📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 513

บทที่ 513 - ตระกูลหวนเผ่ามาร
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เรือล่องล้อเมฆาความยาวกว่าร้อยจั้งเหมือนสิ่งของที่เคลื่อนตัวข้ามฟากฟ้าทั้งยังเจิดจรัส เมื่อเข้าใกล้บริเวณด้านนอกของนครหลวงจิ๋วติ่งก็ดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกตนบนฝั่งจำนวนมาก

บนเรือล่องล้อเมฆานั้น เมื่อชายหนุ่มชุดสีหยกผู้มีผมสีม่วงและสวมมงกุฎทองคำพูดจบ ก็มีเสียงหญิงสาวผู้อ่อนโยนดังขึ้น

“นายน้อย นครหลวงจิ๋วติ่งเมื่อสามหมื่นปีที่แล้วมีค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนซึ่งสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของตระกูลเซี่ยปกคลุมไว้อยู่ และค่ายกลอันไร้ที่ใดเปรียบนี้เคยกระทั่งอยู่อันดับสามของมหาทวีปคังชิง”

หญิงสาวผู้สง่างามในชุดลวดลายนกหงส์หยกปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเสียงของนาง

นางสวมกวานสีทองบนศีรษะ ถือไม้วัดหยกสีทองในมือ ท่วงท่าเคร่งขรึม ยามที่ดวงตาสบกัน จะมีพลังสีเงินลอยจาง ๆ แผ่ออก ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง

“ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือนครหลวงจิ๋วติ่งมีกฎระเบียบมาโดยตลอด ไม่อนุญาตให้เหาะเหินตามอำเภอใจในเมือง ในความคิดของข้า พวกเราเป็นแขกจากแดนไกล ทางที่ดีคือเดินเท้าไปเยี่ยมชมภูเขาเทียนหมางจะดีกว่า”

หญิงชุดหงส์หยกพูดพร้อมกับมองดูคนข้างกายนาง

นัยน์ตาของชายหนุ่มชุดสีหยกฉายแววดื้อรั้น “กฎตายแต่คนเป็น*[1] เท่าที่ข้ารู้มาค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนในทุกวันนี้ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากการกัดกร่อนของ ‘การจองจำแห่งยุคมืด’ เมื่อสามหมื่นปีก่อน ดังนั้นข้าจึงไม่เชื่อว่าจักรพรรดิของต้าเซี่ยจะยอมใช้ค่ายกลนี้เพื่อรับมือกับพวกเรา”

พอพูดเสร็จเขาก็สั่งเสียงดัง “ฟังข้า ทะยานสู่ฟ้าไปที่ภูเขาเทียนหมาง!”

“รับทราบ”

ลึกเข้าไปในห้องโดยสาร เสียงที่แก่ชราและน่าเคารพดังขึ้น

ทันทีที่เรือล่องล้อเมฆายาวกว่าร้อยจั้งทะยานตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือนครหลวงจิ๋วติ่ง

หญิงชุดหงส์หยกอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบา ๆ “นายน้อย แบบนี้จะทำให้คนครหากล่าวว่าท่านเอาได้นะ”

แม้จะพูดเช่นนั้น แต่น้ำเสียงกลับไม่มีความตำหนิติเตียน …กลับกันแล้วมันออกไปทางเหนื่อยอกเหนื่อยใจอย่างไม่มีทางเลือกมากกว่า

“น้าเหวิน ท่านยังไม่ชัดเจนอีกหรือว่าเมื่อสามหมื่นปีก่อนตระกูลหวนของพวกเรานั้นอหังการเพียงใด เช่นนี้แล้วในฐานะทายาทของตระกูลหวน เลือดอันบ้าคลั่งและดื้อรั้นย่อมไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แม้แต่ตัวข้าก็ไม่เว้น!”

ชายหนุ่มชุดสีหยกหัวเราะอย่างภูมิใจออกมาแล้วจับเอวเรียวของหญิงสาว ก่อนดึงร่างนั้นเข้าไปในอ้อมแขน เขาถ่มน้ำลายใส่ใบหน้าสวยของนางอย่างแรง

เมื่อเห็นใบหน้าสวยของนางแดงก่ำ นัยน์ตางดงามเต็มไปด้วยความโกรธ ชายหนุ่มก็หัวเราะเสียงดัง “เหมือนตอนนี้ที่ภายนอกเจ้าเป็นผู้อาวุโสของข้า แต่ในสายตาข้า เจ้าคือผู้หญิงของหวนเฉ่าโหยว! ใครหน้าไหนมันกล้านินทาว่าร้าย ข้าจะฆ่ามันคนนั้น!”

หญิงสาวพยายามผลักแขนของเขาออก แต่กลับถูกอีกฝ่ายจับไว้แน่นไม่ปล่อย สุดท้ายก็เลิกดิ้นรน นางเม้มปาก ก่อนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ทำเช่นนี้ไม่ดีนะ หากปล่อยให้พวกอาวุโสในตระกูลรู้เข้า ไม่เช่นนั้น…”

ยังไม่ทันพูดจบตัวนางก็สั่นสะท้าน แล้วร่างอันบอบบางก็หลุดออกจากการเกาะกุมราวกับโดนไฟฟ้าช็อต ดวงตางดงามจ้องมองไปที่ชายหนุ่มในชุดสีหยก “ไอ้สารเลว ลูบตรงไหนอยู่น่ะ!”

ชายหนุ่มชุดสีหยกตรวจดูบั้นท้ายของนางที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ชุดคลุมอย่างไร้ยางอาย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นก็พาพวกอาวุโสมาสั่งสอนข้าอีกสิ!”

หญิงชุดหงส์หยกถ่มน้ำลาย ริ้วแดงปรากฏบนแก้มสองข้าง

เรือล่องล้อเมฆาได้ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือนครหลวงจิ๋วติ่ง ส่งผลให้เกิดความโกลาหลขึ้นในเมือง

“นี่เป็นเรือล่องล้อเมฆาของตระกูลใดกันถึงได้กล้าที่จะทะลวงสู่น่านฟ้าของนครหลวงจิ๋วติ่งได้?”

“สวรรค์! ครั้งก่อนที่มีคนกล้าเหินฟ้าเช่นนี้ก็เมื่อพันสามร้อยปีก่อน เขาเป็นบุคคลขั้นขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ ความมั่นใจในตัวเองสูงส่ง ไม่คำนึงถึงกฎของนครหลวงจิ๋วติ่ง ผลคือทันทีที่รุดเข้าไปในเมือง ก็ถูกค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนสังหาร!”

“ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็ไม่มผู้ใดกล้าทำเช่นนี้อีกแล้ว แต่ตอนนี้… กลับมีใครบางคนที่เพิกเฉยต่อกฎระเบียบและคิดทะยานผ่านนครหลวงจิ๋วติ่ง!”

“เรือล่องล้อเมฆานั่นเป็นของกองกำลังใด? หรือพวกเขาจะไม่ทราบกฎของนครหลวงจิ๋วติ่งกันแน่?”

“ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจกฎ แต่ไม่สนใจกฎของนครหลวงจิ๋วติ่งต่างหาก!”

ภายในเมืองเกิดความฮือฮาขึ้น ไม่รู้ว่ามีผู้ฝึกตนกี่คนกันแน่ที่เงยหน้ามองเรือล่องล้อเมฆาลำใหญ่ที่แสนเทอะทะด้วยความประหลาดใจ

ความโกลาหลและเสียงตื่นตระหนกดังไปทั่วท้องถนนและตรอกซอกซอย

“นี่มัน ‘เรือล่องล้อเมฆามารนับพัน’ ของตระกูลหวน!”

กู่ชางหนิงที่อยู่ในร้านอาหารลุกขึ้นยืน “พลังของเผ่ามารตระกูลแรกแห่งมหาทวีปคังชิง ในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน…”

ตระกูลหวนเผ่ามาร!

ในมหาทวีปคังชิงเมื่อสามหมื่นปีที่แล้ว มันเป็นกองกำลังมารที่เพียงพอจะทำให้สรรพสิ่งหวาดกลัว ทำให้โลกตกอยู่ในความหวาดผวา

นอกจากนี้ในกองกำลังมารของโลก ยังเป็นกองกำลังชั้นนำที่ยังคงอยู่ เหมือนกับสำนักอสูรเทียนเยียนที่ซือคงเป้าอยู่ แต่ด้อยกว่าตระกูลหวนเผ่ามารอยู่เล็กน้อย

ความแข็งแกร่งของตระกูลหวนมาจากสายเลือดอันเก่าแก่ของตระกูล กล่าวกันว่าเป็นแขนงหนึ่งของเทพอสูรโบราณ สมาชิกสายตรงของตระกูลหวนดูเหมือนจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘สายเลือดที่แท้จริงของอสูรสวรรค์’ พรสวรรค์น่าหวาดกลัว พละกำลังที่แท้จริงของแต่ละคนก็ทรงพลัง

ใน ‘เก้าราชันย์แห่งคังชิง’ เดิมทีมี ‘ราชันย์มารเทียนอวี้’ ที่มาจากตระกูลหวนเผ่ามารอยู่สามอันดับแรก พลังมารล้นฟ้า สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทิศทั้งสิบ

“ดูเหมือนว่าเดิมทีตระกูลหวนเผ่ามารจะไม่ได้ล่าถอยไปจากมหาทวีปคังชิงจริง ๆ และยังทิ้งคนในตระกูลไว้ส่วนหนึ่งด้วย เช่นเดียวกับตระกูลโบราณของพวกเราที่เอาชีวิตรอดจากการจองจำเมื่อสามหมื่นปีก่อนได้”

ด้านข้างของกู่ชางหนิง มีหญิงชราท่าทางดูดีขมวดคิ้วแล้วเอ่ย

“ตระกูลหวนเผ่ามารปรากฏตัวออกมาแล้ว… ตอนนี้ข้าสงสัยว่าหลังจากการปะทุของการจองจำแห่งยุคมืดเมื่อสามหมื่นปีก่อน ตระกูลและกลุ่มขุมกำลังพวกนั้นที่ทยอยล่าถอยกันออกมาจากมหาทวีปคังชิงทั้งหมดมีกี่กลุ่มกันที่ออกมาได้ มีกี่ตระกูลที่ทิ้งคนส่วนหนึ่งเอาไว้เหมือนกับตระกูลหวนเผ่ามาร และรอดชีวิตไปจากการปราบปรามของการจองจำแห่งยุคมืดเมื่อสามหมื่นปีได้…”

กู่ชางหนิงถอนหายใจ

สถานการณ์ในนครหลวงจิ๋วติ่งเริ่มเลวร้ายและวุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ

ก่อนหน้านี้ก็มีเฉิงผูผู้โดดเด่นซึ่งเป็นผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณถูกสงสัยว่าเป็นทายาทของ ‘ราชันย์มารสวนกู่’ ด้วย

ตอนนี้แม้แต่ชายที่แข็งแกร่งของตระกูลหวนเผ่ามารก็ปรากฏตัวขึ้น สิ่งเหล่านี้จะไม่ทำให้กู่ชางหนิงแปลกใจได้อย่างไร?

“อุปนิสัยของราชันย์มารสวนกู่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่การกระทำเที่ยงตรง ทั่วทั้งโลกจึงชื่นชมเขา”

“แต่ตระกูลหวนเผ่ามารนั้นแตกต่างกัน วิถีของตระกูลนี้คือการออกอาละวาด เหยียบย่ำและเพิกเฉยต่อกฎซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเช่นกัน”

หญิงชรากล่าว “อย่างเช่นในตอนนี้ ใครที่ไหนจะทะลวงสู่ท้องฟ้าเหนือนครหลวงจิ๋วติ่งเหมือนเรือลำนี้ของตระกูลหวนเผ่ามารโดยไม่สนใจกฎของราชวงศ์ต้าเซี่ยกันเล่า?”

“ไอ้มารเวรแห่งตระกูลหวนเผ่ามาร?”

ในร้านน้ำชามีเฉิงผูที่แต่งกายด้วยชุดสีเทาเงยหน้าขึ้น บนใบหน้าอันหล่อเหลามีความประหลาดใจ “กล้าดีอย่างไรถึงบุกน่านฟ้านครหลวงจิ๋วติ่ง หรือลูกหลานของตระกูลหวนเผ่ามารตระกูลแต่ละคนบ้าคลั่งไม่คิดชีวิต ข้าอยากจะดูนักว่าราชวงศ์เซี่ยจะทำอย่างไร”

ในเวลาเดียวกัน คนส่วนใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่ในนครหลวงจิ๋วติ่งก็สังเกตเห็น ‘เรือล่องล้อเมฆามารนับพัน’ นั้น และล้วนมีความเห็นแตกต่างกัน

เหล่าผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณที่เดินไปทั่วเมืองอย่างไม่ขาดสาย เมื่อเห็นฉากนี้ไม่มากก็น้อยล้วนมีความคิดแบบเดียวกับเฉิงผู คือต้องการเห็นราชวงศ์เซี่ยว่าจะจัดการกับตระกูลหวนเผ่ามารหรือไม่

สวนน้อยนภาเมฆ

ซูอี้กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้หวายข้างสระน้ำ เมื่อเห็นเรือล่องล้อเมฆาที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าจากระยะไกล ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าห้ามบินบนน่านฟ้านครหลวงจิ๋วติ่งหรอกหรือ?”

ข้างกายเขาคือชายวัยกลางคนในชุดคลุมที่ขมวดคิ้วอยู่ “ใช่”

เมื่อตอนเช้าตรู่เขาและเวิงจิ่วมาไหว้วานซูอี้ให้ช่วยสอนการซ่อมแซมค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดน

แม้ว่าซูอี้จะให้วิธีการซ่อมแซมมาแล้ว แต่ก็น่าอายที่ชายวัยกลางคนค้นพบว่าเคล็ดวิชาและค่ายกลที่ไว้ซ่อมแซมนั้น เขากลับไม่เข้าใจเลย…

และนั่นก็ไม่ใช่เพียงตัวเขาเท่านั้น

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลและยันต์ที่ถูกเรียกให้มารวมตัวกัน คนกลุ่มนี้ก็สามารถเข้าใจได้เพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น หาใช่ทั้งหมด

ท่ามกลางความสิ้นหวัง เขาจึงทำได้เพียงมาไหว้วานซูอี้ให้สอนด้วยตนเองเท่านั้น

และไม่เคยคิดว่าตนเองเพิ่งจะมายังสวนน้อยนภาเมฆด้วยความตั้งใจ แต่ยังไม่ทันรอซูอี้ชี้แนะแก้ปัญหา ก็พลันเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นโนเวลกูดอทคoม

“นายท่าน นั่นคือเรือล่องล้อเมฆามารนับพันของตระกูลหวนเผ่ามาร!”

คิ้วสวยของเวิงจิ่วเลิกขึ้น “ถ้าข้ารับใช้แก่ ๆ คนนี้เดาไม่ผิด บุคคลที่อยู่บนเรือล่องล้อเมฆาลำนั้นน่าจะเป็นหวนเฉ่าโหยวแห่งตระกูลหวนเผ่ามาร ผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณที่มีความแข็งแกร่งยิ่ง”

“ตระกูลหวนเผ่ามาร…”

คิ้วของชายวัยกลางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “พวกเขายังคิดว่านี่คือมหาทวีปคังชิงเมื่อสามหมื่นปีก่อนอีกหรือ?”

ซูอี้สังเกตได้ว่าแม้ชายวัยกลางคนจะไม่ยินดีอยู่บ้าง แต่กลับปรากฏความกลัวที่อธิบายไม่ได้ออกมา เห็นได้ชัดว่าตระกูลหวนเผ่ามารแตกต่างกับกลุ่มขุมกำลังทั่วไป!

เขาเอ่ยด้วยความสนใจอย่างมาก “เมื่อกฎถูกทำลายแล้ว หากอยากจะลุกขึ้นมาอีกครั้งคงยากมาก ท่านวางแผนจะทำอย่างไร?”

หัวใจของชายวัยกลางคนเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะเอ่ย “กลับกันหากเป็นสหายเต๋า จะทำอย่างไรเล่า?”

ซูอี้ยิ้มและกล่าว “ถ้ายึดตามแผนของข้า ก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพ และไม่จำเป็นต้องออกมาเจรจาด้วย แค่ใช้ค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนระเบิดไปโดยตรงก็พอ”

เปลือกตาชายวัยกลางคนกระตุกอย่างหนัก

สีหน้าของเวิงจิ่วเปลี่ยนไป “มันจะเป็นความคิดนี้ได้อย่างไรกัน หากทำเช่นนี้แล้วไม่เพียงแต่จะฉีกหน้าตระกูลหวนเผ่ามารเท่านั้น แต่ยังถูกกำหนดให้สูญเสียค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนอีก มันไม่ง่ายเลย”

“ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าที่จะเข้ามา เช่นนั้นก็มีเพียงสองสถานการณ์เท่านั้น คือถ้าไม่กลัวตายก็คิดว่าพวกท่านไม่กล้าใช้ค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดน แต่ไม่ว่าจะแบบใดก็ตาม ล้วนต้องอธิบายให้อย่างชัดเจนว่า อีกฝ่ายไม่เห็นพวกเจ้าในสายตาเลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วยังจะมาพูดถึงฉีกหน้าอะไรอีกเล่า?”

ซูอี้ส่ายหัว “แน่นอนว่า หากกลัวอีกฝ่ายจริง ๆ ก็อดทนเสีย”

ในยามนี้ชายวัยกลางคนก็หัวเราะขึ้นมา “ผู้เฒ่าจิ่ว เจ้าไปเคลื่อนค่ายกลใหญ่ตามที่สหายเต๋าซูว่าเสีย ระเบิดไปโดยตรงเลย!”

เวิงจิ่วตกตะลึงราวกับไม่เชื่อ

“รีบไป!”

แสงเย็นวาบปรากฏในดวงตาของชายวัยกลางคน

เวิงจิ่วไม่กล้าลังเลอีก ชายชรารีบรุดจากไป

เมื่อซูอี้เห็นการกระทำนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังชายวัยกลางคน ก่อนจะว่า “หากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นมา ไม่สามารถโทษข้าได้นะ”

ชายวัยกลางคนยิ้มกว้าง “ตราบใดที่สหายเต๋าซูช่วยชี้แนะข้าในการซ่อมแซมค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดน เรื่องอื่นอันใดไม่จำเป็นต้องให้สหายเต๋ากังวลใจ”

ซูอี้ร้องโอ้ออกมาและไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขาหยิบเหยื่อ ‘ผีเสื้อจันทรา’ ออกมา ก่อนจะป้อนให้ปลาในสระ

ภายใต้ผืนฟ้าบนเรือล่องล้อเมฆามารนับพัน ชายหนุ่มชุดสีหยกผู้มีผมสีม่วงและสวมมงกุฎทองคำเอามือไพล่หลังก่อนจะเอ่ยอย่างเหยียดหยาม “น้าเหวินท่านดูสิ พวกเราข้ามผ่านนครหลวงจิ๋วติ่งมาได้เกินครึ่งแล้ว ยังไม่เห็นว่าราชวงศ์เซี่ยจะกล้าออกมาหยุดเลย ข้าพูดเช่นนี้แล้วกัน กฎของนครหลวงจิ๋วติ่งแห่งนี้ให้ผู้อื่นคอยปฏิบัติตาม แต่กับพวกเราตระกูลหวน เราย่อมอยู่เหนือกฎทั้งปวง และสามารถเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าได้เลย!”

เสียงของเขาเย่อหยิ่งและมีอำนาจ

หญิงชุดหงส์หยกข้างกายผู้มีดวงตางามฉ่ำราวกับน้ำ กล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “รอจนไปถึงภูเขาเทียนหมาง นายน้อยก็รอถูกลงโทษจากจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยได้เลย”

“ฮ่า ๆ จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยโกรธอีกแล้ว ข้าจะทำอย่างไรดี?”

ชายหนุ่มชุดสีหยกอดหัวเราะไม่ได้

เมื่อพูดจบ ฉับพลันเสียงอันดังของพลังต้องห้ามจากค่ายกลก็ดังไปทั่วทั้งนครหลวงจิ๋วติ่ง

เสียงหัวเราะของชายหนุ่มชุดสีหยกหยุดลงในทันใด

ราวกับเป็ดที่ถูกมนุษย์บีบคออย่างแท้จริง!

…………………

[1] กฎตายแต่คนเป็น หรือ 规矩是死的,人是活的 เป็นสำนวนจีน หมายถึงแม้ว่ากฎจะเป็นสิ่งที่ตายตัว ต้องทำตาม แต่ทว่าคนนั้นมีชีวิตจิตใจ มีเหตุมีผลของการกระทำ ดังนั้นกฎจึงควรยืดหยุ่นและโอนอ่อนผ่อนตาม

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset