วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน
เผยเชียนมาตรวจงานที่เถิงต๋าตามปกติ
ตอนที่เปิดประตูเข้ามาในออฟฟิศก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเคย
ส่วนทำไมถึงแตกต่างไปนั้น…
พอสังเกตดูดีๆ เผยเชียนก็พบว่าทุกคนดูยุ่งกว่าปกติมาก
“แก้บั๊กที่คุยกันรอบก่อนไปรึยัง”
“แก้แล้ว”
“แล้วทำไมมันยังเด้งเหมือนเดิม”
“บ้าน่า ไหนดูซิ อ้าว ทำไมเป็นงี้อ่ะ ฉันส่งไปแล้วนี่!”
“เชี่ย ทำไมเกมกลับใจคือฟากฝั่งถึงมีบั๊กพวกนี้ด้วยล่ะ”
ภาพบรรยากาศตรงหน้าช่างโกลาหล
ดูเหมือนว่านอกจากเกม GOG ที่กำลังสร้างอยู่จะมีบั๊กเต็มไปหมดแล้ว บั๊กที่ซ่อนอยู่ในเกมที่ปล่อยไปก่อนหน้าอย่างเกมกลับใจคือฟากฝั่งกับเกมนักออกแบบเกมก็โผล่ขึ้นมาเหมือนกัน…
ทุกคนว้าวุ่นใจกับบั๊กที่โผล่ขึ้นมาสุดๆ จนบรรยากาศที่เคยสงบสุขหายไปหมด
เผยเชียนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
เยี่ยม! เยี่ยมสุดๆ!
ถ้ามีบั๊กก็แสดงว่าขั้นตอนการค้นคว้าและพัฒนาเกมจะยืดออกไปอีก เกมจะเสร็จสมบูรณ์ล่าช้ากว่าที่คาดไว้
เงื่อนไขของเผยเชียนสำหรับการค้นคว้าและพัฒนาเกมนั้นเรียบง่ายมาก ขอแค่เสร็จก่อนเวลาที่ระบบกำหนดก็โอเค
แต่พอบริษัทพัฒนาเกมมากขึ้นก็มีทุนเพิ่มขึ้น ประสบการณ์ในการค้นคว้าและพัฒนาก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้กระบวนการค้นคว้าและพัฒนาเกมของเถิงต๋ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จุดนี้สร้างปัญหาน่าหนักใจให้เผยเชียน
เกมที่วางแผนเอาไว้ว่าจะใช้เวลาค้นคว้าและพัฒนามากกว่าสี่เดือนกลับเสร็จสมบูรณ์ภายในสามเดือน!
เสร็จเร็วกว่ากำหนดหนึ่งเดือน
แล้วจะให้ทำยังไง
เกมทำเสร็จแล้ว จะให้เผยเชียนห้ามไม่ให้ปล่อยก็ไม่ได้อีก เพราะไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้น
ดังนั้นเขาจึงได้แต่ฝืนใจปล่อยเกมเร็วกว่ากำหนดทั้งน้ำตา
แต่ตอนนี้จู่ๆ เกมก็มีบั๊กนั่นนี่โผล่มา ทำให้ต้องใช้เวลาในการจัดการเพิ่ม เผยเชียนจึงมีเหตุผลในการเลื่อนวันปล่อยเกมออกไปอีก
เขาเล็งปล่อยเกมหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันปิดบัญชี ซึ่งจะช่วยตัดกำไรไปได้หนึ่งเดือนเต็ม!
เรื่องนี้สำคัญมาก การตัดรายได้หนึ่งเดือนออกไปอาจจะช่วยชีวิตเผยเชียนได้เลย!
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็อุ้มอิ้นถังที่งีบอยู่ไม่ไกลขึ้นมาลูบอย่างรุนแรง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานอย่างเบิกบานใจ
หลังจากพาออร่าความซวยมาบริษัท เผยเชียนก็สบายใจขึ้นได้จริงๆ!
ถังอี้ซู่กำลังอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะทำงานตอนที่เผยเชียนเดินผ่าน เธอคิดว่าเขาน่าจะมาสั่งงาน แต่สุดท้ายก็เดินผ่านไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่กล้าทักให้เผยเชียนหยุดกลางทาง พอคิดขึ้นได้ว่าน่าจะมีอีกหลายโอกาสที่จะได้คุยกัน ถังอี้ซู่จึงตัดสินใจเก็บคำถามไว้ถามโอกาสหน้า
อิ้นถังที่โดนกวนตอนงีบวิ่งไปหยุดตรงขาถังอี้ซู่ ก่อนจะร้องเหมียวๆ เหมือนว่ากำลังแสดงความไม่พอใจไม่ก็กำลังด่าเผยเชียนอยู่
…
…
เผยเชียนเพิ่งจะนั่งลงในห้องทำงาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ห่าวหยุนเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น “บอสเผยคะ การเตรียมการสำหรับการสอบคัดเลือกพนักงานเสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ
“ข้อสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ปิดผนึกไว้ก่อน จะเปิดอีกทีวันสอบ
“เราจองหอประชุมของโรงแรมไว้เป็นสถานที่สอบ เดี๋ยวทางโรงแรมจะจัดที่นั่งสอบให้ โดยจะรองรับคนได้หลายร้อยคนค่ะ
“ส่วนเรื่องที่บอสสั่งไว้ก่อนหน้านี้ เราจองที่พักให้สำหรับผู้สมัครที่มาจากต่างเมืองเรียบร้อยแล้วค่ะ
“แล้วก็ติดต่อนักศึกษาป.โทจากมหา’ลัยฮั่นตงเรื่องให้มาช่วยคุมสอบกับตรวจข้อสอบแล้ว ค่าแรงอยู่ที่วันละสามร้อยหยวน
“ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เราก็กำหนดวันและออกประกาศได้เลยค่ะ”
เผยเชียนพยักหน้า “ขอบคุณมาก”
จริงๆ แล้วเขาไม่ได้กังวลเรื่องการคัดพนักงานเข้าทำงานเลย แต่ฝ่าย HR ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากๆ ตลอดทุกขั้นตอน ทุกอย่างจัดการเสร็จเรียบร้อยเร็วกว่าที่คาดไว้
การเตรียมการทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงเดือน
ถึงกล่องอีเมลรับสมัครงานของเถิงต๋าจะเต็มจนล้น แต่เผยเชียนก็คิดว่าน่าจะมีคนมาเข้าสอบไม่มาก
เพราะขั้นตอนที่เผยเชียนสร้างขึ้นนั้นยาวเกินไป สอบเสร็จก็ต้องรอตรวจข้อสอบ พอผลออกก็ต้องรอเรียกไปสัมภาษณ์ เสร็จแล้วก็ต้องรอฟังผลต่อว่าเถิงต๋าจะเลือกคนไหน
แถมพอผ่านเข้าไปได้ก็ต้องสอบวัดความเข้ากันได้กับเถิงต๋าให้ผ่านอีก
ขั้นตอนทั้งหมดจะอธิบายไว้ชัดเจนในเว็บไซต์ที่ผู้สมัครเข้าไปพิมพ์ใบเข้าสอบ
ผู้สมัครที่อยู่ต่างประเทศซึ่งอยากได้งานที่เถิงต๋าต้องบินไปกลับอย่างน้อยสองครั้งเพื่อสอบข้อเขียนกับสอบสัมภาษณ์
ถึงเถิงต๋าจะออกค่าที่พักให้ แต่พวกเขาก็ต้องเสียเวลาพอสมควร
ผู้สมัครหลายคนมีงานทำอยู่แล้ว จึงน่าจะขอหยุดงานยาก ถึงจะยอมเสียแรงเสียเวลาก็ไม่แน่อีกว่าสุดท้ายความพยายามจะสูญเปล่ามั้ย
ผู้สมัครที่มีประสบการณ์การทำงานมากอาจจะสู้เด็กจบใหม่ไม่ได้เมื่อเจอขั้นตอนการคัดคนแบบนี้ ทำให้ความตั้งมั่นในการสมัครงานลดทอนลงไปมาก
ดังนั้นการรับสมัครคนครั้งแรกจึงไม่น่าจะใหญ่โตอะไรมาก
เผยเชียนหันมองปฏิทิน “เอาเป็นจันทร์หน้าแล้วกัน
“อาจจะเร่งไปหน่อย แต่เราก็ช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องพยายามจัดการให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม”
ถ้าช้ากว่านี้บริษัทอื่นๆ ก็จะจัดประชุมและแจกจ่ายโบนัสสิ้นปีกันเสร็จหมด หมายความว่าจะมีคนคิดเปลี่ยนงานมากขึ้นและน่าจะมีคนเก่งๆ เข้ามาในตลาดงานมากขึ้น
ห่าวหยุนพยักหน้า “โอเคค่ะบอสเผย เดี๋ยวดิฉันจัดการตามสั่งแล้วจะประกาศให้ผู้สมัครทราบค่ะ”
พอห่าวหยุนกลับออกไป หลี่หย่าต๋าก็เข้ามาแทน
“บอสเผยคะ ดิฉันมีเรื่องจะถามสองเรื่อง
“เรื่องแรก ดิฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เราเจอบั๊กในเกมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมยังไม่ได้เจอแค่กับเกมใหม่อย่าง GOG เกมที่ปล่อยออกไปก่อนหน้าก็มีบั๊กโผล่ขึ้นมาเหมือนกันค่ะ…
“เราให้ทีมออกแบบอยู่ทำงานล่วงเวลาแค่ช่วงนี้ได้มั้ยคะ”
เผยเชียนตั้งใจจะปฏิเสธออกไปตามสัญชาตญาณ แต่พอคิดดูอีกทีก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าการค้นคว้าและพัฒนาเกมล่าช้าเกินไป ก็อาจจะทำให้ปล่อยเกมไม่ทันวันปิดบัญชี
เขามีโปรเจ็กต์ที่ยังไม่เสร็จได้หนึ่งโปรเจ็กต์ในรอบบัญชีนี้ แต่ก็ยังมีโปรเจ็กต์อื่นๆ ที่ไม่น่าจะเสร็จทันเวลา เช่น โปรเจ็กต์ทำมือถือ
ดังนั้นเขาต้องมั่นใจว่าวันปิดบัญชีจะไม่ถูกเลื่อนออกไปเพราะเกมยังค้นคว้าและพัฒนาไม่เสร็จ
เผยเชียนพยักหน้า “โอเค ผมให้ทำงานล่วงเวลาได้ แต่เช็กดูด้วยว่าแต่ละคนทำงานล่วงเวลากันแค่ไหน ไม่ใช่จะดูแค่ว่าต้องจ่ายค่าล่วงเวลาเท่าไหร่ แต่เป็นการตรวจดูว่าทุกคนได้พักผ่อนเพียงพอมั้ย เราต้องสร้างสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงานให้ดี โอเคมั้ย”
ดูเหมือนว่า นอกจากออร่าความซวยของถังอี้ซู่จะทำให้การค้นคว้าและพัฒนาเกมล่าช้าออกไป ยังช่วยให้เผยเชียนจ่ายค่าล่วงเวลาเพิ่มได้อีก คุ้มค่าจริงๆ!
หลี่หย่าต๋าพยักหน้า “โอเคค่ะ อีกเรื่องคือ คุณหร่วนกวางเจี่ยนจะแวะมาที่จิงโจว เราควรจัดต้อนรับเขามั้ยคะ”
เผยเชียนขมวดคิ้ว
หร่วนกวางเจี่ยนเหรอ
ไม่ต้องเปิดบัญชีดำดูก็รู้ว่าหมอนี่คือเป้าหมายที่สองรองจากอาจารย์เฉียว
“เขาแวะมาทำอะไรที่จิงโจว” เผยเชียนถาม
หลี่หย่าต๋าตอบ “เราร่วมงานกับเขามาตลอด ครั้งนี้ก็ได้เขามาช่วยออกแบบตัวละครเกม GOG ค่ะโuเวลกูดoทคoม
“แต่ระหว่างการออกแบบ คุณหร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกว่าการสนทนาทางไกลไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ไม่สามารถอธิบายรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน ก็เลยกลัวว่าจะเข้าใจแนวทางของฮีโร่แต่ละตัวได้ไม่ชัดเจน
“เพราะเกมนี้แตกต่างจากเกมอื่นๆ การออกแบบฮีโร่ออริจินัลเป็นเรื่องยาก เนื่องจากคุณหร่วนกวางเจี่ยนไม่มีแบบให้ยึดตาม ถ้าออกแบบมาผิดไปนิดหน่อยอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ได้
“เขาเลยตัดสินใจบินมาหาเพื่อที่จะได้สื่อสารกันง่ายขึ้น แถมยังแวะมาเยี่ยมบอสได้ด้วยค่ะ”
เผยเชียน “…”
“เราต้องจัดต้อนรับเขาอยู่แล้ว!
“จองครัวส่วนตัวหมิงหยุนเลย เออใช่ จองรถไฟเหาะไว้ด้วย!
“เครื่องเล่นผาดโผนแบบนี้จะช่วยจุดแรงบันดาลใจให้เขาได้แน่นอน
“ไม่ต้องบอกเขานะ เก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์!”
หลี่หย่าต๋า “เอ่อ…ได้ค่ะ”
เผยเชียนเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยความพึงพอใจ
หร่วนกวางเจี่ยนมาจิงโจวงั้นเหรอ
หึๆ มาเยี่ยมถึงถิ่นแบบนี้ เตรียมโดนเล่นงานเลย!
…
เผยเชียนดูซีรีส์สักพักก็เริ่มเบื่อ
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำเลย
ตอนนี้ไม่ได้กำลังเริ่มทำอะไรใหม่ เลยไม่ต้องไปคุมงานอะไร
มีแค่โปรเจ็กต์หนังของเฟยหวงสตูดิโอเท่านั้นที่เขาจะไปสร้างปัญหาได้
แต่หลังจากบังเอิญให้ ‘คำแนะนำ’ ที่ช่วยให้ลู่จือเหยาแสดงได้ดีขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาก็ไม่กล้ากลับเข้าไปอีก
เผยเชียนรู้สึกเหงาหงอย
ตอนนั้นเองเขาก็นึกถึงถังอี้ซู่ขึ้นมา และสงสัยว่าเด็กคนนั้นจะคุ้นเคยกับการทำงานที่บริษัทหรือยัง
เผยเชียนส่งข้อความเรียกให้ถังอี้ซู่มาหาที่ห้องทำงานด้วยจิตใจเป็นห่วงเป็นใยพนักงาน
ไม่ถึงนาทีก็มีคนมาหยุดอยู่หน้าประตู เธอยกมือขึ้นๆ ลงๆ เหมือนกำลังรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะเคาะประตู
“เข้ามาสิ” เผยเชียนพูดขึ้น
ถังอี้ซู่ค่อยๆ เปิดประตูแล้วเดินก้มหัวเข้ามาในห้องทำงาน เธอบีบนิ้วตัวเองด้วยความประหม่าพร้อมกล่าวทักทาย “สะ…สวัสดีค่ะพี่”
“เสื้อคลุมสวยดีนะ” เผยเชียนเอ่ยชมอย่างไม่ได้คิดอะไร “ชินกับงานรึยัง”
ถังอี้ซู่พยักหน้าแล้วตอบออกไปเสียงเบา “ชินแล้วค่ะ แต่ว่า…ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำเท่าไหร่”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เห็นด้วยกับเธอ
แมวไม่ต้องดูแลอะไรมากเหมือนหมา หน้าที่ของถังอี้ซู่มีแค่เก็บกวาดกระบะทรายวันละครั้งกับให้อาหารวันละสองครั้ง
แถมยังไม่ต้องพาไปเดินเล่นหรืออาบน้ำให้เหมือนหมา
เผยเชียนคิดอยู่พักหนึ่ง “ถ้าเจอแมวจรก็เอามาเลี้ยงที่ออฟฟิศได้ แต่ต้องเอาไปฉีดยากับกำจัดหมัดที่โรงพยาบาลสัตว์ก่อน ถ้ามีค่าใช้จ่ายอะไรก็ไปแจ้งฝ่ายการเงินได้เลย”
ถังอี้ซู่ “ดะ…ได้ค่ะพี่”
เผยเชียนแค่ต้องการให้ถังอี้ซู่อยู่แผ่ออร่าความซวย ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้สวย ถือว่าใช้จ่ายเงินได้อย่างคุ้มค่า
ไหนๆ ถังอี้ซู่ก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ เผยเชียนเลยคิดว่าจะเลี้ยงแมวเพิ่ม อย่างมากก็แค่กระบะทรายเต็มเร็วขึ้น ไม่น่าจะแตกต่างอะไรจากเดิมมาก
เผยเชียนกำลังจะบอกให้ถังอี้ซู่กลับไปทำงานแต่ก็สังเกตเห็นสีหน้าลังเลใจของเธอเข้าก่อน
เหมือนว่าเธอมีบางอย่างที่อยากจะพูด แต่ก็ไม่กล้าพูด
“อยากบอกอะไรรึเปล่า” เผยเชียนถาม
ถังอี้ซู่ลังเลใจอยู่สองสามวินาที ก่อนจะรวบรวมความกล้าถามออกไป “พี่คะ คิดว่ามีพนักงานพยายามขโมยความลับบริษัทรึเปล่าคะ”
“ขโมยความลับบริษัทเหรอ” เผยเชียนผงะไป ก่อนจะผุดยิ้ม “คิดอะไรของน้อง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เลย”
ถังอี้ซู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “โอเคค่ะ งั้นไม่มีอะไรแล้วค่ะพี่ นะ…หนูขอตัวกลับไปทำงานก่อน”
เผยเชียนได้แต่ยิ้มพลางส่ายหัวขณะมองถังอี้ซู่ออกจากห้องทำงานไป
เด็กคนนี้ช่างเป็นคนง่ายๆ ตรงๆ เสียเหลือเกิน สงสัยจะดูละครมากเกินไปเลยคิดว่ามีคนพยายามขโมยความลับบริษัท
นี่ก็แค่บริษัทเกมธรรมดาๆ จะมีความลับอะไรให้ขโมย…
เผยเชียนเปิดซีรีส์ดูต่อ
จู่ๆ เขาก็นึกปัญหาขึ้นได้
“เดี๋ยวนะ ถังอี้ซู่เพิ่งจะเริ่มทำงานสัปดาห์ก่อน ทำไมถึงนึกกังวลว่าจะมีคนแอบขโมยความลับบริษัทล่ะ
“หรือว่าจะเห็นใครทำตัวลับๆ ล่อๆ
“ก็ไม่น่าใช่ ถ้าเป็นวันทำงานปกติ ทุกคนก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ที่โต๊ะ มองยังไงถังอี้ซู่ก็ไม่น่าจะคิดว่ามีคนกำลังขโมยความลับบริษัทหรอก
“ทำไมเธอถึงสงสัยว่าจะมีคนขโมยความลับบริษัทล่ะ
“…เดี๋ยวนะ
“หรือเธอจะใครเข้ามาตอนวันเสาร์อาทิตย์”
ตอนนั้นเองเผยเชียนก็ตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายเหมือนที่เขาคิดซะแล้ว