วันที่ 26 ตุลาคม
ออฟฟิศเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน
หม่าอี้ฉวินเพิ่งจะอ่านบทสัมภาษณ์ของเถิงต๋าบนแพลตฟอร์มเกมทางการจบ ใบหน้าของเขาผุดยิ้มปลื้มปริ่ม
เนื่องจากบอสเผยมีพนักงานเก่งๆ หลายคน หม่าอี้ฉวินเลยไม่ได้ไปร่วมให้สัมภาษณ์ และไม่ได้ปรากฏภาพในคลิป
แต่หลายคนในบทสัมภาษณ์ก็เป็นทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดกับหม่าอี้ฉวิน เขาจึงรู้สึกปลาบปลื้มและอบอุ่นหัวใจเมื่อได้อ่านบทสัมภาษณ์
“ดีจริงๆ ฝันของทุกคนเป็นจริงแล้ว”
หม่าอี้ฉวินกดปิดแพลตฟอร์มเกมทางการแล้วเปิดดูหน้าหลังบ้านของเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน
จากข้อมูล นิยายเรื่องใหม่ของหม่าอี้ฉวินมีผู้ติดตามมากกว่าสองพันคนแล้ว!
ถ้าเทียบกับมาตรฐานของเว็บอู๋เซียนจงเหวิน จำนวนนี้ถือว่าไม่ได้สูงอะไร เพราะนิยายที่อยู่ในเกณฑ์ดีจะต้องมีผู้ติดตามสามพันคนขึ้นไป
แต่สำหรับหม่าอี้ฉวินและมาตรฐานเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินแล้ว ยอดนี้ถือว่าไม่เลวเลย!
หม่าอี้ฉวินรู้ดีว่าตอนนี้เว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินมีนักอ่านน้อยกว่าเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวิน
นิยายที่มียอดผู้ติดตามถึงสามพันคนได้ง่ายๆ ในเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวินอาจจะมียอดผู้ติดตามแค่พันกว่าๆ ในเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน
ถึงเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินจะมีนักอ่านเพิ่มขึ้นหลังเกมกลับใจคือฟากฝั่งออกวางขาย และมีการเชื่อมบัญชีแพลตฟอร์มต่างๆ ของเถิงต๋าเข้าด้วยกัน แต่จะให้เว็บโนเวลดังในชั่วข้ามคืนคงเป็นไปไม่ได้ พวกเขาต้องอดทนรอให้จำนวนนักอ่านเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ
หม่าอี้ฉวินได้เงินก้อนโตจากบอสเผยมาใช้เพิ่มค่าตอบแทนนักเขียน เนื่องจากนิยายดีๆ ในเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินมียอดผู้ติดตามแค่พันกว่าๆ หม่าอี้ฉวินจึงใช้เงินจำนวนนี้เพิ่มค่าตอบแทนให้นักเขียนตามสัดส่วนที่ควรจะได้รับ
จากการคำนวณ การที่นิยายของหม่าอี้ฉวินมีจำนวนผู้ติดตามมากกว่าสองพันคนในเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน ก็เท่ากับมียอดผู้ติดตามมากกว่าหกพันคนในเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวิน ถือเป็นยอดที่ดีมาก!
หม่าอี้ฉวินไม่ได้เพิ่มค่าตอบแทนให้ตัวเองเพราะไม่ได้คิดมากนี้
เมื่อเทียบกันแล้วการเป็นที่รู้จักของนักอ่านนั้นสำคัญกว่ามาก!
หลังจากผลงานที่ลงในเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวินไปไม่รอดอยู่หลายหน หม่าอี้ฉวินก็เริ่มกังขาในความสามารถของตัวเอง เขาเริ่มเขียนนิยายอีกครั้งเล่นๆ แถมยังไม่ได้ขึ้นแนะนำนิยายตัวเองด้วย
แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีคนกดติดตามนิยายของเขาเป็นจำนวนมาก!
บอสเผยโทรหาเขาตอนเช้า บอกให้พาพนักงานเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินและ TPDb ไปเลี้ยงฉลองตอบแทนที่ตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก
น้ำเสียงของบอสเผยฟังดูเด็ดขาดมาก จนหม่าอี้ฉวินไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
ดังนั้นหม่าอี้ฉวินจึงจองภัตตาคารห่านฟ้าไว้เพื่อพาลูกน้องไปเลี้ยงฉลอง
แน่นอนว่าคงจะดีกว่านี้ถ้าพาทุกคนไปภัตตาคารไร้ชื่อได้ แต่เสียดายที่ร้านโดนจองเต็ม
“ตืด…ตืด…”
ตอนนั้นเอง มือถือของหม่าอี้ฉวินที่วางไว้บนโต๊ะก็สั่นเตือน
หน้าจอไม่ได้แจ้งชื่อปลายสาย มีแค่หมายเลขเบอร์โทรศัพท์
หม่าอี้ฉวินเหลือบมองแล้วก็เห็นเบอร์โทรคุ้นตา สัญชาตญาณแรกบอกให้เขากดตัดสาย แต่หลังจากลังเลใจอยู่พักหนึ่ง เขาก็กดรับสาย
“รับสายได้สักทีนะตู๋เปียว” เสียงปลายสายฟังดูแก่กว่าหม่าอี้ฉวินหลายปี
หม่าอี้ฉวินยิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “พี่โทรมามีอะไร”
“แกยังทำงานที่บริษัทเกมนั่นอยู่รึเปล่า” ปลายสายถาม
หม่าอี้ฉวินเงียบไปครู่หนึ่ง “พี่มีอะไรก็พูดมาเถอะ ไม่ต้องถามสารทุกข์สุกดิบหรอก”
อีกฝ่ายถอนหายใจ “ตู๋เปียว ฉันรู้ว่าแกเข้าวงการเกมเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ช่วงนี้ฉันเห็นว่าวงการเกมในประเทศไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเนื้อเรื่องเลย แถมในจิงโจวสถานการณ์น่าจะแย่ยิ่งกว่า แกจะเสียเวลาชีวิตไปกับอะไรแบบนี้เหรอ
“จะเว็บโนเวลหรือเกม ไม่ว่าอันไหนก็เรียกไม่ได้ว่าเป็นงานที่แท้จริง ไม่ว่าแกจะเลือกวงการไหนก็เสียของทั้งนั้น
“สองสามวันก่อนฉันไปหาคุณปู่มา ฉันกับคุณอาคิดเหมือนกัน แกก็ทำงานในวงการเกมมานานแล้ว ถึงเวลาที่ควรพอได้แล้วรึเปล่า แกเอาเวลาไปเตรียมตัวสอบสักปีแล้วกลับมาเดินทางสายวิชาการใหม่ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะหางานสอนให้มหา’ลัย
“ถ้าแกจริงจังกับเรื่องงานเขียน ฉันว่าสายวรรณกรรมดั้งเดิมเหมาะกับแกมากกว่า ฉันพอมีเส้นสาย แนะนำให้รู้จักได้
“ถึงตอนนั้นแกจะหัวรั้นเลือกเขียนเว็บโนเวล แต่ก็ไม่เห็นมีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ยอมรับได้แล้วว่าแกไม่เหมาะกับวงการนี้”
ริมฝีปากหม่าอี้ฉวินกระตุกยิ้ม
ปลายสายคือลูกพี่ลูกน้องของหม่าอี้ฉวิน เขาแก่กว่าหม่าอี้ฉวินสิบแปดปี
ลูกพี่ลูกน้องคนนี้อยู่ในวงการนักเขียน มีนิยายตีพิมพ์ขายดีหลายเล่ม เรียกได้ว่าความสำเร็จทิ้งห่างหม่าอี้ฉวินไม่เห็นฝุ่น
ถ้าอีกฝ่ายโทรมาตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน เขาคงจะโอนอ่อนตามไปแล้ว
เพราะลูกพี่ลูกน้องคนนี้เคยเดินเส้นทางเดียวกับเขามาก่อน แถมพอได้เข้าไปทำงานที่ฉางหยางเกมส์ เขาก็ได้เห็นความไม่มั่นคงของวงการเกม
ตอนทำงานที่ฉางหยางเกมส์ หม่าอี้ฉวินได้ทำแค่งานจิปาถะทั่วไป ไม่ได้ใช้ความสามารถที่มีเลยแม้แต่น้อย
เขาถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่ากำลังใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าอยู่หรือเปล่า
หม่าอี้ฉวินเติบโตในครอบครัวสายวิชาการ จบเอกวรรณกรรมจากมหาวิทยาลัยดัง แถมยังมีลูกพี่ลูกน้องที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จึงไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกอับอายกับชีวิตตัวเองในตอนนั้น
แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้วโนเวลกูดอทคoม
หม่าอี้ฉวินตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ผมว่าพี่คิดผิดแล้ว
“แพลตฟอร์มเกมทางการขึ้นแนะนำเกมล่าสุดของพวกผม ตัวเกมเวอร์ชันต่างประเทศก็ได้รับเสียงชมเชยจากผู้เล่นฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะด้านเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยม
“นิยายเรื่องใหม่ของผมก็เริ่มเป็นที่นิยม ผมคิดว่าอีกไม่นานน่าจะขึ้นเป็นนิยายชั้นแนวหน้าได้ เสียงตอบรับจากนักอ่านก็ล้วนเป็นไปในแง่บวก”
ลูกพี่ลูกน้องของหม่าอี้ฉวินอึ้งไป “นิยายเรื่องใหม่เหรอ แกไปเขียนนิยายเรื่องใหม่ตอนไหนกัน”
หม่าอี้ฉวินเองก็ผงะไป เขาขมวดคิ้วทันที
หืม
เขารู้สึกเอะใจกับท่าทีของอีกฝ่าย
หม่าอี้ฉวินขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้น “ผมไม่เคยบอกนามปากกาที่ใช้บนเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวินให้คนที่บ้านรู้เลยนะพี่”
ทั้งคู่นิ่งไป
หม่าอี้ฉวินเป็นคนฉลาด เขาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
ตอนตัดสินใจเลือกเข้าสู่วงการเว็บโนเวล ครอบครัวของเขาต่อต้านเรื่องนี้มาก เขาจึงต้องแอบเขียนนิยายตอนเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อพิสูจน์ให้ที่บ้านเห็น
ถึงนิยายทุกเรื่องที่เขียนจะไปไม่รอด แต่เขาก็ไม่เคยเปิดเผยนามปากกาให้ที่บ้านรู้
แต่ลูกพี่ลูกน้องของเขากลับดูแปลกใจที่เขาเริ่มเขียนนิยายเรื่องใหม่
หม่าอี้ฉวินเดาได้จากน้ำเสียงของอีกฝ่าย ลูกพี่ลูกน้องของหม่าอี้ฉวินน่าจะคิดว่าเขาเลิกเขียนนิยายไปตั้งแต่ตอนที่เข้ามาทำงานในวงการเกม แถมอีกฝ่ายก็น่าจะมั่นใจเรื่องนี้มากๆ ไม่งั้นคงไม่ทำเสียงแปลกใจขนาดนั้น
ทำไมเขาถึงมั่นใจขนาดนั้นล่ะ
ก็น่าจะเพราะเขาไปพบนามปากกาที่หม่าอี้ฉวินใช้บนเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวิน แล้วคอยจับตาดูแอ็กเคานต์นั้นมาตลอด!
ลูกพี่ลูกน้องของหม่าอี้ฉวินเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “เอ่อ โทษทีตู๋เปียว แกนี่ฉลาดจริงๆ แบบนี้ปิดบังไปก็ไม่ได้อะไร ฉันบอกความจริงแกเลยแล้วกัน
“จริงๆ แล้วฉันมีเพื่อนสนิทเป็นบรรณาธิการอาวุโสเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวิน นิยายของแกเริ่มต้นมาดี แต่ฉันให้เพื่อนไปแก้ยอดให้ดูน้อยๆ เพื่อที่แกจะได้เลิกเขียนเว็บโนเวล
“ฉันกลัวว่าแกจะยึดงานเว็บโนเวลต่อไปเรื่อยๆ หลังประสบความสำเร็จแค่สักนิดสักหน่อย
“เพราะเดินต่อไปมันก็มีแต่ทางตัน!”
หม่าอี้ฉวิน “…”
เขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เขาทั้งโกรธและดีใจ
ที่โกรธก็เพราะในที่สุดก็เจอตัวต้นเหตุ!
หม่าอี้ฉวินคิดมาตลอดว่านิยายของเขากระแสดีมากตอนเปิดให้อ่านฟรี แต่พอเปลี่ยนมาเป็นให้จ่ายเงินกลับไปไม่รอดซะงั้น
คงจะไม่แปลกอะไรถ้ายอดตกลงมานิดหน่อย แต่นิยายของเขาพลิกจากนิยายระดับต้นๆ มาเป็นนิยายที่มียอดผู้ติดตามแค่สามสิบคน ดูยังไงก็แปลก!
แต่หม่าอี้ฉวินก็ไม่ได้นึกสงสัยว่าครอบครัวของตัวเองจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ใครจะไปคิดกันเล่าว่าเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวินจะแก้ยอดรังแกนักเขียนตัวเล็กๆ แบบนี้
ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีบางคนแอบเล่นงานตัวเองอยู่!
หม่าอี้ฉวินหัวเราะออกมาด้วยความโล่งใจ “ไม่ต้องห่วงผมหรอกพี่ ผมเลือกทางของตัวเองแล้วและรู้ว่าจะต้องเดินบนเส้นทางนี้ยังไง
“ผมไม่เห็นด้วยที่พี่บอกว่าเส้นทางเว็บโนเวลเบื้องหน้ามีแต่ทางตัน
“แล้ววันหนึ่งผมจะพิสูจน์ให้พี่เห็น”
หม่าอี้ฉวินรู้สึกสบายใจขึ้นมาหลังวางสาย
เมฆดำที่เคยปกคลุมหัวใจของเขาได้สลายหายไปแล้ว!
อาจบอกได้ว่าที่หม่าอี้ฉวินเริ่มเขียนนิยายลงเว็บไซต์อู๋เซียนจงเหวินและทำงานเป็นนักวางพล็อตที่ฉางหยางเกมส์ ส่วนหนึ่งเพราะอยากพิสูจน์ตัวเอง แต่ตอนนี้เขารับหน้าที่เป็นหัวหน้าบรรณาธิการและดูแลเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินในฐานะเป้าหมายของชีวิต
ตอนนี้หม่าอี้ฉวินรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณบอสเผยมากๆ
ถ้าบอสเผยไม่เห็นค่าความสามารถของเขา และมอบหมายให้เป็นหัวหน้าบรรณาธิการเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน ก็ไม่รู้ว่าชีวิตของเขาจะเป็นไปยังไง
หม่าอี้ฉวินอาจจะคิดว่าไม่มีใครชอบนิยายของเขาไปตลอดชีวิต เขาอาจจะเลิกล้มความตั้งใจในวงการเว็บโนเวลไปตลอดกาล แล้วค่อยๆ หมดความสนใจในวงการเกม สุดท้ายก็จะกลับไปเลือกเดินตามเส้นทางที่ลูกพี่ลูกน้องต้องการ
ดังนั้นเขาต้องทำหน้าที่ออกมาให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนความเชื่อใจและการแนะแนวทางของบอสเผย จะให้บอสผิดหวังไม่ได้
เขาต้องทำให้เว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินดังชนิดฉุดไม่อยู่ให้ได้!
คิดได้แบบนั้น หม่าอี้ฉวินก็เปิดหน้าหลังบ้านเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวินขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างขะมักเขม้น
…
…
วันที่ 31 ตุลาคม
หน้าจอระบบปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเผยเชียนอัตโนมัติ
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<เริ่มสรุปบัญชี...>
<เงินทุนระบบ: 5,940,000+840,000 (↓1,220,000)>
<สินทรัพย์ถาวร: วิลล่ากึ่งพาณิชย์ในหมิงหยุนวิลล่า (8,460,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 485,831.5>
<ภารกิจพิเศษประจำรอบ: การดำเนินธุรกิจมีทั้งกำไรและขาดทุน ดูเหมือนว่าเจ้าของระบบจะหลงระเริงกับกำไรที่ตัวเองทำได้อยู่ ซึ่งไม่ใช่ทัศนคติที่นักธุรกิจควรจะมี ขอแนะนำให้เจ้าของระบบทำให้ตัวเองขาดทุนให้ได้ในรอบปิดบัญชีครั้งต่อไป [สำเร็จ]>
<รางวัลที่จะได้รับเมื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษสำเร็จ: เปลี่ยนแปลงกฎระบบ [ได้รับสิทธิ์]>
<กำลังสรุปบัญชี...>
<กำลังแปลงค่าเงิน...>
<เงินทุนระบบ: 5,940,000+840,000 (↓1,220,000)>
<สินทรัพย์ถาวร: วิลล่ากึ่งพาณิชย์ในหมิงหยุนวิลล่า (8,460,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 1,830,000 (↑1,220,000 x 110%)>
พอเห็นแถวตัวเลขตรงหน้า เผยเชียนก็ปลื้มใจจนน้ำตาปริ่ม
ไม่ง่ายเลย!
ในที่สุดฉันก็ได้เห็นยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลเกินล้านสักที!