต่นามปากกานี้ก็กลายเป็นการประชดชั้นดี

เขาขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนที่ลงงานช้ามากและชอบพักลงงานตามใจชอบ ทุกครั้งที่ขอพักลงงาน เขาจะขอให้นักอ่านกดโหวตให้อย่างหน้าไม่อาย

นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นคนที่เทนิยายมาสองสามเรื่องแล้วด้วย

แต่ทุกครั้งที่เปิดเรื่องใหม่ก็มักจะมีพล็อตดีๆ จังหวะการเดินเรื่องและภาษาเขียนก็ดีมาก จึงเรียกนักอ่านเข้ามาได้ ถึงจะโดนด่าเปิงอยู่ตลอด แต่เหล่านักอ่านก็ห้ามใจเข้ามาอ่านนิยายของเขาไม่ได้อยู่ดี

ชุยเกิ่งถอนหายใจ “เฮ้อ รอบนี้บอกความจริงแท้ๆ ฉันจะไปเข้าคอร์สจริงๆ ทำไมไม่มีใครเชื่อเลย”

ในหมู่นักเขียนเว็บโนเวลจะมีกลุ่มขยันกับกลุ่มขี้เกียจ นักเขียนแบบชุยเกิ่งจัดอยู่ในกลุ่มขี้เกียจ

เพราะเขาขาดแรงบันดาลใจ

ตอนเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันของโลกวัตถุนิยม เมื่อไม่มีอะไรทำ เขาจึงตัดสินใจเขียนนิยายออนไลน์ประทังชีวิต

แต่ผ่านมาได้ครึ่งปี บ้านก็โดนรื้อทิ้ง

ชุยเกิ่งร่อนเร่ไปทั่วอยู่พักหนึ่ง รู้สึกว่างเปล่าอีกครั้ง แต่เขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง รอบนี้เขาจะแต่งนิยายให้จบและขึ้นเป็นนักเขียนระดับเทพให้ได้

สุดท้ายอพาร์ตเมนต์อื่นๆ ของครอบครัวก็ถูกรื้อทิ้งอีกหลายแห่ง

ชุยเกิ่งเศร้าใจมาก ชีวิตมักจะเล่นตลกกับเราเสมอ

ใครจะไปมีอารมณ์เขียนนิยายต่อได้

ดังนั้นชุยเกิ่งจึงปล่อยให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตา

เขามาที่จิงโจวครั้งนี้เพื่อมาเที่ยว

ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าจะได้อะไรจากคอร์ส เขาสมัครเข้าอบรมทันทีที่ได้ยินว่ามีเบี้ยเลี้ยงให้พร้อมอาหารและที่พักฟรี

ไม่คิดเลยว่าจะได้รับเลือกจริงๆ

น่าจะเพราะเว็บจงเตี่ยนจงเหวินมีนักเขียนที่เขียนผลงานดีๆ ไม่มาก

ชุยเกิ่งเริ่มเขียนงานลงเว็บอู๋เซียนจงเหวินก่อน แต่นักอ่านหลายคนรู้ว่าเขาชอบเทงาน แม้แต่บรรณาธิการก็รู้ชื่อเสียนี้ ทุกครั้งที่เปิดเรื่องใหม่จะมีนักอ่านเก่าเข้ามาคอมเมนต์ด่าตลอด

พอจนตรอกและไม่มีเงินใช้ ชุยเกิ่งก็ตัดสินใจย้ายไปอีกแพลตฟอร์มเพื่อชุบชีวิตตัวเองใหม่

ดังนั้นด้วยเหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง ชุยเกิ่งจึงย้ายมาเขียนให้เว็บจงเตี่ยนจงเหวินที่ดูแลนักเขียนระดับกลางค่อนข้างดีทีเดียว

“เห็นว่าที่จิงโจวมีที่สนุกๆ น่าไปเที่ยวหลายที่เลย

“รอบนี้น่าจะใช้คอร์สอบรมเป็นข้ออ้างในการเที่ยวเล่นสักหน่อยได้

“ฉันพักงานเพราะมีเหตุผลจริงๆ นักอ่านไม่น่าด่าได้นะ

“ฉันมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อเขียนงาน แถมการเขียนนิยายก็ต้องใช้สมองหนัก ถ้าได้เที่ยวเล่นพักผ่อนสมองให้ร่างกายสดชื่นก็น่าจะเขียนงานดีๆ ได้

“ทุกคนต้องเข้าใจแน่!”

หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง ชุยเกิ่งก็ไปถึงตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว

เขาลงจากรถแล้วขึ้นลิฟต์ไปฝ่ายบรรณาธิการของเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน

มีคนรอต้อนรับอย่างอบอุ่นแล้วพาเขาเข้าไปในห้องประชุม

ไม่นานหม่าอี้ฉวินก็เข้ามาในห้องประชุม ทั้งสองเริ่มคุยกัน

จากที่ได้คุยกัน ชุยเกิ่งพบว่าตัวเองเป็นนักเขียนคนแรกที่มาถึงจิงโจว ซึ่งก็ทำให้รู้สึกแปลกใจ

แต่พอคิดดูอีกทีก็ไม่แปลกอะไร เขาเพิ่งจะได้รับคำเชิญเมื่อวาน แต่วันนี้มาถึงแล้ว ก็เร็วจริงๆ นั่นแหละ

ที่เขารีบมาก็เพราะอยากหาข้ออ้างพักลงงานให้เร็วที่สุด

หลังจากคุยกันไปได้พักหนึ่ง หม่าอี้ฉวินก็หยิบสัญญาออกมา

“นี่เป็นสัญญาณสำหรับคอร์สอบรมเว็บโนเวล ทุกคนต้องเซ็นสัญญานี้

“อ่านรายละเอียดในสัญญาให้ครบถ้วน ถ้าแน่ใจว่าไม่ติดขัดตรงไหนก็เซ็นได้เลยครับ

“เรามีข้อบังคับนิดหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ เป็นแค่ข้อบังคับพื้นฐาน ไม่ได้สุดโต่งอะไร”

ชุยเกิ่งผงะไป “เอ๋ มีสัญญาด้วยเหรอครับ”

เป็นทางการจังแฮะ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset