📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 105

บทที่ 105 - ท่านผู้อาวุโสอู่
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

หญิงสาวงามงดอะไรเช่นนี้!”

ในส่วนลึกของถนนต้นหลิว กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬกำลังเดินตรงมา

เมื่อเห็นหยวนลั่วซีที่กำลังขี่ม้า จึงอดไม่ได้ที่จะตะลึงงันครู่หนึ่ง

“รนหาที่ตายหรือไร! รีบไปเร็ว!”

สีหน้าชายวัยกลางคนในชุดสีน้ำเงินแปรเปลี่ยนกะทันหัน เขากล่าวดุเสียงเบาและรีบเดินจากไปพร้อมกับลูกน้อง

ชายวัยกลางคนในชุดสีน้ำเงินล่วงรู้ได้ทันทีว่า หยวนลั่วซีและเฉิงอู้หย่งมีที่มาไม่ธรรมดา คล้ายกับเป็นกลุ่มคนมีอำนาจ ซึ่งเหนือล้ำจากตัวตนใต้ดินที่ก่ออาชญากรรมมากมายอย่างพวกเขา

“ไอ้พวกชั้นต่ำ โชคดีที่สายตายังดีอยู่บ้าง” ดวงตาเฉิงอู้หย่งเหลือบมองอย่างไม่แยแส

อีกฝ่ายควรดีใจที่ไม่ได้โพล่งถ้อยคำหยาบคาย มิเช่นนั้นเขาก็ไม่รังเกียจที่จะจัดการพวกมันทั้งหมด

“อาหย่ง ทำไมคุณชายซูถึงคิดอาศัยอยู่ในพื้นที่เสื่อมโทรมเช่นนี้ล่ะ?” หยวนลั่วซีงุนงงเล็กน้อย

“ไม่ใช่คุณชายซูอาศัย แต่เป็นสหายของเขาต่างหาก เราไปดูกันก่อนเถอะ” เฉิงอู้หย่งกล่าวออก ก่อนกระตุกบังเหียนตรงเข้าไปยังส่วนลึกของถนนต้นหลิว

หยวนลั่วซีควบม้าติดตามอย่างใกล้ชิด

หลังจากที่กลับบ้านเมื่อวานนี้ นางคิดหาโอกาสมาเยี่ยมเยียนซูอี้เพื่อยืนยันที่อยู่ ด้วยเหตุว่าอนาคตจะได้แวะเวียนไปหาได้บ่อยครั้ง

ดังนั้นเช้านี้นางจึงบอกกล่าวเฉิงอู้หย่งและแอบออกจากบ้าน

“สหายน้อย ข้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”

ระหว่างทาง เฉิงอู้หย่งแลเห็นเด็กชายใบหน้าซีดเหลือง จึงเอ่ยถามเสียงดัง

เด็กหนุ่มกลอกตาและกล่าวออก “ขอถามงั้นหรือ? ก็ได้ แต่ข้าต้องการเงิน เช่นนั้นจ่ายมาก่อนอย่างน้อยสองตำลึง ไม่สิ ห้าตำลึง!”

เมื่อชำเลืองมองเสื้อผ้า เด็กน้อยจึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนร่ำรวย

เฉิงอู้หย่งหัวเราะและโยนเงินให้เด็กหนุ่มพลางกล่าวว่า “นี่รางวัล แต่ถ้าหากเจ้าให้คำตอบที่น่าพอใจ ข้าจะให้เพิ่มอีกสิบตำลึง”

ดวงตาเด็กชายเปล่งประกาย “ท่านต้องการถามสิ่งใด?”

“เมื่อวาน มีคนนอกสองคนมาที่ถนนนี้ คนหนึ่งสวมเสื้อคลุมเขียว…”

เฉิงอู้หย่งอธิบายลักษณะพร้อมเสื้อผ้าของซูอี้และหวงเฉียนจวินทีละคน

รับฟังถ้อยคำเหล่านั้น เด็กชายกล่าวตอบท่าทีระแวดระวัง “ข้าไม่รู้จักคนเหล่านั้น! ข้าจะคืนเงินให้ท่าน ข้าไม่ต้องการมันแล้ว”

เด็กน้อยคืนเงินแก่อีกฝ่าย ก่อนรีบหันหลังหวังเดินจากไป

แต่เดินออกไปไม่ทันไร หลังเสื้อของเด็กชายก็ถูกเฉิงอู้หย่งหิ้วลอยขึ้น

“ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ใช่คนเลว แต่เป็นสหายของชายหนุ่มทั้งสอง” เฉิงอู้หย่งกล่าวเสียงโน้มน้าว

มองเพียงแวบเดียว ตัวตนเช่นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าท่าทางของเด็กชายมีพิรุธ

เด็กชายขมวดคิ้วมุ่น “จริงหรือ?”

