📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า – ตอนที่ 292

บทที่ 292 - หนี้บุตรีบิดาชดใช้
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ครองคู่กันมานานหลายปี ฮองเฮารับรู้ได้ถึงความผิดปกติ จึงลองเอ่ยถาม “ชิงชิงก่อเรื่องอีกแล้วหรือเพคะ?”

“เจ้าคิดมากไปแล้ว” เฮ่าอวิ๋นถูกล่าวพลางลุกขึ้นเดินจากไป จะหาตัวเผยเหนียงจื่อพบเมื่อไรก็ยังไม่รู้ เขาไม่มีทางนั่งรอนางมาหาที่นี่อยู่แล้ว

บังเอิญว่าพวกเฮ่าชิงชิงก็เดินทางกลับมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันพอดี แม้ว่าเฮ่าชิงชิงที่ได้ออกจากวังจะไม่อยากกลับมาเร็วขนาดนี้ก็ตาม

เผยเหนียงจื่อที่ยังอยู่นอกวังได้พบกับคนที่องค์ฮ่องเต้ส่งออกมาตามตัวนางพอดี จึงล่วงหน้ากลับเข้าวังมาก่อนเฮ่าชิงชิง

ยามที่เข้าพบเฮ่าอวิ๋นถู เฮ่าอวิ๋นถูกำลังนั่งจัดการงานราชการอยู่ในตำหนัก

“ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท!” เผยเหนียงจื่อที่เดินเข้ามายืนอยู่ด้านล่างประสานมือคารวะ

เฮ่าอวิ๋นถูวางเอกสารในมือลง เงยหน้ามอง เอ่ยถาม “ชิงชิงออกไปดูเรื่องครื้นเครงอีกแล้วหรือ?”

เผยเหนียงจื่อตอบอย่างนอบน้อมยำเกรง “ใช่เพคะ”

เฮ่าอวิ๋นถูถามต่อ “สาวน้อยคนนั้นไม่รู้จักโตสักที แล้วผลการต่อสู้ที่ลานน้ำตกเหินหาวเป็นอย่างไร?”

เผยเหนียงจื่อรายงานผล “เสวียนจื่อชุนผู้ท้าสู้ถูกหนิวโหย่วเต้าส่งคนกลุ่มหนึ่งไปสังหารเพคะ…” นางบอกเล่าเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ รวมถึงเรื่องที่เฮ่าชิงชิงไปพบหนิวโหย่วเต้าในตอนหลังด้วย

เฮ่าอวิ๋นถูยิ้มออกมา คล้ายจะนึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแต่มิใช่สนใจว่าหนิวโหย่วเต้าสังหารคนเช่นไร หากแต่สนใจเรื่องอื่น “ชิงชิงไปเล่นกับฮูเหยียนเวยอย่างนั้นหรือ?”

เผยเหนียงจื่อทราบดีว่าเขาสนใจอะไร คำพูดบางอย่างไม่รู้ว่าควรพูดดีหรือไม่ ในฐานะสตรีนางเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับฮูเหยียนเวยสักเท่าไร แต่คำพูดบางอย่างก็ไม่ใช่ถ้อยคำที่นางสมควรพูด จึงเอ่ยวาจาที่แฝงคำเตือนไว้ “ฮูเหยียนเวยชอบไปเที่ยวสถานเริงรมย์ องค์หญิงรังเกียจเรื่องนี้ยิ่งนัก พบหน้าฮูเหยียนเวยก็ไม่พูดดีด้วยเลยเพคะ”

เฮ่าอวิ๋นถูเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยว่า “เขาเป็นบุรุษ พอจะเข้าใจได้ ตอนนี้ฮูเหยียนเวยก็ไม่มีภาระใดให้จัดการ ยังอยู่ในวัยหนุ่ม จึงทำตัวเสเพลไปบ้าง เอาไว้มีครอบครัวมีงานทำ เข้าใจว่าภาระหน้าที่คืออะไร เดี๋ยวเขาก็สำรวมขึ้นเองนั่นแหละ ทางครอบครัวเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาลอยชายแบบนี้ไปได้ตลอดหรอก ซานเหนียง เจ้าเป็นคนสนิทข้างกายชิงชิง หลักเหตุผลบางอย่างต้องอธิบายกับชิงชิงให้มากหน่อย เจ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่?”

“เพคะ!” เผยเหนียงจื่อตอบรับ นางไม่มีทางไปอธิบายหลักเหตุผลที่กระทั่งตัวนางก็ไม่เห็นด้วยเหล่านั้นกับเฮ่าชิงชิง แค่ทำงานตามหน้าที่ของนางก็พอ

เฮ่าอวิ๋นถูจ้องมองเผยเหนียงจื่อด้วยแววตาที่ค่อนข้างลุ่มลึก ย้อนกลับไปคุยประเด็นก่อนหน้านี้ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ามีผู้บำเพ็ญเพียรมากมายมารอชมการต่อสู้ที่ลานน้ำตกเหินหาวหรือ มากแค่ไหน?”

เผยเหนียงจื่อใคร่ครวญดูเล็กน้อย “ทูลฝ่าบาท ไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด แต่อย่างน้อยๆ ก็มีผู้มารอชมหลายพันคนเพคะ”

“หลายพันคน…” เฮ่าอวิ๋นถูพึมพำ ถามต่อว่า “ล้วนเป็นผู้บำเพ็ญเพียรหรือ?”

เผยเหนียงจื่อตอบกลับ “น่าจะเป็นผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหมดเพคะ คนธรรมดายากจะขึ้นไปบนนั้นได้เพคะ”

เฮ่าอวิ๋นถูเงียบไป ระหว่างที่เงียบอยู่ก็โบกมือเล็กน้อย

เผยเหนียงจื่อค้อมกายคำนับ เดินถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นหันหลังเดินจากไป

ภายในตำหนักเงียบลง เฮ่าอวิ๋นถูค่อยๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เอ่ยเนิบๆ “ปู้สวิน เจ้าคิดว่าหนี้ที่สาวน้อยชิงชิงติดไว้สมควรใช้คืนหรือไม่?”

ทางด้านหนึ่งในตำหนัก ขันทีชราผมขาวหงอกที่มีรูปร่างอวบท้วมนิดๆ ก้าวเข้ามา เป็นปู้สวินที่องค์ฮ่องเต้เอ่ยเรียก เขากล่าวด้วยใบหน้าแย้มยิ้มว่า “เป็นเพียงเรื่องล้อเล่นเท่านั้น อย่าทรงจริงจังเลยพ่ะย่ะค่ะ”

เฮ่าอวิ๋นถูเอ่ยว่า “วันนี้สาวน้อยชิงชิงคนนั้นไปรับปากอีกฝ่ายอีกว่าจะมอบม้าศึกให้แสนตัว”

ปู้สวินหัวเราะเบาๆ กล่าวว่า “องค์หญิงทรงไร้เดียงสา ไม่เข้าใจเรื่องทางโลก เรื่องม้าศึกแสนตัวยิ่งไม่ควรถือเป็นจริงเป็นจังพ่ะย่ะค่ะ”

เฮ่าอวิ๋นถูหันไปมองเขา “มีผู้บำเพ็ญเพียรหลายพันคนไปชมการต่อสู้ที่ลานน้ำตกเหินหาว เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”

รับใช้ข้างกายมานานหลายปี อาจไม่ถึงขั้นสื่อใจกันได้ ก็แต่คุ้นเคยกับความคิดของอีกฝ่ายดี ปู้สวินคล้ายจะเข้าใจอะไรขึ้นมาแล้ว ตอบกลับว่า “นี่เป็นแค่จำนวนที่ลานน้ำตกเหินหาว ผู้บำเพ็ญเพียรในเมืองหลวงที่ไม่ได้อยู่ในลานน้ำตกเหินหาวไม่ทราบว่ามีอีกมากน้อยเท่าไรพ่ะย่ะค่ะ”

เฮ่าอวิ๋นถูเอ่ยว่า “นั่นสิ! นี่เป็นเพียงจำนวนที่ไปยังลานน้ำตกเหินหาวเท่านั้น ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงยังมีอีกมากน้อยเท่าไร ผู้บำเพ็ญเพียรมากมายขนาดนี้มารวมตัวอยู่ในเมืองหลวงเพื่อการใดเล่า?”

ปู้สวินตอบกลับ “น่าจะเป็นคนที่กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ส่งมาจัดซื้อม้าศึกพ่ะย่ะค่ะ”

“มีผู้บำเพ็ญเพียรมารวมตัวกันมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า? แค่เรื่องครื้นเครงไร้แก่นสารเรื่องหนึ่งก็มีผู้บำเพ็ญเพียรมามุงดูหลายพันคนแล้ว หากว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น แบบนั้นมิแย่หรอกหรือ? เข้ามาประลองต่อสู้กันในบ้านของข้า! คนที่มีความคิดไม่ซื่อมากมายเช่นนี้ตระเวนไปทั่วบ้านเมืองของข้า หากเกิดเหตุอะไรขึ้น หากมีคนรวมตัวสร้างปัญหาขึ้น เกรงว่าองครักษ์ในวังของข้าก็คงต้านไว้ไม่อยู่ สมควรต้องจัดการกันหน่อยแล้ว”

เฮ่าอวิ๋นถูพูดพลางลุกขึ้นยืน เดินอ้อมโต๊ะยาวออกมา ก้าวออกจากประตู ไปยืนอยู่ใต้ชายคาหน้าประตูตำหนัก

ปู้สวินเยื้องย่างตามมา คอยสังเกตสีหน้าวาจาอยู่ด้านข้าง

เฮ่าอวิ๋นถูทอดมองออกไปเบื้องหน้า ดวงตาฉายแววลุ่มลึก กล่าวเนิบๆ ว่า “องค์หญิงผู้สูงส่งแห่งแคว้นฉีไหนเลยจะตระบัดสัตย์ได้! หนี้ที่ธิดารักของข้าติดค้างไว้ ข้าจะช่วยใช้คืนให้นางเอง สิ่งที่ธิดาข้ารับปากไว้ ข้าจะช่วยจัดการแทนนางเอง ผู้ใดใช้ให้ข้าเป็นบิดาของนางกันเล่า…”

……..

ณ เรือนใหญ่เงียบสงัด แสงโคมส่องสลัว ผีเสื้อจันทราบินร่อนใต้แสงจันทร์ หนิวโหย่วเต้ากำลังเงยหน้าชมจันทร์อยู่ในสถานที่งดงามราวกับภาพวาดแห่งนี้

เฮยหมู่ตานเดินเข้ามาถือเอกสารหลายแผ่นไว้ในมือ “เต้าเหยี่ย นี่คือข้อมูลของตระกูลที่ท่านจะไปเยี่ยมเยือนวันพรุ่งนี้เจ้าค่ะ”

หนิวโหย่วเต้าถอนสายตากลับมาจากนภายามราตรี ขณะที่เพิ่งรับเอกสารหลายแผ่นนั้นไป ต้วนหู่ก็วิ่งเหยาะๆ เข้ามา รายงานว่า “เต้าเหยี่ย เผยเหนียงจื่อมาขอเข้าพบขอรับ”

หนิวโหย่วเต้าแปลกใจ “ดึกดื่นขนาดนี้องค์หญิงจอมแก่นผู้นั้นมาทำไม?”

ต้วนหู่กล่าวว่า “องค์หญิงไม่ได้มาด้วยขอรับ มีเพียงเผยเหนียงจื่อและไฉเฟยสองคนขอรับ”

หนิวโหย่วเต้าผงะไปเล็กน้อย เอ่ยว่า “เชิญเข้ามา!”

ไม่นานนัก เผยเหนียงจื่อและไฉเฟยก็มาถึง ทางนี้จึงเชิญแขกเข้าไปในนั่งในโถงรับแขกโนเวลกูดอทคอม

หลังจากยกน้ำชามารับรองแล้ว หนิวโหย่วเต้ายังคงแปลกใจอยู่ “ทั้งสองท่าน มีเรื่องใดจะสั่งการหรือ?”

เผยเหนียงจื่อยิ้มน้อยๆ “เรื่องสั่งการคงมิกล้า พวกเราเพียงมาพบน้องหนิวตามพระบัญชาของฝ่าบาท”

“องค์ฮ่องเต้หรือ?” หนิวโหย่วเต้าฉงน “องค์ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉีมีพระบัญชามาถึงข้าหรือ?”

เผยเหนียงจื่อกล่าวว่า “เจ้ามิใช่ชาวแคว้นฉี ไหนเลยจะมีพระบัญชาอันใดมาถึงเจ้าได้ ฝ่าบาททรงส่งพวกเรามาเจรจากับน้องหนิว”

“เจรจา?” หนิวโหย่วเต้าและเฮยหมู่ตานสบตากันเล็กน้อย ค่อนข้างมึนงง หนิวโหย่วเต้าซักถาม “เจรจาอะไร?”

เผยเหนียงจื่อกล่าวว่า “ฝ่าบาทตรัสว่า องค์หญิงแห่งแคว้นฉีผู้สูงศักดิ์ไม่อาจผิดคำพูดได้ ในเมื่อติดหนี้คนอื่นไว้ เช่นนั้นก็ต้องคืน ในเมื่อให้คำมั่นไปแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ องค์หญิงใหญ่ติดหนี้น้องหนิวสองล้านเหรียญทอง ยังมีเรื่องม้าแสนตัวที่องค์หญิงใหญ่รับปากจะมอบให้น้องหนิวด้วย ฝ่าบาทจะช่วยจัดการแทนองค์หญิงใหญ่ทั้งหมด หนี้บุตรีบิดาชดใช้!”

“……” หนิวโหย่วเต้าและเฮยหมู่ตานต่างพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนถูกท่อนไม้ฟาดจนมึนงงไปหมด

เรื่องน่ายินดีเช่นนี้มาอย่างกะทันหันเกินไป อีกทั้งรุนแรงเกินไป สองล้านเหรียญทอง ม้าศึกแสนตัวอย่างนั้นหรือ?

หนิวโหย่วเต้าคล้ายไม่อยากจะเชื่อ “องค์ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉีคงไม่ได้ล้อเล่นกระมัง?”

เผยเหนียงจื่อตอบว่า “กษัตริย์ไม่เคยตรัสล้อเล่น!”

หนิวโหย่วเต้าถามด้วยความฉงน “ในเมื่อบอกว่าจะทำตามที่รับปากไว้ แล้วที่บอกว่าเจรจาหมายความว่าอย่างไร?”

เผยเหนียงจื่ออธิบายว่า “คือแบบนี้ น้องหนิว เจ้าเองก็เป็นคนฉลาด น่าจะมองออกเช่นกัน องค์หญิงมักจะพูดไม่คิดอยู่เสมอ ฝ่าบาทก็ทรงปวดพระเศียรเช่นกัน หากวันใดองค์หญิงหุนหันพลันแล่น บอกว่าจะยกแคว้นฉีให้ผู้อื่น ฝ่าบาทคงไม่อาจช่วยจัดการแทนนางได้กระมัง? ดังนั้นจู่ๆ จะให้ฝ่าบาทมอบเงินสองล้านเหรียญทองและม้าศึกแสนตัวตามที่องค์หญิงรับปากไว้เปล่าๆ นั้นไม่มีทางเป็นจริงได้ น้องหนิว เจ้าว่าอย่างไร?”

หนิวโหย่วเต้าหัวเราะ ยกชาขึ้นมาค่อยๆ จิบอึกหนึ่ง พยายามครุ่นคิดไตร่ตรองถึงจุดประสงค์ในการมาของอีกฝ่าย อีกทั้งวาจานี้ของอีกฝ่ายหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้เขาก็เองไม่สะดวกจะบอกว่าไม่ต้องการเงินจำนวนมหาศาลนี้แล้ว ยิ่งไม่อาจบอกว่าพวกท่านจะต้องทำตามที่รับปากไว้นะ

“ความหมายของฝ่าบาทคือ?” หนิวโหย่วเต้าลองถามดู

เผยเหนียงจื่อตอบว่า “ม้าศึกแสนตัวไม่อาจมอบให้เจ้าได้ นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ในจุดนี้คาดว่าน้องหนิวก็คงทราบดี ส่วนเงินสองล้านเหรียญทองนั้น ฝ่าบาทยินยอมมอบให้ เพียงแต่จะให้นำเงินมากมายขนาดนี้ออกมาในคราวเดียว มันก็เป็นการสร้างแรงกดดันต่อท้องพระคลังแคว้นฉีเช่นกัน เจตนาของฝ่าบาทคืออยากให้ลดหย่อนลงหน่อย!”

หนิวโหย่วเต้าถามต่อ “จะให้ลดหย่อนอย่างไร?”

เผยเหนียงจื่อล้วงแผ่นหนังแกะม้วนหนึ่งออกมา แกะกางออก ผลักไปตรงหน้าหนิวโหย่วเต้า

หนิวโหย่วเต้าหยิบมาดู พบว่าเป็นเอกสารอนุญาตส่งออกม้าศึกออกจากแคว้นหนึ่งปึก มีทั้งหมดสิบแผ่น แต่ละแผ่นอนุญาตให้ส่งออกม้าศึกออกจากแคว้นเป็นจำนวนหนึ่งหมื่นตัว

ม้าหมื่นตัว! เท่าที่หนิวโหย่วเต้าทราบ นี่คือจำนวนสูงสุดในใบอนุญาตส่งออกม้าศึกออกจากแคว้นแล้ว สิบแผ่น หรือก็คือม้าแสนตัว!

หนิวโหย่วเต้ามองเผยเหนียงจื่อด้วยความฉงนคลางแคลง ชี้ไปที่กองเอกสาร เอ่ยถาม “หมายความว่าอย่างไร?”

เผยเหนียงจื่อเอ่ยว่า “สองล้านเหรียญทองให้ไม่ได้ ทว่าใบอนุญาตส่งออกม้าศึกหนึ่งแสนตัวมีมูลค่าเท่ากับสองล้านเหรียญทอง ส่วนเงินสำหรับจัดซื้อม้าศึก น้องหนิวต้องหาทางจัดการเอาเอง เช่นนี้แล้วก็จะสามารถนำไปหักลบกับเรื่องที่องค์หญิงรับปากส่งเดชไว้ได้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

นี่ย่อมเป็นเรื่องดีที่ไม่มีทางพบเจอได้ง่ายๆ ทว่าหนิวโหย่วเต้าไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องดีเช่นนี้อยู่ เขาชูของในมือขึ้น เอ่ยถาม “หากข้าตกลง สิ่งนี้จะเป็นของข้าหรือ?”

เผยเหนียงจื่อพยักหน้า “ก็อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ กษัตริย์ไม่เคยตรัสล้อเล่น! ข้านำของมาให้แล้ว น้องหนิวยังมีอะไรให้สงสัยอีก เพียงแต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมสองประการ!”

หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “เชิญว่ามาได้เลย!”

เผยเหนียงจื่อเอ่ยว่า “ข้อแรก นับจากนี้ไปหากองค์หญิงใหญ่รับปากอะไรกับน้องหนิวอีก ล้วนไม่นับทั้งสิ้น! ข้อสอง หลังจากน้องหนิวรับของไปแล้ว พวกเราต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน น้องหนิวต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรว่ารับของจากองค์หญิงใหญ่ไปแล้ว วันหน้าไม่ติดค้างอันใดน้องหนิวอีกต่อไป ต่อไปน้องหนิวจะไม่มาทวงหนี้อันใดกับองค์หญิงใหญ่อีก แล้วก็เงื่อนไขก่อนหน้านี้ด้วย ล้วนต้องเขียนระบุเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน น้องหนิว ง่ายๆ เพียงเท่านี้ คงไม่มองว่าพวกเราใช้กำลังข่มเหงกระมัง? หากตกลง พวกเราก็ทำการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการตอนนี้เลย หากไม่ตกลงก็ช่างเถอะ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

หนิวโหย่วเต้าไม่ค่อยเข้าใจ สถานการณ์ภายในวังหลวงเป็นอย่างไรเขาก็ไม่ทราบ แล้วก็ไม่รู้จักฮ่องเต้คนนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว จู่ๆ ก็มีผลประโยชน์เช่นนี้หล่นใส่หัว เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่มีทางตัดสินอย่างถูกต้องแม่นยำได้ ค่อนข้างมึนงง

แต่เขาคิดไปคิดมา นี่คือผลประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด ไม่ส่งผลเสียใดๆ ต่อตนเลย ได้เปรียบเสียด้วยซ้ำ แต่โลกนี้ไหนเลยจะมีเรื่องดีถึงเพียงนี้ได้? กระทั่งตัวเขาก็ยังไม่ถือคำพูดของเฮ่าชิงชิงเป็นจริงเป็นจังเลย องค์ฮ่องเต้ไหนเลยจะถือเป็นจริงไปได้?

หนิวโหย่วเต้ากล่าวอย่างลังเล “ให้ข้าใคร่ครวญดูสักวันสองวันได้หรือไม่?”

เผยเหนียงจื่อส่ายหน้า “น้องหนิว ถ้อยคำที่ข้าจะเอ่ยต่อไปนี้ไม่มีเจตนาอื่นใด เพียงกล่าวไปตามจริงเท่านั้น”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “เชิญกล่าวมา!”

เผยเหนียงจื่อกล่าวว่า “เจ้าต้องรู้นะว่าตัวเจ้ามีฐานะเป็นอย่างไร แล้วฝ่าบาททรงมีฐานะเป็นอย่างไร ฝ่าบาทไม่มีเวลามานั่งเล่นเป็นเพื่อนเจ้าได้ โอกาสมีเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว หากเจ้าตกลงก็ต้องเขียนหลักฐานแลกเปลี่ยนให้ชัดเจน หรือไม่ก็ออกหลักฐานรับรองว่าเจ้าเป็นฝ่ายยุติเรื่องที่องค์หญิงรับปากไว้โดยสมัครใจเอง เจ้าไม่มีสิทธิ์จะมาต่อรองกับฝ่าบาท ตอนนี้เวลานี้ เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว คืนนี้ข้าเดินทางมาถึงเรือนนี้แล้ว หากไม่สามารถนำคำตอบที่ฝ่าบาทต้องการกลับไปได้ ทุกคนในเรือนนี้ล้วนจะไม่ได้เห็นแสงตะวันในวันพรุ่งอีก ในจุดนี้เจ้าน่าจะรู้ดีกระมัง!”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า
Score 8.6
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 1590 Chapters (จบแล้ว)
เมื่อปรมาจารย์แห่งการขุดสุสานผู้หลงใหลในการบำเพ็ญเพียร ได้หลุดเข้าไปในยุคสมัยโบราณอันวุ่นวายเพราะไฟสงคราม ด้วยโชคชะตาวาสหนาหนุนนำ ทำให้เขาได้รับสุดยอดเคล็ดวิชา.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset