วันพุธที่ 12 มกราคม
เผยเชียนนั่งอยู่ในออฟฟิศ กำลังเช็กผลสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋ารอบล่าสุด
การสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋าจัดขึ้นทุกสัปดาห์ แต่เนื่องจากมีพนักงานเข้าใหม่เยอะและเวลาเริ่มฝึกงานไม่ตรงกัน ทำให้จนถึงตอนนี้มีพนักงานหลายคนที่ยังไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นพนักงานประจำ
หลายคนเหลือโอกาสแค่ครั้งเดียว ถ้าไม่ผ่านอีกก็จะได้แค่เงินชดเชยและต้องออกจากบริษัทไป เรียกได้ว่าตอนนี้เครียดกันสุดๆ
ถึงเถิงต๋าจะให้เงินชดเชยก้อนโต
ถึงปีหน้าจะลองสอบใหม่ได้
แต่ใครจะทำใจได้ถ้าต้องออกหลังจากทำงานกับเถิงต๋ามาได้สักพักแล้ว
ตอนช่วงฝึกงาน ถึงพวกเขาจะไม่ได้ร่วมทำงานอะไรจริงจัง แต่ก็เห็นสภาพการทำงานของคนอื่นๆ ระหว่างเรียนรู้งาน เห็นสวัสดิการต่างๆ ที่เถิงต๋าให้ ทำให้ส่วนใหญ่อยากทำงานที่นี่มาก
ดังนั้นการสอบวัดความเข้ากันได้กับเถิงต๋ารอบสุดท้ายจึงสำคัญสำหรับพวกเขามากๆ
เผยเชียนเปิดดูผลลัพธ์แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อได้เห็นว่าอัตราการผ่านเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง
“พวกที่เหลือโอกาสรอบเดียวสอบผ่านหมด
“อัตราการผ่านรอบนี้สูงกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
“ดูแล้วแทบไม่มีใครโดนให้ออกเลย
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ข้อสอบหลุดเหรอ
“ไม่น่าเป็นไปได้”
เผยเชียนตรวจคลังคำถามข้อสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋าด้วยความคลางแคลงใจ
เขาเป็นคนออกคำถามทุกข้อในคลัง ตัวเลือกแต่ละข้อสร้างความสับสนได้สุดๆ การสอบแต่ละครั้งจะสุ่มเลือกคำถามจากคลัง ลำดับตัวเลือกของแต่ละข้อก็สุ่มใหม่ด้วย
หรือคนดูแลเว็บจะแอบปล่อยข้อสอบ
ไม่น่าเป็นอย่างนั้น ไม่มีใครกล้าทำเรื่องที่บอสเผยสั่งห้ามเด็ดขาดอย่างโจ่งแจ้งแน่ โอกาสที่ข้อสอบจะรั่วออกไปมีน้อยมาก
เผยเชียนไม่แน่ใจว่าคนดูแลเว็บแอบเปิดประตูหลัง[1]ไว้รึเปล่า แต่ถ้าทำอย่างนั้นแล้วบอสเผยจับได้ ผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียวก็คือตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย
เผยเชียนคิดว่าพนักงานของเขาไม่น่าจะโง่ขนาดนั้น
แต่อัตราการสอบผ่านก็เพิ่มขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด
เผยเชียนนึกหาเงื่อนงำที่เกี่ยวข้อง
“อืม… อัตราการสอบผ่านตอนแรกต่ำมาก แต่ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น
“พนักงานใหม่คงจะแอบคุยกัน แต่ก็ไม่น่าจะสร้างผลกระทบอะไรใหญ่โต เพราะข้อสอบสุ่มจากคลัง ไม่น่าจะมีใครจำและเข้าใจจิตวิญญาณของเถิงต๋าได้แม่นยำขนาดนั้น
“หมายความว่าที่พนักงานใหม่คุยกันเองน่าจะเป็นแค่สาเหตุหนึ่ง
“สิ่งสำคัญกว่าคือพนักงานใหม่ส่วนใหญ่เข้าใจแก่นสำคัญของจิตวิญญาณของเถิงต๋า
“เรื่องการทำงานล่วงเวลาช่วงนี้ก็เป็นไปในแง่บวกมากขึ้น
“นอกจากพนักงานใหม่จะเข้าใจจิตวิญญาณของเถิงต๋ามากขึ้นแล้ว ทัศนคติของพนักงานเดิมก็ดีขึ้นด้วย
“หรือการสอบนี้จะช่วยให้บรรยากาศในออฟฟิศดีขึ้น และช่วยให้ฉันบรรลุจุดประสงค์แรกเริ่มที่วางไว้”
เผยเชียนคิดๆ ดูแล้วพบว่านี่น่าจะเป็นเหตุผลเดียวที่พอจะอธิบายได้
ไม่อย่างนั้นทำไมเรื่องการทำงานล่วงเวลาของพนักงานเก่าถึงดีขึ้นล่ะ
ช่วงนี้ฝ่ายต่างๆ ขอทำงานล่วงเวลาน้อยลง บางฝ่ายไม่ขอทำงานล่วงเวลามาสองสัปดาห์ติด ซึ่งทำให้บอสเผยดีใจจนอยากจะมอบถ้วยรางวัลให้
เดี๋ยวนะ ถ้วยรางวัลเหรอ
เหมือนจะเป็นไอเดียที่ดีทีเดียว!
เผยเชียนส่งข้อความไปหาห่าวหยุนฝ่าย HR ทันที “ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เราจะจัดแข่ง Zero OT
“ทุกๆ สัปดาห์ ถ้าฝ่ายไหนไม่ทำงานล่วงเวลาจะได้ลงประวัติ ‘Zero OT ประจำสัปดาห์’ ทุกเดือนจะมีการคัดเลือก ฝ่ายไหนมีประวัติ ‘Zero OT’ เยอะที่สุดจะได้ถ้วยรางวัลพร้อมโบนัสห้าหมื่นหยวนไป!
“ระวังไว้ด้วยว่า ‘Zero OT’ หมายถึงไม่ว่าจะเป็นตอนเย็นหรือวันหยุด ที่บ้านหรือที่ทำงาน ก็ห้ามมีร่องรอยการทำงานล่วงเวลาเลย! จะต้องไม่มีประวัติการอัปโหลดเอกสารนอกเวลางาน
“งานที่เป็นกะอย่างของนี่เฟิงโลจิสติกส์จะวัดจากวันทำงานจริง
“ฝ่าย HR กับฝ่ายธุรการจะดูแลเรื่องนี้ร่วมกันและจับตาดูกันและกัน! รายงานผมทันทีถ้ามีสัญญาณอะไรน่าสงสัยเพื่อตัดสิทธิ์ ‘Zero OT ประจำสัปดาห์’
“ถ้ามีฝ่ายที่ได้ประวัติ ‘Zero OT ประจำสัปดาห์’ ครบสี่สัปดาห์หลายฝ่าย ฝ่ายที่มีจำนวนคนเยอะที่สุดจะได้รางวัลไป แต่ฝ่ายที่ไม่ได้รางวัลจะมีสิทธิพิเศษสำหรับรอบต่อไป”
ห้าหมื่นหยวนต่อเดือนถือเป็นเงินไม่มาก แต่ก็เป็นจำนวนสูงสุดที่ระบบยอม
ทำไมรอบนี้ถึงงกจัง… สงสัยระบบจะมองว่าการให้โบนัสสำหรับการไม่ทำงานล่วงเวลาเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะรางวัลนี้ถือเป็นเกียรติยศ เงินโบนัสเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
ขอแค่มีถ้วยรางวัลกับโบนัสและบอสเผยเป็นคนมอบรางวัลให้เอง ฝ่ายต่างๆ ก็น่าจะมีกำลังใจในการแข่งกันแย่งชิงรางวัลมากขึ้น
ทำแบบนี้ ฝ่ายอื่นก็จะเข้ามาร่วมด้วยและกลายเป็นการแข่งขันที่สร้างผลดี
ห่าวหยุนรีบตอบ “โอเคค่ะบอสเผย ดิฉันจะเร่งจัดการให้ทันที”
…
ห้างหวนยู่เทียนเจี่ย
มีคนกลุ่มใหญ่มุงอยู่รอบตู้โทรศัพท์ให้เช่า
หร่วนกวางเจี่ยนกำลังตั้งหน้าตั้งตาลงรายละเอียดสุดท้ายให้ภาพ หลังจากผ่านมาได้สองวัน ภาพก็เกือบสมบูรณ์ดีแล้ว เหลือแค่เก็บรายละเอียดต่ออีกครึ่งวัน
นี่คือภาพออริจินัลของ ‘ผู้พิทักษ์ความยุติธรรม Modest’ ที่วาดด้วยสไตล์ลายเส้นหนาโดดเด่น
Modest ในภาพมีร่างกายกำยำและดวงตาดุดัน แขนล่ำสันดูพร้อมจะปกป้องทุกคน แม้แผ่นหลังจะมีอาวุธมากมายปักอยู่ แต่สีหน้ากลับไร้ซึ่งแววหวั่นเกรง มีเพียงความเข้มแข็งเท่านั้น
หร่วนกวางเจี่ยนวาดมาได้สองวันกว่าแล้ว ซึ่งก็มีคนทยอยมามุงดูเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ทุกคนมองดูตู้โทรศัพท์ให้เช่าฝั่งที่มีภาพวาด แล้วอดรู้สึกทึ่งในสไตล์ที่โดดเด่นไม่ได้
“รูปอะไรนั่น โคตรเท่เลย!”
“นี่สิขั้นเทพของจริง วาดเร็วแล้วก็ฝีมือโคตรดี รอให้เสร็จไม่ไหวแล้ว อยากถ่ายรูปแล้ว”
“ฉันลองเสิร์ชในเน็ตดูแล้ว แต่ไม่เจอรูปที่คล้ายกันเลย น่าจะเป็นงานออริจินัล”
“เหมือนจะเป็นงานออริจินัลของเกมสักเกม หรือว่าจะเป็นเกมใหม่ที่โฆษณาผ่านตู้โทรศัพท์เพื่อดึงผู้เล่น”
“ฉันว่าตู้โทรศัพท์นี่อย่างมากอีกสักสัปดาห์ก็รื้อทิ้งแล้ว ไปขึ้นป้ายโฆษณาไม่ดีกว่าเหรอ”
“มันไม่เท่เท่าวาดสดๆ อะดิ!”
“ใช่ ถ้าขึ้นป้ายโฆษณาก็ต้องพิมพ์สี มันคือการโฆษณา แต่นี่วาดสด มันคืองานศิลปะ!”
ผู้คนคุยกันยกใหญ่ เพราะมีไม่ค่อยบ่อยนักที่จะมีนักวาดมาวาดภาพสดๆ
หร่วนกวางเจี่ยนปาดพู่กันอีกครั้ง ก่อนจะเขยิบถอยห่างไปเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเพราะคิดว่าผลงานออกมาดีทีเดียว
ภาพของเขาใกล้เสร็จแล้ว เหลือเพิ่มเติมรายละเอียดอีกนิดหน่อยในช่วงบ่าย
จากนั้นก็จะพักผ่อนได้โuเวลกูดoทคoม
จางวั่งรีบเอาเครื่องดื่มไปให้ “คุณนักวาดเต็มที่มากเลยครับ!”
หร่วนกวางเจี่ยนรับเครื่องดื่มมา “ตู้โทรศัพท์คุณออกแบบมาดีมาก เข้ากันกับภาพที่วาดเลยครับ”
จางวั่งยิ้ม “เพราะคุณนักวาดฝีมือดีแหละครับ
“อ่อ จริงด้วยครับ ผมว่าจะทำตัวปั๊มด้วย จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมหรือวงกลมก็ได้ครับ คือ…”
หร่วนกวางเจี่ยนเข้าใจทันที “ง่ายมากครับ เดี๋ยวผมวาดให้อีกภาพแล้วคุณไปหาคนทำแม่พิมพ์ให้ น่าจะใช้เวลาไม่นาน”
งานนี้ไม่ยากอะไร แค่วาดรูปฮีโร่ด้วยลายเส้นง่ายๆ ใส่ชื่อฮีโร่กับหมายเลขของตู้โทรศัพท์ไปก็เสร็จ
…
สี่โมงเย็น
เผยเชียนเดินออกจากห้องสอบด้วยสภาพอ่อนแรง
เหนื่อยฉิบเป๋ง!
ถึงข้อสอบจะอนุญาตให้เปิดหนังสือได้และคำตอบทั้งหมดก็อยู่ในนั้น แต่ไม่ว่าจะเปิดหายังไง เขาก็หาคำตอบไม่เจออยู่ดี…
สุดท้ายก็ต้องใช้ความเร็วข้อมือชั้นสูงลอกเนื้อหาทั้งหมดที่คิดว่าเกี่ยวข้องลงให้เต็มกระดาษคำตอบ
น่าจะพอช่วยให้ผ่านได้ แต่ไม่มีทางได้คะแนนดี
เผยเชียนได้แต่ถอนหายใจ ฉันนี่เลินเล่อจริงๆ!
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อสอบแบบเปิดหนังสือได้และอ่านหนังสือก่อนสอบล่วงหน้ามาบ้าง แต่เขาก็เตรียมตัวมาไม่ดีพอ
เผยเชียนดันขาดเรียนคาบที่อาจารย์สรุปประเด็นสำคัญเพราะติดอะไรสักอย่าง…
หลังสอบวิชานี้มีสอบวิชาอื่นๆ ที่อนุญาตให้เปิดหนังสือได้อีก แถมวิชาที่ไม่อนุญาตให้เปิดหนังสือเขาก็เพิ่งอ่านโน้ตที่ยืมมาจากไอ้หม่าไปได้แค่ครึ่งเดียว
เผยเชียนรู้สึกสิ้นหวังสุดๆ
แต่ไอ้หม่าที่อยู่ข้างๆ กลับดูร่าเริง หมอนั่นอารมณ์ดีมาก ไม่เหมือนคนที่เพิ่งสอบเสร็จหมาดๆ
เผยเชียนเดาว่าที่เป็นอย่างนั้นน่าจะเพราะหม่าหยางทำข้อสอบได้ดีจริงๆ หรือไม่ก็คิดว่าตัวเองทำได้ดี
ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า
พอรู้ว่ามีพวกวิชาที่สอบแบบเปิดหนังสืออีกสองสามวิชา แถมตัวเองก็ดันขาดเรียนคาบที่มีการสรุปประเด็นสำคัญของวิชาพวกนั้นด้วย เผยเชียนจึงตัดสินใจตามหม่าหยางไปบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
ช่วงนี้ไอ้หม่าตั้งใจมากทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงาน สมุดจดและโน้ตต่างๆ ของเขาอยู่ที่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
เผยเชียนคิดว่าน่าจะยังพอเอาตัวรอดในการสอบแบบเปิดหนังสืออีกสองสามวิชาที่ยังไม่สอบได้อยู่
พอไปถึงบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง เผยเชียนก็หาที่นั่งพัก ส่วนหม่าหยางไปหยิบสมุดกับโน้ตให้
เผยเชียนกดกาแฟจากเครื่องชงกาแฟมาจิบพลางมองไปรอบๆ
ทันใดนั้นเขาก็เจอปัญหา
ทำไมในออฟฟิศคนน้อยจัง
แม้แต่เฮ่อเต๋อเซิ่งก็ไม่อยู่!
เพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานสักหน่อย
เผยเชียนงงเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
หรือพวกเฮ่อเต๋อเซิ่งจะคิดว่าวันนี้บอสหม่ามีสอบ ไม่น่าจะแวะเข้ามาออฟฟิศ เลยแอบชิ่งกลับก่อน
ดูสิว่าทีมที่ไอ้น้องชายหามาเชื่อถือได้แค่ไหน!
เผยเชียนแทบอดใจไม่ไหวที่จะพาพนักงานกลุ่มนี้ไปเป็นแบบอย่างให้พนักงานทุกคน
ระหว่างที่คิดอยู่ พวกเฮ่อเต๋อเซิ่งก็กลับมาพอดี
เผยเชียน “?”
พอเห็นบอสเผย เฮ่อเต๋อเซิ่งก็รีบทักทาย “บอสเผยมาด้วยเหรอครับนี่!”
เผยเชียนแปลกใจเล็กน้อย “คุณไปไหนมา”
ถ้าแอบชิ่งกลับก่อนแล้วมีคนทักไปบอกก็ไม่น่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้
หรือจะเป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อกี้อาจจะแวะไปเข้าห้องน้ำกัน
แต่ก็ไม่น่าใช่ ทำไมต้องยกโขยงไปห้องน้ำกันเยอะขนาดนั้นด้วย
เฮ่อเต๋อเซิ่งยิ้ม “อ๋อ โรงงานแถบชานเมืองจิงโจวทำตู้โทรศัพท์จากต้นแบบตู้โทรศัพท์ให้เช่าให้เราล็อตใหญ่ ผมเลยแวะไปตรวจงานมาครับ”
เผยเชียนงงหนักกว่าเก่า “หืม ไม่ใช่งานคุณนี่”
เฮ่อเต๋อเซิ่งยิ้ม “ก็ไม่ใช่ครับบอสเผย
“แต่ยังไงตู้โทรศัพท์ให้เช่าก็เป็นโปรเจ็กต์ที่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งลงทุน จางวั่งไม่น่าจะจัดการคนเดียวได้ พวกเราเลยเข้าไปช่วย
“ที่สำคัญเลยคือ ตอนนี้เราไม่มีงานอะไรให้ทำเท่าไหร่ ก็เลยช่วยๆ เขาหน่อยน่ะครับ”
เฮ่อเต๋อเซิ่งพูดตามตรง ก่อนหน้านี้ถ้าไม่มีงานทำก็ได้แต่เล่นเกมกับบอสหม่า แต่ตอนนี้บอสหม่าบอกว่าจะเลิกเล่นเกมและจริงจังกับการทำงาน
งานปกติก็มีแค่อ่านแผนธุรกิจ ส่วนใหญ่จะว่าง พวกเขาเลยตัดสินใจเข้าไปช่วยโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าของจางวั่ง
เผยเชียน “???”
คิดผิดมหันต์!
นึกว่าคนพวกนี้จะรู้แล้วว่าต้องทำตัวยังไงเลยชิ่งกลับก่อน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย!
แค่ทำงานตัวเองเสร็จไม่พอ นี่สาระแนไปช่วยงานคนอื่นด้วย!
ทัศนคติแบบนี้ไม่ควรมี!
จางวั่งกับโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าดูน่าเชื่อถือดีอยู่แล้ว น่าจะพาขาดทุนได้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าพวกเฮ่อเต๋อเซิ่งเข้าไปช่วยแล้วทำให้เรื่องราวกลับตาลปัตรจะทำยังไง
เผยเชียนเงียบไปพักหนึ่ง “พวกคุณงานน้อยไปเหรอ งั้นผมมีโปรเจ็กต์ใหม่ให้
“เด็กหัวกะทิให้เช่า”
—
[1] หรือแบ็กดอร์ (backdoor) ในทางคอมพิวเตอร์ หมายถึง รูรั่วของระบบรักษาความมั่นคงที่ผู้ออกแบบหรือผู้ดูแลจงใจทิ้งไว้






