📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 541

บทที่ 541 - ข้านับถึงสาม
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เซียนหงแอบสะดุ้งในใจ

ความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้า พลันตบโต๊ะฉาดใหญ่ “ผู้ใดกันบังอาจถึงเพียงนี้ กล้าเรียกชื่อนายน้อยในถิ่นของพวกเรา?”

หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกสีหน้าเปลี่ยน กล่าวด้วยความตื่นตระหนกลังเล “เหมือน… เหมือนว่าจะเป็นเสียงของซูอี้!”

ซูอี้!?

เซียนหงหรี่ตาลง

ผู้ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงที่อยู่อีกด้านก็สีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน

คืนนี้ เฮ่อฉางอิง ลี่หานมู่ กับชุยเหิงไปจับตัวเก๋อเฉียนด้วยกัน ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขายังไม่กลับมา ซูอี้กลับมาหาถึงที่นี่แล้ว!

“ออกไปดูกัน”

หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกลุกเดินออกไปนอกห้องโถงก่อนเป็นคนแรก

เซียนหงกับชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงติดตามอยู่ข้างหลัง

ราตรีมืดมิดประดุจน้ำหมึก รอบด้านสงบเงียบ

ปัง!

ประตูใหญ่ของจวนแห่งนี้พังทลาย เศษไม้กระเด็นไปไกล

ซูอี้ในชุดสีเขียวทั้งตัวก้าวเดินเข้ามา

เสวียนหนิงติดตามอยู่ข้างหลัง

“บังอาจ!”

“พวกเจ้าเป็นใครกัน บังอาจบุกเข้ามาในที่ของตระกูลหวน?”

กลุ่มทหารอารักขาวิ่งออกมา ต่างก็แสดงสีหน้าเดือดดาล ท่าทางน่ากลัวยิ่ง

ซูอี้ไม่แม้แต่จะมอง เพียงแค่สะบัดแขนเสื้อ

โครม!

แสงสีใสปกคลุมทั่วแผ่นฟ้าราวกับดาบคมกริบถูกปล่อยออกมา ก่อนจะฆ่าทหารอารักขาเหล่านั้นตายอย่างง่ายดาย ศพระเนระนาดเกลื่อนกลาด

เลือดไหลนองเต็มพื้น

“ไม่ได้การ ศัตรูบุก…!”

เสียงหวีดร้องดังขึ้นจากด้านในจวน ทันใดเสียงโหวกเหวกก็ดังขึ้นจากทั่วทุกมุมของจวน

โดยไม่ต้องสงสัย ผู้แข็งแกร่งที่แยกกระจายอยู่ในจวนต่างก็สะดุ้ง

ซูอี้กลับไม่ใส่ใจราวกับมองไม่เห็น จิตสัมผัสแผ่ขยายออกไป ครอบคลุมไปทั่วจวนในชั่วพริบตา

ถัดจากนั้น เขาย่างเท้าก้าวไปข้างหน้า

“ช้าก่อน!”

ไกลออกไป ผู้ชายในชุดเกราะตวาดเสียงดัง ชูธนูคันใหญ่ขึ้นแล้วยิงออกไป

พรึ่บ!

ลูกธนูรวดเร็วราวกับสายรุ้งสีขาวพุ่งทะลุดวงตะวัน รวดเร็วและรุนแรง

ซูอี้ดีดนิ้ว

พลังดาบพุ่งออกไปส่งเสียงดังปัง ลูกธนูดอกนั้นก็ระเบิดราวกับกระดาษ

พลังดาบยังคงไม่ลดกำลัง พุ่งแทงทะลุคอหอยของผู้ชายที่สวมชุดเกราะ แรงพุ่งทะลุนั้นรุนแรงจนถึงขั้นร่างของผู้ชายในชุดเกราะกระเด็น ร่วงเป็นศพในระยะห่างถึงสิบกว่าจั้ง

“บุกพร้อมกันให้หมด!”

เสียงตวาดด้วยความโกรธดังขึ้น คนทั้งหลายพุ่งออกมาจากรอบสี่ทิศแปดทิศทาง

พวกเขาล้วนเป็นตัวตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณแทบทั้งสิ้น ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของซูอี้ได้?

ซูอี้สาวเท้าก้าวใหญ่ ๆ เดินมาข้างหน้า แขนเสื้อพองลม ลงมือในแต่ละครั้งล้วนมีพลังดาบระยิบระยับเจิดจ้าบาดตาผุดขึ้นมา ฆ่าศัตรูกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า

สิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนั้นง่ายดายดังถอนหญ้า ราวกับเข้าสู่ดินแดนไร้ผู้คน!

เสวียนหนิงที่ติดตามซูอี้อยู่ข้างหลัง มีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่มีอาการกระโตกกระตากแม้แต่น้อย

หากว่าเป็นเมื่อก่อน ด้วยพลังวิถีดาบซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในเก้ามหาแดนดินของอาจารย์ ย่อมสามารถฆ่าคนระดับจักรพรรดิได้ง่ายดายราวกับเชือดไก่

เมื่อเทียบกันแล้ว ภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี้ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นแม้แต่น้อย

ทว่า เสวียนหนิงก็ยังสงสัยมากว่า เหตุใด… อาจารย์จึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?

หรือว่าจะเป็นเหมือนดังคำเล่าขานในเก้ามหาแดนดิน อาจารย์เข้าสู่วัฏสงสาร เดินสู่หนทางกลับชาติซึ่งไม่มีใครคนใดล่วงรู้?

นึกถึงตรงจุดนี้แล้ว เสวียนหนิงพลันสะดุ้งขึ้นมา

กลับชาติมาเกิดใหม่!

ความลับยิ่งใหญ่นี้เปรียบได้กับกฎข้อห้าม หากว่าอยู่ในเก้ามหาแดนดินก็คงนับเป็นเรื่องเล่าขานที่เลื่อนลอยห่างไกลเช่นกัน

หากว่าอาจารย์สามารถทำได้ถึงขั้นนี้จริง ก็เท่ากับเป็นการแหกกฎอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่แตกต่างไปจากการเดินสู่หนทางแห่งตำนาน!

“ซูอี้ เจ้าจริง ๆ ด้วย!”

เสียงตื่นตะลึงเสียงหนึ่งดังขึ้น

ไม่ไกลนัก หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยก เซียนหง กับชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงปรากฏตัวพร้อมกัน

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นองเลือดเหล่านี้แล้ว ต่างก็มีสีหน้าคร่ำเคร่งขึ้นมา

และเมื่อมองเห็นว่าเก๋อเฉียนอยู่ในมือของเสวียนหนิง หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกถึงกับร้องอุทานตกใจ “เก๋อฉางหลิง? นี่…”

เซียนหงกับชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงก็หน้าเปลี่ยนเช่นกัน พลันเข้าใจได้ว่า พวกของเฮ่อฉางอิงอาจจะเกิดเรื่องแล้ว!

“ข้านับถึงสาม ใครสามารถบอกข้าได้ว่าหวนเฉ่าโหยวอยู่ที่ใด จะไม่ฆ่าตาย”

ซูอี้เอ่ยพูดน้ำเสียงราบเรียบ

นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในจวน จิตสัมผัสของเขาแผ่ไปทั่วทุกซอกทุกมุมของจวนแล้ว ทว่ากลับสัมผัสไม่เจอกลิ่นอายของหวนเฉ่าโหยว

“บังอาจ!”

ได้ยินคำพูดข่มขู่เช่นนี้แล้ว เซียนหงถึงกับสบถเสียงหัวเราะ “ซูอี้ ที่นี่เป็นถิ่นของตระกูลหวน หากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แม้แต่ราชวงศ์เซี่ยก็ไม่อาจช่วยเหลือเจ้าได้!”

ซูอี้ไม่ใส่ใจ นับถึงขึ้นมาเบา ๆ “หนึ่ง”

“เจ้า…”

สายตาของเซียนหงดุดัน เห็นได้ชัดว่าโกรธจัดแล้ว

ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงขมวดคิ้วด้วยเช่นกัน

ความแข็งแกร่งของซูอี้เกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้

ทว่าเวลานี้ หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกสูดหายใจลึก ๆ ทีหนึ่งจึงกล่าว “ซูอี้ บอกกับเจ้าตามตรง นายน้อยของข้าในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในนครหลวงจิ๋วติ่ง”

“สอง”

สีหน้าของซูอี้ราบเรียบ ไม่สะทกสะท้าน

เห็นได้ชัดว่า เขาไม่พึงพอใจในคำตอบของหญิงสาวชุดลวดลายนกหงส์หยก

“ฮูหยินรั่วเหวิน คน ๆ นี้บังอาจถึงเพียงนี้ ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีก พวกเราลงมือพร้อมกัน ฆ่าเขาให้ตายก็จบเรื่อง!”

ไฟอาฆาตของเซียนหงคุกรุ่น “นี่เป็นโอกาสอันดีที่สุดที่จะช่วยแก้แค้นแทนนายน้อย!”

มุมปากของชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงกระตุก หากว่าซูอี้ฆ่าได้ง่าย ๆ ถึงเพียงนั้นจริง เหตุใดตอนนี้ยังต้องพูดมากอีก?

หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกถอนใจยาว ๆ ทีหนึ่งจึงกล่าว “เจ้าควรจะรู้ดีว่า ในงานชุมนุมมวลพฤกษาเมื่อวานนี้ นายน้อยของพวกข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงใด ถูกส่งออกนอกนครหลวงไปตั้งแต่พลบค่ำของเมื่อวานแล้ว โดยมีผู้อาวุโสของตระกูลหวนมารับตัวไปทำการักษาตัวใน ‘ศาลบรรพชน’ ซึ่งมีแต่ลูกหลานสายตรงของตระกูลหวนเท่านั้นจึงจะรู้”

เซียนหงกล่าวไม่พอใจ “ฮูหยินรั่วเหวินบอกสิ่งเหล่านี้ให้เขารู้เพื่ออะไรกัน?”

ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงราวกับนึกอะไรขึ้นได้ สีหน้าคร่ำเคร่งร้องตวาด “ฮูหยินรั่วเหวิน ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะขี้ขลาดตาขาวถึงเพียงนี้ หากว่านายน้อยรู้เรื่อง คงไม่ละเว้นเจ้าเป็นแน่!”

พอเอ่ยเช่นนี้ออกมา แม้กระทั่งเซียนหงก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาแล้วเช่นกัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป และร้องด่า “นังหญิงทรยศ เพื่อเอาตัวรอดกล้าทรยศนายน้อยเลยเชียวรึ!”

หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกไม่ใส่ใจพวกเขา สายตายังคงมองไปที่ซูอี้ กล่าว “สิ่งที่ข้ารู้ ได้บอกสหายเต๋าไปหมดแล้ว สหายโปรดทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ด้วย”

ซูอี้ขมวดหัวคิ้ว พลางกล่าว “เจ้าไม่รู้ว่า ‘ศาลบรรพชนตระกูลหวน’ อยู่ที่ใดเช่นกันอย่างนั้นหรือ?”

หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกส่ายหน้าพลางตอบ “พวกเราเป็นเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งภายใต้การควบคุมของตระกูลหวนเท่านั้น ยังไม่มีสิทธิ์รับรู้ความลับเหล่านี้”

ซูอี้ร้องอ้อขึ้นมา พลางกล่าว “เจ้าไปรออีกด้านหนึ่งก่อน”

ขณะที่พูด สายตาของเขามองไปที่เซียนหงกับชายวัยกลางคนในชุดสีม่วง เขาไม่พูดพร่ำเพรื่ออีก ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าถูกชักออกมาเสียงดังชิ้ง แล้วฟาดฟันออกไป

สวบ!

พลังดาบอันยิ่งใหญ่คล้ายกับทางช้างเผือกร่วงหล่นจากฟากฟ้า ผืนฟ้ามืดมิดเจิดจ้าในทันใด เสียงดังกึกก้องโนiวลกูดอทคอม

“หาที่ตายเสียแล้ว!”

เซียนหงตวัดหอกรบสีเหลืองอร่าม ฟาดแทงไปกลางอากาศอย่างแรง

ทว่าในชั่วขณะเดียวกัน ร่างของชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงก็หมุนตัววิ่งหนีออกไป!

ภาพเหตุการณ์ที่ฉุกละหุกเช่นนี้ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซียนหง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปแล้ว

ตอนแรกฮูหยินรั่วเหวินเป็นฝ่ายยอม แสดงความอ่อนข้อให้กับซูอี้ก่อน

ตอนนี้ ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงก็มาหนีไปโดยที่ไม่ต่อสู้!

ทั้งหมดนี้ทำให้เซียนหงรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

แต่เขาลงมือไปแล้ว ยากนักจะถอยกลับได้อีก คิดจะเปลี่ยนใจก็สายไปเสียแล้ว

ปัง!!

เสียงระเบิดทะลุแก้วหูดังขึ้น

ถัดจากนั้นก็เป็นเสียงฉึบ หอกรบสีเหลืองอร่ามที่เซียนหงชักออกมาหักเป็นสองท่อน ตัวเขาถูกกระเทือนจนเซถลาเกือบจะร่วงไปกองอยู่กับพื้น

“ตาม!”

แทบจะในขณะเดียวกัน ซูอี้หมุนตัว ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าขยับพุ่งหาชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงที่หนีไปไกลแล้ว

ดาบ ๆ นี้บอกได้คำเดียว เร็ว!

เพียงแค่ชั่วพริบตา หายแวบไปกลางอากาศ แล้วก็มาปรากฏอยู่กลางอากาศที่ห่างออกไปหลายร้อยจั้ง ฟันไปที่หัวของชายวัยกลางคนในชุดสีม่วง

ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงตื่นตะลึง สูดหายใจลึก ๆ อย่างสุดแรง เอ็นกระดูกทั่วร่างส่งเสียงดังเปรี๊ยะ ๆ ร่างทั้งร่างปริขยายใหญ่ กล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ พองโต เสื้อผ้าปริจนฉีก ขนสีดำดกครึ้มแผ่ปกคลุมทั่วร่าง

ตรงกลางกระหม่อมมีเขาอันหนึ่งงอกขึ้น ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำน่ากลัว

เลือดลมที่น่ากลัวรอบตัวเขาประดุจภูเขาไฟระเบิด

มองดูจากระยะไกล เขาได้กลายร่างเป็นวานรยักษ์ร่างสูงจั้งกว่า ๆ ใหญ่โตมหึมา!

“เปิด!”

เขาร้องตะโกนเสียงดัง โล่ยักษ์สีดำปรากฏขึ้นในมือบังอยู่ด้านหน้า

ปัง!!!

โล่ยักษ์สีดำส่งเสียงระเบิด สั่นสะเทือนอย่างแรง

ภายใต้แรงฟาดฟันของพลังวิถีดาบอันน่ากลัวนั้น ร่างสูงใหญ่จั้งกว่า ๆ ของชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงดำดิ่งลงไปราวกับหินอุกกาบาตตกลงมากระแทกกับพื้น ฝุ่นละอองคละคลุ้ง

ครู่ถัดมา ผิวนอกของโล่ยักษ์สีดำในมือเขาก็ปรากฏมีรอยร้าวขึ้นเป็นแนว จากนั้นก็แตกสลายพร้อมกับเสียงดังปัง

ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงถึงกับสูดปาก

โล่ยักษ์สีดำชิ้นนี้มีนามว่า ‘ปกป้องคีรี’ เป็นสมบัติป้องกันวิถีวิญญาณซึ่งมีความแข็งแกร่งมากชิ้นหนึ่ง เคยช่วยป้องกันอันตรายถึงแก่ชีวิตให้กับเขามานับหลายครั้ง

ทว่าตอนนี้ กลับโดนคนหนุ่มในขอบเขตเปิดทวารฟาดฟันจนแตกสลายในดาบเดียว!

“หากว่าเมื่อสักครู่ข้าไม่ทันใช้สมบัติชิ้นนี้ป้องกันตัว ตอนนี้จะรอดหรือ?”

ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงตื่นกลัวจนเหงื่ออาบ

เขาชักขาได้ก็คิดจะหนีอีกครั้ง ทว่าในชั่วขณะนั้นเอง ดาบก็ส่งเสียงดังกึกก้องขึ้น ราวกับเสียงสายฟ้าฟาดดังก้องท้องฟ้าในท้องฟ้าแห่งนี้

ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงเงยหน้าขึ้นมอง

เห็นพลังดาบเต็มฟากฟ้าประดุจฝนฟ้าคะนองสาดเทลงมาไม่จบไม่สิ้น บดบังไปรอบด้าน

พลังดาบสีใสแสบตานั้นแลดูจรัสแสงและบาดตาเป็นอย่างยิ่งในช่วงค่ำคืนเช่นนี้

ทว่าในสายตาของชายวัยกลางคนชุดสีม่วงแล้ว สิ่งเหล่านี้เปรียบได้ดั่งเงามืดแห่งความตาย แฝงไว้ซึ่งภัยคุกคามถึงชีวิต ทำให้เขารู้สึกกลัวจนท้องไส้ปั่นป่วน

“ช่วยข้าด้วย…!”

เขาส่งเสียงแผดร้องออกมา

ครืน!

ในชั่วพริบตา ร่างของเขาทั้งร่างก็ถูกฝนดาบกลบกลืน เสียงแผดร้องซึ่งแฝงความหวาดกลัวในตอนแรกกลายเป็นเสียงโอดครวญด้วยความทรมานและความเจ็บใจ

ฉับพลันทุกอย่างก็สงบนิ่ง

เมื่อฝนดาบหายไป ผืนแผ่นดินตรงนั้นปรากฏรูจำนวนนับร้อยพัน มีแต่รอยแทงของดาบเต็มไปหมด

ใจกลางรอยแทงของดาบคือเลือดเนื้อกองหนึ่ง!

เพียงสองดาบ กลับฆ่าผู้ฝึกตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณที่กำลังจะหลบหนี!

ภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ทำให้หญิงสาวในชุดลวดลายนกหงส์หยกกับเซียนหงถึงกับสูดปาก หนังศีรษะชาไปหมด

เมื่อหันไปมองดูซูอี้ที่อยู่ไม่ไกลนักอีกครั้ง สีหน้าของคนทั้งสองต่างก็เต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง

ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน!

ความสามารถที่ซูอี้แสดงออกมาในตอนนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่แสดงในงานชุมนุมมวลพฤกษาเมื่อวานมาก

และในขณะนี้เอง ในที่สุดทั้งสองก็เข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดพวกของเฮ่อฉางอิงจึงยังไม่กลับมาเสียที เป็นไปได้มากว่าพวกเขาคงตายด้วยฝีมือของซูอี้แล้ว!

เมื่อรู้สึกได้ว่าซูอี้กำลังเบนสายตามองมา เซียนหงสั่นสะท้านไปทั้งตัว รู้สึกเข่าอ่อนจนคุกเข่าลงกับพื้น

เขาโขกศีรษะร้องเสียงดัง “ใต้เท้าซู ข้ายอมแพ้แล้ว! ข้ายอมแพ้แล้ว! ขอเพียงท่านละเว้น ไว้ชีวิตข้า ข้ายินดีเป็นวัวเป็นควายรับใช้ท่านไปตลอดทั้งชาติ ต่อให้ตายหมื่นครั้งก็ไม่มีปฏิเสธ!”

เป็นถึงผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ แต่กลับหวาดกลัวจนถึงขั้นคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิต ภาพเช่นนี้แม้กระทั่งฮูหยินรั่วเหวินเองก็ยังรู้สึกคาดไม่ถึง

นางไม่คิดมาก่อนเลยว่า เฒ่าลามกคนนี้จะขี้ขลาดได้ถึงเพียงนี้!

“ต่อให้ตายหมื่นครั้งก็ไม่มีปฏิเสธเช่นนั้นหรือ? ได้ ถ้าเช่นนั้นเจ้าจงไปตายเสียตอนนี้”

ท่ามกลางเสียงที่ราบเรียบ ซูอี้ลงมืออีกครั้ง

พอแสงดาบสว่างวาบ

เซียนหงยังไม่ทันได้ตั้งตัวและตอบโต้ หัวก็ร่วงกระเด็นลงพื้นแล้ว!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset