📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 299

บทที่ 299 - ดาบมังกรผงาด
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“สวรรค์!”

ซื่อหลานซานกับเหล่าทหารทั้งหลายที่อยู่ไกลออกไปต่างก็พากันตะลึง รู้สึกเจ็บปวดต่อภาพตรงหน้า

ดาบสีทองที่ฟันลงมาจากฟากฟ้านั่น ราวกับมือแห่งเซียนผู้มาจากสรวงสวรรค์ แข็งแกร่งจนกระทั่งพวกเขาที่มองดูไกล ๆ ยังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาได้

เผชิญกับการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ สีหน้าของโหยวซิงหลินเคร่งเครียดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในใจรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างมหันต์

“ขึ้นเดี๋ยวนี้!”

ลมปราณแท้ในตัวของเขารวมตัวกัน แขนเสื้อกว้างพองลม ผมยาวแต่ละเส้นตั้งชัน

ครืน! ครืน! ครืน!

ตรงหน้า เทือกเขาเพลิงอัคคีสิบเก้าลูกปรากฏขึ้นกลางอากาศ แต่ละลูกสูงสิบจั้งเรียงตัวกันเป็นแนวอยู่ข้างหน้า

ดาบอัคคีกลายร่างเป็นเทือกเขา!

เท่านี้ยังไม่พอ โหยวซิงหลินกระชากจี้หยกที่แขวนคอลงมา บดขยี้เป็นชิ้นย่อย

เปรี๊ยะ!

จี้หยกปล่อยอักขระสัญลักษณ์ซับซ้อนสีเขียวสว่างออกมา กลายเป็นเกราะแสงสีเขียวกลมมน ครอบคลุมทั่วร่าง แสงทิพย์ส่งแสงเจิดจำรัส

เกราะแสงมรกตอี้เจิน

‘เซียนชังหง’ ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขาได้หลอมยันต์ลับวิถีต้นกำเนิดขึ้นด้วยตนเอง มีกำลังป้องกันอย่างแข็งกล้า พลังทั้งหมดทั้งมวลภายใต้วิถีต้นกำเนิดล้วนไม่อาจทำอะไรได้!

ถึงตอนนี้ โหยวซิงหลินจึงรู้สึกวางใจลงได้บ้าง

เพียงแต่ว่าสีหน้าของเขากลับสลดลงไปมาก เพียงแค่ดาบเดียวเท่านั้นก็บีบจนเขาไม่มีทางหนีทีไล่ ต้องเอาวิชาป้องกันตัวอย่างเกราะแสงมรกตอี้เจินออกมาใช้

เช่นนี้ช่างน่าอับอายยิ่งนัก!

หืม?

ฉับพลัน สีหน้าของโหยวซิงหลินก็เปลี่ยนไป

เห็นแต่เพียง…

ครืน!

เมื่อดาบราวกับทางช้างเผือกสีทองของซูอี้เล่มนั้นฟันลงมา เทือกเขาเพลิงอัคคีสูงสิบจั้งที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศสิบเก้าลูกก็แตกระเบิดทีละลูกราวกับจุดประทัด สุดท้ายก็พังทลายไม่เป็นท่า

ฝนแสงไฟกระเซ็นกระซอนไปทั่วท้องฟ้า

ภาพเหตุการณ์เช่นนั้นทำให้โหยวซิงหลินถึงกับมือเท้าเย็น

เทือกเขาเพลิงอัคคีนั้นเป็นวิชาป้องกันตัวที่เขาภาคภูมิใจอย่างที่สุด เทือกเขาแต่ละลูกล้วนสามารถต้านทานการบุกรุกโจมตีของบุคคลในระดับเดียวกันได้ ทว่าภายใต้พลังดาบอันแข็งแกร่งของซูอี้เล่มนั้นกลับพังทลายไปอย่างง่ายดายราวกับกระดาษ!

พลังของดาบสีทองนั้นยังคงไม่ถดถอย ฟันลงบนเกราะแสงมรกตอี้เจินด้วยพลังอันแก่กล้าเหลือคณา

ครืน!!

ภายในระยะสามศอก ตัวของโหยวซิงหลินเต็มไปด้วยแสงยันต์อันแก่กล้าของตัวเอง พลังการป้องกันเช่นนี้แทบจะรวมตัวกันจนจับต้องได้ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าพลังเมฆกำลังเดือดพล่าน พลังทิพย์กำลังโหมกระหน่ำ

ทว่าชั่วขณะที่พลังดาบสีทองฟาดฟันลง เกราะแสงสีมรกตแวววาวนั้นเกิดรอยบุ๋มลึก สั่นสะเทือนอย่างแรง

ฉึบ ฉึบ ฉึบ!

ถัดจากนั้นรอยร้าวเล็ก ๆ คล้ายกับใยแมงมุมก็ปรากฏขึ้นบนเกราะแสง

โหยวซิงหลินตื่นตระหนกตกใจจนหน้าขาวซีด วิญญาณดวงน้อยแทบจะหลุดกระเด็นออกจากร่าง ต่อให้คิดจนสมองแตกก็คิดไม่ออกว่าเกราะแสงมรกตอี้เจินอันแข็งแกร่งนี้จะถูกดาบเล่มนั้นฟันจนพังทลายได้อย่างไร

ทั้งหมดนี้เกินกว่าความคาดหมายของเขา

เป็นเหตุทำให้สมองว่างเปล่าในพริบตา

ครืน!

สุดท้ายเกราะแสงมรกตอี้เจิ้นก็ต้านทานไม่อยู่ ระเบิดในทันใด

“ชีวิตข้าไม่เหลือแล้ว!”

ดวงตาของโหยวซิงหลินลุกโพลง ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

ชั่วขณะเวลาคับขันอย่างเหลือกำลังเช่นนี้ ดาบเล่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ พุ่งเข้ามาต้านทานดาบของซูอี้

เพล้ง!

ฝนแสงไฟสีทองสาดกระเซ็นเต็มท้องฟ้า เกิดความปั่นป่วนโกลาหล

คลื่นพลังที่น่ากลัวนั้น สั่นสะเทือนร่างของโหยวซิงหลินจนกระเด็นออกไปอย่างแรง เป็นระยะทางถึงสิบกว่าจั้ง

ผมเผ้ายุ่งเหยิง เลือดกระอักออกจากปากและจมูก

“ข้า… ข้ายังไม่ตาย?”

โหยวซิงหลินไออย่างแรงราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน

ทั่วบริเวณสงบนิ่งปราศจากสุ้มเสียง มีแต่เพียงเสียงไอและเสียงพึมพำราวกับละเมอของเขา

บนใบหน้าของซื่อหลานซานกับเหล่าทหารม่ออวิ๋นที่อยู่ห่างไกลออกไปเต็มไปด้วยอาการตื่นตะลึงเช่นกัน เพียงแต่ว่าอาการตื่นตะลึงนั้นเกิดจากความตื่นตระหนกอย่างรุนแรง เป็นอาการตาค้างแบบยากนักจะเชื่อ

ดาบเดียว ถล่มภูเขาไฟสิบเก้าลูก ทลายเกราะแสงมรกตอี้เจิน!

ภาพเหตุการณ์เช่นนั้นคล้ายกับวิธีการของเซียนตามที่เล่าขานกันมา พลังที่ปล่อยออกมาไม่ใช่พลังที่ผู้ฝึกยุทธ์ในโลกสามัญควรจะมี!

ไม่รู้ว่าหลี่ฉางหนิงมายืนอยู่ข้างกายโหยวซิงหลินตั้งแต่เมื่อใด ดาบโบราณลายสนลอยตัวอยู่ด้านหน้า

เขากล่าวเสียงเคร่งขรึม “ซิงหลิน อย่าได้ท้อแท้ เจ้าไม่ได้พ่ายแพ้ต่อหนุ่มน้อยขอบเขตปรมาจารย์ แต่เจ้าพ่ายแพ้ต่อผู้สิงสถิต”

ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะหลี่ฉางหนิงยื่นมือเข้าช่วย โหยวซิงหลินจึงรอดพ้นจากเพลิงอัคคี

“เช่นนั้นหรือ…”

โหยวซิงหลินสูดหายใจลึก ๆ สีหน้าขาวซีดจับจ้องดูซูอี้ที่อยู่ห่างออกไป จากนั้นกัดฟันกล่าว “ท่านลุง ได้โปรดจับตัวเขาเพื่อนำมาเป็นคู่ฝึกซ้อมให้ข้าด้วย!!”

เขาเจ็บใจ!

เจ็บใจตัวเองที่เมื่อสักครู่ตื่นตระหนกจนสมองว่างเปล่า ลืมตอบโต้ จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด!

สำหรับบุคคลชื่อดังในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของอาณาจักรต้าฉินอย่างเขาแล้ว สิ่งนี้ถือเป็นการเหยียดหยามดูถูกกันอย่างไม่ต้องสงสัย

“ได้”

หลี่ฉางหนิงพยักหน้า “เจ้าจงไปรออีกด้าน”

ห่างออกไป ซูอี้ยืนมือไพล่หลังสีหน้าราบเรียบ

คร้านจะพูดอธิบายให้มากความ

ผู้สิงสถิตหมายความว่าอย่างไร?

ใช้จิตวิญญาณขโมยร่างของคนอื่น แต่ก็ได้รับผลกระทบจากพื้นฐานและพรสวรรค์ของร่างเดิม ได้แต่ต้องฝึกฝนใหม่ทั้งหมด

ต่อให้เขาแย่สักแค่ไหน ก็ไม่อาจนำเขาไปเปรียบกับพวกขโมยร่างของคนอื่นได้!

แน่นอน พูดเช่นนี้ออกไป ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางเชื่อแน่

“สหายเต๋า โปรดชี้แนะ”

บนเวทีประลอง หลี่ฉางหนิงพยักหน้าน้อย ๆnovelgu.com

ซูอี้ไม่พูดพล่าม

ครืน!

ชุดคลุมยาวสีเขียวของเขาพองตัว ย่ำเท้ากลางอากาศ ปล่อยหมัดออกมา

กำลังหมัดอันรุนแรง เกิดเป็นรอยร้าวยาวกลางอากาศ ท่ามกลางแสงสว่างเจิดจ้า จังหวะวิถีอันบริสุทธิ์ดุดันเดือดพล่าน

“ไม่ได้ใช้กำลังแห่งฟ้าดินแม้แต่น้อยนิด ใช้แต่เพียงธาตุแท้ของขอบเขตปรมาจารย์ก็สามารถหลอมประทับจังหวะวิถีได้!? ซูอี้คนนี้หากไม่ใช่ผู้สิงสถิต จะทำถึงขั้นนี้ได้เช่นใด?”

ในสายตาของหลี่ฉางหนิงมีแต่ความสงสัย

ปล่อยพลังดุดัน ปรมาจารย์แต่ละคนล้วนสามารถทำได้ แต่อย่างซูอี้ ปล่อยหมัดที่แฝงด้วยจังหวะวิถีลี้ลับเช่นนี้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก

อย่าว่าแต่ปรมาจารย์เลย แม้กระทั่งบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ก็ยังทำไม่ได้!

เพราะว่าจังหวะวิถีมีแต่เทพเซียนเดินดินเท่านั้นจึงสามารถรู้แจ้งในพลังที่มี!

“ขึ้น!”

ช่วงระหว่างที่จิตเคลื่อนไหว ดาบกุ้ยหยวนในมือหลี่ฉางหนิงฟันกลางอากาศ ดาบพุ่งออกไปทั่วฟ้าราวกับม่านฝนแตกกระจาย

ดาบแต่ละเล่มมีความยาวสองจั้ง คมกริบ ส่องประกายเย็นยะเยือก เพียงแค่ชั่วครู่เดียว ทั่วแผ่นฟ้าราวกับมีลูกธนูแหลมจำนวนนับพันนับหมื่นดอก

“ไป!”

ตามทิศทางการชี้ของหลี่ฉางหนิง

ดาบจำนวนนับพันนับหมื่นเล่มพุ่งไปยังซูอี้ ราวกับลูกธนูปราดเปรียว ดาบแต่ละเล่มชักนำพลังวิญญาณฟ้าดิน ขณะที่ฟัน อานุภาพก็พุ่งสูงขึ้น

ดาบทั้งหลายส่งเสียงดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

ความอลังการเช่นนั้นสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนในเหตุการณ์

เทพเซียนเดินดิน!

นี่คือความองอาจของเทพเซียนเดินดินอย่างแท้จริง เพียงแค่ดาบเดียวบงการฟ้าดิน ชักนำดาบนับร้อยพัน!

ซื่อหลานซานกับเหล่าทหารนับหมื่นในค่ายต่างพากันตื่นตะลึง

ในสายตาผู้ฝึกยุทธ์โลกสามัญ เทพเซียนเดินดินเท่ากับผู้ที่หลุดพ้นจากโลกสามัญ ไม่ต่างไปจากเทพเซียนในตำนาน

ดังนั้นในเวลานี้ เมื่อได้เห็นความอลังการของหลี่ฉางหนิงแล้ว ไม่ต้องคิดก็สามารถรู้ได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสักแค่ไหน

เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!

บนเวทีประลอง ดาบจำนวนนับไม่ถ้วนกระแทกกำลังหมัด

ตอนที่มีผลการฝึกตนอยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสอง ซูอี้ก็สามารถฆ่าเทพเซียนเดินดินที่ฝืนบรรลุขอบเขตอย่างจิงเหอแห่งวัดซ่างหลินได้ นับประสาอะไรกับตอนนี้?

เห็นแต่เพียง…

ท่ามกลางการระเบิดติดต่อกัน พลังหมัดอันแข็งแกร่งราวกับไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานได้ ซัดดาบแต่ละเล่มจนระเบิด หมัดยังคงพุ่งไปข้างหน้าไม่หยุด

“เปลี่ยน!”

หลี่ฉางหนิงเปลี่ยนกระบวนดาบ

ดาบเต็มท้องฟ้าเพิ่มความเร็วขึ้นจากเดิมหลายเท่า รวดเร็วราวกับลมมรสุม พุ่งไปที่หมัดไร้รูปร่างนั้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

ดาบแต่ละเล่มทำให้หมัดลดกำลังลง ถึงแม้จะไม่มากนัก แต่โดนดาบจำนวนนับพันนับหมื่นเล่มฟาดฟัน สุดท้ายหมัดของซูอี้ก็แตกสลายไปกลางอากาศในระยะห่างจากหลี่ฉางหนิงสิบกว่าจั้ง

ฟ้าดินเงียบกริบ

คนทั้งหลายในเหตุการณ์ต่างก็นิ่งเงียบด้วยความตะลึง

“เป็นไปได้อย่างไร…”

โหยวซิงหลินเบิกตาโพลง คิดไม่ออกว่า หมัดของซูอี้จะต้านทานกำลังของหลี่ฉางหนิงผู้อยู่ในขอบเขตเทพเซียนเดินดินได้อย่างไร

มหัศจรรย์เกินไปแล้ว!

กระทั่งซื่อหลานซานกับเหล่าทหารพวกนั้นก็ยังตะลึง นี่เป็นพลังที่บุคคลระดับปรมาจารย์มีเช่นนั้นหรือ?

เมื่อไรกันที่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาสามารถต้านทานเทพเซียนเดินดินได้?

“รับหมัดของข้าไปอีกหมัด!”

ซูอี้หัวเราะเสียงดัง เท้าขยับก้าว หมัดวาดลวดลายมังกร กลางอากาศราวกับมีเซียนกระเรียนกระพือปีกแผดร้องเสียงดังถึงสวรรค์ชั้นเก้า

ปล่อยหมัดนี้ออกไป ธาตุแท้ทั้งหมดสำแดงแก่นแท้แห่งเคล็ดวิชาหลอมกายกระเรียนลอยล่อง ชักนำพลังโดยรอบรวมตัวเป็นจังหวะวิถีอันลี้ลับ

อานุภาพอันยิ่งใหญ่นี้มากกว่าเมื่อก่อนหน้ากว่าหนึ่งเท่าตัว ซัดจนอากาศแถบนั้นสั่นสะเทือน กระแสลมผันผวน

ครืน~

หมัดรุนแรงสีทองเรืองอร่ามซัดเข้ามา ดุจดังเซียนนกโฉบฆ่า มีความงดงามยิ่งนัก จังหวะวิถีเป็นธรรมชาติ

ครั้งนี้ กระทั่งหลี่ฉางหนิงก็ยังแสดงสีหน้าตึงเครียดออกมา ดาบโบราณลายสนในมือส่งเสียงดังก้องขึ้นมาในทันใด

ดาบนามว่ากุ้ยหยวน

เมื่อสิบเก้าปีก่อน หลี่ฉางหนิงบรรลุสู่ขอบเขตเทพเซียนเดินดิน ‘อวี่ชังซาน’ เจ้าสำนักวัดเสวียนเยว่มอบดาบกุ้ยหยวนให้เพื่อเป็นการแสดงความยินดี

ดาบเล่มนี้ยาวสองศอก กว้างสองนิ้วมือ เป็นสมบัติที่บรรพบุรุษสำนักเสวียนเยว่เก็บรักษาไว้ หลอมสร้างโดยเลียนแบบดาบเทพแห่งบรรพกาล ลักษณะของดาบคล้ายดาบโบราณ หนาและหนัก ไร้ซึ่งคม หนักถึงพันชั่ง หลังจากที่หลี่ฉางหนิงได้ดาบเล่มนี้มา บำรุงทั้งวันทั้งคืน ใช้เลือดและลมปราณของตัวเองฝึกฝน จนถึงวันนี้มีอายุสิบเก้าปีแล้ว!

ทว่าเวลานี้ หลี่ฉางหนิงใช้ผลการฝึกตนทั้งหมดที่มีขับดันดาบเล่มนี้ เสียงดาบก้องกังวานน่าตกใจยิ่งนัก

สวบ!

หลังจากที่เขาตวัดดาบ

สายรุ้งสีขาวปรากฏขึ้นกลางอากาศในทันใด สายรุ้งสีขาวนี้พาดยาวอยู่กลางท้องฟ้า มีความยาวถึงสิบกว่าจั้ง ประกายดาบราวกับคลื่นมรสุมที่กำลังโกรธเกรี้ยว แฝงด้วยพลังแห่งฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่

ชั่วขณะนั้น ในสายตาของคนทั้งหลาย ราวกับมองเห็นมังกรสีขาวตนหนึ่งผุดออกมาจากดาบ เชิดหน้าสะบัดหาง ดูดเมฆาคายไอหมอก ก่อเกิดลมฝนแปรปรวน!

นี่คือภาวะดาบ!

นามว่า ‘มังกรผงาด’ หลี่ฉางหนิงได้มาโดยวิธีพินิจดูภาพโบราณ ‘มังกรเดินเมฆา’ เป็นระยะเวลาสามปี สุดท้ายจึงขโมยจังหวะวิถีอันลึกล้ำมาได้ และผสมผสานเข้าไปในตัวดาบ

เลี้ยงดูมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาแปดปีแล้ว!

กล่าวได้ว่าเป็นผลงานวิถีดาบขั้นสุดยอดในชีวิตของหลี่ฉางหนิง

“ดี!”

เวลานี้ ซูอี้เดินตามหมัด กลายร่างเป็นเซียนกระเรียนร่ายรำสู่สวรรค์ชั้นเก้า พร้อมกับแสงสีทองอันเรืองอร่าม บุกโจมตีลงมา ต้องการจะใช้แรงกำลังทำลายดาบเล่มนี้!

ครืน!

พลังระเบิด ฟ้าดินสั่นสะเทือน

จากจุดที่ทั้งสองปะทะกัน พลังเจิดจ้ากลุ่มหนึ่งถาโถม แผ่ขยายออกไปรอบทิศทาง ครู่ถัดมาคือพลังแข็งแกร่งกับพลังหมัดแผ่กระจาย สุดท้ายคือความสั่นสะเทือนไร้รูปร่าง

ภายใต้การทำลายล้างของพลังอันแข็งแกร่ง ลานประลองยุทธ์ร้อยจั้งที่สร้างจากเหล็กกล้าลึกล้ำถึงกับถล่มยุบตัวพังพินาศ

ส่วนนอกของลานประลอง มีเสียงร้องตื่นตระหนกของคนจำนวนมากมายดังขึ้น

นอกจากตัวตนที่มีผลการฝึกตั้งแต่ขอบเขตปรมาจารย์แล้ว คนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้บริเวณนี้ล้วนถูกลมแรงน่ากลัวนั้นซัดจนกระเด็นออกไปอย่างแรง เหตุการณ์วุ่นวายโกลาหล

“ครั้งนี้ ใครแพ้ใครชนะ?”

ทุกคนเบิกตากว้าง มองดูด้วยสายตาตื่นตระหนกยากนักจะปกปิด

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset