📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 534

บทที่ 534 - อยากยอมแพ้? ไม่มีทาง!
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ตู้ม!

เมื่อเขาตั้งหลักได้ กวานทองคำบนหัวหวนเฉ่าโหยวก็ปริแตก เส้นผมสีม่วงยาวสยายรุงรัง

มือขวาที่ถือง้าวสั้นของเขาสั่นไหวอย่างคุมไม่ได้

ผิวบนร่างกายซึ่งอยู่ภายใต้เสื้อผ้าเกิดกระทั่งร่องรอยโลหิตเปื้อน

ปราณดาบสามฉื่อหยุดหวนเฉ่าโหยว!

นี่เป็นคราแรกที่ซูอี้ชิงลงมือนับแต่เริ่มศึก

ทว่าปราณดาบนั้นทะลวงนภาทะลุแดน ทำให้เหล่าผู้ชมใจสั่นคลอน!

ผู้ฝึกตนในชุมนุมมวลพฤกษาต่างดูเหม่อลอยไร้วิญญาณ

ผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณและเหล่าผู้เก่งกล้ายุคปัจจุบันต่างหน้าเปลี่ยนสี หัวใจสั่นสะท้าน

และบนแท่นหยก แผ่นหลังของเหล่าคนใหญ่คนโตต่างหนาวเยือก นั่งเฉย ๆ ไม่ได้อีก

อำนาจอันน่าสะพรึงนั้นซัดสาดราวคลื่น ปลุกปั่นหัวใจทุกคนในชุมนุมมวลพฤกษา

ผู้ใดบ้างจะไม่เห็นว่าหวนเฉ่าโหยวใช้ไม้ตายก้นหีบออกมา ทว่ายังไม่อาจต้านทานอำนาจดาบของซูอี้ได้?

สิ่งนี้เหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

ในด้านการฝึกฝน ซูอี้เพิ่งอยู่ในขอบเขตเปิดทวารขั้นปลาย ห่างจากหวนเฉ่าโหยวหนึ่งขั้นใหญ่

ทว่าเกี่ยวกับพลังต่อสู้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซูอี้ร้ายกาจ ท้าทายอำนาจสวรรค์มากกว่า!

นี่ย่อมหมายความว่าในวิถีต้นกำเนิด ความแข็งแกร่งของซูอี้เหนือชั้นกว่าตัวตนจากยุคโบราณระดับสูงสุดเช่นหวนเฉ่าโหยวไปแล้ว!

“ดาบนี้เพียงพอจะทำให้นักดาบทั่วโลกก้มหน้าละอาย!”

จักรพรรดิเซี่ยอดทอดถอนใจไม่ได้

หากเป็นเขามาเผชิญดาบของซูอี้ เขาก็ตะลึงเช่นกัน!

“นี่คือวิถีแห่งดาบ ดังที่อาจารย์ข้าเพียรไขว่คว้า…”

ดวงเนตรงดงามของเหวินซินจ้าวเหม่อลอย ความรู้สึกของนางพลุ่งพล่าน

เยว่ซือฉานกำดาบจิตแห่งจักจั่นในมือไว้แน่น พลางระลึกถึงคำแนะนำของซูอี้ต่อตนในกาลก่อน พึมพำในใจ “ข้าเยว่ซือฉานช่างโชคดี…”

“ปรากฏว่าสิ่งที่เขาพูดเมื่อคืนเป็นจริง…”

เซียนหานเยียนจดจำคำพูดเมื่อคืนของซูอี้ได้ รายชื่อกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นในจิต ฮั่วเทียนตู โจวเฟิงจื่อ เล่อเฟิง ทิงเฮ่อ…

ยามนี้ เมื่อได้เห็นอำนาจปราณดาบสามฉื่อของซูอี้กับตา ในที่สุดนางก็กล้าเชื่อว่าเหล่ามหาปราชญ์สวรรค์ในวิถีวิญญาณถูกซูอี้ฆ่า!

บนสนามต่อสู้

หวนเฉ่าโหยวปาดคราบโลหิตออกจากมุมปาก สูดหายใจลึก ๆ และกล่าวยิ้ม ๆ “ไม่คาด ไม่คาดจริง ๆ ว่าจะมียอดคนเช่นเจ้าในโลกนี้ ทว่าด้วยความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้ ยังไม่พอจะทำให้ข้าหวนเฉ่าโหยวยอมแพ้ได้หรอก!”

ในช่วงท้าย เสียงของเขากลายเป็นบ้าคลั่งไร้ปรานี!

ตู้ม!

เส้นผมสีม่วงของเขากระพือพัดอย่างบ้าคลั่ง ผิวอันปริแตกฟื้นสภาพในพริบตา พลังในกายทะยานสูงฉับพลัน

เนตรทั้งสองข้างเปลี่ยนสีเป็นแดงเลือด

ณ ใจกลางหว่างคิ้ว รอยตราสีชาดขนาดเล็กคล้ายเปลวเพลิงปรากฏขึ้น แผ่บรรยากาศอันแสนกดดันออกมา

เหล่าผู้ชมตะลึงตกใจ ดวงตาทุกคู่เบิกกว้าง ใครเล่าจะไม่เห็นว่าพลังของหวนเฉ่าโหยวในยามนี้สูงขึ้นกว่าเก่าหนึ่งขั้น?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือตัวแปรเหนือความคาดหมาย และยังทำให้ผู้ซึ่งแต่เดิมคิดว่าหวนเฉ่าโหยวแพ้แน่ตื่นเต้นขึ้นมาอีกครา

“นี่คือพลังที่แท้จริงของข้า!”

ดวงตาของหวนเฉ่าโหยวทั้งเย็นชาและร้อนแรง เขาเอื้อมมือคว้า…

เคร้ง!

ง้าวศพโลหิตเพลิงทะยานซึ่งแต่เดิมถูกฟันสั่นสะท้านก่อนกลับสู่ฝ่ามือ และทันใดนั้น… พลังในกายของเขาก็พลันทะยานสู่จุดสูงสุด!

มองจากระยะไกล ร่างผอมบางอาบปราณมารสีเลือด เส้นผมสีม่วงพลิ้วสยายราวเทพมารโบราณที่แท้จริง

อำนาจกดดันรุนแรงเช่นนี้ทำให้ผู้คนขนหัวลุก!

“งมหาไข่มุกท่ามกลางเมล็ดข้าว ริบหรี่ดั่งแสงหิ่งห้อย ดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์”

ซูอี้ที่ไม่ห่างไปนักส่ายหน้าเล็กน้อย “ฮะ ๆ!”

หวนเฉ่าโหยวเองก็เงยหน้าหัวเราะสู้ฟ้าเช่นกัน

อึดใจต่อมา เงาร่างก็วูบไหว ฟาดง้าวสั้นใส่ซูอี้

ตู้ม!

ง้าวสั้นฟาดฟันตัดอากาศ ก่อให้เกิดคลื่นกระแทกทลายสวรรค์ ดูแล้วแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่มากนัก!

“มดแมลงเขย่าต้นไม้แท้ ๆ” ดวงตาของซูอี้ฉายประกายเย็นเยียบ ร่างพุ่งตรงไปเบื้องหน้า ก่อนหัตถ์ขาวเรียวของเขาจะแตะความว่างเปล่า

เคร้ง!!

ง้าวศพโลหิตเพลิงทะยานของหวนเฉ่าโหยวปลิวกระเด็นไปอีกครา

แรงปะทะอันน่าหวาดหวั่นทำให้ข้อมือขวาของหวนเฉ่าโหยวแหลกเละทันที เขาโอดครวญเจ็บปวด สีหน้าเปลี่ยนในบัดดล

ทว่าก่อนที่จะทันตั้งตัว ข้อมือขวาก็ถูกคว้า ซูอี้จับกระชากมืออย่างแรง!

แขนเสื้อขวาของหวนเฉ่าโหยวระเบิดออกเป็นริ้ว ๆ ทุกกล้ามเนื้อแหลกเหลว กระดูกถูกป่นเป็นผง

แขนขวาทั้งแขนถูกทำลายสิ้น!

ยิ่งกว่านั้น แรงกระชากของซูอี้ยังทำให้ทั้งร่างของหวนเฉ่าโหยวปลิวสู่ฟ้า สั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวถูกตะแกรงร่อน

ตู้ม!!

อึดใจต่อมา ภายใต้สายตาตื่นกลัวของทุกคน หวนเฉ่าโหยวได้ถูกเหวี่ยงฟาดลงกับพื้น!

พื้นของสนามต่อสู้ฉาบด้วยเหล็กเทวะ คลุมด้วยค่ายกลจองจำ แข็งสุดยอด

เมื่อหวนเฉ่าโหยวกระทบพื้น พื้นก็สั่นสะเทือนรุนแรง เห็นชัดเจนถนัดตาว่าใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ร่างกระตุกขดงอ จมูกและปากอาบโลหิต

ทุกคนในชุมนุมมวลพฤกษาดูตื่นกลัว

ก่อนหน้านี้ พลังของหวนเฉ่าโหยวเพิ่มสูงทะลวงฟ้า ทุกคนคิดว่าต่อมาจะเกิดศึกดุเดือดขึ้น

ผู้ใดเล่าจะคาดคิดว่าในการโจมตีเดียว แขนขวาของหวนเฉ่าโหยวจะสะบั้นแหลก ร่างกลายเป็นดั่งกระสอบทรายที่ถูกฟาดลงกับพื้น!

ภาพอันน่าสลดใจทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บแทนแม้เพียงมองจากไกล ๆ

หากการโจมตีนี้ปะทะร่างยอดฝีมือผู้อื่น เกรงว่าร่างคงแหลกเป็นชิ้น ๆ

“เยี่ยม!”

เหวินซินจ้าวและเยว่ซือฉานต่างระทึกใจ

พวกเขาจะไม่เห็นได้เช่นไรว่าซูอี้กำลังช่วยหยวนเหิงล้างแค้น ตอบแทนด้วยวิธีเดียวกับที่อีกฝ่ายทำกับผู้อื่น?

“อ๊ากก—!”

หวนเฉ่าโหยวกรีดร้องอย่างเจ็บปวด

ก่อนหน้านี้ เขาบาดเจ็บอยู่จากครั้งที่ถูกปราณดาบสามฉื่อของซูอี้ฟาดใส่อย่างหนักหน่วงแล้ว

ทว่าตอนนี้ การโจมตีของซูอี้ไม่เพียงทำลายแขนขวาของเขา แต่ยังเกือบป่นกระดูกทั่วร่าง และเครื่องในต่าง ๆ ในกายก็เหมือนเคลื่อนหลุดจากที่จนดวงตาเห็นดวงดาวสีทองปรากฏโนiวลกูดอทคอม

ความเจ็บเสียดกระดูกปนเปมากับความอับอายไร้สิ้นสุด กระตุ้นให้ดวงตาของหวนเฉ่าโหยวเบิกถลน สติใกล้แตกทุกขณะ

“ซูอี้ ข้าจะฆ่าเจ้า!!”

เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวระเบิดออก หวนเฉ่าโหยวดิ้นรนกระเสือกกระสน

ซูอี้กล่าวด้วยแววตาเฉยเมย “ข้าเพิ่งเริ่มลงมือ เจ้าจะกังวลไปไย? ข้าจะรอเจ้าแสดงให้เห็นว่าความเจ็บปวดและการทำตนเองให้อับอายเป็นเช่นไร”

คำพูดลอย ๆ ยังคงดังก้อง ขณะเดียวกับที่มือของซูอี้ก็ยื่นคว้าคอหวนเฉ่าโหยวราวคว้าคอไก่อีกครั้ง

จากนั้นก็ฟาดลงกับพื้นอย่างแรง!

ตู้ม!!

หวนเฉ่าโหยวกลายเป็นกระสอบทรายไปอีกครา พื้นสนามประลองสั่นสะเทือนเลือนลั่น

เสียงทึบ ๆ กระทบโสตคนทุกผู้ที่อยู่นอกสนาม จนพวกเขาอดตัวสั่นไม่ได้

เมื่อเห็นหวนเฉ่าโหยวอีกครั้ง ฟันของเขาร่วงกราว เส้นผมกระเซอะกระเซิง ร่างเละเทะ ใบหน้าเปลี่ยนยากจดจำเค้าเดิม สภาพน่าอนาถใจของเขาดูไม่เหมือนคนหรือผี

คนมากมายทนมองไม่ได้

มันแย่เกินไป!

หวนเฉ่าโหยวคนเดิมผู้มีผมสีม่วงและกว้านทองคำ วางอำนาจใหญ่โตคับฟ้า ถือดีเสียจนกล้าข่มขู่เวิงจิ่วและราชวงศ์เซี่ย!

ทว่าในยามนี้ เขากลับกลายเป็นดั่งลูกแกะรอวันเชือด!

ทั้งหมดนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าคือการแสดงออกถึงพละกำลังอันน่าหวาดหวั่นของซูอี้

อย่าว่าแต่ผู้ฝึกตนทั่วไปเลย กระทั่งผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณ ผู้เก่งกล้ายุคปัจจุบัน และแม้แต่เหล่ามหาปราชญ์สวรรค์ในวิถีวิญญาณเหล่านั้นยังอดอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้

สำหรับผู้ที่อยู่ในวิถีต้นกำเนิด เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณอย่างหวนเฉ่าโหยวได้

ต่อให้แทนที่ด้วยผู้อยู่ในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นต้น ยังเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อกรของหวนเฉ่าโหยว

ทว่าหวนเฉ่าโหยวกลับถูกซูอี้บดขยี้ยับเยิน!

นับแต่เริ่มศึกจนยามนี้ ไม่ว่าหวนเฉ่าโหยวจะใช้เคล็ดวิชาหรือสมบัติล้ำค่าชิ้นใด พวกมันต่างถูกซูอี้ปราบลงอย่างง่ายดาย!

ยามนี้ ผู้ใดเล่าจะยังไม่กระจ่างแจ้ง ว่าเมื่อเทียบกับผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณและเหล่าผู้เก่งกล้ายุคปัจจุบัน ซูอี้นั้นร้ายกาจยิ่งกว่า?

บรรยากาศเงียบกริบปกคลุมเหล่าผู้ชม

มีเพียงเสียงครวญอย่างเจ็บปวดของหวนเฉ่าโหยวที่ยังคงดัง

การโจมตีของซูอี้ทำให้ร่างของเขาบาดเจ็บเกินประเมิน ดวงตาพร่ามัว ความเจ็บปวดที่ได้สัมผัสนั้นรุนแรงเกินบรรยาย

“ข้าให้โอกาสเจ้า ลุกขึ้น ข้าจะเล่นกับเจ้าต่อให้”

ซูอี้ทอดสายตามองลงมาพลางพูดอย่างเฉยเมย

หวนเฉ่าโหยวเงยหน้าขึ้นอย่างยากเย็น ดวงตาแดงฉานเปี่ยมความเคืองแค้น

เขาพูดเสียงแหบพร่า “ซูอี้ ข้าจะจำเจ้าไว้!!”

“เจ้าอยากยอมแพ้?”

ซูอี้เลิกคิ้ว ขณะกล่าว ฝ่ามือก็สร้างตราประทับลึกลับ กดลงมาเบา ๆ

หวนเฉ่าโหยวชะงัก อ้าปากค้าง ไม่ว่าจะพยายามเพียงไรก็ส่งเสียงไม่ได้

ซูอี้กล่าวว่า “นี่คือผนึกลับไร้การตอบโต้ สร้างมาเพื่อหยุดวาจาที่เปล่งออกมาจากปากโดยเฉพาะ”

ม่านตาของหวนเฉ่าโหยวหดตัว

ยามนี้เอง ร่องรอยความลนลานและความกลัวปรากฏขึ้นในแววตาของทายาทตระกูลหวนเผ่ามาร ในที่สุดก็ตระหนักว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี

“อย่าห่วงไป แม้ว่าข้าจะไม่เคยใส่ใจเรื่องกฎเกณฑ์ทางโลก แต่ในเมื่อเจ้ากล้าสู้กับข้าในชุมนุมมวลพฤกษาครานี้ ข้าจะไม่ทำลายกฎเกณฑ์และฆ่าเจ้า”

ซูอี้กล่าวอย่างเฉยชา “ข้าก็แค่อยากเล่นกับเจ้าต่อ หากเจ้ายอมแพ้ไปเสียก่อน มันจะไม่น่าผิดหวังแย่หรือ?”

ทันทีที่สิ้นคำ ทุกผู้ชมต่างสูดหายใจเฮือก ช่างโหดร้าย!

โหดร้ายยิ่งนัก!

ซูอี้ไม่ยี่หระต่อภัยคุกคามจากตระกูลหวนเผ่ามารแม้แต่น้อย เขาต้องการล้างแค้นให้ข้ารับใช้หยวนเหิงแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน!

ยามนี้ หวนเฉ่าโหยวตกใจกลัวเสียจนกระเสือกกระสนสุดชีวิต ดวงตาที่มองเวิงจิ่วที่อยู่นอกสนามดูราววอนขอความช่วยเหลือ

เวิงจิ่วกล่าวอย่างจริงจังและจริงใจ “นายน้อยหวน ตาเฒ่าผู้นี้เคยให้สัตย์ไว้ว่าจะไม่มีวันเข้ายุ่งเกี่ยวกับศึกนี้ ยิ่งกว่านั้น เจ้ายังเคยกล่าวด้วยว่าหากตาเฒ่าผู้นี้เข้าแทรกแซง นายน้อยจะไม่ละเว้นตาเฒ่าผู้นี้”

หวนเฉ่าโหยว “???”

ทายาทตระกูลหวนผู้ขับเคลื่อนโลกาด้วยบุคลิกป่าเถื่อนบ้าคลั่งโกรธเกรี้ยวเสียจนปอดแทบระเบิด

หากไม่ใช่เพราะไม่อาจส่งเสียง เกรงว่าคงก่นด่าออกมาแล้ว

สีหน้าของเวิงจิ่วจริงใจมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ กล่าวว่า “ทว่านายน้อยหวน ในเมื่อนายน้อยซูกล่าวว่าเขาจะไม่ฆ่าเจ้า ตาเฒ่าผู้นี้ย่อมประกันได้ว่าเจ้าจะไม่ตายในการต่อสู้ครั้งนี้… และกฎเกณฑ์ใด ๆ ของชุมนุมมวลพฤกษาก็จะไม่ถูกฝ่าฝืน”

คำพูดเหล่านี้เป็นดั่งคมมีดเชือดเฉือนหัวใจของหวนเฉ่าโหยว ทำให้เขาเกิดโทสะและหวาดกลัวถึงขีดสุด

หากเขาถูกซูอี้เหยียบย่ำรังแกเช่นนี้ ชื่อเสียงหน้าตาของเขาจะพังทลาย ในภายหน้าเมื่อมีผู้ใดพูดถึงความอัปยศในวันนี้ เขาจะกลายเป็นขี้ปาก เรื่องตลกของผู้อื่น!

“ที่แท้ชายผู้นี้ก็เตรียมการมาแล้ว… แย่หน่อยนะ!”

เซี่ยชิงหยวนกะพริบตามองอย่างขบขำ

นางยังจำสิ่งที่ซูอี้กล่าวยามปรากฏสู่สนามได้ เขาสัญญาจะไม่ให้โอกาสหวนเฉ่าโหยวได้ยอมแพ้

และฉากที่ปรากฏนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการยืนยันวาจาของซูอี้

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset