📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 459

บทที่ 459 - ใช้เงินเพื่อซื้อชีวิต
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

จางอวิ๋นเทาไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ลอบสังหารซูอี้ ดังนั้นเมื่อเขาเห็นซูอี้มีชีวิตรอดกลับมา เขาจึงไม่ได้ตกใจมากนัก

แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของซูอี้ในสองดาบ และยังคงติดใจเรื่องนี้อยู่ แต่เขาก็ไม่อาจไม่ยอมรับว่าซูอี้เป็นชายหนุ่มที่น่ากลัวมาก

การดำรงอยู่ซึ่งทรงอำนาจยิ่งกว่าผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณอย่างบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิง

ตัวตนดังกล่าวจะถูกลอบสังหารอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

ดวงตาดุจดวงดาราของเหวินซินจ้าวสว่างขึ้น เมื่อซูอี้กลับมาอย่างปลอดภัย นางก็โล่งใจเช่นกัน

หยวนเหิงกับไป๋เวิ่นฉิงรู้สึกมีชีวิตชีวา การกลับมาของซูอี้ทำให้เหมือนหาที่พึ่งพบ

“สหายเต๋าซู ได้โปรดยกโทษให้ด้วย!”

ทันทีที่ซูอี้เดินเข้าไปในห้องโถง จั่วซิงเหอพลันยืนขึ้นและก้าวออกไปโค้งคำนับด้วยท่าทางละอาย ไม่สบายใจ

ฉากนี้ทำให้พวกเหวินซินจ้าวมีสีหน้าเย็นชา

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าการลอบสังหารครั้งนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลจั่ว!

“ให้อภัย? ตระกูลจั่วของเจ้ากระทำผิดอะไรอย่างนั้นรึ?”

ดวงตาของซูอี้เย็นเยียบ

ใบหน้าของจั่วซิงเหิงแข็งทื่อและพูดว่า “สหายเต๋าซู หากเจ้าคิดดูก็จะทราบว่าก่อนหน้านี้ตระกูลจั่วของข้าไม่เต็มใจที่จะเป็นศัตรูของสหายเต๋าจริง ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่วันนี้ ทางตระกูลจั่วของเราเองก็ถูกบังคับเช่นกัน”

จากนั้นเขาก็อธิบายเหตุผลของเรื่องทั้งหมด

ปรากฏว่าหลังจากที่ซูอี้ยื่นคำขอสำหรับข้อตกลงเมื่อคืนนี้ แม้ว่าจั่วซิงเหอจะตอบตกลงในตอนนั้น แต่เขาก็รู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง

ดังนั้นเขาจึงไปเยี่ยมเยียนฮั่วอวิ๋นเซิงตอนกลางดึก และเจาะจงถามเกี่ยวกับข่าวของซูอี้

หลังจากทราบถึงวีรกรรมอันน่าสะพรึงกลัวในอดีตของซูอี้ จั่วซิงเหอก็ตะลึงไปเช่นกัน โดยตระหนักว่าถ้าเขากลับคำจะทำให้ซูอี้มีโทสะได้

แต่เมื่อจั่วซิงเหอตัดสินใจที่จะกลั้นใจยอมรับข้อตกลงแล้ว นักฆ่าลึกลับก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในห้องของเขา ณ กลางดึก

นักฆ่าบอกว่าตนเองสามารถฆ่าซูอี้เพื่อตระกูลจั่วได้ แต่ทว่าต้องการความร่วมมือจากตระกูลจั่ว

ถ้าหากไม่ตกลง เขาจะฆ่าจั่วซิงเหอซะ

เมื่อชีวิตของเขาถูกคุกคาม จั่วซิงเหอจึงจำต้องยอมรับ

พูดถึงสุดท้าย สีหน้าจั่วซิงเหอก็เต็มไปด้วยความขมขื่น

“พี่จั่ว นักฆ่าคนนั้นคือใครกัน? เขาใจกล้าเกินไปหรือไม่?”

จางอวิ๋นเทาขมวดคิ้ว

“คนผู้นั้นคือคนพายเรือ หนึ่งในมือสังหารระดับแนวหน้าขอบเขตรวบรวมดาราแห่งทะเลทุกข์”

จั่วซิงเหอกล่าวด้วยเสียงต่ำ “ถ้าไม่ใช่เพราะตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ข้า… ข้าย่อมไม่เปลี่ยนใจ”

คนพายเรือ!

ทั่วบริเวณเกิดเสียงสูดหายใจเฮือกดังขึ้น

ใครไม่รู้บ้างว่านักฆ่าลึกลับผู้นี้เคยลอบสังหารนักพรตมู่ มหาปราชญ์สวรรค์แห่งขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ?

และเมื่อพวกเขาคิดว่าซูอี้รอดชีวิตมาจากการลอบสังหารคนพายเรือ สายตาของทุกคนที่มองซูอี้ก็พลันเปลี่ยนไป

“ถูกบีบบังคับอะไรกัน ข้าคิดว่าการปรากฏตัวของคนพายเรือ เป็นเรื่องดีสำหรับตระกูลจั่วของเจ้ามากกว่า เพราะหากเขาสังหารเจ้านายของข้าสำเร็จ พวกเจ้าก็จะปลดหนี้แล้วสามารถเอาดักแด้วิญญาณหยกไป โดยไม่ต้องอาศัยความพยายามใด ๆ!”

หยวนเหิงด่าทอพวกเขาอย่างโกรธเคือง เขาไม่เคยคิดว่าในฐานะตระกูลอันดับหนึ่งแห่งแคว้นอวี้ผิง ตระกูลจั่วจะกลับคำพูดของตนแล้วทำสิ่งที่น่ารังเกียจไร้ยางอายเช่นนี้

จั่วซิงเหอกล่าวอย่างนึกละอายและไม่สบายใจ “สหายเต๋า โปรดระงับโทสะของเจ้าก่อนเถิด ตระกูลจั่วของข้าทราบดีว่าพวกเราได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไป เพื่อเป็นการชดเชยความผิดพลาดนี้ พวกเราจะไม่เพียงแต่จะยอมรับเงื่อนไขที่สหายเต๋าซูเสนอเมื่อคืนนี้ แต่ยังจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่อย่างใจกว้างอีกด้วย”

ในแคว้นอวี้ผิง ตระกูลจั่วนับเป็นตระกูลอันดับหนึ่งที่มีอำนาจกว้างขวาง

ดังนั้นจั่วซิงเหอที่เป็นผู้นำตระกูลจั่วจึงกล่าวได้ว่าสามารถเสกสรรลมฝนได้ดั่งใจต้องการภายในแคว้นนี้

แต่ในเวลานี้ เขากลับวางตนต่ำต้อย แสดงท่าทีจริงใจ และเกรงกลัว สูญเสียความเย่อหยิ่งกับศักดิ์ศรีของผู้นำตระกูลไปอย่างสิ้นเชิง

ฉากนี้ทำให้จางอวิ๋นเทาและคนอื่น ๆ ต่างปั่นป่วนอยู่ในใจ

ต่อหน้าพลังอันแข็งแกร่ง ฐานะหรืออำนาจใด ๆ ล้วนสูญเปล่าและเปราะบางยิ่งนัก!

ซูอี้แค่นเสียงและกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “คิดใช้เงินเพื่อซื้อชีวิตรึ? ได้ ซูผู้นี้ไม่เคยชื่นชอบการสังหารอย่างไม่เลือกหน้า บอกข้ามาว่าชีวิตของผู้คนเหล่านี้คือเท่าไร?”

ทันทีที่คำเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา จั่วซิงเหอและคนระดับสูงต่างอับอายและโกรธแค้น ศักดิ์ศรีของพวกเขาถูกเหยียบย่ำและพวกเขาก็รู้สึกอับอายอย่างยิ่ง

ทว่าพวกเขาทำได้เพียงอดทน

จั่วซิงเหอสงบใจ ก่อนกัดฟันของเขาและกล่าวว่า “จากเงื่อนไขที่สหายเต๋าซูเสนอเมื่อคืนนี้ ตระกูลจั่วของข้ายินดีจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่า!”

สีหน้าของกลุ่มคนระดับสูงในตระกูลจั่วต่างเปลี่ยนไป เงื่อนไขที่ซูอี้เอ่ยถึงเมื่อคืนก็มีมูลค่าเทียบเท่าหินวิญญาณระดับหกนับหมื่นก้อนแล้ว!

หากจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่าก็จะไม่น้อยกว่าหินวิญญาณระดับหกสองหมื่นก้อน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าราคาดังกล่าวนั้นหนักหนาเกินไป

แม้ว่าตระกูลจั่วของพวกเขาจะมั่งคั่งและมีเส้นชีพจรหยกจิตวิญญาณมากมาย แต่หากพวกเขามอบความมั่งคั่งเช่นนี้ออกไปจริง ๆ ภายในสามหรือห้าปีเกรงว่าพวกเขาคงไม่อาจฟื้นตัวได้!

ขนาดเป็นตระกูลจั่วของพวกเขายังขนาดนี้ แล้วหากเป็นขุมกำลังอื่น ๆ ในแคว้นอวี้ผิงของต้าเซี่ยเล่า? เกรงว่าพวกเขาจะไม่สามารถเอาหินวิญญาณออกมาได้มากมายขนาดนี้แน่!

เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเหล่าคนระดับสูงในตระกูลจั่ว คนอื่น ๆ จะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าคราวนี้ตระกูลจั่วจะต้องสูญเสียเงินไปจำนวนมากอย่างแน่นอน

แต่ซูอี้หัวเราะและพูดว่า “ในสายตาของจั่วซิงเหอ ชีวิตของตระกูลจั่วของเจ้ามีค่าเท่า… ดักแด้วิญญาณหยกหนึ่งอันงั้นหรือ?”

จั่วซิงเหอและคนอื่น ๆ ต่างมีสีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด

รสชาติความอัปยศที่ได้รับ เผยออกมาทางสีหน้าโดยไม่ปกปิด!

ในใจของเหวินซินจ้าว หยวนเหิง และคนอื่น ๆ อดที่จะรู้สึกสงสารเล็กน้อยไม่ได้ แต่พวกเขารนหาที่เอง จะโทษใครได้?

“ห้าเท่า”

ซูอี้ไม่ได้เอ่ยเย้ยหยันอีกฝ่ายต่อ และกล่าวโดยตรงว่า “หากคิดซื้อชีวิตของพวกเจ้าด้วยราคาน้อยกว่าจำนวนนี้ วันนี้ที่แห่งนี้จะมีเลือดนองเป็นสายน้ำ!”

ซี้ด!

จั่วซิงเหอสูดอากาศเย็นเข้า สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงก่อนกล่าวว่า “สหายเต๋าซู ราคานี้คือการทำลายความมั่งคั่งของตระกูลจั่ว ข้าเกรงว่าพวกเราคงไม่อาจยอมรับได้!”

คนใหญ่คนโตในตระกูลจั่วเหล่านั้นเองก็อึ้งไป หัวใจของเหมือนโดนแทงด้วยมีด …โหดร้ายยิ่งนัก นี่แทบไม่ต่างกับการเอาชีวิตคนชราอย่างพวกเขาเลย!

“สหายเต๋าซู พวกข้ายอมจำนนแล้ว แต่เจ้ากลับทำให้พวกข้าอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า และตอนนี้เจ้ากำลังเรียกร้องมากเกินไป เจ้าคิดหรือว่าตระกูลจั่วของข้าเป็นเนื้อบนเขียงไว้ให้เจ้ารอเชือดจริง ๆ?”

ผู้อาวุโสสาม จั่วอวิ๋นเฉา อดที่จะเอ่ยเย้ยไม่ได้และกล่าวว่า “จะบอกให้เจ้าทราบไว้ น้องชายท่านผู้นำ เป็นมหาปราชญ์สวรรค์ของวัดมหาจันทรา หากเจ้าคิดฉีกหน้ากันจริง ๆ เกรงว่าคนแซ่ซูอย่างเจ้าจะไม่สามารถรับผลที่ตามมาได้!”

จั่วซิงเหอคราง ลอบนึกในใจว่าแย่แล้ว

ทว่า ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ซูอี้ก็มองไปที่จั่วอวิ๋นเฉาอย่างเย็นชา และยกมือขึ้นโนเวลกูดoทคอม

ฟุ่บ!

จู่ ๆ ปราณดาบก็ปรากฏขึ้น ตัดผ่านคอของจั่วอวิ๋นเฉาไป

“เจ้า…”

จั่วอวิ๋นเฉายกมือปิดคอตัวเองและเบิกตากว้างราวกับว่าไม่อยากเชื่อ

ฉับพลัน พร้อมเสียงดังตุบ จั่วอวิ๋นเฉาก็ตกลงมาจากอากาศทันที

เขาอยู่ในขอบเขตเปิดทวารเท่านั้น ดังนั้นจะไปต้านทานการโจมตีของซูอี้ได้อย่างไร

ฉากนองเลือดนี้กระตุ้นให้คนระดับสูงในตระกูลจั่วหน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างตกใจและโกรธแค้น ก่อนจะเงียบงัน

จางอวิ๋นเทา และคนอื่น ๆ ก็ตัวสั่น นึกตกใจกับการสังหารอันเด็ดขาดและหมดจดของซูอี้

“ข้าเองก็อยากรู้ว่าพวกเจ้าตระกูลจั่วกล้าที่จะฉีกหน้าหรือไม่”

ซูอี้เอามือไพล่หลังขณะเหลือบมองไปที่จั่วซิงเหอและคนอื่น ๆ

จั่วซิงเหอรู้สึกอึดอัดใจจนแทบจะเป็นบ้า แต่เขาทำได้เพียงอดกลั้นและกระซิบ “สหายเต๋าซู พวกเราสามารถยอมรับเงื่อนไขของเจ้าได้ แต่พวกเราไม่สามารถหาสมบัติมากมายมาได้ในขณะนี้ ข้าขอเวลาเตรียมการหน่อยได้หรือไม่?”

ในเวลานี้ฮั่วอวิ๋นเซิงอดที่จะพูดไม่ได้ว่า “ซูอี้ ทุกคนในตระกูลจั่วต่างรู้ว่าพวกเขาเป็นฝ่ายผิด แต่มันคงไม่ดีนักหากจะต้อนกันเกินไป”

ซูอี้เหลือบมองที่ฮั่วอวิ๋นเซิง ฝ่ายหลังร่างแข็งค้างและสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างนึกหวาดกลัวต่อสายตาเฉยชาของซูอี้

เขากลั้นใจพูดต่ออย่างเคร่งขรึม “ทำไม? หรือเจ้าคิดว่าข้าพูดผิด?”

ซูอี้ไม่สนใจอีกฝ่าย เขามองไปที่จั่วซิงเหอและพูดว่า “ข้ารอนานขนาดนั้นไม่ได้ แต่ข้าจะไม่จงใจทำให้พวกเจ้าอับอาย หากเจ้าไม่สามารถนำสมบัติเหล่านั้นออกมา เจ้าสามารถใช้สมบัติอื่นแทนได้”

จั่วซิงเหอเงียบไป ด้วยเขาตระหนักว่าไม่มีที่ว่างสำหรับการยืดเยื้ออีก!

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็นึกถึงสมบัติชิ้นหนึ่งได้ จึงพูดขึ้นหลังจากใคร่ครวญว่า “สหายเต๋าซู ข้านึกถึงวัตถุแปลก ๆ ชิ้นหนึ่งได้ โปรดรอสักครู่”

หลังจากพูดเสร็จเขาก็รีบส่งคนรับใช้เฒ่าออกไป

ไม่นานหลังจากนั้น คนรับใช้เฒ่าก็กลับมาพร้อมกับกล่องไม้สีดำ

“สหายเต๋าซู โปรดรับชม”

จั่วซิงเหอเปิดกล่องไม้สีดำออก

ภายในกล่องไม้มีสิ่งของขนาดเท่าก้อนกรวดและเต็มไปด้วยฝุ่นอยู่

“นี่คือหยกลึกลับ มันถูกขุดออกมาจากส่วนลึกของเส้นชีพจรวิญญาณเส้นใหญ่ของตระกูลจั่วของข้าเมื่อสามปีที่แล้ว ในเวลานั้น ยามหยกถูกค้นพบก็ได้เกิดนิมิตอันน่าอัศจรรย์ขึ้น พร้อมมีเสียงที่คล้ายเสียงจากสรวงสวรรค์ล่องลอย และโชคมงคลระเบิดออกก่อนปลิวออกไปเหมือนกลีบดอกไม้…”

จั่วซิงเหอกล่าว ก่อนทอดถอนใจ “ข้าคิดว่าข้าได้รับสมบัติที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ผู้ฝึกตนตระกูลจั่วของเราได้ทำการศึกษามาเป็นเวลานาน และข้ายังไม่เคยเห็นสิ่งที่มหัศจรรย์เกี่ยวกับความลึกลับของหยกนี้ ข้ายืนยันได้เพียงว่าสมบัตินี้ไม่กลัวน้ำไฟและเนื้อสัมผัสของมันแข็งแกร่งยิ่ง แม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณทุ่มเทเต็มกำลังก็ยังไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับหยกจิตวิญญาณนี้ได้”

จางอวิ๋นเทา และคนอื่น ๆ อดที่จะมองดูอย่างสงสัยไม่ได้

หินหยกสีเทาด่าง ๆ นี้ ไม่มีจิตวิญญาณ และไร้ความโดดเด่นอย่างยิ่ง เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการภาพยามพบเจอนิมิตอันน่าอัศจรรย์ดังกล่าว

ขณะที่ซูอี้กำลังพิจารณาสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็วูบไหว ก่อนมีความประหลาดใจที่ควบคุมไม่ได้ปรากฏที่ระหว่างคิ้วของเขา

ลึกลงไปในใจของเขาเกิดคลื่นซัดโหม!

เมื่อเห็นว่าซูอี้ตกอยู่ในความเงียบและมีสีหน้าค่อนข้างแปลก ๆ จั่วซิงเหอจึงอดรู้สึกวิตกเล็กน้อยไม่ได้

เขากล่าวว่า “สหายเต๋าซู แม้ว่าข้าจะไม่ทราบที่มาของสมบัตินี้ แต่ข้าก็กล้ากล่าวว่ามันต้องไม่ธรรมดา และไม่อาจประมาณค่าของมันออกมาได้…”

ซูอี้พยักหน้า ดวงตาฉายแววประหลาด ขณะพูดว่า “ข้าไม่ได้คาดหวังว่าโชคของตระกูลจั่วของเจ้าจะค่อนข้างดี”

เพราะในมหาทวีปคังชิงนี้ เกรงว่าจะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา สมบัติในกล่องไม้นี้ทั้งหายากมากและล้ำค่ายิ่ง แม้ว่าจะอยู่ในเก้ามหาแดนดิน พวกมันก็นับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ยากจะพบเห็นในรอบพันปี!

ตระกูลจั่วสามารถค้นหาสมบัติดังกล่าวได้จากเส้นแร่ แล้วซูอี้จะไม่เกิดความรู้สึกตะลึงได้อย่างไร?

“ถ้าตระกูลจั่วของข้าโชคดีจริง ข้าจะเผชิญกับภัยพิบัติในวันนี้ได้อย่างไร?”

จั่วซิงเหอรู้สึกขมขื่นและลอบกล่าวในใจ

“ข้าต้องการสมบัตินี้ ตระกูลจั่วของเจ้าเพียงจ่ายแค่ราคาสำหรับแลกเปลี่ยนสมบัติดักแด้วิญญาณหยกก็พอ”

ซูอี้ตัดสินใจ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จั่วซิงเหอก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก โค้งตัวลงแล้วพูดว่า “ขอบคุณสหายเต๋าที่ละเว้น!”

ใช้หยกที่มีต้นกำเนิดลึกลับแต่ไม่ทราบประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนกับซูอี้ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มอีกห้าเท่า ราคานี้ทำให้จั่วซิงเหอมีความสุขเล็กน้อย!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset