📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 386

บทที่ 386 - เกิดปัญหามากมาย
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

หลังเก็บสมุดหนังสือเสร็จ เผยเชียนก็เดินออกจากห้องทำงาน

“ทุกคน วางมือจากงานก่อน

“ไปกินข้าวเย็นที่ภัตตาคารบ้านหมิงฝู่กัน สี่โมงเย็นนี้ ผมจองร้านไว้แล้ว รถบริษัทรับคนไปได้แค่บางส่วน ที่เหลือนั่งแท็กซี่ไปกันเอง อย่าลืมเก็บใบเสร็จมาเบิกเงินคืนด้วย”

หลังจากเผยเชียนพูดจบ ทุกคนกลับดูไม่ได้ยินดีอะไร

ห่าวหยุนยกมือแตะหน้าผาก รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

บอสเผยขัดขวางเวลาทำงานของทุกคนอีกแล้ว!

เธอหันมองเวลา ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสามกว่า พวกเขาเพิ่งจะเริ่มทำงานช่วงบ่ายไปได้แป๊บเดียว!

พวกเขามาทำงานวันหยุดไม่ได้ แถมยังมีงานมากมายให้ต้องสะสาง แต่บอสเผยกลับเอาแต่สรรหาวิธีมาลดเวลาทำงานลง วันละชั่วโมงบ้าง สองชั่วโมงบ้าง…

ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป จะทำงานเสร็จได้ยังไง!

แม้ทุกคนจะเริ่มงานทันทีที่ถึงออฟฟิศเพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่ก็เลี่ยงกิจกรรมที่จู่ๆ บอสเผยอยากจัดตอนไหนก็จัดไม่ได้อยู่ดี

ตัวอย่างเช่นรอบนี้ พวกเขาไม่ได้รู้ล่วงหน้าเลยสักนิด

ดังนั้นหลายคนจึงไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไงดี พวกเขาได้แต่รัวนิ้วลงแป้นพิมพ์เร็วและแรงกว่าเดิมราวกับจะระบายความคับข้องใจ

เผยเชียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

พนักงานพวกนี้ทัศนคติมีปัญหา!

ถึงจะจัดกินเลี้ยงบ่อยๆ แต่จะเอามาเป็นข้ออ้างที่จะทำงานหนักขึ้นไม่ได้!

การไปกินเลี้ยงเป็นเรื่องดี ทัศนคติของพวกเขาต่างหากที่มีปัญหา

เผยเชียนกระแอมกระไอ “ผมให้เวลาคุณเซฟงานห้านาทีแล้วรีบลงไปข้างล่าง

“น้องถัง ครบห้านาทีแล้วสับคัตเอ้าต์ลงเลย!”

ถังอี้ซูรีบลุกพรวดขึ้น “เอ๊ะ ได้ค่ะ!”

ทุกคน “…”

พวกเขารีบกดเซฟงานทันที

สี่โมงตรง ทุกคนทยอยเข้าไปในภัตตาคารบ้านหมิงฝู่

ภัตตาคารระดับสูงแห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจหลักของเมืองจิงโจว แต่ก็อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก

ร้านนี้ตั้งอยู่ข้างห้างหวนยู่เทียนเจี่ย แต่ไม่ได้อยู่ในห้าง น่าจะเพราะในห้างไม่มีที่กว้างมากพอ

ภัตตาคารดังกล่าวเป็นตึกเดี่ยวสามชั้น ด้านนอกตกแต่งสไตล์โบราณด้วยอิฐแดงและปูนเทา ดูแล้วมีเสน่ห์เลยทีเดียว

เผยเชียนเดินเข้าไปในภัตตาคารบ้านหมิงฝู่แล้วก็เจอบอสหลี่ทันที

“บอสเผย! ยินดีต้อนรับครับ”

“บอสหลี่ ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะครับ”

ทั้งสองทักทายและพูดคุยกันเล็กน้อย

บอสหลี่เห็นคนกลุ่มใหญ่ด้านหลังบอสเผย “เชิญเลยครับทุกคน บอสเผยเหมาร้านไว้แล้ว เชิญนั่งกันตามสบายเลยครับ!”

พอเห็นบอสเผยพาคนมาเยอะขนาดนี้ หลี่สือก็รู้สึกซึ้งใจ

ถึงจะให้ส่วนลดสามสิบเปอร์เซ็นต์และไม่ได้กำไรจากการกินเลี้ยงครั้งนี้ แต่ก็ถือว่าบอสเผยแสดงมิตรไมตรีจิตรอันดีในการลองมาชิมอาหาร!

หลี่สือคิดว่าบอสเผยแค่พูดไปตามมารยาทตอนที่บอกว่าจะแวะมา

เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พูดกันตลอดเวลาทำธุรกิจ พอภัตตาคารบ้านหมิงฝู่เปิดกิจการก็ถือว่าเป็นคู่แข่งของภัตตาคารไร้ชื่อ บอสเผยอาจบอกไว้ว่าจะแวะมาใช้บริการ แต่ใจจริงจะคิดยังไงก็ไม่รู้

แต่พอเห็นอีกฝ่ายยกโขยงทั้งบริษัทมากินเลี้ยง ก็เห็นแล้วว่าไม่ใช่แค่มาสนับสนุนเฉยๆ บอสเผยซื่อสัตย์กับคำพูดมากๆ!

จริงๆ พวกเขาไปกินเลี้ยงกันที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนน่าจะดีกว่าด้วยซ้ำ

หลี่สือรู้จุดยืนของตัวเองดี ถึงภัตตาคารบ้านหมิงฝู่จะดีกว่าภัตตาคารอื่นๆ ในเมืองจิงโจว แต่ก็ยังเทียบชั้นครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้!

การที่บอสเผยมากินเลี้ยงที่นี่ถือว่าเป็นการถ่อมตัวเพื่อแสดงการสนับสนุน!

หลี่สือจึงรีบสั่งให้ผู้จัดการสาขาและบริกรดูแลอย่างดีที่สุด

เผยเชียนมองไปรอบๆ หลังจากได้ที่นั่ง

เรื่องอื่นยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่การตกแต่งภายในทำออกมาได้ดูดีทีเดียว เห็นได้ชัดว่าทุ่มเงินและแรงกายไปกับร้านนี้มาก

โต๊ะเก้าอี้ จานชาม การตกแต่งต่างๆ ใช้สไตล์โบราณ ถือว่าดูดีมีระดับ

แต่พอได้เปิดดูเมนู เผยเชียนก็พบว่ามีอาหารไม่หลากหลายเท่าครัวส่วนตัวหมิงหยุน

พอมาคิดๆ ดูก็ถือว่าไม่แปลกอะไร ทั้งสองร้านเป็นภัตตาคารระดับสูงเหมือนกัน แต่ก็มีทิศทางต่างกัน

หลี่สือกับหวังเผิงรู้ว่าถ้าอยากจะเปิดภัตตาคารระดับสูงสักร้าน ทางที่ดีที่สุดคือร่วมมือกับภัตตาคารไร้ชื่อ

นั่นก็เพราะภัตตาคารไร้ชื่อสั่งสมชื่อเสียงได้มากแล้ว ถึงบอสเผยจะไม่ช่วยออกทุนก็ไม่เป็นไร เพราะแค่ได้ชื่อมาใช้ก็ถือว่าช่วยได้มากแล้ว

แต่บอสเผยกลับบอกปฏิเสธ ทำให้พวกเขาต้องเปิดภัตตาคารขึ้นเอง

จะลอกโมเดลภัตตาคารไร้ชื่อมาทั้งดุ้นเลยได้รึเปล่า

เกรงว่าจะไม่ได้

เพราะถ้าทำอย่างนั้นก็เสี่ยงโดนด่าหาว่าเป็นร้านปลอม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับภัตตาคารระดับสูง

ถ้าชื่อเสียงของภัตตาคารเสื่อมเสียและผู้คนเริ่มด่าทอ พวกไฮโซก็จะไม่เชื่อมั่นในตัวแบรนด์ จากนั้นภัตตาคารก็จะเจ๊ง

หลี่สือกับหวังเผิงไม่ได้โง่ พวกเขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่

ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกเปิดภัตตาคารระดับสูงธรรมดาๆ แทน

พวกเขาเลือกทำเลที่เดินทางง่ายและมีคนพลุกพล่าน นอกจากนี้ยังเลือกสถานที่ที่มีพื้นที่กว้างขวางเพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องจองทุกครั้งที่อยากมากินเหมือนที่ต้องจองภัตตาคารไร้ชื่อ

นั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนการตกแต่งภายในห้องส่วนตัวสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ และต้องหาจุดกึ่งกลางเรื่องการตกแต่งร้าน

ข้อดีคือร้านใหญ่โตกว้างขวาง วัตถุดิบส่วนใหญ่ก็เตรียมไว้พร้อม

เนื่องจากร้านไม่ได้หรูเลิศเท่าครัวส่วนตัวหมิงหยุน ราคาอาหารจึงปรับลดลง ถ้าใครจองครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้ก็จะได้แวะมาร้านนี้แทน ยังไงก็หรูกว่าภัตตาคารห่านฟ้า

ไม่นานอาหารจานแรกก็มาเสิร์ฟ

ระหว่างทางมา เผยเชียนขอเมนูจากบอสหลี่และให้เลขาซินเลือกเมนูให้เรียบร้อยแล้ว

ทำแบบนี้พวกเขาจะได้ประหยัดเวลาและเริ่มกินได้ทันทีที่ไปถึง เพราะเผยเชียนไม่อยากรบกวนเวลาพนักงานมาก

เขาไม่ได้สนใจเมนูไหนเป็นพิเศษ แค่อยากลิ้มรสอาหารจานหรู

อาหารเหล่านี้มักมีราคาสูงหน่อย

เผยเชียนไม่สนใจว่าจะได้กินอะไร เพราะถึงจะอร่อยแค่ไหนก็น่าจะเคยลองกินมาก่อนแล้วที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุน ที่มาครั้งนี้ตั้งใจมาผลาญเงินล้วนๆ

“เอ้า ทุกคน รีบกินกันจะได้รีบกลับไปพักผ่อน”

เผยเชียนหยิบตะเกียบขึ้นจ้วงกินก่อนใครจะได้ไม่ต้องพูดอะไรมีพิธีรีตองต่อ

หลี่สือเดินยิ้มเข้ามาหาเผยเชียนที่โต๊ะ “เป็นไงบ้างครับบอสเผย รสชาติถูกปากมั้ย”

เผยเชียนพยักหน้าพร้อมตอบแบบคลุมเครือ “ก็ได้อยู่ครับ!”

เขาไม่ใช่คนโกหกเก่ง อาหารที่นี่แตกต่างจากที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนราวฟ้ากับเหว แต่รสชาติก็ดีกว่าภัตตาคารห่านฟ้าอยู่หน่อย

แต่ภัตตาคารห่านฟ้าก็มีแต้มต่อตรงที่เป็นบุฟเฟต์ แถมยังมีอาหารทะเลเพียบ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคากว่า

สำหรับเผยเชียนแล้วจุดนี้ถือเป็นข้อด้อย

หลี่สือรู้ดีว่ารสชาติอาหารเป็นยังไง การที่บอสเผยบอกว่าอาหารรสชาติ ‘ได้อยู่’ แม้จะสามารถกินอาหารที่ภัตตาคารไร้ชื่อได้ตามใจอยาก แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไว้หน้าเขาแค่ไหน

ถังอี้ซูนั่งโต๊ะเดียวกับพนักงานฝ่ายธุรการ เธอค่อยๆ ละเมียดละไมตักกินอาหารคำเล็กๆ

หลี่สือเข้าครัวเพื่อไปให้กำลังใจเชฟ пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ

แต่ก่อนจะทันได้เข้าไปข้างในก็ได้ยินเสียงดังเพล้ง

“ไอ้หยา!

“ล้มเลย พื้นลื่นมาก!”

“รีบเก็บกวาดเศษเร็ว!”

หลี่สือขมวดคิ้ว เขาเห็นเศษจานแตกกระจายเต็มพื้นทันทีที่เข้าไปในครัว พนักงานสองคนกำลังเร่งมือเก็บกวาดเต็มที่

หลี่สือเวียนหัวขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”

พนักงานคนหนึ่งรีบก้มหัวขอโทษ “ขอโทษครับบอสหลี่! พอดีพื้นลื่นมาก ผมเลยล้มทำจานที่เพิ่งเก็บมาแตก…”

หลี่สือผงะไปเล็กน้อย พอหันมองก็เห็นน้ำเจิ่งอยู่บนพื้นครัว เขาไม่รู้ว่าน้ำมาจากไหน แต่ก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นลื่น

“ไม่เป็นไร รีบเก็บกวาดให้เรียบร้อย

“อย่างน้อยเราก็เจอสิ่งคุกคามทางความปลอดภัย

“พรุ่งนี้เช้าไปซื้อสเปรย์กับพรมกันลื่นมา”

ทันทีที่หลี่สือพูดจบ เขาก็ได้ยินเสียง ‘พึ่บ’ พร้อมเปลวไฟที่ลุกโชนขึ้นมาจากกระทะข้างๆ

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ทักษะของพ่อครัวชั้นสูง แต่เป็นความผิดพลาด

“เอาเครื่องดับเพลิงมาเร็ว!”

ใครสักคนที่ยืนอยู่แถวนั้นรีบหยิบเครื่องดับเพลิงไปดับไฟ แต่อาหารในกระทะไหม้ไปหมดแล้ว พวกเขาได้แต่โยนทิ้งไปแล้วทำใหม่

หลี่สือหน้าเครียดขึ้น “เครื่องดับเพลิงอยู่ไกลจากเตาเกินไป นี่ก็เป็นสิ่งคุกคามทางความปลอดภัย”

ถึงพวกเขาจะพบสิ่งคุกคามทางความปลอดภัยหลายจุด แต่ก็ทำให้ปวดหัวไม่น้อย!

หลี่สือไปไม่ถูก เขาพูดพึมพำกับตัวเอง “หรือเพราะเราเปิดภัตตาคารแบบไม่ดูฤกษ์ยาม

“ภัตตาคารอื่นก็ไม่เห็นมีปัญหาแบบนี้…

“ใจเย็นๆ อาจจะแค่เรื่องบังเอิญ”

สี่ทุ่มกว่าคืนนั้น

หลังจากส่งลูกค้ากลุ่มสุดท้ายกลับ ผู้จัดการสาขาภัตตาคารบ้านหมิงฝู่ก็พาพนักงานเก็บกวาดร้าน

หลี่สือไปนั่งพักที่เก้าอี้ด้วยความอ่อนแรง

วันนี้เป็นวันเปิดร้านวันที่สอง ถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด

แต่กลับมีปัญหามากมายเกิดขึ้นไม่หยุด

ถึงจะไม่ได้มีเรื่องร้ายแรงอะไรมาก มีแค่จานแตกกับอาหารไหม้ แต่ก็ทำให้เสิร์ฟอาหารได้ช้าลงกว่าเดิมมาก

ลูกค้าหลายคนคิดว่าตัวเองต้องรออาหารนานมากจึงรู้สึกไม่พอใจ ผู้จัดการสาขาต้องเข้าไปจัดการและเสนอให้ส่วนลดเพื่อแก้ไขสถานการณ์

แต่ก็ไม่รู้ว่าพอกลับไปแล้ว ลูกค้าจะไปรีวิวร้านว่ายังไง

ตอนบอสเผยกับพนักงานมากิน สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ เพราะพวกเขามากินกันเร็วและสั่งอาหารไว้ล่วงหน้า พอบอสเผยกับพนักงานมาถึง อาหารก็พร้อมเสิร์ฟ ถึงอาหารจานต่อๆ มาจะเสิร์ฟช้าลง แต่ก็ไม่มีใครสังเกต

ตอนค่ำ สถานการณ์เลวร้ายก็เผยให้ลูกค้าเห็น

หลี่สือท้อแท้ใจ เปิดภัตตาคารมันยากขนาดนี้เลยเหรอ

มาตรฐานความปลอดภัยของร้านฉันก็สูงกว่าร้านอื่นๆ ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้

แต่เขาก็โทษคนอื่นไม่ได้ เพราะสิ่งคุกคามทางความปลอดภัยเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอด

อย่างน้ำที่เจิ่งบนพื้น บางคนเดินผ่านได้ไม่เป็นไร บางคนลื่นล้มทำจานที่พร้อมเอาไปเสิร์ฟหล่น

บอกได้แค่ว่ามาตรฐานความปลอดภัยยังไม่สูงพอ!

หลี่สือรู้สึกเศร้าใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งตระหนักว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนของบอสเผยไม่ธรรมดาเลย

บรรยากาศภายในร้านยอดเยี่ยม อาหารจัดเสิร์ฟไว การบริการไร้ที่ติ…

การเปิดภัตตาคารระดับสูงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เขาคิด!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset