เที่ยงตรง พนักงานทุกคนของเถิงต๋าเลิกทำงานแล้วเตรียมตัวเดินทางไปสถานที่จัดงานประชุมประจำปี
พวกเขาไม่ต้องเดินทางไกล เพราะสถานที่จัดงานคือโรงแรมหรูใกล้ๆ
รถบัสสองคันจอดรอรับพนักงานตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวไปสถานที่จัดงาน พนักงานอื่นๆ ที่กระจายอยู่ทั่วจิงโจว เช่น พนักงานส่งพัสดุของนี่เฟิงโลจิสติกส์ ผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู และอื่นๆ ต้องเดินทางไปที่งานกันเอง แต่ก็สามารถเบิกค่าเดินทางกับบริษัทได้ทีหลัง
อู๋ปินนั่งรถบัสไปสถานที่จัดงาน เขารู้สึกมึนหัวเล็กน้อย
เขายังคิดไม่ตกเรื่องเหตุการณ์ตอนเช้า ว่าทำไมตัวเองถึงสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋าไม่ผ่าน
“เป็นเพราะอะไรกันแน่…
“คำตอบฉันไม่น่าจะผิดนะ…”
ระหว่างทางไปโรงแรม เขาค้นหาข้อสอบคล้ายๆ กันบนมือถือ เรื่องคำตอบน่ะไม่ต้องพูดถึง แค่ข้อสอบคล้ายๆ กันยังหาไม่เจอเลย
อู๋ปินรู้สึกละอายใจขึ้นมา เขาทำงานฝ่าย HR แต่กลับต้องพึ่งเว็บเชียนตู้ในการหาคำตอบ ช่างน่าขายหน้าจริงๆ…
แต่ก็ช่วยไม่ได้ ถ้าอยากสอบผ่านและได้เป็นพนักงานเต็มตัว เขาต้องยอมโยนศักดิ์ศรีทิ้งแล้วไปหาคำตอบด้วยเว็บเชียนตู้! ขอแค่ได้คำตอบจะอะไรก็ยอมหมด!
อู๋ปินเดินตามคนอื่นๆ เข้าไปในสถานที่จัดงานโดยที่ยังมัวคิดเรื่องข้อสอบอยู่ พอเงยหน้าขึ้น เขาก็พบว่าสถานที่จัดงานตกแต่งแตกต่างจากงานประชุมประจำปีที่เคยไปมาก่อน
เรียบสุดๆ!
พื้นที่โรงแรมกว้างมาก มีโต๊ะจีนสำหรับสิบคนจัดอยู่ร้อยชุด ดูแล้วน่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณหนึ่งพันคน
โต๊ะแต่ละตัวจัดวางห่างกันพอดี ไม่ห่างและไม่ชิดกันจนเกินไป
ด้านในตกแต่งแตกต่างจากงานประชุมของบริษัทอื่นๆ ไม่มีของประดับฉูดฉาด บอร์ดงาน ป้ายไวนิล ป้ายโรลอัป และอื่นๆ แม้แต่เวทีก็เหมือนจะไม่ได้ใช้ เพราะด้านบนมีตู้กาชาปองกับตู้คีบตุ๊กตาตั้งเรียงรายอยู่
แถมตู้เครื่องเล่นเหล่านั้นยังไม่ได้มีแค่บนเวที
อู๋ปินมองไปรอบๆ แล้วพบว่าทั่วสถานที่จัดงานเต็มไปด้วยซุ้มเกม
มีทั้งตู้คีบตุ๊กตา ตู้กาชาปอง ซุ้มยิงปืน ซุ้มโยนห่วง…
ว่าง่ายๆ คือเหมือนกำลังยืนอยู่ในเกมเซ็นเตอร์
ในที่จัดงานมีโปรเจ็กเตอร์กับจอภาพขนาดใหญ่ แต่ในจอแสดงแค่ภาพพื้นหลังเรียบหรูสำหรับงานประชุมประจำปี ดูโก้หรูสะอาดตา ไม่ดูเสี่ยวหรือฉูดฉาดเกินไป
อู๋ปินไม่ได้สนใจตู้คีบตุ๊กตา ตู้กาชาปอง และซุ้มเกมอื่นๆ ในงาน เพราะดูเหมือนเป็นเกมหลอกกินเงิน
เขาเคยดูวิดีโอ Pop-science ที่เล่าเรื่องกลยุทธ์ที่ซ่อนอยู่ในเกมพวกนี้ ซึ่งเป็นวิธีหาเงินของเกมเซ็นเตอร์
ตัวอย่างเช่น ตู้คีบตุ๊กตา ทางโรงงานจะตั้งค่าเอาไว้ให้คีบตุ๊กตาได้ยาก
โรงงานใจเหี้ยมบางโรงงานตั้งโอกาสคีบได้ไว้แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้เครื่องจ่ายไฟฟ้าน้อยลงเรื่อยๆ ระหว่างเลื่อนที่คีบไปยังตุ๊กตา แรงคีบจะลดลงส่งผลให้ตุ๊กตาตก เป็นการสร้างภาพลวงตาให้ผู้เล่นคิดว่าตัวเองคีบได้ไม่แน่นพอ
เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดอยู่เก้าสิบเก้าครั้ง พอถึงครั้งที่ร้อย เครื่องจะไม่ลดแรงจ่ายไฟ ขอแค่ผู้เล่นเล็งได้แม่นพอ เครื่องก็จะคีบตุ๊กตาไปส่งให้ถึงที่
แน่นอนว่าโรงงานดีๆ ก็มี โดยอาจตั้งโอกาสคีบได้ไว้ที่ห้าหรือสิบเปอร์เซ็นต์
แต่ไม่ว่าจะยังไง ผู้เล่นก็ได้ไม่คุ้มเสียและโรงงานก็ได้เงินอยู่ดี เพราะมันคือกับดัก
ผู้เล่นหลายคนคิดว่าถ้าโชคดีหรือมีความสามารถพอก็น่าจะได้ของรางวัล แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างตั้งค่าไว้ในเครื่อง หมดแล้ว
ดังนั้นอู๋ปินจึงไม่เคยสนใจพวกเกมเซ็นเตอร์เลย
แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับแตกต่างจากที่เขาคิดไว้
เกมเซ็นเตอร์คือกับดักดูดเงินถ้าผู้เล่นใช้เงินตัวเองเล่น
แต่ถ้ามีคนจ่ายเงินให้เล่นก็จะดูน่าสนุกขึ้นมาทันที!
หน้าทางเข้างานมีโต๊ะอยู่ตัวหนึ่ง ที่โต๊ะมีคนจากฝ่ายธุรการนั่งแจกเหรียญอยู่
เหรียญที่แจกให้เป็นเหรียญสำหรับเล่นเกมในงาน แต่ละคนจะได้เหรียญคนละหนึ่งถุง ในถุงมีเหรียญประมาณห้าสิบถึงหกสิบเหรียญ
ปกติแล้วต้องจ่ายเงินประมาณสิบถึงสิบห้าหยวนต่อครั้งในการเล่นตู้คีบตุ๊กตา แต่ตู้เกมในงานใช้แค่ครั้งละเหรียญเท่านั้น
พูดง่ายๆ คือ หนึ่งเหรียญมีค่าเท่ากับสิบหยวน
เหรียญทั้งหมดที่อู๋ปินได้มาที่มูลค่าอย่างน้อยห้าถึงหกร้อยหยวน
เขาได้เหรียญทั้งหมดมาฟรี สามารถเอาไปเล่นเกมอะไรก็ได้ตามที่ใจอยาก ชัดเจนมากว่าเกมที่นี่ไม่ใช่กับดักดูดเงินเหมือนของเกมเซ็นเตอร์อื่นๆ
คนจากฝ่ายธุรการบอกทุกคนว่ากิจกรรมเกมจะเริ่มหลังเที่ยง ต้องกินอาหารให้เสร็จก่อนถึงจะเล่นเกมได้
แค่ได้เหรียญเล่นเกมอู๋ปินก็ดีใจมากแล้ว แต่ที่เขาได้ไม่ได้มีแค่นั้น
พนักงานฝ่ายธุรการยื่นซองหนาสีแดงให้ด้วย
“ของแจกหน้างานครับ” เขายิ้มพร้อมอธิบาย
อู๋ปินแปลกใจ “ผมเพิ่งเข้าบริษัทนะครับ ยังไม่ได้เป็นพนักงานเต็มตัวเลย ผมมีสิทธิ์รับด้วยเหรอครับ”
พนักงานยิ้มพลางพยักหน้าให้ “ใช่ครับ ซองแดงนี้คือของแจกหน้างาน เพราะงั้นทุกคนที่เดินเข้างานต้องได้รับครับ”
อู๋ปินรู้สึกใจฟูขึ้นมา
พูดได้กินใจสุดๆ!
ที่บริษัทเหิ่งตู่ มีแค่พนักงานที่ทำงานเกินสามเดือนถึงจะมีสิทธิ์ได้จับสลากชิงรางวัล คนอื่นๆ รวมถึงเด็กฝึกงานไม่ได้สิทธิ์นี้
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเคยเกิดเหตุการณ์สุดกระอักกระอ่วนครั้งหนึ่ง เด็กฝึกงานที่เพิ่งเข้ามาทำงานจับสลากได้รางวัลที่หนึ่ง ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์ราคาหนึ่งหมื่นหยวน จากนั้นวันต่อมาก็ลาออกทันที
ตั้งแต่นั้นมาบริษัทก็ไม่ให้สิทธิ์เด็กฝึกงานร่วมจับสลากอีก
ตอนแรกอู๋ปินคิดว่าตัวเองไม่น่าจะได้ของแจกหน้างานและไม่น่ามีสิทธิ์ร่วมจับสลาก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดไป
เถิงต๋ากรุ๊ปไม่ได้มองเขาเป็นคนนอก ไม่ได้พยายามกีดกันเขาเลยสักนิด!
คิดได้แบบนั้น อู๋ปินก็รู้สึกแย่ที่สอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋าตอนเช้าไม่ผ่าน
บริษัทดูแลดีขนาดนี้ แต่เขากลับไม่ดีพอที่จะเป็นพนักงานเต็มตัว
รู้สึกแย่สุดๆ!
ฉันต้องเข้าใจจิตวิญญาณของเถิงต๋าให้ได้เร็วที่สุด จะได้ทำงานตอบแทนบริษัท!
อู๋ปินเดินตามเพื่อนฝ่าย HR เข้าไปนั่งในงาน จากนั้นก็เปิดซองนับเงินดู
มีใบแดงตั้งสิบใบ!
สำหรับอู๋ปินแล้วถือว่าเยอะมาก เพราะงานประชุมประจำปีของบริษัทเหิงตู่แจกแค่ชุดแชมพูเป็นของแจกหน้างาน…
แถมยังเป็นแชมพูแก้ผมร่วงอีก
ถึงจะเป็นประโยชน์กับพนักงานส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นของราคาแค่ไม่กี่หยวน…
เทียบกันแล้วเถิงต๋าแจกของหน้างานได้ใจป้ำมากๆ ทำเอาจินตนาการไม่ออกเลยว่าของรางวัลจับสลากจะอลังการขนาดไหน
อู๋ปินหมุนเหรียญเกมในมือเล่นพลางมองไปรอบๆ งาน
มีโต๊ะยาวคลุมผ้าแดงตั้งอยู่หน้าเวที ใต้ผ้าแดงที่คลุมอยู่เหมือนจะมีของวางอยู่มากมาย ซึ่งน่าจะเป็นของรางวัลในงานประชุมครั้งนี้
ส่วนจะเป็นอะไรนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่ามีเยอะมาก
ไม่นานคนก็ทยอยนั่งกันเกือบเต็มทุกที่
พนักงานขาดงานประชุมครั้งนี้ไม่ได้ เพราะบอสเผยย้ำอยู่หลายครั้งว่าถ้าไม่ได้ป่วยจนลุกจากเตียงไม่ขึ้นก็ห้ามพลาดงานนี้เด็ดขาด
อู๋ปินเคยได้ยินมาว่ามีพนักงานสักบริษัทไม่ได้ไปร่วมงานประชุมเพราะติดทำงานล่วงเวลา สุดท้ายก็พลาดโอกาสรับของรางวัลที่ได้จากการจับสลาก
เหตุการณ์นี้ไม่มีวันเกิดขึ้นที่เถิงต๋ากรุ๊ป
เพราะถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ…เรื่องคงจบไม่สวยแน่
ทั้งพนักงานที่อยู่ทำงานล่วงเวลา รวมถึงคนที่มอบหมายงานกับหัวหน้าฝ่ายอาจจะซวยเอาได้
อู๋ปินเหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้เที่ยงครึ่งแล้ว
ระหว่างที่กำลังคิดอยู่ว่างานประชุมจะเริ่มตอนไหน พนักงานก็ยกอาหารจานแรกมาเสิร์ฟ
อู๋ปิน “???”
เดี๋ยวนะ ตารางผิดรึเปล่า
งานประชุมทั่วไปจะต้องมีพิธีเปิด มีการแสดงชวนอึดอัด ตามด้วยบอสบริษัทขึ้นพูดสรุปผลลัพธ์ในปีที่ผ่านมาแล้วพูดถึงเป้าหมายในอนาคต เสร็จจากนั้นก็จะมีกิจกรรมกับการแสดงเพิ่มแล้วค่อยเสิร์ฟอาหาร
แต่นี่นอกจากจะไม่มีการแสดงชวนอึดอัดใจแล้ว บอสยังไม่ขึ้นพูดอีก!
อู๋ปินพยายามมองไปยังโต๊ะด้านหน้า แล้วพบว่าบอสเผยไม่ได้มีท่าทีจะขึ้นไปพูดอะไรบนเวทีเลย บอสเหมือนกำลังคิดอยู่ว่าจะชิมอาหารจานไหนก่อนดี
อู๋ปินมึนตึ้บ งานประชุมนี้สุดยอดไปเลย!
พอทุกคนมาถึงปุ๊บก็เสิร์ฟอาหารปั๊บ ไม่มีล่าช้าเลยสักนิด!
ตอนนั้นเองเลขนับถอยหลังสู่กิจกรรมจับสลากก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“เดี๋ยว! เอางี้เลยเหรอ!”
อู๋ปินมึนหนักกว่าเดิม ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm
บอสเผยไม่ขึ้นพูดไม่เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก่อนจับสลากก็น่าจะมีพิธีกรมาปลุกเร้าอารมณ์ผู้ร่วมงานรึเปล่า
แต่นี่กลับไม่มีเลย!
ช่วงกิจกรรมจับสลากเริ่มแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยจะแจกของรางวัลเป็นช่วงๆ!
ในระบบมีทั้งข้อมูลและรูปของพนักงานอยู่แล้ว การจับสลากจะสุ่มจากฐานข้อมูลโดยตรง
รางวัลแรกที่จะแจกปรากฏบนหน้าจอ ซึ่งก็คือหูฟังราคา 799 หยวนจำนวนสามร้อยชิ้น!
เรื่องคุณภาพเสียง หูฟังราคา 799 หยวนอาจจะเสียงดีกว่าหูฟังทั่วไปเล็กน้อย แต่หูฟังบลูทูธในเรตราคานี้พกพาง่ายและใช้สะดวก
หลายๆ คนอาจบอกความต่างเรื่องเสียงไม่ได้ แต่ถ้าได้หูฟังบลูทูธที่พกไปมาสะดวกก็ไม่ได้แย่อะไร อย่างน้อยก็เอาไว้ใช้ระหว่างเดินทางไปกลับที่ทำงานได้
เพราะงั้นทุกคนจึงจับจ้องไปทางหน้าจอด้วยความคาดหวัง ดูจากสีหน้าของแต่ละคนแล้วก็รู้ได้เลยว่าอยากได้กันขนาดไหน
บนหน้าจอปรากฏเอฟเฟ็กต์สุดเท่ รูปมากมายเลื่อนผ่านหน้าจออย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยุดอยู่ที่รูปของพนักงานคนหนึ่งที่อู๋ปินไม่รู้จัก
เสียงเฮดังขึ้นที่มุมหนึ่งของห้อง ตามด้วยเสียงปรบมือ
เพื่อนร่วมงานของพนักงานคนนั้นพากันแสดงความยินดี
หลังจากนั้นรูปพนักงานที่ชนะรางวัลก็ย่อเล็กลงแล้วเลื่อนไปอยู่ที่มุมบนซ้ายของจอ ก่อนที่รูปมากมายจะวิ่งผ่านหน้าจออีกครั้งแล้วหยุดที่รูปของผู้ชนะรางวัล
รูปเลื่อนไปเรียงบนหน้าจอทีละรูป เสียงโห่ร้องดังขึ้นทั่วห้อง มีทั้งเสียงเฮและเสียงถอนใจ
“ฉันได้!”
“โห ได้หูฟังบลูทูธ ของดีเลย!”
“เปิดได้สวย”
“ฉันไม่ได้… เฮ้อ ไม่เป็นไรๆ รางวัลหลังๆ ต้องดีกว่านี้!”
ช่วงแรกเสียงปรบมือดังกึกก้อง แต่การสุ่มคนได้รางวัลเป็นไปอย่างรวดเร็ว แถมรางวัลนี้ยังมีคนได้รางวัลถึงสามร้อยคน ทุกคนจึงเริ่มเมื่อยกับการปรบมือ
ถึงเสียงปรบมือจะเบาลง แต่บรรยากาศในงานกลับคึกคักขึ้น!
ตอนนี้ทุกคนให้ความสนใจอยู่แค่สองอย่าง
กินกับจ้องจอ
ถึงงานประชุมจะไม่มีพิธีกรหรือการแสดงก็ไม่มีใครรู้สึกติดขัดอะไร กลับรู้สึกคึกคักด้วยซ้ำ
ใครมันอยากดูการแสดงพวกนั้นกัน!
ทุกคนสนใจแค่ของรางวัล!
ตอนนี้มีสามร้อยคนได้รางวัลแรกไป ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของพนักงานทั้งหมด เสียงโห่เชียร์ดังขึ้นเป็นพักๆ
ไม่นานรางวัลอื่นๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
มีทั้งคีย์บอร์ดกลไกราคา 899 หยวน เครื่องกรองอากาศราคา 1,299 หยวน หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคา 2,199 หยวน เครื่องเกมราคา 3,599 หยวน…
ยิ่งรางวัลมูลค่าสูงขึ้น ผู้ร่วมงานก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น!
อู๋ปินมองรางวัลต่างๆ บนหน้าจอด้วยความตะลึงงัน
มีรางวัลกี่อย่างกันเนี่ย
งานประชุมประจำปีของบริษัทเหิงตู่แจกรางวัลแค่สี่ห้าอย่าง มีของแจกหน้างาน รางวัลที่สาม รางวัลที่สอง รางวัลที่หนึ่ง และอาจจะมีรางวัลพิเศษอื่นๆ
แถมแต่ละอย่างก็ไม่ได้แจกหลายชิ้น แค่อย่างละสิบชิ้นก็ถือว่าเยอะแล้ว
แต่เถิงต๋ากลับแจกของรางวัลทิ้งขว้างเหมือนได้มาฟรี!
ช่วงแรกแจกหูฟังกับคีย์บอร์ดกลไกอย่างละสามร้อยชิ้น ต่อจากนั้นถึงของรางวัลจะมูลค่าสูงขึ้น แต่ก็แจกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองร้อยชิ้น!
เรียกได้ว่าแจกเยอะกว่าบริษัทไหนๆ
หลังจากคำนวณรางวัลทุกอย่างจนถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น จำนวนรวมก็มากกว่าหนึ่งพันชิ้นเข้าไปแล้ว…
พอเทียบกับจำนวนคนร่วมงาน ทุกคนก็น่าจะได้รางวัลกันหมด!
อู๋ปินดวงกลางๆ เขาไม่ได้รางวัลอะไรเลย จนกระทั่งได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคา 2,199 มา
เขาอยากได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมานานแล้ว จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เขาหรอกที่อยากได้แต่เป็นภรรยา
หุ่นยนต์ที่ได้มาเป็นของบริษัทชื่อดังต่างประเทศ นอกจากหน้าตาจะดูดีแล้ว ยังใช้งานง่ายสุดๆ ข้อเสียอย่างเดียวคือราคาแพง
อู๋ปินคิดจะซื้ออยู่หลายครั้ง ทุกครั้งก็มาติดตรงที่มันแพงเกินไป
แต่คราวนี้กลับได้แจกจากงานประชุม!
แถมของรางวัลยังไม่ได้มีแค่นี้
ดูจากมูลค่าของรางวัลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ว รางวัลหลังๆ ต้องเป็นของมูลค่าสูงกว่านี้แน่!
เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวดีนี้กับภรรยา
ดูแล้วการย้ายงานครั้งนี้คุ้มค่าสุดๆ!
แค่งานประชุมประจำปี เขาก็ได้ทั้งเหรียญเล่นเกมมูลค่าห้าร้อยหยวน ซองแดงมูลค่าหนึ่งพันหยวน และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคา 2,199 หยวน ซึ่งเยอะกว่ารางวัลที่เคยได้จากงานประชุมประจำปีของบริษัทเหิงตู่รวมกันอีก!
งานประชุมประจำปีของบริษัทอื่นมักแจกของรางวัลราคาสองพันหยวนเป็นรางวัลอันดับสอง แถมดูจากจำนวนที่แจกแล้ว อู๋ปินคิดว่าตัวเองคงไม่มีทางชนะรางวัลแบบนี้ถ้ายังทำงานอยู่ที่บริษัทเหิงตู่
โชคดีอะไรแบบนี้!
ระหว่างกำลังดีใจ เขาก็คิดถึงข้อสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋าเมื่อตอนเช้า
อู๋ปินอยากสอบให้ผ่านเพื่อที่จะได้เป็นพนักงานเถิงต๋ากรุ๊ปเต็มตัว
…
เผยเชียนสังเกตท่าทีของทุกคนระหว่างกินอาหาร
อืม ทุกคนดูสนุกสนานกันสุดๆ!
เยี่ยมเลย
ทุกคนได้กินดื่มและลุ้นรางวัลกันอย่างสนุกสนาน ส่วนบอสเผยก็ได้เพลิดเพลินใจกับการผลาญเงิน เยี่ยมยอดสุดๆ
ในเมื่อเป้าหมายของทุกคนเหมือนกันหมด ก็ไม่จำเป็นต้องจัดกิจกรรมอะไรมากมายในงานประชุม รีบกินรีบแจกจะได้รีบกลับ
เผยเชียนไม่ร่วมจับสลาก เพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็น
เขาซื้อรางวัลเหล่านี้เองแล้วไปหักเป็นรายจ่ายกับระบบได้ เผยเชียนเลยไม่ได้สนใจรางวัล เอาโควตาของตัวเองไปให้พนักงานแทนน่าจะดีกว่า
เผยเชียนคิดว่าพนักงานส่วนใหญ่น่าจะได้รางวัลกันหมดแล้ว
เพราะการจับสลากไม่ได้วัดกันที่ดวงล้วนๆ แต่มีการตัดคนที่ได้รางวัลออกเพื่อเพิ่มโอกาสให้คนอื่นๆ ด้วย
แต่ละคนจะได้รางวัลมากสุดสองอย่าง คนที่ยังไม่ได้รางวัลในช่วงต้นจะมีสิทธิ์ได้รางวัลในช่วงหลังๆ เพิ่มขึ้น