📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 385

บทที่ 385 - ร่างวิญญาณภูต
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ฮวาซิ่นเฟิงตกตะลึง

นางไม่ได้คาดว่าเมื่อซางลั่วอวี่ร้องขอความเมตตา นางจะทำท่าทีเหมือนโดนใส่ร้าย และโกรธเคืองไม่ยินยอม ราวกับว่านางคือผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อ

คิดเสร็จ ฮวาซิ่นเฟิงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “หญิงชั่ว ถ้าเจ้าคุกเข่าลงตอนนี้และตบหน้าตัวเองหนึ่งร้อยแปดหน ข้าอาจช่วยเจ้าช่วยอ้อนวอนคุณชายซู อย่างน้อยตอนตาย เจ้าก็จะมีความสุขนิดหน่อย และไม่จำเป็นต้องทนทุกข์มากนัก”

ซางลั่วอวี่กัดริมฝีปาก ใบหน้าของนางซีดเผือด ทว่านางก็ยังคงมองแต่เพียงซูอี้โดยไม่สนใจฮวาซิ่นเฟิงแม้แต่น้อย

สตรีย่อมรู้จักสตรีด้วยกันดีที่สุด และที่ฮวาซิ่นเฟิงพูดเช่นนี้ก็แค่อาศัยโอกาสนี้ทำให้นางอับอายเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น… ซางลั่วอวี่จะไม่รู้ว่าได้อย่างไรว่าคนที่ตัดสินชีวิตและความตายของนางจริง ๆ ก็คือซูอี้?

เป็นตอนนี้เองที่ซูอี้พูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ข้าจะให้ทางเลือกแก่เจ้า ระหว่างตายกับถูกข้าทำลายฐานการบ่มเพาะและนำดาบโบราณเทียนเซี่ยออกมาจากร่างกายของเจ้าตอนนี้”

ร่างของซางลั่วอวี่สั่นเล็กน้อย นางคิดจะพูดบางอย่าง

ทว่าซูอี้กลับเอ่ยขัด “ถ้าเจ้าพูดจาไร้สาระ ข้าจะสังหารเจ้าลงเดี๋ยวนี้”

เมื่อมองไปยังดวงตาที่ไม่แยแสและสงบนิ่งของซูอี้ หัวใจของซางลั่วอวี่ก็เต็มไปด้วยความกลัวที่อธิบายไม่ถูก

ฮวาซิ่นเฟิงกอดอกมองดูฉากนี้ด้วยความสนใจ

ทางเลือกที่ซูอี้มอบให้นั้นโหดร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย

หากเลือกเงื่อนไขที่สอง แม้อาจไม่ตาย แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์เช่นซางลั่วอวี่การฆ่านางทิ้งยังดีเสียกว่า

ลองนึกภาพตาม เหตุผลที่นางสามารถเป็นตำนานรุ่นเยาว์ของต้าฉินได้ก็เพราะพลังการฝึกฝนของนางนั้นยอดเยี่ยม ประการที่สองเป็นเพราะการยอมรับจากดาบโบราณเทียนเซี่ย

เมื่อนางสูญเสียฐานการฝึกฝนและดาบโบราณเทียนเซี่ยไป นางจะไม่ต่างจากเทพธิดาชั้นสูงผู้ร่วงหล่นซึ่งสูญเสียทุกสิ่งที่เคยมี!

เมื่อถึงตอนนั้น สิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือความทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด!

สิ่งนี้เตือนให้ฮวาซิ่นเฟิงนึกถึงคราที่ซูอี้เคยประสบเมื่อเขาอยู่ในสำนักดาบชิงเหอ ยามสูญเสียการฝึกฝน เขาก็กลายเป็นศิษย์ที่ถูกทอดทิ้งของสำนักทันที และตกเป็นเขยแต่งเข้าที่ถูกเหยียดหยัน…

และในฐานะสตรี ซางลั่วอวี่ หากตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นางจะต้องเผชิญกับการโจมตีที่โหดร้ายแบบใดกัน?

แค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ฮวาซิ่นเฟิงก็พลันตัวสั่นเทา

สำหรับผู้ฝึกตน ไม่ว่าชายหรือหญิง เมื่อพวกเขาสูญเสียความแข็งแกร่ง อัตลักษณ์ สถานะ และตกจากตำแหน่งที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิต สถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญสามารถเรียกได้ว่ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย!

หลังจากผ่านไปนาน ซางลั่วอวี่ก็สูดหายใจเข้าลึกและเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก นางมองไปที่ซูอี้ด้วยสีหน้าบ้าคลั่งและกล่าวว่า

“พวกเจ้าทุกคนบังคับข้าเอง!!”

น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ก่อนที่จะเกิดเสียง…

เคร้ง!

ในขณะที่เสียงนั้นยังคงก้องกังวาน ดาบยักษ์พลันพุ่งออกมาจากข้างหลังซางลั่วอวี่

ดาบโบราณเทียนเซี่ย!

ทันทีที่ดาบออกมา ตัวดาบยาวสี่ฉื่อและกว้างเจ็ดชุ่นซึ่งปกคลุมด้วยปราณดาบสีดำอันทรงพลัง ก็ได้แผ่รัศมีแห่งการทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวออกมา!

เมื่อมองดี ๆ จะพบว่าดาบถูกสลักด้วยลวดลายแปลกประหลาดซึ่งคล้ายกับรูปลักษณ์ของสัตว์ร้ายบรรพกาลอย่างเซี่ยจื้อ*[1] ที่กำลังกางเล็บแยกเขี้ยวดูดุร้ายยิ่ง

“อย่างที่คิด นี่คือศาสตราปีศาจวิถีวิญญาณที่มีร่างวิญญาณภูต”

ดวงตาของซูอี้เป็นประกายอยู่ครู่หนึ่ง

ครั้งแรกที่เห็นซางลั่วอวี่ในหมู่บ้านเทียนสุ่ย ชายหนุ่มก็ตระหนักว่าดาบยักษ์ที่สตรีนางนี้ถือครองอยู่นั้นไม่ธรรมดา

และสรุปได้คร่าว ๆ ว่าร่างวิญญาณภูตที่เกิดจากดาบเล่มนี้ทำตัวคล้ายกาฝากอยู่ในร่างของซางลั่วอวี่ แต่ไม่ได้เข้ายึดครองร่าง

ดังนั้น ซูอี้จึงกล่าวว่าซางลั่วอวี่เป็นผู้สิงสถิตครึ่งเดียว

ตูม!

ดาบยักษ์พุ่งข้ามท้องฟ้าตรงเข้าฟันใส่ซูอี้ ปราณดาบสีดำบดบังท้องฟ้า รัศมีปีศาจอันน่าสะพรึงหนาแน่นไร้ที่สิ้นสุดแผ่ออก

แทบจะในเวลาเดียวกัน ร่างของซางลั่วอวี่ก็หายวับไป ก่อนตรงเข้าสังหารฮวาซิ่นเฟิง

ดูเป็นเรื่องโง่เขลายิ่งที่จะลงมือจัดการซูอี้กับฮวาซิ่นเฟิงพร้อมกัน

แต่ดูเหมือนซูอี้จะเข้าใจ มุมริมฝีปากของเขาจึงอดเผยความดูถูกเหยียดหยามออกมาไม่ได้

เขาโบกแขนเสื้อ

ตูม!

แรงกดดันของพลังต้องห้ามมหาศาลพุ่งสู่ท้องฟ้าราวกับสายธารจากสวรรค์ มันกระแทกเข้าใส่ดาบโบราณเทียนเซี่ยจากในอากาศ

ดาบเล่มนี้มีความพิเศษยิ่ง พลังของมันแข็งแกร่งนัก แต่เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีจากพลังต้องห้ามของ ‘ค่ายกลผนึกเก้าสวรรค์’ ที่สร้างโดยจักรพรรดิปีศาจฮุ่นเทียน ดาบที่ว่าแข็งแกร่งนี้กลับดูจะต้านทานไม่ไหว!

ในชั่วพริบตา…

พร้อมกับเสียงดังปัง ดาบโบราณเทียนเซี่ยร้องคร่ำครวญออกมา ระหว่างที่ร่างสั่นสะท้านอย่างรุนแรง มันพลันถูกปราบและกักขังไว้ โดยไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์!!

“ตายซะ!”

ในเวลาเดียวกัน ซางลั่วอวี่ก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าฮวาซิ่นเฟิง นางโบกฝ่ามือซีดขาว ส่งคมมีดสีดำพุ่งแทงไปทางฮวาซิ่นเฟิง

ฟึบ!

หัวของฮวาซิ่นเฟิงถูกตัดออกโดยตรง

ซางลั่วอวี่หันกลับมามองซูอี้จากไกล ๆ พลางฉีกยิ้มที่ทั้งภาคภูมิใจและบ้าคลั่ง “หากเจ้าต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย เช่นนั้นข้าจะใช้ชีวิตของข้าเพื่อสังหารสตรีข้างกายเจ้า และปล่อยให้เจ้าใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกผิดไปชั่วกัปชั่วกัลป์!”

ซูอี้มีสีหน้าเรียบเฉย

ทำให้ซางลั่วอวี่ตระหนักว่าปฏิกิริยาของซูอี้ไม่ถูกต้อง!

ขณะที่นางงุนงงก็มีเสียงอันน่าสงสารของเด็กน้อยดังขึ้นในทะเลแห่งจิตวิญญาณของนางว่า “นายท่าน สิ่งที่ท่านเพิ่งทำลายไปนั้นเป็นเพียงยันต์แทนกาย”

“ยันต์แทนกาย?”

ราวกับถูกฟ้าผ่า ซางลั่วอวี้กล่าวด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ “นี่มันบ้าอะไรกัน?”

ในเวลานี้เอง ร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้นห่างออกไป และร่างนั้นก็คือฮวาซิ่นเฟิง!

นางปาดเหงื่อเย็นเยียบบนหน้าผากออกด้วยความหวาดกลัว สีหน้าของนางขณะนี้น่าเกลียดยิ่ง

การโจมตีเมื่อครู่รุนแรงและน่ากลัวนัก ทำให้การป้องกันของนางทั้งหมดบอบบางไม่ต่างจากกระดาษ ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ในช่วงเวลาวิกฤตนั้นเองนางได้ทำลายยันต์แทนกายที่ซ่อนอยู่ในฝ่ามือให้แตกจึงรอดพ้นภัยนี้มาได้

ตูม!

ในเวลาเดียวกัน ซูอี้ก็เคลื่อนไหว และด้วยการกดเพียงครั้งเดียว พลังต้องห้ามบนฟ้าก็ราวกับสายฝนโปรยตรงเข้าปกคลุมเงาร่างที่งดงามของซางลั่วอวี่

“เปิด!”

ซางลั่วอวี่พยายามดิ้นรนด้วยพลังทั้งหมด นางผลาญพลังปราณในร่างจนเกินขีดจำกัด แล้วยังใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามอย่างสิ้นหวัง จนปราณในร่างของนางราวกับลุกไหม้และปล่อยพลังอันแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา

แต่ภายใต้การสะกดของพลังต้องห้าม ความพยายามทั้งหมดของนางเสมือนมดปลวกคิดเขย่าต้นไม้ใหญ่ พลังที่ปล่อยออกมาจากร่างกายของนางสลายหายไปจนสิ้น!

“เซี่ย ช่วยข้าด้วย!!”

ซางลั่วอวี่กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

ตูม!

เงาร่างสีดำพุ่งออกมาจากร่างของซางลั่วอวี่ ดูคล้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หากแต่ร่างกายของนางกลับแผ่กลิ่นอายรัศมีปีศาจสีดำอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังต้องห้าม ในชั่วพริบตา เด็กหญิงตัวน้อยพลันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนขดตัวลงอย่างสั่นเทา

“นี่…”

ซางลั่วอวี่พลันหมดสิ้นซึ่งความหวัง

ในเวลานี้ สายฝนจากพลังต้องห้ามทั่วท้องฟ้าก็ตกลงมาตรึงนางกับเด็กหญิงตัวน้อยไว้บนพื้น!

ฟึ่บ!

ไกลออกไป ซูอี้พลันเคลื่อนไหว ก่อนเด็กหญิงตัวน้อยจะพลันลอยออกไปปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าชายหนุ่มอย่างควบคุมไม่ได้

เมื่อพินิจดี ๆ จึงพบว่านางดูอายุราวห้าหกขวบ ผมถูกมัดเป็นมวยเล็ก ๆ และมีผิวขาวเรียบเนียนเหมือนหิมะ ดูน่ารักยิ่ง

เพียงแต่เวลานี้นางรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง จึงขดร่างลงพร้อมสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“ที่แท้ก็แค่ร่างวิญญาณภูตเกิดใหม่ ไม่แปลกใจเลยที่พลังจะอ่อนแอขนาดนี้”

ซูอี้กวาดมองเด็กหญิงตัวเล็กอย่างละเอียด

ศาสตราจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรียกว่า สมบัติจิตวิญญาณ

สมบัติจิตวิญญาณหายากบางส่วน หลังจากที่ได้รับการหล่อเลี้ยงและบ่มเพาะโดยผู้ฝึกตน จะสามารถให้กำเนิด ‘จิตสำนึกภูต’ ได้

โดยสมบัติจิตวิญญาณที่สร้าง ‘จิตสำนึกภูต’ ได้นั้นมีเพียงหนึ่งในพัน

เช่นเดียวกับปีศาจที่ยึดร่างของซูหงหลี่ มันเป็นจิตสำนึกภูตที่เกิดจากระฆังทัณฑ์โลกันต์

เมื่อก้าวไปอีกขั้น จิตสำนึกภูตจะสามารถเปลี่ยนเป็น ‘ร่างวิญญาณภูต’ ซึ่งมีความรู้และปัญญาบางส่วน

ไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริงที่จะบอกว่าสมบัติจิตวิญญาณที่สามารถสร้าง ‘ร่างวิญญาณภูต’ ได้มีเพียงหนึ่งในหมื่น ทั้งจำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญการหลอมกลั่นทุ่มเทกายใจในการหล่อเลี้ยงและใช้ทรัพยากรพิเศษมากมายในบ่มเพาะไปทีละขั้น

หลังจากที่ ‘ร่างวิญญาณภูต’ เติบโตขึ้นก็สามารถเปลี่ยนเป็น ‘ภูตสมบัติ’ ได้

กล่าวได้ว่าในสายตาของผู้ฝึกตน เมื่อถึงจุดนี้ วัตถุวิญญาณเช่น ภูตดาบ ภูตมีด ภูตหอก และภูตอื่น ๆ ถือได้ว่าเป็นสมบัติจิตวิญญาณระดับสูงสุดแล้ว!

ขณะเดียวกันสมบัติแต่ละชิ้นนี้ต่างก็เป็นของหายาก ไม่เพียงแต่จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญการหลอมกลั่นทุ่มเทบ่มเพาะด้วยวัตถุวิญญาณและวิธีการลับมาเป็นเวลานาน แต่ยังต้องการโชคและโอกาสส่วนหนึ่งด้วย!

ไม่อาจกำหนดความสำเร็จได้!

ดาบที่มีภูตดาบนั้นเพียงพอที่จะทำให้มหาปราชญ์สวรรค์แห่งวิถีวิญญาณทั้งหลายทึ้งหัวตัวเอง กระทั่งตัวตนระดับขอบเขตจักรพรรดิเองก็หวั่นไหวเช่นกัน!

ความน่ากลัวของพลังของมันนั้นห่างชั้นจากสมบัติจิตวิญญาณธรรมดามากนัก

เด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ข้างหน้าเขาคือ ‘ร่างวิญญาณภูต’ ที่แปลงมาจาก ‘จิตสำนึกภูต’ ซึ่งดีกว่าปีศาจที่แย่งร่างซูหงลี่มากนัก

ยิ่งไปกว่านั้น เด็กหญิงตัวน้อยยังมีโอกาสเติบโตเป็น ‘ภูตสมบัติ’ ที่มีศักยภาพสูงด้วย

อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงตัวน้อยนั้นเพิ่งเกิดจากดาบโบราณ พลังของนางจึงยังอ่อนแอมาก นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ซางลั่วอวี่ไม่กังวลว่าจะถูกแย่งร่างไป

เมื่อเผชิญกับสายตาจ้องพินิจของซูอี้ เด็กหญิงตัวน้อยก็ตัวสั่นเทา รู้สึกหวาดกลัวและไม่สบายใจกว่าเดิม

ฟึบ!

ซูอี้เอื้อมมือออกไป ดาบโบราณเทียนเซี่ยซึ่งถูกพลังกักขังได้พักหนึ่งแล้วพลันเข้ามาอยู่ในมือของเขา จากนั้นซูอี้ก็มองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยแล้วพูดว่า “กลับเข้าไปเสีย”

เด็กหญิงตัวน้อยไม่กล้าปฏิเสธ ร่างของนางเปล่งแสง ก่อนตรงเข้าไปในดาบโบราณเทียนเซี่ย

เพียะ!

ไกลออกไปมีเสียงตบอันกังวานดังขึ้น

เมื่อหันไปก็เห็นฮวาซิ่นเฟิงก้าวไปข้างหน้า นางตบใบหน้าที่เย็นชาและงดงามของซางลั่วอวี่ “ตบนี้ เพราะเจ้าไม่มีตา!”

ฉับพลันใบหน้าที่งดงามของซางลั่วอวี่ซึ่งขาวพอ ๆ กับขนแกะก็กลายเป็นสีแดงและบวมฉึ่ง นางตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว “ถ้าแน่จริงก็ฆ่าข้าสิ!”

ตบ!

ตบอีก

ฮวาซิ่นเฟิงกล่าวว่า “ตบนี้ เพราะเจ้าไม่รู้สำนึก”

ตบ!

เพียะ!

เพียะ!

เห็นได้ชัดว่าฮวาซิ่นเฟิงสะสมโทสะไว้เต็มท้อง นางตบซางลั่วอวี่อย่างต่อเนื่องไม่ยั้ง ซึ่งการตบแต่ละครั้งใช้แรงเต็มกำลัง เพียงไม่นานปากของซางลั่วอวี่ก็แตก ฟันกระเด็นหลุดออกมา จนกระทั่งนางไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

ดังที่คนโบราณกล่าวไว้ ยามที่สตรีทรมานสตรีด้วยกันจะโหดเหี้ยมยิ่งกว่าบุรุษ

ซูอี้ที่อยู่ไกลออกไปทนมองไม่ได้ เขาส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “แค่ฆ่านางทิ้งซะ”

“เอ้อ ก็ได้”

โทสะของฮวาซิ่นเฟิงถูกระบายออกจนเกือบหมดแล้ว นางเกรงว่าหากลงมือต่อจะทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีให้แก่ซูอี้ ดังนั้นจึงรีบชักดาบขึ้นสนิมข้างเอวออกมาและแทงไปยังหัวใจของซางลั่วอวี่

ฉัวะ!

เมื่อดาบถูกชักออก ซางลั่วอวี่ ตำนานรุ่นเยาว์ของต้าฉินก็ได้เสียชีวิตลงด้วยความอัปยศอดสูและความสิ้นหวังอันไร้สิ้นสุด

ฮวาซิ่นเฟิงเก็บดาบยาวลง เดินไปอยู่ข้างกายซูอี้ ก่อนก้มหน้าลงอย่างเขินอายแล้วพูดว่า

“ข้าทำให้ท่านต้องหัวเราะแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะนังแพศยาทำให้ข้าโกรธ ปกติข้าเป็นคนนิสัยดีและมักรังเกียจที่จะทรมานศัตรูเช่นนี้…”

[1] เซี่ยจื้อ เป็นสัตว์ตามตำนานของจีน มีความสามารถในการแยกแยะถูกผิด จึงเป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรม

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset