วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
อู๋ปินสูดหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์
พริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์
ถึงเวลาสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋ารอบที่สอง
แม้จะไม่ใช่โอกาสสุดท้าย แต่เขาก็ไม่อยากสอบตกอีกรอบแล้ว
เด็กฝึกงานไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน ถ้าต้องรอสอบใหม่อีกหนึ่งสัปดาห์ก็หมายความว่าจะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการล่าช้าไปอีกหนึ่งสัปดาห์
ถ้าเป็นแบบนั้นคงอึดอัดแย่!
เป็นครั้งแรกที่อู๋ปินตระหนักว่าการไม่ได้ทำงานและการนั่งว่างๆ ในที่ทำงานมันทรมานมาก
โชคดีที่ห่าวหยุนใช้ตำแหน่งหัวหน้าช่วยอู๋ปินถามหลี่หย่าต๋าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายเกมเรื่องเคล็ดลับการสอบผ่าน
เคล็ดลับที่ว่านั้นเรียบง่ายมาก มีแค่สองข้อ คือคิดให้เยอะๆ และปฏิบัติตามคำสั่งของบอสเผยอย่างเคร่งครัด
ถึงจะเป็นเคล็ดลับสั้นๆ แต่อย่างน้อยก็ช่วยชี้ทางได้
อู๋ปินนึกถึงคำตอบที่ตอบไปเมื่อสองวันก่อน
เขาตระหนักว่าตัวเองน่าจะตอบคำถามเรื่องการทำงานล่วงเวลาของบอสเผยผิดไป
ตามปกติแล้วพวกเขาไม่ควรทำงานล่วงเวลา แต่ถ้าจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาจริงๆ บอสเผยจะเป็นคนบอกเอง!
จดหมายภายในของบอสเผยในเว็บบอร์ดภายในบริษัทยืนยันเรื่องนี้ได้
อู๋ปินเดินเข้าไปในห้องสอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เสียงคลิกเมาส์ดังไปทั่วห้องประชุม
มีพนักงานใหม่เข้ามาสอบวัดความเข้ากันได้กับเถิงต๋าเพิ่มจากรอบก่อน รวมๆ แล้วมีสามสิบกว่าคน
ถึงรอบที่แล้วจะมีคนสอบผ่านสามคน แต่หลังจากสอบรอบนั้นไปก็มีพนักงานใหม่ที่จัดการเรื่องลาออกเสร็จแล้วเข้ามาทำงานกับเถิงต๋าอย่างเป็นทางการเพิ่ม
ดังนั้นจำนวนพนักงานที่เข้าสอบรอบนี้จึงเพิ่มขึ้น
เหล่าพนักงานใหม่มีสีหน้าแตกต่างกันไป บางคนดูงงงวยกับคำถาม บางคนดูคิดหนัก
อู๋ปินรู้ว่าทั้งสองกลุ่มไม่มีทางผ่านข้อสอบวัดความเข้ากันได้กับเถิงต๋าที่บอสเผยเป็นคนออกเองกับมือ
เห็นได้ชัดว่าหลายๆ กิจการภายใต้เถิงต๋ากรุ๊ปแอบบอกเคล็ดลับการสอบผ่านให้พนักงาน
แต่ก็ต้องวัดกันอยู่ดีว่าใครเข้าใจได้ดีกว่ากัน!
อู๋ปินคิดว่าความเข้าใจที่ว่านี่แหละคือหนึ่งในคุณสมบัติที่บอสเผยให้ความสำคัญ!
เขาเริ่มตอบคำถามอย่างตั้งใจ
อู๋ปินตกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าคำถามเกือบเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ไม่เหมือนรอบก่อน
บางคำถามมีเปลี่ยนคำเล็กน้อย แต่ความหมายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง บางคำถามเป็นคำถามใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
คำถามเดิมบางข้อก็มีเปลี่ยนตัวเลือกไปบ้าง
ว่าง่ายๆ คือชวนงงสุดๆ!
ตอนสอบรอบก่อน อู๋ปินตอบคำถามตามความรู้สึกตัวเอง จึงทำเสร็จค่อนข้างไว
แต่รอบนี้เขาค่อยๆ ทำไปช้าๆ
เขาอ่านทวนคำถามแต่ละข้อซ้ำๆ และพยายามเดาจุดประสงค์ของคำถาม ก่อนจะเทียบตัวเลือกทั้งสี่ไปมาเพื่อหาว่าตัวเลือกไหนตรงกับจิตวิญญาณของเถิงต๋าที่สุด
พอเลือกได้ก็จะเอาตัวเลือกไปเทียบกับคำถามอีกรอบ
ไม่นานก็มีคนทำข้อสอบเสร็จ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตกแน่นอน
เสียงร้องมากมายดังขึ้นภายในห้องประชุม
“หา”
“อะไรวะ…”
“จิ๊…”
“บ้า!”
พวกที่ทำข้อสอบเสร็จค่อยๆ ทยอยออกจากห้องไปทีละคนด้วยสีหน้าที่ต่างกันไปภายใต้สายตาของผู้คุมสอบจากฝ่ายธุรการ
บางคนยังคงงุนงง บางคนอึ้งทำใจยอมรับผลลัพธ์ไม่ได้ บางคนท้อจนน้ำตาไหล
เห็นได้ชัดว่ามีบางคนที่สอบรอบสองก็ยังไม่ผ่าน
อู๋ปินตั้งใจตอบคำถามยิ่งกว่าเก่า
สุดท้ายก็เหลือแค่ไม่กี่คนอยู่ในห้องประชุม
หลังทำข้อสอบทุกข้อเสร็จ อู๋ปินก็เช็กดูเวลาแล้วพบว่าเหลืออีกแค่สิบนาที
“เฮ้อ… จัดการเวลาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ส่งโลด!”
ถึงจะยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง แต่โปรแกรมสอบไม่ยอมให้กลับไปทวนคำตอบ
โชคดีที่บอสเผยให้เวลาทำข้อสอบมากพอ ขนาดคนที่ทำข้อสอบช้าเป็นเต่าแบบอู๋ปินก็ยังมีเวลาเหลือ
เขาคิดว่าจุดนี้น่าจะเป็นคำใบ้จากบอสเผย ทุกคนจะได้มีเวลาในการวิเคราะห์ความหมายเบื้องหลังคำถามอย่างเพียงพอ
อู๋ปินมือสั่นระริกขณะกุมเมาส์เลื่อนไปกดปุ่ม ‘ส่ง’
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ‘ขอแสดงความยินดี คุณผ่านการทดสอบ!’
“เย้!!!”
อู๋ปินเกือบจะหลุดร้องลั่นออกมาด้วยความดีใจ
ผ่านแล้ว!
ในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากบอสเผยและได้กลายเป็นพนักงานของเถิงต๋าอย่างเป็นทางการ!
อู๋ปินบรรยายความรู้สึกที่แสนพิเศษนี้เป็นคำพูดไม่ได้
เขารู้สึกเหมือนจิตวิญญาณได้รับการหล่อหลอมหลังทำข้อสอบเสร็จ!
ตอนนั้นเองเขาก็ตระหนักอะไรขึ้นได้
เขาพบว่าประสบการณ์การทำงานนานหลายปีที่บริษัทเหิงตู่นั้นผิดไปหมด ไม่มีอะไรถูกต้องเลยสักอย่าง!
แน่นอนว่าปัญหานี้ไม่ได้มาจากตัวเขา
เขาถูกสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ถูกต้องของบริษัทเหิงตู่หล่อหลอม
เถิงต๋าประสบความสำเร็จมากกว่าเหิงตู่ เพราะงั้นวิธีการของเถิงต๋าย่อมถูกต้องกว่า!
เถิงต๋าใช้การสอบวัดความเข้ากันได้ของเถิงต๋าเพื่อเปลี่ยนแนวคิดการทำงานผิดๆ ที่ติดตัวพนักงานมา!
อู๋ปินกลับไปที่โต๊ะทำงานอย่างสุขใจ สิ่งแรกที่เขาทำคือเปิดไฟล์เวิร์ดเพื่อพิมพ์สิ่งที่คิดออกมาโนเวลกูดอทคoม
“ทำไมบอสเผยถึงย้ำอยู่ตลอดว่าไม่ให้พนักงานทำงานล่วงเวลา ถึงจะจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา ก็ยังต้องจำกัดเวลาและจ่ายเงินให้สมน้ำสมเนื้อ
“ชัดเจนมากว่าบอสเผยเห็นว่าการทำงานล่วงเวลาส่งผลเสียต่อความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน!
“บริษัทอื่นเห็นแค่ข้อดีระยะสั้น แถมการบังคับให้พนักงานทำงานล่วงเวลายังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
“แต่ในระยะยาว การทำงานล่วงเวลาจะทำให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ แรงจูงใจ ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง
“บางบริษัทบังคับให้พนักงานทำงานวันละสิบสองชั่วโมง พอประสิทธิภาพและแรงจูงใจในการทำงานลดลง งานก็คืบหน้าไม่มากเท่าที่ควร
“เถิงต๋าบังคับให้พนักงานทำงานให้เสร็จภายในเวลาแปดชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นการบอกให้พนักงานต้องรีดความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพการทำงานออกมา ทำให้จัดการงานต่างๆ ที่บริษัทอื่นต้องบังคับให้พนักงานทำงานล่วงเวลาเสร็จได้ภายในเวลางาน!
“การควบคุมเวลาทำงานล่วงเวลาและจ่ายค่าตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อ เป็นการรักษาแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานไว้ให้ได้มากที่สุด!
“ดังนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋าจึงไม่ใช่การบอกให้พนักงานทำตัวอู้งาน แต่เป็นการกรองคนที่ทำงานหนักเกินไปออก!
“พนักงานที่ทำงานสิบสองชั่วโมงต่อวันเป็นคนขยันจริงรึเปล่า
“ไม่จริงเลย! กลับกันถ้าเป็นที่เถิงต๋า พนักงานแบบนั้นมีประสิทธิภาพการทำงานที่แย่มาก ทำงานล่วงเวลาแค่เพื่อเอาหน้า ไม่ได้ขยันจริงๆ เป็นการทำงานแบบผักชีโรยหน้า
“ในมุมมองของบอสเผย การทำงานให้เสร็จโดยไม่ต้องทำงานล่วงเวลาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ซึ่งหมายความว่าคนคนนั้นรู้จักทำงานและพักผ่อน หาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้!
“พนักงานกลุ่มนี้จะสามารถรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง มีการกระตุ้นความคิดและจินตนาการที่กว้างไกล ไม่ได้เอาแต่ทำงานล่วงเวลาเป็นบ้าเป็นหลังจนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และหมดกำลังใจในการทำงาน
“นี่คือวิสัยทัศน์ระยะยาวที่แท้จริง!
“ดังนั้นจิตวิญญาณของเถิงต๋าจึงไม่ใช่การทำงานล่วงเวลาและการทำตามคำสั่งของบอสเผยเฉยๆ
“จิตวิญญาณของเถิงต๋าคือการรู้จักวางสมดุลชีวิตส่วนตัวกับการทำงาน ไม่ทำงานล่วงเวลาเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงพร้อมทำงาน ซึ่งจะช่วยให้ทำงานได้ราบรื่น ขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้าได้ดีขึ้น ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย!
“ข้อสอบเหมือนจะบอกให้เราปฏิบัติตามที่บอสเผยสั่งทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วนั่นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของบอสเผย
“ไม่อย่างนั้นบอสคงไม่ออกข้อสอบกำกวมให้ทุกคนต้องคิด
“ถ้าต้องมีความเข้าใจในระดับนี้ถึงจะสอบผ่านก็หมายความว่าบอสเผยไม่ได้อยากได้หุ่นเชิดที่ฟังตามคำสั่งทุกอย่าง แต่เป็นคนที่เข้าใจจุดประสงค์ของบอสจริงๆ มีความสามารถในการเรียนรู้ที่เพียงพอ และมีทักษะการคิดจัดการปัญหาด้วยตัวเองที่ดีเยี่ยม!
“บอสเผยเลือกพนักงานจากเกณฑ์เหล่านี้ ทำให้เถิงต๋ามีแต่คนเก่งๆ!
“ถ้าใช้การคัดเลือกพนักงานแบบนี้ต่อไป อนาคตของเถิงต๋า…คงไร้ขีดจำกัด!”
อู๋ปินคิดว่ามุมมองเรื่อง HR ของตัวเองเปลี่ยนไป
ที่ผ่านมาเขามองว่างาน HR เป็นแค่การจ้างงาน เจรจาเรื่องค่าตอบแทน ดึงตัวพนักงานจากที่อื่น และหาทางเตะพนักงานเก่าออก
แต่บอสเผยได้สอนบทเรียนให้เขา
หลายบริษัทมองพนักงานเป็นศัตรู พวกเขาใช้ทุกวิธีการที่มีในการเอารัดเอาเปรียบพนักงานตัวเอง ทำให้พนักงานไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน พอเป็นแบบนั้นก็ส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของบริษัทในอนาคต
ที่เถิงต๋า ความต้องการของบริษัทกับพนักงานนั้นตรงกัน เป็นความสัมพันธ์อันปรองดอง ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
อู๋ปินรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว
เขาตัดสินใจบันทึกทุกอย่างที่ตัวเองเข้าใจไว้
เขาต้องปรับใช้จิตวิญญาณของเถิงต๋ากับงาน HR ในอนาคต เพื่อที่จะไม่ทำให้จุดประสงค์ของบอสเผยผิดเพี้ยนไป!
…
…
วันอังคาร
เผยเชียนนั่งอยู่ในห้องทำงาน กำลังตรวจผลสอบวัดความเข้ากันได้กับเถิงต๋ารอบที่สอง
จากผู้สอบสามสิบห้าคน มีสิบสองคนที่ผ่านการทดสอบ
จำนวนคนสอบผ่านเพิ่มขึ้นมากทีเดียว!
เผยเชียนพยักหน้าเบาๆ ดูเหมือนว่าทุกคนจะเข้าใจจิตวิญญาณของเถิงต๋ากันได้ไวมาก!
แต่ยังมีพนักงานใหม่อีกหลายคนที่สอบตกสองรอบซ้อน
ถ้ายังสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋าไม่ผ่านภายในช่วงทดลองงานหนึ่งเดือน เขาก็ต้องปล่อยให้คนเหล่านี้ออกไป
เผยเชียนไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิดถ้าเสียคนเหล่านี้ไป
เพราะคนกลุ่มนี้เป็นพวกบ้าทำงานล่วงเวลา ไม่มีทางเป็นพนักงานของเถิงต๋าได้!
อดใจรอไล่พวกภัยอันตรายนี้ออกไปแทบไม่ไหวแล้ว!
…
หลี่หย่าต๋าอัปเดตเกม GOG เวอร์ชันที่เสถียรขึ้นสองเวอร์ชัน
เวอร์ชันหนึ่งเป็นเวอร์ชันปกติ อีกเวอร์ชันเป็นเวอร์ชันที่ปรับแก้ตามคำแนะนำของบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
หลังจากปรับแก้อยู่นาน ทั้งสองเวอร์ชันก็เริ่มที่จะไปได้ดี
ยังมีปัญหาเรื่องสมดุลเกมอยู่ แต่อย่างน้อยเวอร์ชันทดสอบของเกมก็เสถียรขึ้น ดูไม่เหมือนเกมที่ยังไม่เสร็จดี
บั๊กส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขหมดแล้ว ถือเป็นเวอร์ชันที่เสถียรเลยทีเดียว
แน่นอนว่าถ้าอัปเดตต่อไปก็ต้องมีบั๊กเพิ่มขึ้น แต่อย่างน้อยในช่วงนี้ก็ยังไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
หลี่หย่าต๋าคิดว่าน่าจะสบายใจได้ตลอดห้าวันที่เธอไม่อยู่
จากนั้นเธอจะรวบรวมความคิดเห็นของผู้เล่นในช่วงพักร้อนห้าวันมาใช้พัฒนาเกมขั้นต่อไป
ตอนที่หลี่หย่าต๋ากำลังจะปิดคอมพิวเตอร์ ห่าวหยุนจากฝ่าย HR ก็ส่งไฟล์เอกสารมาให้
ไฟล์นั้นชื่อว่า ‘บทวิเคราะห์จิตวิญญาณของเถิงต๋า (คาดเดา)’
“หืม อะไรเนี่ย”
หลี่หย่าต๋าเปิดไฟล์ดูด้วยความสงสัย