📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 278

บทที่ 278 - วัดซ่างหลินแห่งอาณาจักรต้าฉิน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ซูอี้เปิดดูสิ่งที่ปักษาเวคินนำมาส่งให้ และเมื่อเห็นสมบัติในนั้น ชายหนุ่มก็อดที่จะตกใจไม่ได้

หินวิญญาณหลากสีสันกองอยู่ในนั้น ทั้งหมดเป็นหินระดับสี่จำนวนห้าสิบห้าชิ้น

โอสถวิญญาณสามสิบสามอย่าง เป็นระดับสี่ถึงยี่สิบชนิด และมีระดับห้าอีกแปดชนิด

นอกจากนี้ยังมีวัตถุวิญญาณล้ำค่าอีกกว่าสี่สิบอย่าง…

สมบัติทั้งหมดนี้มากพอที่จะทำให้บรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์อิจฉาตาร้อน

และนี่เป็นเพียงเก้าส่วนของสมบัติที่ได้รับจากหอสิบทิศ ซึ่งขายข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของซูอี้ในครั้งนี้

หลังเห็นสิ่งของเหล่านี้… ก็เป็นไปได้มากทีเดียวว่าหอสิบทิศ ซึ่งมีชื่อเสียงในการรวบรวมและขายข่าวกรองในสามอาณาจักร ทั้งต้าโจว ต้าเว่ย และต้าฉิน ว่านี่เป็นวิธีสะสมเงินที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง!

นอกจากสมบัติล้ำค่าเหล่านั้น ยังมีกระดาษอีกหนึ่งแผ่น

ในกระดาษเขียนไว้ว่า ‘จงระวังหลี่ตงหลิวแห่งสำนักดาบมังกรเร้น’

หลังจากอ่านแล้ว ซูอี้ก็ฉีกกระดาษเป็นชิ้น ๆ

หลี่ตงหลิว?

นี่เป็นชื่อที่ไม่คุ้นเคย ระดับการฝึกบำเพ็ญ ต้นกำเนิด หรือตัวตนของเขา ซูอี้ไม่รู้อะไรเลย และเขาก็ไม่ได้สนใจนัก

มันเพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะจำไว้เพียงว่าหลี่ตงหลิวมาจากสำนักดาบมังกรเร้น

……

สองวันต่อมา วันที่แปดของเดือนสี่

ณ ห้องอาหารหลิงเยียน เมืองจินหลิว

ที่นั่งริมหน้าต่างบนชั้นสาม

“ในอาณาจักรต้าฉิน การเดินธุดงค์ในครานี้ของ ‘วัดซ่างหลิน’ จะไปที่ขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาหรือไม่? ”

หนิงซือฮวาขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตรงข้ามกับนางคือหญิงสาวผู้มีใบหน้าบอบบางและสวยงามราวกับภาพวาด

หญิงสาวผู้นี้แต่งกายด้วยชุดสีเทา ผิวขาวราวหิมะ ผมยาวถูกปิ่นหยกสีขาวซีดม้วนขึ้นไป เผยให้เห็นคอระหงส์เรียวยาว ร่างกายของนางแผ่ความสูงส่งและเย็นชาออกมา กำลังนั่งสบาย ๆ แต่กลับกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน

นางคือหลานซัวที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากซูอี้ จากพิษของ ‘ปีศาจวิญญาณเร้น’

หญิงสาวผู้นี้มาจากสำนักดาบจรัสฟ้าจบแดนแห่งอาณาจักรต้าฉิน

“ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการไป แต่เมื่อสามวันก่อนพวกเขาไปที่ส่วนลึกของขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาแล้ว”

หลานซัวหยิบจดหมายลับออกมาแล้วยื่นให้หนิงซือฮวา “นี่คือข่าวที่ข้าได้รับเมื่อวานนี้ เจ้าดูก็จะรู้เอง”

หนิงซือฮวามองดูจดหมายลับ ภายในนั้นเขียนไว้ว่า

‘ในวันที่ 27 เดือนสาม ‘จี้เหอ’ หัวหน้าผู้อาวุโสอารามหลานฮั่นแห่งวัดซ่างหลิน ได้นำสมาชิกสิบแปดคนเดินทางร่วมกัน เพื่อนำ ‘รูปสลักแสงทอง’ ไปยังขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาในต้าโจว…’

เมื่อเห็นสิ่งนี้หนิงซือฮวาจึงถามว่า “หัวหน้าผู้อาวุโสอารามหลานฮั่น ‘จี้เหอ’ มีพลังระดับใด?”

“ยี่สิบปีที่แล้ว บุคคลผู้นี้ก้าวเข้าสู่บรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์และฝึกฝน ‘พระสูตรต้าโหลวพิชิตปีศาจ’ จนเชี่ยวชาญ ภูมิหลังของเขาน่ากลัวยิ่งนัก และบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ในดินแดนนี้ก็ไม่สามารถเทียบได้กับเขาเลย”

หลานซัวกระซิบ ดวงตาที่สวยงามของนางจับจ้องไปที่หนิงซือฮวา “ในความคิดของข้า แม้ว่าเจ้าจะเคลื่อนไหว แต่ข้าเกรงว่าคงเป็นการยากที่จะเอาชนะคนผู้นี้”

หนิงซือฮวาตะลึงไปครู่หนึ่ง พูดว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น จี้เหอคนนี้ก็เป็นบุคคลที่ต้องระวังให้ดี”

อาณาจักรต้าฉินมีกองกำลังหลักสามแห่ง ได้แก่ สำนักดาบจรัสฟ้าจบแดน วัดซ่างหลิน และวัดเสวียนเยว่

ภูมิหลังของกองกำลังทั้งสามนี้ยิ่งใหญ่กว่าสำนักดาบมังกรเร้นหลายเท่านัก

โดยเฉพาะ วัดซ่างหลินซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม ‘แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการฝึกฝนวิถีพุทธ’ ในอาณาจักรต้าฉิน แม้แต่ในราชวงศ์ก็ยังมีผู้ศรัทธาวัดซ่างหลินแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

แต่ตอนนี้จี้เหอหัวหน้าผู้อาวุโสอารามหลานฮั่นแห่งวัดซ่างหลินได้นำสมาชิกสิบแปดคนของอารามมาที่ขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาด้วยกัน จึงเป็นการยากที่จะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คน

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หนิงซือฮวาจึงถามอีกครั้ง “ที่แท้ พวกเขามาทำอะไรที่ขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนากันแน่?”

“ข้าไม่รู้ แต่คงจะเหมือนกับเราที่มาแสวงหาโอกาส”

หลานซัวกล่าวเบา ๆ “ท้ายที่สุดแล้ว ในส่วนลึกของขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาก็มากไปด้วยความลึกลับสุดหยั่งถึง”

มีซากปรักหักพังของวัดมากมาย ซึ่งคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา นี่จึงย่อมดึงดูดความสนใจของวัดซ่างหลินที่เป็นสำนักศึกษาวิถีพุทธเป็นธรรมดา”

“เจ้าตำหนักหนิง คุณชายซูยังไม่มาหรือ?”

ในเวลานี้มู่ซีราชาสะกดขุนเขาขึ้นมาจากบันไดของห้องอาหาร แต่งกายด้วยชุดหยก สวมมงกุฎ ย่นคิ้วหนา สายตาเปล่งประกายจ้องมองไปยังคู่สนทนา

ขณะที่เขาพูด มู่ซีก็นั่งลงข้างหนิงซือฮวาและหลานซัวแล้ว

“ยัง”

หนิงซือฮวาส่ายหัว

มู่ซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ลดเสียงลง “ข้าเพิ่งสำรวจบริเวณโดยรอบขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนามา และยังไปสอบถามข่าวในเมือง ว่ากันว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้คนมากมายได้เดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนา ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังซากปรักหักพังแปลก ๆ พวกนั้น!”

หนิงซือฮวาพูดด้วยความประหลาดใจ “เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับซากปรักหักพังนั่น?”

มู่ซีกล่าว “ยังไม่ชัดเจน”

ทั้งสามสนทนากันครู่หนึ่ง

เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากบริเวณบันได จากนั้นก็มีร่างสูงใหญ่ปรากฏขึ้น

ชุดสีเขียวราวกับหยก แต่ซีดราวกับฝุ่น

เขาคือซูอี้

“สหายเต๋า ในที่สุดท่านก็มา”

หนิงซือฮวายิ้ม และยืนขึ้นเพื่อทักทาย

ส่วนหลานซัว เมื่อนางเห็นซูอี้ ท่าทีของเจ้าตัวก็พลันกลายเป็นเขินอายและอึดอัดเล็กน้อย ก่อนจะรีบหลบตา

นางจะลืมไปได้อย่างไรว่าตนเองได้รับการช่วยเหลือจากชายผู้นี้ขณะตัวเกือบเปลือยเปล่า!

เมื่อคิดถึงเรื่องที่ว่า จนถึงวันนี้นางก็ยังรู้สึกเขินอายอยู่ดี

มู่ซีพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณชายซู ไม่ได้เจอกันนาน ท่านเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสองแล้ว?”

หลังจากสิ้นคำ หนิงซือฮวาพลันสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่ม อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความก้าวหน้าในการฝึกฝนของเขาอย่างชัดเจน

สิ่งนี้ทำให้นางประหลาดใจเช่นกันโนlวลกูดอทคoม

เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่กลับสามารถทะลวงขึ้นไปอีกขั้น! หากคนทั้งโลกหล้าได้รับรู้ พวกเขาคงต้องตกตะลึงเป็นแน่!

“เพียงเรื่องเล็กจ้อยเท่านั้น ไม่ควรพูดถึง”

เมื่อซูอี้พูด สายตาของเขากวาดไปเจอหลานซัว “นางเองก็ต้องการไปที่ขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาด้วยหรือ?”

แน่นอน เขาไม่มีทางลืมรูปร่างที่เกือบจะเปลือยเปล่าของหญิงสาวผู้นี้ที่มีที่สัดส่วนอันสวยงามและน่าทึ่งลงได้

หลานซัวลุกขึ้น สบตาซูอี้และกล่าวว่า “คุณชายไม่ยินดีหรือ?”

สีหน้าของนางเย็นชา รูปร่างได้สัดส่วนงดงาม หากแต่ทุกการเคลื่อนไหวกลับเปี่ยมไปด้วยความสูงส่ง

หนิงซือฮวาที่อยู่ด้านข้างอธิบายว่า “คุณชายซู หลานซัวผู้นี้มาจากสำนักดาบจรัสฟ้าจบแดน และนางยัง… ”

ซูอี้ขัดขึ้นเล็กน้อย “ตราบใดที่ไม่เป็นภาระ”

หลานซัวตกตะลึง ความเย่อหยิ่งในกายของนางคล้ายถูกกระตุ้นจากคำว่า ‘ภาระ’ นางจึงได้กล่าวออกมาอย่างจริงจัง

“คุณชายซูไม่ต้องกังวล หลานซัวผู้นี้สามารถดูแลตัวเองได้ ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้ท่านอย่างแน่นอน”

น้ำเสียงของนางแฝงไว้ด้วยความเย็นชา

ซูอี้ตอบรับหนึ่งคำโดยไม่สนใจร่องรอยของความไม่พอใจในน้ำเสียงของหญิงสาวผู้นี้ เขามองไปที่หนิงซือฮวาและมู่ซี ก่อนจะเอ่ยถาม “พวกเจ้าพร้อมหรือไม่?”

ทั้งสองพยักหน้า

“งั้นพวกเราไปกันเถิด”

ซูอี้ตัดสินใจทันที

……

ขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาตั้งอยู่ห่างจากเมืองจินหลิวราวสิบลี้เห็นจะได้

ขุนเขาแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่แห่งความชั่วร้ายมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ที่นั่นมีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดและสัตว์อสูรอาศัยอยู่ พวกมันล้วนบ้าคลั่งและมีพิษ นอกจากนี้ยังมีวิญญาณชั่วร้ายจำนวนมากในนั้น ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดา แม้แต่ผู้ฝึกตนบำเพ็ญที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็ไม่กล้าเข้าไปลึก

เมื่อซูอี้และพรรคพวกของเขามาถึงที่ชายป่าขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนา มันก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว

สามารถเห็นท้องฟ้าเหนือขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนามีเมฆก้อนใหญ่ทึมทึบปกคลุม เพิ่มบรรยากาศที่น่าหดหู่ให้ภูเขาและแม่น้ำโดยรอบ

รับชมสิ่งนี้จากระยะไกล…

แววตาของซูอี้อดไม่ได้ที่จะสับสนเล็กน้อย พลังงานปีศาจพุ่งขึ้นไปบนท้องนภา แล้วกลั่นตัวไอชั่วร้ายจนกลายเป็นหมู่เมฆหนาทึบ…

สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดจริง ๆ!

“สหายเต๋า หากไม่มีอุบัติเหตุใดระหว่างทาง ภายในครึ่งวัน พวกเราสามารถไปถึงซากปรักหักพังที่ว่าในส่วนลึกของขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนาได้”

หนิงซือฮวากล่าวเบา ๆ “อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่เราได้รับ คราวนี้นอกจากพวกเราที่ไปสำรวจซากปรักหักพัง ก็ยังมีพวกหลวงจีนจากวัดซ่างหลินแห่งอาณาจักรต้าฉินด้วย”

“คนสำนักพุทธ?”

ซูอี้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“เป็นเช่นนั้น”

หนิงซือฮวารีบแบ่งปันข่าวของจี้เหอหัวหน้าผู้อาวุโสอารามหลานฮั่นแห่งวัดซ่างหลินแก่ซูอี้อย่างรวดเร็ว

“เข้าใจแล้ว”

ซูอี้พยักหน้า เมื่อคิดอีกเรื่องหนึ่งได้ ก็มองไปที่หลานซัวและกล่าวว่า “ในเมื่อแม่นางมาจากอาณาจักรต้าฉิน ถ้าอย่างนั้นเจ้าเคยได้ยินเรื่อง ‘สำนักเทียนอิ่น’ หรือไม่?”

ดวงตาที่สวยงามของหลานซัวหยุดนิ่งทันที ราวกับว่านางรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก และกล่าวว่า “ท่านรู้เกี่ยวกับขุมพลังกลุ่มนี้ได้อย่างไร?”

ซูอี้ไม่ได้ปิดบัง “เมื่อสองสามวันก่อน ข้าสังหารเสี้ยววิญญาณของผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณ ว่ากันว่าบุคคลนี้ชื่อ ‘ปราชญ์หลิวฮั่ว’ และนางมาจากสำนักเทียนอิ่น”

“ปราชญ์หลิวฮั่ว!?”

หลานซัวร้องออกมา ใบหน้าที่สวยงามและละเอียดอ่อนของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ด้วยความแข็งแกร่งของท่าน เป็นไปได้อย่างไรที่จะสังหารร่างเสี้ยววิญญาณของปราชญ์หลิวฮั่ว?”

ซูอี้ไม่ตอบ แต่เมื่อดูปฏิกิริยาของหญิงสาว ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้เกี่ยวกับปราชญ์หลิวฮั่วคนนี้ ซึ่งนี่ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย

ไม่ต้องสงสัย ดังที่หนิงซือฮวากล่าวในตอนต้น สถานะของหลานซัวนี้คงไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้นคงจะไม่มีโอกาสรู้เกี่ยวกับผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณเลย

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หนิงซือฮวาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หลานซัวเกิดอะไรขึ้นกัน? ปราชญ์หลิวฮั่วและสำนักเทียนอิ่น… เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย?”

หลานซัวสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติให้มั่นคงและกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ข้าได้ยินผู้อาวุโสพูดถึง ว่าในอาณาจักรต้าฉิน มีคนลึกลับที่เรียกตัวเองว่า ‘ปราชญ์หลิวฮั่ว’ ซึ่งอาจเป็นผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณจากอาณาจักรต้าเซี่ย”

หลังจากหยุดชั่วคราว นางก็กล่าวต่อ “ถึงอย่างนั้นข้าก็รู้เพียงสิ่งนี้ แต่ผู้อาวุโสของข้าเคยสั่งว่าในกรณีที่พบผู้ฝึกตนบำเพ็ญที่เรียกตัวเองว่า ‘สำนักเทียนอิ่น’ ให้หลบหนีซ่อนให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิฉะนั้นเกรงว่ามันจะทำให้เกิดปัญหาอันไม่คาดคิด”

“นี่…”

หนิงซือฮวาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

นางรู้ดีว่าหลานซัวมีเกียรติเพียงใดในอาณาจักรต้าฉิน แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อพูดถึงสำนักเทียนอิ่นและปราชญ์หลิวฮั่ว อีกฝ่ายกลับเต็มไปด้วยความกลัวและรู้เรื่องนี้น้อยมาก!

มู่ซีเองก็แปลกใจเช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ถ้าเจ้าบอกว่าปราชญ์หลิวฮั่วเป็นผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณจากอาณาจักต้าเซี่ย เช่นนั้นก็หมายความว่าสำนักเทียนอิ่นน่าจะเป็นขุมพลังของอาณาจักรต้าเซี่ยใช่หรือไม่? ”

“มันควรจะเป็น… เช่นนั้น…”

หลานซัวไม่แน่ใจ นางมองไปที่ซูอี้ด้วยความประหลาดใจ

ชายผู้นี้ฆ่าเสี้ยววิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของปราชญ์หลิวฮั่ว!!

เก่งกล้าเกินไปหรือไม่?

เขาไม่กลัวที่จะตกเป็นเป้าหมายของมหาปราชญ์สวรรค์เลยอย่างนั้นหรือ?

ไม่เพียงแค่หลานซัว แต่หนิงซือฮวาและมู่ซีก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่เคยคิดว่าซูอี้จะทำได้ถึงขนาดนี้

“ไปกันเถอะ”

ซูอี้ไม่พูดอะไรมาก และตรงไปที่ขุนเขาปีศาจวัดวิปัสสนา

หนิงซือฮวาและคนอื่น ๆ จึงรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

ในไม่ช้าร่างของพวกเขาก็หายไป

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม

อสูรนกดุร้ายที่มีปีกสีขาวราวกับหิมะได้บินข้ามท้องฟ้าและร่อนลงบนที่ที่ซูอี้และคนอื่น ๆ อยู่ก่อนหน้า

ตามมาด้วย… คนสี่คนลงมาจากข้างบนหลังนกยักษ์นั่นทีละคน

โดยเป็นชายผู้สวมเสื้อคลุมยาวมีใบหน้าซีดเย็นเยียบราวกับก้อนหินก้าวลมมาคนแรก…

เขาคือหลี่ตงหลิวผู้อาวุโสของสำนักดาบมังกรเร้น!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset