จางหยวนประจบเผยเชียนต่อไม่หยุด แต่เผยเชียนกลับนั่งจิบกาแฟ ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองไปผิดพลาดตรงไหน
เผยเชียนพาถังอี้ซู่ไปคลังสินค้าแล้วก็ได้เห็นผลออร่าความซวยทันตา คอมพิวเตอร์จู่ๆ ก็ใช้งานไม่ได้ ทำให้ขั้นตอนการประกอบคอมพิวเตอร์ล่าช้าลง
แต่…ทำไมโรงงานผลิต RAM ถึงไฟไหม้ขึ้นมาได้
ออร่าความซวยไม่น่าจะกว้างไกลขนาดนั้นนี่
ไม่ว่าจะคิดยังไงเขาก็คิดไม่ออก
ว่ากันตามตรงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ถือว่าร้ายแรงอะไร แต่ก็สร้างปัญหาให้มากทีเดียว…
ดูเหมือนว่าบอสเผยจะต้องใช้งานอาวุธสังหารให้ระวังๆ กว่านี้
ไม่อย่างนั้นจะพลาดกลับมาทำร้ายตัวเองได้!
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้อีก สิ่งสำคัญในตอนนี้คือหาทางผลาญเงิน
สต๊อกของเพิ่มต่อไปดีมั้ย แต่ก็ดูจะไม่เหมาะ
ตอนนี้ ROF เป็นแบรนด์ที่ใครๆ ก็รู้จัก พอให้คำมั่นไปว่าจะไม่ขึ้นราคาช่วงปีใหม่ ชื่อเสียงก็น่าจะโด่งดังขึ้นกว่าเดิม
จากตัวอย่างที่เห็นมาก็พิสูจน์ได้แล้วว่าลูกค้าให้การยอมรับว่า ROF เป็นแบรนด์พรีเมี่ยมและพร้อมจ่ายเงินซื้อเครื่อง
พูดอีกอย่างคือ ถึงราคาเครื่องจะเท่าเดิม ยอดขายเครื่อง ROF ก็ไม่มีทางลดลง และเนื่องจากสามารถรักษาอัตรากำไรไว้เท่าเดิมได้ ยังไงบริษัทก็จะทำกำไรได้แน่นอน
ถ้า ROF สต๊อกของเพิ่มตอนนี้ แล้วต่อไปราคาชิ้นส่วนต่างๆ แพงขึ้น แบบนั้นก็เท่ากับเผยเชียนยิงตัวตายสิ
สต๊อกของตอนนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสม!
เผยเชียนได้บทเรียนราคาแพงแล้ว
หรือจะเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนกับกิจการอื่นดี
แต่พอคิดดูอีกที เขาก็ปัดไอเดียนี้ทิ้ง
เผยเชียนคิดว่าตัวเองควรยึดถือหลักการหนึ่ง
ใครหามา คนนั้นก็ต้องใช้ไป
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เขาก็ตระหนักว่าที่ตัวเองมีปัญหารุมเร้าไม่หยุดก็เพราะไม่ยอมนำหลักการนี้มาใช้
หลายๆ โปรเจ็กต์ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่ก็ขาดทุนมาได้เรื่อยๆ พอไปร่วมมือกับโปรเจ็กต์อื่น ปัญหาก็ผุดขึ้นมาทันที
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจว่าจางหยวนต้องเป็นคนรับผิดชอบกำไรที่ ROF ทำได้ เจ้านั่นต้องหาทางผลาญเงินก้อนนี้
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ไม่ต้องส่งกำไรที่ ROF ทำได้เข้าเถิงต๋า คุณต้องไปคิดหาทางใช้เงินก้อนนี้”
จางหยวนผงะไป “เอ๋ เราทำกำไรได้เยอะมาก แต่ไม่ให้ส่งให้เถิงต๋า แบบนั้นจะเหมาะสมเหรอครับบอสเผย”
เผยเชียนยิ้ม “แน่นอน เงินก้อนนี้คุณเป็นคนหามา คุณก็ต้องเป็นคนใช้”
จางหยวนรีบโบกมือ “ไม่ได้ครับบอสเผย เราหาเงินก้อนนี้ได้ก็เพราะได้คำแนะนำดีๆ จากบอส”
เผยเชียน “…”
โอ๊ย ถ้าไม่มีอะไรดีๆ ให้พูดก็ไม่ต้องพูด!
เผยเชียนเป็นคนใจกว้าง เขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเรื่องนี้ “บอกหน่อย คุณตั้งใจจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไร”
จางหยวนครุ่นคิด
ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับ ROF อยู่ในความรับผิดชอบของเขา แน่นอนว่าพอมีโมหยูเดลิเวอรี่เพิ่มเข้ามาในกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู จางหยวนก็ต้องรับผิดชอบกิจการนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน กิจการทั้งหมดก็เชื่อมโยงกับนี่เฟิงโลจิสติกส์อย่างใกล้ชิด
ลู่หมิงเหลียงเป็นคนดูแลนี่เฟิงโลจิสติกส์ และถือเป็นพนักงานคนโปรดของเผยเชียน
จนถึงตอนนี้นี่เฟิงโลจิสติกส์ยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ที่ยังดำเนินกิจการต่อได้ก็เพราะมีทุนจากเถิงต๋ากรุ๊ปหนุนหลัง
เห็นได้ชัดว่าบอสเผยเชื่อมั่นในตัวลู่หมิงเหลียงสุดๆ
แน่นอนว่าสำหรับเผยเชียนแล้ว นี่ไม่ใช่การสนับสนุนทุน แต่เป็นการล้างพิษต่างหาก
ถ้าไม่มีนี่เฟิงโลจิสติกส์ ป่านนี้บอสเผยคงจะตายเพราะพิษร้ายสะสมไปแล้ว
หลังจากครุ่นคิดสักพัก จางหยวนก็พูดขึ้น “บอสเผยครับ ผมคิดว่า ROF มีรากฐานที่มั่นคงในเมืองจิงโจวแล้ว ร้านค้าออนไลน์เราก็มีชื่อเสียงพอตัว
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเองก็ค่อนข้างดัง จริงๆ ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ร้านอินเทอร์เน็ตที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในเมืองจิงโจวตอนนี้
“ผมคิดว่าเราควรจะขยายกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปเมืองอื่นๆ”
เผยเชียนถอนหายใจเงียบๆ อยู่ภายใน ปล่อยให้ปัญหาคลี่คลายเองไม่ได้จริงๆ ด้วย
บอสหลี่ก็เคยพูดแบบนี้เหมือนกัน เขาถามเผยเชียนว่าทำไมไม่คิดเรื่องเปิดสาขาที่เมืองอื่นๆ เพื่อเพิ่มกำไร
เหตุผลก็ง่ายๆ บอสเผยไม่อยากได้กำไรเพิ่มจากการเปิดสาขาที่เมืองอื่น!
แต่ตอนนี้เขาต้องคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง
เพราะปล่อยให้สายไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับ ROF พลิกกลับมาทำกำไรได้ แถมยังไม่ใช่จำนวนน้อยๆ จะเลี่ยงไม่ขยายกิจการได้ยังไงอีก
เพราะดูยังไงก็ไม่สมเหตุสมผล
ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเปิดสาขาเพิ่ม คำถามคือตอนไหนและเมื่อไหร่
เผยเชียนคิดอยู่ครึ่งก่อนจะถามออกไป “คุณคิดว่าเราควรเปิดสาขาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่มที่ไหน”
จางหยวนตอบทันที “ผมคิดว่าเราควรเปิดสาขาเพิ่มที่เมืองระดับหนึ่งใหญ่ๆ อย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือไม่ก็กว่างโจว!
“เมืองพวกนี้มีวัยรุ่นอยู่เยอะ ประชากรก็หนาแน่นกว่า แถมผู้คนก็มีรายได้สูง โมเดลร้านอินเทอร์เน็ตแบบไฮเอนด์น่าจะเป็นที่น่าสนใจครับ
“เราน่าจะแย่งส่วนแบ่งตลาดในเมืองพวกนี้ได้ง่ายกว่า
“เราเปิดกิจการเสริมอย่างโมหยูเดลิเวอรี่ไปพร้อมกันเลยก็ได้ครับ”
เผยเชียนเงียบไป
ที่พูดมาก็ฟังดูดี แต่ทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด…
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกไป “ผมคิดตรงข้ามกับคุณเลย
“เป้าหมายต่อไปของผมคือเมืองหลินเฉิง”
จางหยวน “หลินเฉิงเหรอครับ”
เมืองหลินเฉิงเป็นเมืองที่จนที่สุดในมณฑลฮั่นตง เขตแร้นแค้นที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างเขตเต้าโข่วก็อยู่ในเมืองหลินเฉิง
ทำไมถึงเลือกเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่มในที่แร้นแค้นแบบนั้นล่ะ
จะมีลูกค้ามาใช้บริการสักกี่คนกัน
เผยเชียนพูดต่อ “แล้วเราก็จะไม่เปิดแค่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
“เราจะเอาธุรกิจทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปเปิดด้วย!”
พอเห็นสีหน้างุนงงของจางหยวน เผยเชียนก็อดผุดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
ความจริงเผยเชียนไม่ได้สนใจเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่ม
เขาอยากเปิดจุดบริการนี่เฟิงเพิ่มต่างหากโนlวลกูดอทคoม
แต่จุดบริการนี่เฟิงก็เต็มเมืองจิงโจวแล้ว ถ้าเปิดแผนที่ดูจะเห็นจุดบริการเต็มไปหมด แทบไม่มีตรงไหนในเมืองที่ไม่มีจุดบริการนี่เฟิง
ถ้าอยากเปิดจุดบริการเพิ่ม ก็ต้องไปเปิดเพิ่มที่เมืองอื่น
แต่จะให้เปิดจุดบริการนี่เฟิงเพิ่มโดยไม่เปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะดูแปลกๆ คนอื่นอาจจะสงสัยเอาได้
ถ้าอยากขยายไปเมืองอื่น ก็ต้องยกโขยงไปกับกิจการอื่นๆ ด้วย คนอื่นจะได้ไม่สงสัย
อีกอย่างเปิดสาขาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่มก็มีข้อดีใหญ่ๆ อยู่หนึ่งอย่างเมื่อเทียบกับนี่เฟิงโลจิสติกส์ นั่นก็คือ ใช้ทุนตั้งต้นเยอะกว่า ทั้งค่าเช่า ค่าตกแต่งภายใน ค่าซื้อคอมพิวเตอร์มาลง และอื่นๆ
ถึงร้านอินเทอร์เน็ตจะเริ่มทำกำไรในภายหลัง แต่ก็ต้องใช้เวลาพักใหญ่ถึงจะหาเงินคืนทุนตั้งต้นได้
อย่างน้อยก็น่าจะหาทุนคืนได้ไม่ทันรอบบัญชีนี้แน่นอน
ถ้าใส่ใจเลือกทำเลเหมาะๆ และเลี่ยงไม่ให้ผิดพลาดเหมือนที่เกิดขึ้นในเมืองจิงโจว ร้านอินเทอร์เน็ตก็น่าจะขาดทุนไปเรื่อยๆ
ถ้าเป็นแบบนั้นได้จะดีมาก!
ดังนั้นหลังจากคิดทบทวนดู เผยเชียนก็ตัดสินใจขยายกิจการไปเมืองหลินเฉิงที่เป็นเมืองแร้นแค้นที่สุดในมณฑลฮั่นตง
ถ้าเป็นเมืองแร้นแค้น กำลังซื้อก็จะไม่สูง ผู้คนไม่น่าจะสู้ราคาร้านอินเทอร์เน็ตราคาแพงแบบร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไหว
โมหยูเดลิเวอรี่ที่ให้บริการอาหารหรูหราเกินความจำเป็นก็ไม่น่าจะมีใครใช้บริการ
ขณะเดียวกัน นี่เฟิงโลจิสติกส์ที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องก็น่าจะขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ
สรุปแล้วตัวเลือกที่ดีที่สุดในการขยายกิจการคือเมืองที่จนที่สุด
ส่วนเหตุผลที่ว่า…เผยเชียนไม่คิดจะอธิบายให้จางหยวนฟัง ค่อยให้ไปคิดหาเหตุผลกันเอาเอง
เผยเชียนพูดต่อ “แผนของผมคือขยายกิจการหน้าร้านของเราและกิจการรองทั้งหมดไปเมืองที่ว่า
“เราจะเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 2.0 หนึ่งสาขาที่ย่านการค้าหลัก ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 1.0 อีกสามสาขาที่ย่านการค้ารองลงมา โมหยูเดลิเวอรี่หนึ่งสาขา จุดบริการนี่เฟิงยี่สิบจุด คลังสินค้าขนาดใหญ่หนึ่งหลังสำหรับแบรนด์ ROF และจุดกระจายสินค้าอีกสี่จุดใกล้ๆ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาต่างๆ
“เราจะเตรียมการทุกอย่างให้พร้อมแล้วเปิดทีเดียวพร้อมกันหมด!”
จางหยวนดูตกใจ “บอสเผยครับ การลงทุนครั้งนี้ไม่ใช่การลงทุนเล็กๆ เลยนะครับ…
“ถึงค่าเช่าที่ในหลินเฉิงจะถูกกว่าที่จิงโจว แต่เราก็ต้องมีทุนอย่างน้อยสิบล้านหยวนในการเปิดกิจการทุกอย่างพร้อมกัน…”
เผยเชียนถอนหายใจอยู่ภายใน
ฉันก็ไม่อยากทำหรอก
ใครใช้ให้แกพา ROF ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำแบบนี้ล่ะ!
ฉันต้องหาทางผลาญเงินก้อนนี้ให้หมด ไม่งั้นตอนใกล้สรุปบัญชีก็ตายห่ากันพอดี
เผยเชียนพูดเสียงจริงจัง “เงินแค่นี้เอง ถ้าไม่พอขอผมเพิ่มได้
“อีกอย่างตอนนี้เราเปิดจุดบริการแค่ยี่สิบแห่งไปก่อน แต่ในอนาคตเราจะเปิดเพิ่มอีก เราต้องทำให้บริการของนี่เฟิงโลจิสติกส์ครอบคลุมทั้งหลินเฉิงให้เร็วที่สุดเหมือนที่จิงโจว!
“คุณต้องวางเป้าหมายให้ชัดเจน
“คุณต้องหาทางใช้เงินที่หามา
“ถ้าทุนไม่พอให้รายงานผมทันที เดี๋ยวผมออกทุนเพิ่มให้”
ตอนแรกจางหยวนคิดว่าบอสเผยแค่พูดพอเป็นพิธี แต่พอสังเกตดูดีๆ เขาก็พบว่าแววตาของบอสดูจริงใจมาก
“บอสเผย ผม… ผม…. ผมซึ้งใจมากเลยครับ!”
จางหยวนไม่รู้จะสื่อความรู้สึกขอบคุณออกไปยังไงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
เผยเชียนยกมือขึ้นห้าม
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมมีงานต้องทำ เดี๋ยวขอตัวกลับก่อน”
เผยเชียนเหลือบมองแถวที่ต่อยาวอยู่ตรงหน้าทางเข้าแล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
จางหยวนรีบพูดขึ้น “โอเคครับบอสเผย เดินทางปลอดภัยครับ! สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ!”
เผยเชียน “…”
ปีใหม่นี้ไม่เห็นจะสุขสันต์ตรงไหนเลย!
…
…
วันอังคารที่ 4 มกราคม เวลา 11 โมงเช้า
เผยเชียนเดินเนิบๆ เข้าออฟฟิศเหมือนอย่างทุกครั้ง เหล่าพนักงานเริ่มทำงานได้พักใหญ่แล้ว
น่าจะเพราะเป็นการทำงานวันแรกหลังหยุดยาว ทุกคนเลยดูยุ่งกันเป็นพิเศษ
พวกหลี่หย่าต๋าเพิ่งกลับมาจากลาพักร้อน
เผยเชียนสังเกตดูท่าทีของหลี่หย่าต๋ากับเปาซวี่ ไม่รู้ทำไมทั้งคู่ดูไม่ได้มีความสุขหรือมัวนึกย้อนถึงช่วงหยุดพักร้อนที่มาเลย แต่กลับดูทุกข์ระทมหนัก
เผยเชียนอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ สหรัฐอเมริกาน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ
แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรไป เพราะเผยเชียนเป็นคนติดบ้าน ไม่ชอบออกผจญภัยที่ไหน เขาเลยไม่ได้สนใจว่าสหรัฐอเมริกาเป็นยังไง เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปเที่ยวที่นั่นอยู่แล้ว
พอเข้าไปในห้องทำงาน เผยเชียนก็เช็กการแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้อ่าน
มีข้อความจากจางหยวนส่งมาบอกว่าวันนี้เขากับลู่หมิงเหลียงจะแวะไปหลินเฉิงเพื่อเช็กสถานที่ หาทำเล ดูเรื่องการปรับปรุงร้าน และรับสมัครพนักงาน น่าจะกลับมาอีกทีช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
ตารางงานถือว่าโอเคสำหรับเผยเชียน จะดีกว่านี้ถ้ากระบวนการล่าช้าออกไปอีกหน่อย
สถานการณ์ที่ดีที่สุดคือ ร้านอินเทอร์เน็ต จุดบริการนี่เฟิง และกิจการอื่นๆ เปิดให้บริการประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันปิดบัญชี ถ้าเป็นอย่างนั้น นอกจากจะช่วยผลาญเงินได้ก้อนโตแล้ว ยังหลีกเลี่ยงการทำกำไรภายในรอบบัญชีนี้ได้ด้วย
ส่วนรอบบัญชีหน้า…
ไว้ถึงเวลานั้นค่อยคิด ถ้าไปได้ไม่สวยก็ค่อยขยายกิจการไปเมืองแร้นแค้นสักที่เพิ่ม ทำวนๆ ไปอย่างนี้แหละ