📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 337

บทที่ 337 - ถูกสวรรค์และโลกทอดทิ้ง
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“แค่เจ้าคนเดียวคิดทำลายเคล็ดวิชาลับนับพันงั้นหรือ? เหอะ! น่าขันสิ้นดี!”

ซูหงหลี่พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา

อึดใจต่อมา ร่างของซูหงหลี่ก็เปล่งแสงสีทองเจิดจ้า จุดชีพจรและเส้นลมปราณทั้งหมดเปิดออกและขยายใหญ่ ปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัว

ในทันใดนั้น ปราณวิญญาณในร่างของเขาได้ควบแน่นเป็นหนึ่ง ก่อนจะผสานกับโลกหล้า

ตูม!

พลังของซูหงหลี่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในสายตาของผู้คนขณะนี้ ซูหงหลี่ไม่ต่างจากจ้าวผู้ปกครองโลกหล้า พลังของเขาที่ปลดปล่อยออกนั้นเหนือล้ำเกินบรรยาย มันมากมายและรุนแรงราวกับมหาสมุทรคลั่ง

ขณะนี้ซูหงหลี่แข็งแกร่งกว่าเดิมเพียงใดไม่มีผู้ใดคาดเดาได้!

ซูหงหลี่โบกแขนเสื้อของเขา

ปราณวิญญาณในรัศมีหลายสิบลี้รวมตัวกันที่ฝ่ามือของเขาอย่างฉับพลัน ควบแน่นกลายเป็นก้อนแสงสีทองอันเจิดจ้าก่อนมันจะพุ่งไปหาซูอี้

การโจมตีนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นได้เด่นชัดว่าซูหงหลี่บรรลุถึงความเข้าใจในพลังแห่งฟ้าดินสูงล้ำยิ่งยวด เขาสามารถควบคุมพลังที่อยู่รายล้อมได้ดั่งใจนึกภายในชั่วพริบตา!

สิ่งนี้ต่างทำให้ผู้คนตกตะลึงจนแทบจะอ้าปากค้าง

ทว่าเกือบจะในเวลาเดียวกัน ซูอี้โบกมือบังคับหมู่ดาวให้ร่วงหล่นเข้าปะทะกับพลังสีทองเจิดจ้าของซูหงหลี่

ตูม!

การปะทะครั้งนี้ยากจะอธิบาย

ทั้งสองมีพลังพอจะบดขยี้ภูผาหรือสายธารให้เป็นจุณ ดังนั้นแล้วเมื่อยามที่พลังของทั้งสองปะทะกัน มันจึงไม่ต่างจากภูเขาไฟสองลูกชนกันอย่างไม่มีใครยอม คลื่นแห่งการทำลายล้างกวาดออกไปทุกทิศทุกทางอย่างไม่มีใครสามารถยับยั้งได้

ถนนและตรอกที่อยู่ใกล้เคียงถูกทำลายไปนานแล้ว ดังนั้นเมื่อคลื่นระเบิดจากการปะทะนี้บังเกิดขึ้น ผืนดินโดยรอบจึงยิ่งพังทลายและจมลงเป็นหลุมขนาดยักษ์ หินกรวดและซากสิ่งของมากมายปลิวว่อน

แม้แต่เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่ห่างไกลก็ยังได้รับผลกระทบ บางผู้คนซึ่งบินอยู่ถูกคลื่นปะทะนี้กระแทกจนร่วงหล่นไปกับพื้นก็ยังมี

บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายต่างก็พูดไม่ออกเช่นกัน

การต่อสู้ระดับนี้อย่าว่าแต่การเข้าไปมีส่วนร่วม พวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรับชมใกล้ ๆ ด้วยซ้ำ หลายคนต้องอพยพไปให้ไกลกว่าเดิมไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะถูกบดขยี้เป็นผุยผงเพราะคลื่นปะทะจากการต่อสู้ระหว่างซูอี้และซูหงหลี่

ส่วนบรรดาเทพเซียนเดินดินต่างก็ปกป้องตัวเองจากคลื่นปะทะกันเป็นพัลวัน สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนตกตะลึงไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิด

ว่ากันว่าเมื่อใดที่ผู้ฝึกตนแท้จริงบังเกิดโทสะ เขาจะสามารถคว่ำภูเขา ตัดแม่น้ำ ทำลายเมือง ลบแผ่นดินได้อย่างง่ายดาย ทว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าขณะนี้มันไม่แตกต่างกันเลยไม่ใช่หรือ!

ตูม!

ซูหงหลี่ซัดฝ่ามือออกไปอีกครั้ง

คราวนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยปราณวิญญาณก่อนจะควบแน่นกลายเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์ ราวกับมังกรคว้าเหยื่อ ฝ่ามือเปลี่ยนท่าทางเป็นกรงเล็บคว้าเข้าหาซูอี้อย่างฉับพลัน

ทุกคนสามารถเห็นได้ว่าขณะนี้ ซูหงหลี่พยายามจะพลิกสถานการณ์กลับคืนมาโดยใช้พลังที่มากกว่าครั้งก่อน ๆ

“ก็แค่กลเม็ดจับแมลงอันเล็กจ้อย” ซูอี้เอ่ยออกก่อนจะสับสันมือเป็นการตอบโต้

เหล่าดวงดาวถูกจัดเรียงทีละดวง กลายเป็นแผนเครือข่ายดาวขนาดใหญ่ ดาวแต่ละดวงหมุนโคจรสอดคล้องกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายไม่รู้จบ

พลังการโคจรของมวลหมู่ดาวแผ่ขยายไร้ที่สิ้นสุดราวกับจะบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางหน้าซูอี้

บรึม!!

ฝ่ามือยักษ์ของซูหงหลี่ถูกบดขยี้จนแหลกลาญและระเบิดหายไปจนไร้ร่องรอย

ทว่าซูหงหลี่ไม่ได้สนใจ เขาโบกมือขับเคลื่อนพลังแห่งฟ้าดินรอบด้าน ส่งผลให้ท้องฟ้าทั้งหมดปั่นป่วน เมฆและหมอกเปลี่ยนเป็นสีมืดครึ้ม แต่ร่างกายของเขากลับเปล่งแสงสีทองส่องไปทั่วทศทิศ

ประหนึ่งคล้ายคนผสานกับโลกหล้าหลอมรวมเป็นหนึ่ง!

ในทางกลับกัน ซูอี้ไม่ได้ยืมพลังจากภายนอกมาแม้แต่น้อย เขาอาศัยเพียงพลังอันมากล้ำในร่างกายและความแข็งแกร่งทางกายภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขาเอง

“การหยิบยืมพลังแห่งสวรรค์และโลกบ่อยครั้งหาใช่เรื่องดีไม่ มันจะทำให้เจ้าถูกสรรพสิ่งทอดทิ้งไม่ช้าก็เร็ว ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเจ้า ซูหงหลี่ มีความสามารถมากพอให้ข้าชายตามอง แต่ปรากฏว่าแท้จริงเจ้าเป็นเพียงมนุษย์ที่สายตาตื้นเขิน”

ซูอี้ส่ายหัวไปมาขณะที่เขาเอ่ยกล่าวɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm

“ผู้ฝึกตนที่แท้จริงย่อมหยิบยืมใช้พลังแห่งโลก สวรรค์ ผืนดิน ภูเขา และแม่น้ำเป็นเรื่องปกติวิถี อีกทั้งมันคือเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างปุถุชนคนเดินดินกับผู้บ่มเพาะ คำพูดของเจ้าที่เอ่ยออกมานั้นไร้สาระทั้งเพ!”

ดวงตาของซูหงหลี่เย็นชาและเย้ยหยัน

หลังจากพ่นลมหายใจ ซูหงหลี่พนมมือพลางควบแน่นพลังแห่งโลกและสวรรค์เอาไว้ในสองฝ่ามือก่อนจะผายมือออกปลดปล่อยกรงแสงสีทองขนาดยักษ์บินพุ่งไปกักขังซูอี้ภายในพริบตา

นี่คือวิชาลับกักขังอันทรงพลังซึ่งเป็นไพ่ลับหนึ่งของเขาเอง

หากผู้ฝึกตนคนใดติดอยู่ในกรงนี้ คนผู้นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากปลาที่อยู่อวน ถูกตัดขาดจากทุกสิ่งในโลกหล้าโดยสิ้นเชิง

เมื่อขัดขืนไม่ได้อีกทั้งยังถูกกักขัง ชะตากรรมท้ายสุดคือการถูกสยบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“พังไปซะ!”

ผมยาวสีดำของซูอี้ปลิวไสว เลือดลมของเขาสูบฉีดอย่างรุนแรง

รัศมีแสงศักดิ์สิทธิ์ปะทุออกจากร่าง ดวงดาวทั้งหลายรวมตัวเคลื่อนคล้อยประหนึ่งคล้ายแม่น้ำอันยิ่งใหญ่แห่งดารา ส่งเสียงคำรามดังก้องไปนับร้อยลี้

ตูม!!!

ฟ้าดินสั่นสะเทือนรุนแรง เมฆหมอกพลันกระจัดกระจาย

ท้ายที่สุด แม้ว่าซูอี้จะทำลายกรงยักษ์สีทองของซูหงหลี่ได้ แต่ทว่าเขาก็ยังได้รับผลกระทบ ทั้งร่างส่ายไปมาเล็กน้อย เลือดลมภายในร่างปั่นป่วน

แต่ผลกระทบนั้นอยู่เพียงชั่วอึดใจ เมื่อกลับเป็นปกติซูอี้ก็ถอนหายใจเบาและพูดว่า “เจ้าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรถ้าเจ้าเอาแต่ใช้พลังแห่งสวรรค์และโลกเพื่อปราบปรามข้า?”

หลังจากเอ่ยจบ ร่างของซูอี้เปล่งรัศมีแสงห้าสีราวกับกำลังลุกไหม้ มันคล้ายว่าร่างที่หลับใหลของเขาก่อนหน้านี้พลันถูกปลุกขึ้นแล้ว

เมื่อเห็นฉากนี้ ซูหงหลี่จึงรีบรุดพุ่งไปข้างหน้า จากนั้นยกมือขวาของเขาขึ้นและเปล่งแสงสีทองอันเจิดจ้าจนผู้คนแสบตา

“สังหาร!”

ซูหงหลี่ซัดฝ่ามืออกไปสุดกำลัง

ในสายตาของเหล่าผู้ชม พวกเขารู้สึกว่าพลังของโลกทั้งใบสถิตอยู่ในฝ่ามือนี้ ใครก็ตามที่ต้องการเป็นศัตรูกับซูหงหลี่ ดูเหมือนจะจ้องเป็นศัตรูของสวรรค์และโลกด้วยเช่นกัน

ตูม!

ซูอี้สั่นคลอนอีกครั้งและถูกอำนาจของฝ่ามือนี้กระแทกถอยหลังกลับ

ฉากนี้ ทำให้มู่ซี ผูอี้ หลานซัวและสีหน้าของคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปในทันที หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น

ใครบ้างไม่เห็นว่าเวลานี้ซูหงหลี่กำลังได้เปรียบ?

“นี่คือความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาและผู้ฝึกตนแท้จริง”

ซูหงหลี่กล่าวอย่างเฉยเมย เขาควบคุมพลังแห่งโลกและสวรรค์อีกครั้งราวกับพระเจ้า ก่อนพุ่งเข้าหาซูอี้อีกครั้ง

ดวงตาของเขาประหนึ่งท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่มองเห็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดรวมไปถึงซูอี้ไม่ต่างจากมด

“อย่างนั้นหรือ?”

ซูอี้เยาะเย้ย “เช่นนั้นแล้วข้าอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าหากไร้พลังแห่งสวรรค์และโลก เจ้าจะกลายเป็นเช่นไร?”

หลังจากพูดจบ ซูอี้ก็โคจรพลังในร่างกายส่งถ่ายไปที่กำปั้น

ขณะเดียวกันดาวห้าดวงได้ปรากฏต่อหน้าซูอี้ ดาวแต่ละดวงมีสีที่แตกต่าง น้ำเงิน แดง ขาว เหลือง และดำ พวกมันหมุนวนพร้อมกันคล้ายเป็นวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุอันแพรวพราว แสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าผสานเข้ากันจนกลายเป็นความโดดเด่นอย่างไม่มีสิ่งใดจะเทียบเปรียบได้

อึดใจถัดมาธาตุทั้งห้ารวมกันเป็นหนึ่งเดียว และกลายเป็นสีใสดั่งผลึกแก้ว ปลดปล่อยอำนาจกดดันอย่างไม่มีสิ่งใดจะเทียบเทียมได้!

นี่คือพลังที่แท้จริงของซูอี้ในขอบเขตที่เขาอยู่ขณะนี้

วงแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่ก่อตัวขึ้นจากดาวห้าดวงสีใสนั้นดูคล้ายพร่ามัว แต่แท้จริงแล้ว พลังของพวกมันถูกควบแน่นจนสุดขั้ว สุดขั้วจนคล้ายกับความโกลาหลอันไม่อาจคาดเดาได้!

“ไป!”

ซูอี้ชกกำปั้นของเขาออก

บรึม!

พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่โดยรอบบริเวณปั่นป่วนอย่างรุนแรง พื้นที่ทั้งหมดรัศมีหลายสิบลี้ถูกปกคลุมด้วยอำนาจพลังอันน่าสะพรึงกลัว

ขณะที่วงแหวนศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุถูกปลดปล่อย ซูหงหลี่ก็ตระหนักได้อย่างฉับพลันว่าพลังแห่งสวรรค์และโลกที่เขาเคยควบคุมได้จู่ ๆ กลับไม่อาจควบคุมมันได้อีกแล้ว

มันราวกับว่าพลังแห่งสวรรค์และโลกนั้นถูกสยบโดยการโจมตีของซูอี้ และเขาก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขสิ่งใดได้เลย!

สีหน้าของซูหงหลี่แปรเปลี่ยนในทันที

“เปิด!”

เลือดลมของเขาเดือดพล่าน เมื่อไม่สามารถหยิบยืมพลังแห่งสวรรค์และโลกมาใช้ได้ ซูหงหลี่จึงโคจรพลังในร่างของตัวเองจนถึงขีดสุดและชกหมัดออกไปต้านอย่างสุดกำลัง

ตูม!

การระเบิดทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนดังก้อง

ภายใต้อำนาจของวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ พลังหมัดของซูหงหลี่แหลกสลายราวกับเศษกระดาษ จากนั้นทั้งร่างของซูหงหลี่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังห้าธาตุอันน่าสะพรึงกลัวของซูอี้

ตูม!

ท่ามกลางควันและฝุ่นผง ร่างของซูหงหลี่กระเด็นถอยห่างออกไปหลายสิบก้าว

ผู้ชมทั้งหลายต่างตกตะลึงเมื่อเห็นสภาพของซูหงหลี่ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงและเสื้อผ้าขาดวิ่นราวกับขอทาน เห็นได้

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset