📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 312

บทที่ 312 - ท่าเรือหลงจิ่ง
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

สำหรับสัตว์อสูรอย่างเต่าชรา มันคงเป็นการยากในการหาหนทางเช่นนั้น

ด้วยมันง่ายมากที่จะพบเจอภัยพิบัติและถูกฆ่าตาย

ดังนั้นซูอี้จึงรู้ว่าเต่าชราชื่นชมเขาเพราะอะไร

“เจ้าไม่กังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหรือ?” ซูอี้ตีหน้าเฉยเอ่ยถาม

สิ่งที่เว่ยเสียนพูดก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะพยายามจะใส่ร้าย ทว่าก็ไม่นับว่าผิดเสียทีเดียว

ด้วยคนผู้นี้คิดถูกอย่างหนึ่ง ในต้าโจว มีคนมากมายที่ถือว่าซูอี้เป็นหายนะ และเกรงว่าพวกเขาจะมามีส่วนเกี่ยวข้องกับซูอี้

เต่าชราเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ด้วยความสัตย์จริง หลังจากเรียนรู้สิ่งที่ท่านผู้ยิ่งใหญ่ทำเมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้าก็มีความมุ่งมั่นมากขึ้นอีก อีกอย่าง พวกผู้ฝึกตนธรรมดาย่อมไม่อาจเทียบกับผู้ยิ่งใหญ่ได้! วันนี้การต่อสู้ของท่านกับฉือเฟิงหลิวได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามุมมองของข้านั้นไม่ผิด”

เมื่อพูดอย่างนั้น นัยน์ตาของสัตว์อสูรที่มีชีวิตอยู่มานานกว่าสามร้อยปีกลับกลายเป็นความตื่นตระหนกอีกครั้ง “ยิ่งไปกว่านั้น หากท่านกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติ ข้าก็ขอบอกเลยว่าท่านไม่ต้องกังวลไป!”

“สรุปคือ ต่อให้ตายเพราะท่าน ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ!”

น้ำเสียงนั้นก้องกังวานและหนักแน่น

ทุกคนบนเรืออดไม่ได้ที่จะขยับตัว พวกเขาไม่คาดคิดว่าเต่าชราที่น่าสะพรึงกลัว จะชื่นชมคนหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีอย่างซูอี้ถึงเพียงนี้

ซูอี้พยักหน้า มองไปที่เว่ยเสียนบนเรือ และกล่าวว่า “แล้วเจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไรกับคนผู้นี้ดี?”

เว่นเสียนตกใจตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก และเมื่อได้ยินคำพูดนั้น วิญญาณของเขาก็แทบจะออกจากร่าง เร่งคุกเข่าลงบนพื้นทันที

เขาอยากจะเปิดปากพูด แต่ถูกกดโดยจิตสัมผัสของซูอี้ จึงไม่สามารถออกเสียงคำใดได้

การแสดงออกของเต่าชราเริ่มเคร่งขรึม ตระหนักว่าซูอี้กำลังทดสอบตนเองอยู่

ผ่านไปครู่หนึ่งมันก็พูดอย่างเคร่งขรึม “รายงานต่อท่านผู้ยิ่งใหญ่ ตามมุมมองของข้า ถ้อยคำเหล่านั้นโกหกและกล่าวตามอำเภอใจ เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะถูกลงโทษโดยท่านผู้ยิ่งใหญ่เป็นการส่วนตัว! หากท่านสังหารเขา รังแต่จะเป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้เขาแทน”

มันโบกเท้าหน้าที่ใหญ่ราวกับเสาหิน คว้าเว่ยเสียนขึ้นมากลางอากาศ เช่นเดียวกับการบีบมดจนตาย มันบีบเว่ยเสียนทั้งเป็น เลือดไหลลงมาจากช่องว่างของกรงเล็บแหลมคมของมัน

ฉากนองเลือดทำให้ทุกคนบนเรือต่างกรีดร้องและเกิดความวุ่นวาย

เช่นเดียวกับเวินอวี้ชง ใบหน้าของเขาซีดด้วยความกลัว!

“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ หากในอนาคตจะลงโทษผู้คนที่ไม่คู่ควรเช่นนี้ ได้โปรดบอกข้า!”

เต่าชราเปิดปากพูดอย่างเคร่งขรึม

ไม่ต้องพูดถึงการฆ่าเว่ยเสียน หากซูอี้สั่งให้มันกลืนเรือ มันก็ย่อมทำโดยไม่ลังเล!

ซูอี้ถอนหายใจเบา ๆ “เจ้าเต่าน้อย เจ้ามีความฉลาดในเรื่องเล็ก ๆ แต่กลับไม่มีปัญญาในเรื่องใหญ่โต เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าว่าซูผู้นี้อยากจะแบกรับความอับอายนั้น?”

เต่าชราตกตะลึง และก็รู้สึกตื่นตระหนกในทันใด คิดว่าตนเองล้มเหลวใน ‘การทดสอบ’ ของซูอี้ และรีบพูดขึ้นว่า “ท่าน…”

ซูอี้ขัดจังหวะ “ไม่จำเป็นต้องพูด ด้วยความถนัดและพรสวรรค์แม้ว่าเจ้าจะทื่อเล็กน้อย แต่เมื่อเจ้าจริงใจต่อซูผู้นี้… เช่นนั้นแล้วเจ้าจงรออยู่ข้าง ๆ ก่อน”

ขณะที่พูดอย่างนั้น เขาก็ก้าวเข้าไปในอากาศและลงไปยืนบนเรือ

เมื่อเห็นซูอี้เข้ามาใกล้ เวินอวี้ชงพลันถอยหลังไปสองสามก้าว ขณะเดียวกันกายก็สั่นกลัวอย่างไม่อาจควบคุม… เมื่อคิดว่าซูอี้มาที่นี่เพื่อสังหารเขา

แต่มีหรือที่ซูอี้จะสนใจตัวตนเล็กจ้อยเช่นนั้น? เขาเพิกเฉยต่อเวินอวี้ชงอย่างสมบูรณ์

“เจ้าทั้งสอง อยากเข้าร่วมกับข้าและพาเจ้าเต่าตัวน้อยนี้ไปที่นครหลวงอวี้จิงหรือไม่?”

ซูอี้มองไปที่ฟู่ชิงเหยี่ยนและกูไฉ่หนิง

ฟู่ชิงเหยี่ยนตกตะลึงและกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้าและศิษย์น้องไม่รู้จักหน้าของศิษย์พี่ซู ดังนั้นสิ่งที่เราพูดและทำระหว่างทางจึงไม่เหมาะสม ศิษย์พี่จะไม่ตำหนิพวกเราทั้งสองหรือ?”

ซูอี้หัวเราะและพูดว่า “พวกเจ้าดูแลข้าอย่างดีตลอดทาง เหตุใดถึงพูดเช่นนั้น?”

กูไฉ่หนิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “คุณ… คุณชายซูจะไม่ตำหนิพวกเราจริง ๆ หรือ?”

“แน่นอน”

ซูอี้พยักหน้า “อย่างไรเล่า? พวกเจ้าจะไปกับข้าหรือไม่”

ฟู่ชิงเหยี่ยนและกูไฉ่หนิงหันสบตากันและพยักหน้า

ทั้งคู่รู้ว่าถ้าพวกเขายังอยู่บนเรือ เมื่อซูอี้จากไป เวินอวี้ชงและคนอื่นย่อมเข้ามาถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขากับซูอี้อย่างแน่นอน

ตอนนั้นทั้งสองคนเกรงว่าจะถูกคนอื่นขับไล่และเป็นปรปักษ์

“ไป”

ซูอี้ไม่รอช้า โบกแขนเสื้อของเขา พลังที่มองไม่เห็นโอบอุ้มคนทั้งสามลอยขึ้นไปอยู่บนหลังเต่าชรา

การถูกผู้ฝึกยุทธ์เหยียบหลังย่อมถือเป็นความอัปยศของเต่าชรา

แต่เมื่อเป็นซูอี้ เต่าชรากลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่ามันได้รับการยอมรับอย่างมาก จนแทบรู้สึกอยากกรีดร้อง

“ไปนครหลวงอวี้จิง”

ซูอี้นั่งลงตามใจชอบ ต้องบอกว่าหลังของเต่าชรานี้ใหญ่โตราวกับภูเขา และมั่นคงกว่าเรือนั้นมาก

“อื้ม!”

เต่าชราโบกทั้งสี่แขน พาทั้งสามคนแหวกว่ายออกไป

เมื่อทุกคนบนเรือเห็นดังนั้น พวกเขาก็อยู่ในภวังค์โนเวลกูดอทคอม

การเดินทางในแม่น้ำชิงหลานโดยขึ้นขี่เต่าชรา?

นี่มันสวรรค์ชัด ๆ!

“ชายผู้นี้… ไม่สนใจข้า…”

เวินอวี้ชงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก แต่ความรู้สึกอับอายที่อธิบายไม่ได้พลันหลั่งไหลออกมาจากหัวใจของเขา

รสชาติของการถูกละเลยเป็นเช่นนี้นี่เอง!

……

ซู่~

เต่าชราแหวกว่ายไปตามแม่น้ำชิงหลาน ไม่เร็วหรือช้า มั่นคงดุจภูเขา

ระหว่างทางฟู่ชิงเหยี่ยนและกูไฉ่หนิงรู้สึกราวกับฝันไป นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาข้ามแม่น้ำด้วยวิธีนี้

เมื่อเผชิญหน้ากับซูอี้ ทั้งคู่รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่เคยเป็นมา และมีความกลัวที่อธิบายไม่ได้

ซูอี้เองก็สัมผัสได้ถึงท่าทีของคนทั้งคู่ที่เปลี่ยนไปเช่นกัน

ก่อนที่ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผย ไม่ว่าจะฟู่ชิงเหยี่ยนหรือกูไฉ่หนิงต่างก็ปฏิบัติต่อตัวเขาในฐานะเพื่อน พูดคุยได้อย่างอิสระ

แต่เมื่อรู้ว่าเป็นใคร ทั้งสองก็ไม่กล้าที่จะถือว่าตนเองเป็นเพื่อนกับเขาอีกโดยไม่รู้ตัว…

นี่เป็นเรื่องปกติ

ในเก้ามหาแดนดิน เมื่อผู้เฒ่าบางคนเดินทางไปทั่วทั้งดินแดน หากไม่จำเป็น พวกเขาจะไม่แสดงพลังศักดิ์สิทธิ์ของตนต่อหน้าผู้อื่น

มิฉะนั้น ไม่รู้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตตัวใดเข้ามารบกวนระหว่างทาง นำพาซึ่งความวุ่นวายและปัญหาที่ไม่จำเป็นเข้ามามากมาย!

ดังนั้นหากใครก็ตามที่มีขั้นพลังขอบเขตสูงล้ำต้องการท่องโลก พวกเขาจะปกปิดพลังปราณในกาย หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนใบหน้าของพวกเขาเอง

จุดประสงค์คือเพื่อไม่ให้รบกวนผู้อื่นและเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกรบกวนจากผู้อื่นด้วยเช่นกัน

แม้ว่าซูอี้จะพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนทั้งสอง แต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจขจัดความกลัวในใจของคนทั้งคู่ได้

อีกทั้งยังไม่สามารถพูดคุยและหัวเราะได้เหมือนเมื่อก่อน

เมื่อเวลาผ่านไป

ในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาว ไกลออกไปในแนวชายฝั่ง ที่แคบและยาวสุดลูกหูลูกตาได้ปรากฏขึ้น ที่แห่งนั้นมีท่าเทียบเรือ และเรือก็หนาแน่นราวกับต้นไม้ในป่า เป็นฉากที่มีชีวิตชีวาและพลุกพล่าน

“หยุดตรงนี้”

ซูอี้เอ่ย แล้วเดินเข้าไปหา ด้วยร่างใหญ่ราวกับภูเขาของเต่าชรา มันคงจะต้องรบกวนผู้คนบนฝั่งเป็นแน่

“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ด้านหน้าคือ ‘ท่าเรือหลงจิ่ง’ หลังจากลง ให้เดินไปตามถนนราว ๆ สามสิบลี้ จากนั้นจะเจอ ‘ช่องประตูมังกร’ ”

เต่าชราหยุดอยู่ในน้ำ กระดองลอยอยู่เหนือแม่น้ำไม่ถึงสองชุ่น กล่าวด้วยความเคารพว่า “หลังจากข้ามช่องประตูมังกรแล้ว ท่านจะไปถึงนครหลวงอวี้จิงได้”

ซูอี้ยืนขึ้น ปัดเสื้อผ้าของเขาเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าเป็นสัตว์อสูร และอยู่ห่างจากการเปลี่ยนแปลงเพียงเอื้อมเท่านั้น เจ้าสามารถไปหาเถาชิงซาน เขาจะให้เคล็ดวิญญาณแปรกำเนิดแก่เจ้า สิ่งนี้สามารถแปลงร่างเจ้าเป็นผู้ฝึกตนอสูร ไว้เดินบนเส้นทางของวิถีต้นกำเนิดจงมาหาข้าอีกครั้ง จากนั้นข้าจะสอนทักษะการฝึกฝนที่เหมาะสมให้แก่เจ้า”

เต่าชราพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”

มันรู้ว่ามันได้รับการยอมรับจากซูอี้แล้ว

แต่เส้นทางนั้นยังห่างไกล ต้องรอเมื่อมันเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างแท้จริงและเดินบนเส้นทางของวิถีต้นกำเนิดเท่านั้น มันจึงจะได้รับการยอมรับจากซูอี้อย่างแท้จริง

แต่ถึงกระนั้น เต่าชราก็ดีใจมากและตระหนักว่ามีโอกาสสำหรับมัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวมันเองแล้วว่าจะสามารถคว้ามันไว้ได้หรือไม่!

“ว่าแต่ เจ้ามีชื่อหรือไม่?” ซูอี้ถาม

ท่านผู้ยิ่งใหญ่ตั้งใจจะให้ชื่อข้าหรือ?

เต่าชราระงับความตื่นเต้นและความปีติยินดีของเขา กล่าวว่า “รายงานต่อนายท่าน หลายปีมานี้ถูกคนในโลกสามัญเรียกว่า ‘ชิงหลาน สุ่ยจุน’ หรือเหล่าหยวน ถ้าเป็นไปได้ ข้าหวังว่าท่านผู้ยิ่งใหญ่จะตั้งชื่อให้ข้า!

ซูอี้ยิ้มทันที ดวงตาของเขากวาดไปรอบ ๆ และพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “เจ้าอาศัยอยู่ในแม่น้ำชิงหลางเพื่อฝึกฝน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าไม่สามารถแปลงกายได้ แม้ว่าพรสวรรค์ของเจ้าจะมีเพียงน้อยนิด แต่ก็ยังถือว่าเกี่ยวข้องกับซูผู้นี้ รอให้เจ้าแปลงกายเพื่อพิสูจน์ตนได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะตั้งชื่อเต๋าให้”

ชื่อเต๋า!

เต่าชราพูดอย่างตื่นเต้น “ข้าจะทำตามความคาดหวังของผู้ยิ่งใหญ่!”

ฟู่ชิงเหยี่ยนและกูไฉ่หนิงสบตากันด้วยความรู้สึกงงงวย มันเป็นแค่ชื่อเต๋า ต้องปีติยินดีถึงขนาดนั้นเลยหรือ?

ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองก็ไม่ใช่ผู้ฝึกฝนที่แท้จริง จึงไม่รู้ว่าการให้ ‘ชื่อเต๋า’ นั้นพิเศษมากเพียงใด ไม่เพียงประกอบด้วยความคาดหวังของผู้ให้เท่านั้น แต่ยังเป็นการยกย่องและปกป้องอีกด้วย!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเพณีลัทธิเต๋าโบราณ จะมีพิธีพิเศษสำหรับการให้และรับ ‘ชื่อเต๋า’ ข้อกำหนดมีความเข้มงวดและจำเป็นต้องเจรจาและตัดสินใจโดยผู้มีอำนาจ

ศิษย์ที่ได้รับชื่อเต๋าอาจจะถึงขั้นอนาคตเปลี่ยนไปแบบพลิกฟ้าคว่ำดินด้วยซ้ำไป!

แน่นอนว่าผู้ฝึกตนทั่วไปมักจะเพิ่มชื่อเต๋าให้กับตัวเอง ส่วนใหญ่ก็เพื่อแสดงตัวตนของพวกเขา

สำหรับซูอี้ การตัดสินใจตั้งชื่อเต๋าให้เต่าชราในครั้งนี้ ในอนาคตไม่ใช่การยอมรับ แต่เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้!

นั่นคือการบอกโลกภายนอกว่าเต่าชรานี้ถูกคุ้มครองโดยซูเสวียนจวิน

ฟู่ชิงเหยี่ยนและกูไฉ่หนิงไม่ทราบเรื่องนี้ และแน่นอนว่าพวกเขาไม่เข้าใจว่าความปีติยินดีของเต่าชรามาจากสาเหตุใด

“ไปกันเถอะ”

ซูอี้สะบัดแขนเสื้อ เขายกฟู่ชิงเหยี่ยนและกูไฉ่หนิงด้วยพลังที่มองไม่เห็น พาร่างทั้งสามเดินบนน้ำขณะชายหนุ่มกวาดสายตาไปทางชายฝั่งที่ห่างไกล

“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ดูแลตนเองด้วย!”

เต่าชรากล่าวลาอย่างเคารพ

จนกระทั่งเห็นซูอี้และคนอื่น ๆ ไปถึงริมฝั่งแม่น้ำ มันจึงจมร่างใหญ่ของมันลงใต้น้ำอย่างไม่เต็มใจและว่ายออกไป

มันตัดสินใจออกเดินทางตอนนี้เพื่อตามหาเถาชิงซานและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง!

ในวันนี้

บนแม่น้ำชิงหลาง ซูอี้เผชิญหน้ากับฉือเฟิงหลิวรองเจ้าสำนักดาบมังกรเร้น ในช่วงสุดท้ายของการปะทะ สัตว์พาหนะของเขาถูกฆ่าและเขาก็หนีไปด้วยความอับอาย

ในวันเดียวกันนั้น ซูอี้ก็มาถึงท่าเรือหลงจิ่งของแม่น้ำชิงหลางโดยเต่าชรา และก้าวเท้าเข้าสู่อาณาเขตของนครหลวงอวี้จิง เมืองหลวงอาณาจักรต้าโจว!

วันนี้เป็นวันที่สิบห้าเดือนสี่

เหลือเวลาอีกเพียงสิบเก้าวันก็จะถึงวันที่สี่เดือนห้า!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset