“หนังสยองขวัญหลายเรื่องใช้ภูตผีปีศาจและสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ เพราะเห็นแล้วสร้างความหวาดกลัวได้มาก แต่ก็มีหนังสยองขวัญอีกแบบที่ใช้แค่คนธรรมดาทั่วไป ซึ่งก็เขย่าขวัญคนดูได้มากทีเดียว
“พูดให้ชัดเจนคือ ความสยองขวัญคืออารมณ์อย่างหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับภูตผีปีศาจหรือสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ในการสร้างภาพความน่าขนลุก
“ดูอย่างในบริษัทเรา แค่ปิดม่านแล้วปล่อยให้ทุกคนอินกับบรรยากาศสยองขวัญ พอมีใครสักคนกรี๊ดขึ้นมา ทุกคนก็ตกใจกันหมด…
“เพราะงั้นบรรยากาศจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด บางทีคนเราก็น่ากลัวกว่าภูตผีปีศาจอีก… จุดนี้แหละที่สำคัญที่สุด
“ถ้าเราสร้างความรู้สึกแบบเดียวกับที่เรารู้สึกตอนเล่นเกมในออฟฟิศได้ เกมของเราก็น่าจะหลอนไม่แพ้กัน”
หวังเสี่ยวปินเห็นด้วยกับแนวคิดนี้มาก “จริงด้วยๆ ผมก็กำลังจะพูดเรื่องนี้เลย
“งั้นเอางี้เป็นไง เราสร้างฉากหลอนๆ ขึ้นมาในเกม จับผู้เล่นทุกคนโยนเข้าไปในฉาก แล้วปล่อยให้ความกลัว ‘กระจายตัว’ และ ‘เข้าเกาะกุมจิตใจ’ ทำแบบนี้ก็จะได้บรรยากาศเดียวกันกับในออฟฟิศเรา”
เยว่จือโจวพูดต่อ “พูดอีกอย่างคือ เกมของเราจะไม่สร้างความกลัวด้วยภาพภูตผีปีศาจ แต่จะสร้างความกลัวด้วยการปองร้ายจากผู้เล่นคนอื่น บรรยากาศความหลอนที่ค่อยๆ ทวีคูณขึ้น และฉากสภาพแวดล้อม
“พอความกลัวเริ่มกระจายตัวออกไป ผู้เล่นก็จะเริ่มสู้กัน
“เราให้ผู้เล่นร่วมมือกันร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ไม่งั้นจะเหมือนจับมือกันเดินในสวน เพราะยิ่งคนมาก ความท้าทายก็จะยิ่งน้อยลง อาจได้ผลตรงกันข้ามกับที่หวังไว้
“เราต้องสร้างประเด็นขัดแย้งในหมู่ผู้เล่น เพื่อที่พวกเขาจะได้หวาดกลัวกันเอง ความอันตรายและภัยคุกคามที่ไม่คาดคิดนี่แหละที่จะเป็นตัวสร้างความกลัว
“ส่วนจะทำยังไงให้ผู้เล่นสู้กันเอง… บอสเผยก็บอกใบ้มาแล้วว่าเป็นระบบอาวุธ!”
เยว่จือโจวมองเงื่อนไขที่สามที่บอสเผยย้ำ “อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดคือปืนพก ในเมื่อทุกคนในเกมเป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่มีภูตผีปีศาจ ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีอาวุธที่แข็งแกร่งอะไรมากมาย เพราะจะทำให้การต่อสู้กันระหว่างผู้เล่นไม่สมดุล
“อาวุธอื่นๆ ก็จะมี มีดสั้น หิน และอะไรก็ได้ที่ทำร้ายคนธรรมดาได้ แต่ไม่ถึงกับตาย”
ทั้งสองจดรายละเอียดไปพร้อมๆ กับช่วยกันออกความเห็น
หลินหวานเห็นว่าเป็นจังหวะเหมาะที่จะแทรก “มีอีกคำใบ้หนึ่งในคำสั่งของบอส บอสเผยไม่ได้บอกเราอย่างชัดเจน แต่ประเด็นนี้ก็ชัดเจนมากขึ้นตอนที่พวกคุณคุยรายละเอียดเรื่องเกมกัน
“การที่ความกลัวจะแพร่กระจายในหมู่ผู้เล่นได้ ก็หมายความว่าในตอนแรกผู้เล่นส่วนใหญ่จะต้องเป็น ‘ผู้บริสุทธิ์’ แต่ที่ต้องสู้กันภายหลังก็เพราะมีผู้เล่นส่วนหนึ่งกลายเป็น ‘มือสังหาร’
“อะไรคือจุดเปลี่ยนคะ”
เยว่จือโจวขมวดคิ้วพลางคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เหมือนบอสเผยจะบอกว่า…อย่างมากเกมก็มีได้แค่คนสติไม่ดี”
หลินหวานพยักหน้า “ใช่ค่ะ คนสติไม่ดี!
“มือสังหารต้องเป็นคนที่มีปัญหาทางจิต หรือเรียกง่ายๆ ว่าคนบ้า
“หนูว่าเราใส่องค์ประกอบ ‘ตัววัดระดับสภาพจิตใจ’ ที่เกมอื่นๆ ใช้เข้าไปได้ หลายคนจะเรียกว่าแถบค่าสติ องค์ประกอบต่างๆ ในสภาพแวดล้อมจะไปเพิ่มระดับความเครียดของผู้เล่น พอเพิ่มถึงระดับหนึ่ง ผู้เล่นก็จะเสียสติ กลายเป็นมือสังหารที่มีเป้าหมายคือฆ่าผู้เล่นคนอื่นๆ เป็นหลัก”
หวังเสี่ยวปินพยักหน้าพร้อมจดตาม “จริงด้วย พอมาคุยกันแบบนี้ ทุกอย่างก็ดูชัดเจนมากขึ้น
“เราแค่ต้องลงรายละเอียดเพิ่ม
“เช่น… ในเมื่อเกมนี้เป็นเกมมัลติเพลเยอร์ เราก็ควรจะใส่ระบบพูดคุยกันผ่านเสียงเพื่อให้ผู้เล่นสื่อสารกันได้ระหว่างเล่นเกม
“ถ้าให้ผู้เล่นสื่อสารกันได้ระหว่างเล่นเกม พวกเขาก็อาจจะทำอะไรป่วงๆ จนลดความน่ากลัวของเกมลงได้ อาจจะเอาระบบคุยกันผ่านเสียงไปใช้วางแผนกลั่นแกล้งคนอื่น หาช่องโหว่ของตัวเกม ทำให้เกมสนุกน้อยลง
“แต่ถ้าไม่ให้ผู้เล่นสื่อสารกัน…ก็อาจจะดูน่าสนใจน้อยลง พอไม่มีหนทางให้พูดคุยกัน พวกเขาก็อาจจะไล่ฆ่ากันแทนที่จะร่วมมือกันก็ได้”
เยว่จือโจวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เรื่องนี้แก้ได้ง่ายๆ ถ้า ‘ระบบพูดคุยในเกม’ เป็นเรื่องสำคัญ เราก็หาทางจำกัดการพูดคุยของผู้เล่นแทนก็ได้
“ผู้เล่นพูดคุยกันได้ แต่ก็ไม่สามารถคุยกันได้ตามใจชอบ ทุกประโยคที่คุยกันสำคัญมา ถ้าคุยกันเยอะเกินไปจะโดนลงโทษ
“อาจจะ…โดนทำให้กลายเป็นคนบ้า
“เกมสยองขวัญดีๆ จะต้องให้ความรู้สึกเหมือนออฟฟิศเรา
“ทุกคนต้องพยายามคลำหาทางในความมืด
“ถ้าจู่ๆ มีใครพูดอะไรขึ้นมา ทุกคนก็จะพากันกรี๊ด
“ว่าแล้วผมก็คิดชื่อดีๆ ออก
“BE QUIET! ส่วนชื่อจีนก็ ‘ชู่!’”
…
ระหว่างที่ทั้งสามระดมความคิดกัน พวกเขาก็คิดไอเดียสำหรับเกมได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
BE QUIET จะเป็นเกมมัลติเพลเยอร์แนวสยองขวัญ แต่ละรอบประกอบไปด้วยผู้เล่นแปดคนกับ NPC แบบสุ่ม
NPC จะสุ่มเกิดสี่ถึงแปดตัวต่อรอบ โดยจะควบคุมด้วย AI จุดประสงค์ที่ใส่ NPC เข้ามาก็เพื่อสร้างความสับสนให้ผู้เล่น
ผู้เล่นทุกคนและ NPC จะได้เข้าไปในแผนที่ที่เกมสุ่มให้ จากนั้นก็ต้องค้นหาไอเทมกับทางออก โดยจะต้องร่วมมือกับผู้เล่นคนอื่นๆ และเหล่า NPC
แผนที่ในเกมมีหลายแบบ ตอนนี้พวกเขาวางไว้ว่าจะมีโรงพยาบาลจิตเวช หมู่บ้านคนบ้า โรงแรมแถบชานเมือง วังโบราณ และโรงเรียน
แผนที่เหล่านี้จะสุ่มองค์ประกอบหลายๆ อย่างตอนเริ่มเกม อัลกอริทึมของเกมจะสุ่มเป้าหมายและไอเทมที่ต้องตามหาในทุกๆ ห้อง
ในแต่ละห้อง ผู้เล่นจะพบไอเทมต่างๆ ที่สามารถหยิบมาใช้งานได้และของประกอบฉาก พวกของประกอบฉากไม่สามารถหยิบจับได้ แต่สามารถกดใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์พิเศษ เช่น เครื่องเล่นวิทยุจะเล่นเสียงที่อัดไว้เพื่อเพิ่มค่าความเครียดของผู้เล่น
ผู้เล่นกับ NPC จะสุ่มเกิดบนพื้นที่ต่างๆ ในแผนที่ พอเกมเริ่มทุกคนต้องเดินไปตามที่ต่างๆ เพื่อหาเบาะแสกับไอเทม
ผู้เล่นจะเจอไอเทมพิเศษในแผนที่ด้วย เช่น มีดสั้น ผ้าพันแผล ยาระงับประสาท รูปปั้นปริศนา และอื่นๆ ไอเทมเหล่านี้ใช้โจมตีคนอื่นหรือรักษาตัวเองได้ บางอย่างช่วยลดค่าความเครียด ในขณะที่บางอย่างจะเพิ่มความเครียดแทน
จะใช้ไอเทมเหล่านี้ยังไงก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของผู้เล่นแต่ละคน nᴏveʟɢu.ᴄᴏᴍ
ขณะเดียวกันผู้เล่นจะได้รับบทบาทต่างๆ ตอนเริ่มเกม วิธีการที่จะชนะก็จะแตกต่างไปตามบทบาทที่ได้รับ
ในกลุ่มผู้เล่นจะมีหนึ่งคนรับบทบาทเป็นตำรวจ สามคนเป็นคนดี อีกสามคนเป็นคนจิตป่วย และคนสุดท้ายเป็นจอมวางแผน
ตำรวจกับคนดีมีเป้าหมายเดียวกันคือหลบหนีออกไปให้ได้ คนจิตป่วยต้องทำให้ทุกคนเป็นบ้าหรือฆ่าทุกคนทิ้ง ส่วนจอมวางแผนต้องเป็นคนสุดท้ายที่เหลือรอด
NPC ครึ่งหนึ่งเป็นคนดี ส่วนอีกครึ่งเป็นคนจิตป่วย
ทุกครั้งที่มีคนตาย บทบาทของคนคนนั้นจะถูกเปิดเผย
ไอเทมและอาวุธต่างๆ จะกระจายอยู่ในแผนที่ ตำรวจจะเริ่มเกมพร้อมปืนพกที่สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับทั้งคนดีและคนร้าย ผู้เล่นคนอื่นๆ สามารถไล่เก็บไอเทมตามแผนที่หรือโยนไอเทมทิ้งพื้นเพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นมาเก็บได้
มีดสั้นกับไฟฉายแรงสูงเป็นไอเทมที่พบได้ทั่วไป มีดสั้นสร้างความเสียหายให้คนทั่วไปได้ ส่วนไฟฉายแรงสูงจะสร้างความเสียหายให้คนบ้า
ผู้เล่นมีโอกาสเจอไอเทมหายาก เช่น ขวานกับระเบิดแสง ซึ่งเป็นไอเทมที่แข็งแกร่งกว่าไอเทมทั่วไป
คนจิตป่วยกับคนบ้าไม่เหมือนกัน
‘คนบ้า’ เป็นสถานะของคนธรรมดา
ตอนเริ่มเกมในแต่ละรอบ ตำรวจ คนดี คนจิตป่วย และจอมวางแผนจะถือว่าเป็นคนธรรมดา มีค่าสถานะต่างๆ เท่ากัน
ด้วยเวลาที่ผ่านไปและอิทธิพลจากสิ่งต่างๆ รอบตัว ค่าสติของผู้เล่นจะลดลงเรื่อยๆ พอลดลงถึงจุดหนึ่งแล้วกินยาพิเศษไม่ทัน ผู้เล่นจะเปลี่ยนสถานะจากคนธรรมดาเป็นคนบ้า
คนบ้าจะวิ่งเร็วขึ้น มีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น และมีพละกำลังมากกว่าคนปกติทั่วไป แต่พอกลายเป็นคนบ้า ผู้เล่นจะเสียความสามารถในการสื่อสารไป นอกจากนี้กล้ามเนื้อของคนบ้าก็จะขยายขนาดขึ้นจนดูเปลี่ยนไป ทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ระบุสถานะของพวกเขาได้
ในเกมมีระบบคุยด้วยเสียง แต่มีข้อจำกัด
ทุกครั้งที่ต้องการพูด ผู้เล่นจะมีเวลาสิบวินาทีในการพูดหนึ่งประโยค พอพูดจบ เสียงพูดที่อัดไว้จะถูกระบบตัดต่อก่อนจะกระจายให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ฟัง
ทุกครั้งที่พูด ค่าสติของผู้พูดจะลดลง
ถ้าไม่พูดอะไรเลย คนอื่นก็อาจเข้าใจผิดว่าเป็นศัตรูหรือไม่ก็บอต แต่ถ้าพูดเยอะเกินไป คนผู้นี้ก็จะเสี่ยงกลายเป็นคนบ้าสูงขึ้น และผู้เล่นคนอื่นๆ ก็อาจสงสัยจุดประสงค์ที่แท้จริงของคนผู้นี้ได้
นอกจากนั้นแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันพวกเกรียนไม่ให้แสดงพฤติกรรมปลุกปั่น พวกการกระทำที่ไม่สำคัญต่อการเล่นเกมจะถูกตัดทิ้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นจะกระโดดได้ก็ต่อเมื่อถึงจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น นอกจากนั้นจะกระโดดไม่ได้เลย
ส่วนบทบาทผู้เล่น โดยเฉพาะคนจิตป่วยกับจอมวางแผนที่สามารถใช้กลยุทธ์และวิธีการต่างๆ ในเกมได้แรงบันดาลใจจากบอร์ดเกม
ตำรวจกับคนดีต้องวิ่งไปทั่วแผนที่เพื่อตามหาเครื่องจักรหรือทางออก คอยเตือนคนดีคนอื่นๆ และจัดการกับภัยอันตรายต่างๆ ถ้าจำเป็น
คนจิตป่วยจะมีค่าสติต่ำกว่าคนดี ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถใช้ของต่างๆ ในแผนที่เพื่อทำให้ตัวเองกลายเป็นคนบ้าและโจมตีคนดีได้ หรือแกล้งทำเป็นคนดีและคอยยุยงคนดีให้ติดกับก็ได้
จอมวางแผนแสร้งเป็นคนดีหรือคนบ้าเพื่อให้เป้าหมายตัวเองสำเร็จได้
ผู้เล่นแต่ละคนในเกมต้องคอยเดาบทบาทของคนอื่นๆ พร้อมกับทำตามแผนการของตัวเองไปด้วย
คะแนนรวมจะคำนวณตอนท้ายเกม โดยคำนวณจากค่าสถานะ เวลาในการเล่นเกม และบทบาทของผู้เล่นแต่ละคน
เช่น จอมวางแผนจะบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ยากมาก ดังนั้นถึงจะทำตามเป้าหมายไม่สำเร็จ ก็จะโดนหักคะแนนเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าทำสำเร็จก็จะได้คะแนนมหาศาล ระบบจะเพิ่มคะแนนให้ตามจำนวนครั้งที่โจมตี จำนวนการฆ่า การแก้ปริศนา และการสะสมไอเทม เพื่อที่จอมวางแผนจะได้มีกำลังใจในการเล่นบทบาทตัวเองดีๆ แม้เป้าหมายจะยาก
…
เพียงแค่ช่วงสั้นๆ ในตอนบ่าย พวกเขาก็ร่างแผนภาพรวมเสร็จ
พวกเขายกปัญหาขึ้นมาและหาทางแก้ไขวนไปเรื่อยๆ ไม่นานก็วางรายละเอียดทิศทางการออกแบบเกมเรียบร้อย
ระหว่างที่ดูแบบร่างดราฟแรกที่เกือบสมบูรณ์ เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินก็อดตื้นตันใจขึ้นมาไม่ได้
ทุกอย่างราบรื่นกว่าที่คิดไว้!
ก่อนหน้านี้พวกเขาพยายามเค้นหัวคิดแนวทางการออกแบบเกมไปพร้อมๆ กับเล่นเกมสยองขวัญให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงจะทำอย่างนั้นอยู่สองสัปดาห์ พวกเขาก็คิดอะไรได้ไม่เยอะนัก
แต่ตอนนี้แค่ช่วงบ่าย พวกเขาก็เห็นภาพแล้วว่าเกมจะออกมาเป็นยังไง!
สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างความพยายามทั้งสองครั้งคืออะไร
คือทิศทางจากบอสเผยและการวิเคราะห์ของผู้อำนวยการหลิน
พวกเขาแค่คิดตามแนวทางที่ได้รับมาก็แก้ปัญหาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย!
ถึงจะไม่รู้ว่าเกมจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า แต่รูปแบบการเล่นก็วางไว้หมดแล้ว เกมแบบนี้ไม่เคยมีในตลาด แสดงว่าพวกเขาจะไม่มีคู่แข่ง ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่เคยพบที่ไหนจากเกมนี้
นอกจากนั้นบอสเผยยังให้ทิศทางที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาเกมมาด้วย ทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้น
เยว่จือโจวอ่านแบบร่างตัวเองอย่างตื้นตันใจ
“บอสเผยคิดไว้ว่าอยากให้เกมสยองขวัญออกมาเป็นแบบนี้เองเหรอ
“สุดยอดจริงๆ!”