“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง”

หยวนลั่วซีกล่าวขึ้นจากด้านข้าง “เจ้าคิดว่าเราดูเหมือนคนไม่ดีหรือ?”

เด็กชายกล่าวตอบ “เหล่าคนเลวย่อมไม่สลักอักษรเลวไว้บนหน้าผากจริงหรือไม่?”

เฉิงอู้หย่งหัวเราะออกมาก่อนกล่าวว่า “เจ้านี่ช่างเป็นคนน่าขัน เอาล่ะ ช่างเถอะ ข้าไม่ได้อยากจะทำให้เจ้าอึดอัดใจ”

เขาวางเด็กชายลงพื้น ก่อนหยิบเงินหนึ่งกำมือยัดเข้ามืออีกฝ่าย “เป็นโชคชะตาที่ได้พบกัน นำเงินนี้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่มาใส่ซะ”

เด็กชายยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองดูเงินในมือ คล้ายกับไม่เชื่อสายตา

เมื่อเห็นว่าหยวนลั่วซีและเฉิงอู้หย่งกำลังจากไป เด็กชายลังเล ก่อนกล่าวขึ้น “ท่านเป็นสหายของพี่ซูอี้และพี่หวงจริงหรือ?”

ดวงตาหยวนลั่วซีเป็นประกาย นางกล่าวตอบในทันใด “แน่นอนอยู่แล้ว”

“พวกเขาย้ายออกจากถนนต้นหลิวไปแล้ว”

เด็กชายกล่าวออก ฟันสบแน่นก่อนคืนเงินในมือ “แล้วก็ในเมื่อพวกท่านเป็นสหายของพี่ซู ดังนั้นจึงนับได้ว่าเป็นสหายของตัวข้าอาเฟยด้วย ข้าจึงรับเงินเหล่านี้ไว้ไม่ได้”

หยวนลั่วซีและเฉิงอู้หย่งหันมองหน้ากันและอดหัวเราะออกมาไม่ได้ พวกเขามองเด็กชายด้วยความชื่นชม

“แล้วรู้หรือไม่ว่าคุณชายซูและคนอื่นย้ายไปที่ใด?” หยวนลั่วซีเอ่ยถามคำเบา

เด็กชายลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็กล่าวออก “ช่างเถอะ ต่อให้เป็นศัตรูของพี่ซู แต่พวกท่านก็คงไม่อาจสู้พี่ซูของข้าได้ เช่นนั้นข้าจะบอกก็ได้ พี่ซูและคนอื่นย้ายไปที่ตรอกน้ำเต้าแล้ว”

“ตรอกน้ำเต้า อยู่ที่นั่นเองงั้นหรือ” หยวนลั่วซีแอบพึงพอใจ โชคดีที่พบกับเด็กชายผู้นี้ ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะตามหาเซียนซูในเวลาอันสั้น

“น้องอาเฟย ขอบคุณเจ้ามาก”

เฉิงอู้หย่งก้าวออกไปตบไหล่เด็กชายพลางกล่าว “ข้าขอถามเจ้าอีกอย่าง ที่เจ้าดูเป็นกังวลเมื่อเราเอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นเพราะเจ้าสงสัยว่าเราเป็นศัตรูของคุณชายซูหรือ?”

อาเฟยกระซิบตอบ “เมื่อครู่ พวกคนเลวจากกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬมาถึงและสอบถามเกี่ยวกับพี่ซู ข้าเลยคิดว่าพวกท่านเหมือนกับคนเลวเหล่านั้น”

“กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ?”

หยวนลั่วซีตกตะลึง “พวกมันเป็นใคร ทำไมข้าไม่เคยได้ยินชื่อพวกมันมาก่อน?”

“กลุ่มคนชั่วช้าขนาดเล็กที่ซ่องสุมอยู่แต่ในโลกใต้ดินของมหานครอวิ๋นเหอ” เฉิงอู้หย่งอธิบายเสียงเบา

หยวนลั่วซีกล่าวด้วยสีหน้างุนงง “กลุ่มเล็กจ้อยกล้าไถ่ถามเรื่องราวเกี่ยวกับคุณชายซูได้อย่างไร พวกเขากำลังรนหาที่ตายหรือ?”

อาเฟยโพล่งออก “พี่สาว พี่ซูบุกเข้าไปยังแหล่งกบดานของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬคนเดียวยามค่ำคืน…”

เขาเล่าเรื่องราวการช่วยชีวิตเฝิงเสี่ยวหรานของซูอี้อย่างตื่นเต้น

หยวนลั่วซีและเฉิงอู้หย่งตระหนักได้ทันทีɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ

จากคำบอกเล่าของอาเฟยทำให้พวกเขารู้ว่า สหายของซูอี้ก็คือเฝิงเสี่ยวเฟิง ชายหนุ่มอดีตศิษย์สายนอกสำนักดาบชิงเหอ แต่ตอนนี้ขาของเขาใช้การไม่ได้

“แม้จะถูกสำนักทอดทิ้งนานนับปี แต่คุณชายซูกลับไม่เคยลืมเลือนสหายร่วมสำนัก ช่างน่าชื่นชมนัก” หยวนลั่วซีถอนหายใจ

“ในสายตาคนเช่นเขา ความแตกต่างในสถานะของชนชั้นล้วนไร้ค่า มีเพียงมิตรภาพเท่านั้นที่เขาใส่ใจ”

เฉิงอู้หย่งจับมืออาเฟยพลางกล่าวออก “ขอบคุณเจ้ามากน้องชาย”

อาเฟยยิ้มตอบ ก่อนจะเอ่ยถามทันใด “ว่าแต่ท่านผู้อาวุโส หากพวกท่านจะไปยังที่ที่พี่ซูและคนอื่นอยู่ ช่วยพาข้าไปด้วยได้หรือไม่? ข้าไม่เคยไปตรอกน้ำเต้า จึงไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ใด”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” เฉิงอู้หย่งหัวเราะเสียงดัง

ในไม่ช้า เขาก็อุ้มอาเฟยขึ้นมาขี่ม้าด้วยกันก่อนจะควบออกไปยังตรอกน้ำเต้าพร้อมกับหยวนลั่วซี

สายธารหลั่งไหลผ่านสะพานเล็กของศาลาหินในคฤหาสน์หลังหนึ่ง

หลู่เฉวียนผู้นำกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬยืนโค้งด้วยความเคารพ ร่องรอยความเย่อหยิ่งหายสิ้น ท่าทีเต็มไปด้วยความกริ่งเกรง

“ท่านผู้อาวุโส หากไม่ใช่เพราะกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬได้รับความเสียหายร้ายแรง ข้าคงไม่มาถึงที่นี่เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ”

หลู่เฉวียนถอนหายใจ ความขมขื่นปรากฏบนใบหน้า

ด้านข้าง ชายชราผมสีดอกเลารูปลักษณ์อาจหาญดั่งขุนศึกกำลังตัดแต่งกิ่งก้านพุ่มไม้เขียวอย่างสบายใจ

อู่เทียนฮ่าว!

จ้าวแห่งโลกใต้ดินผู้มีชื่อก้องในมหานครอวิ๋นเหอ ทุกกลุ่มอิทธิพลใต้ดินไม่ว่าเล็กใหญ่ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของมหานครอวิ๋นเหอล้วนนับถือเขาเป็นผู้นำและติดตามเพียงเขาเท่านั้น

พลังอำนาจมากล้นจนกลุ่มธรรมดาไม่กล้าคิดยั่วยุ

ไม่นานหลังจากนั้น อู่เทียนฮ่าวก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง “ข้าได้ยินเรื่องราวเมื่อคืนนี้แล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดเป็นคนทำ?”

หลู่เฉวียนรีบกล่าวออก “ตามข้อมูลที่ลูกน้องข้าได้มาจากผู้คนย่านถนนต้นหลิว ว่ากันว่าเป็นชายหนุ่มแปลกหน้า ซึ่งสงสัยว่าเป็นสหายของเฝิงเสี่ยวเฟิง ศิษย์ผู้ถูกทอดทิ้งของสำนักดาบชิงเหอ”

อู่เทียนฮ่าวตะลึงครู่หนึ่งพลันชี้จมูกตนเองและกล่าวยิ้ม “เจ้าต้องการให้ผู้เฒ่าชราจัดการกับเด็กรุ่นเยาว์งั้นหรือ?”

หลู่เฉวียนรีบกล่าว “ท่านผู้อาวุโส ชายหนุ่มผู้นั้นไม่ธรรมดา คนหนึ่งคนกับดาบหนึ่งเล่มบุกเข้ามาในอาณาเขตของข้าอย่างองอาจ ฆ่าฟันคนเป็นผักปลาราวกับไม่ใช่มนุษย์ อย่างน้อยบุคคลนี้ต้องอยู่ในขอบเขตโคจรโลหิตขั้นสมบูรณ์ ทั้งยังดูอ่อนเยาว์ ข้ากังวลว่าที่มาของเขาคงไม่ธรรมดาแน่…”

ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำจนจบ อู่เทียนฮ่าวก็โบกมือพลางกล่าว “ในมหานครอวิ๋นเหอนี้ มีคนรุ่นใหม่ทรงอำนาจแก่กล้าจำนวนนับไม่ถ้วน คนของเจ้าเปรียบได้กับหมาแมวเมื่ออยู่ต่อหน้ารุ่นเยาว์เหล่านั้น ไม่แปลกหากจะถูกสังหารสิ้นอย่างง่ายดาย”

หัวใจของหลู่เฉวียนดิ่งฮวบเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูไม่ใส่ใจ ฟันกรามขบกันแน่นและหยิบกล่องหยกที่เตรียมไว้ออกมา เขาเอ่ยคำเสนอด้วยความเคารพ “ท่านผู้อาวุโส นี่คือสมุนไพรวิญญาณระดับสอง หากท่านผู้อาวุโสช่วยข้าชำระหนี้แค้นนี้ได้ ข้ายินดีส่งสมุนไพรวิญญาณระดับสองอีกสามชนิดเพิ่มให้!”

ท้ายที่สุด เขาต้องยอมหลั่งเลือดเนื้อจ่ายราคา!

สำหรับผู้บ่มเพาะ สมุนไพรวิญญาณระดับสองมีคุณค่าล้นพ้น เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่ง

ในความมั่งคั่งทั้งหมดที่กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬเก็บสะสมไว้ตลอดหลายปี อย่างมากที่สุดพวกเขาก็เก็บสมุนไพรวิญญาณระดับสองได้เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น

อู่เทียนฮ่าวขมวดคิ้วก่อนกล่าวออกอย่างเฉยเมย “ช่างเถอะ เจ้ารับใช้ข้ามาหลายปี คราวนี้ข้าคงอยู่เฉยไม่ได้”

ขณะกล่าว เขาสั่งคนรับใช้ให้นำพู่กันเหล็ก หมึก และพัดออกมา จากนั้นจึงเขียนชื่อของเขาลงบนพัด ‘อู่เทียนฮ่าว’

ลายมืองดงามดั่งหงส์ร่อนมังกรรำ เคลื่อนไหวอย่างไร้กฎเกณฑ์

“นำพัดอันนี้ไปบอกเจ้าหนุ่มนั่นว่า ข้าอู่เทียนฮ่าว ชรามากแล้ว ข้าไม่ต้องการต่อสู้หรือเข่นฆ่า และจะให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่อย่างเขา”

อู่เทียนฮ่าวชื่นชมการประดิษฐ์ตัวอักษรของตนเอง ก่อนมอบพัดแก่หลู่เฉวียนพลางกล่าวออก “หากเขาฉลาดพอ จงมาที่คฤหาสน์ของข้าเพื่อก้มศีรษะขออภัยและชดเชยการสูญเสียของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอย่างจริงใจ เรื่องคราวนี้ก็สามารถให้อภัยได้”

หลู่เฉวียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย

เด็กหนุ่มคนนั้นฆ่าฟันลูกน้องข้าไปหลายคน แต่กลับยังให้โอกาสมันชดเชย เป็นเพราะของกำนัลของข้าไม่เพียงพองั้นหรือ?

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยถาม “ท่านผู้อาวุโส แล้วหากเด็กหนุ่มนั่นไม่ยินยอมเล่า?”

ท่าทีของอู่เทียนฮ่าวแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา

นับตั้งแต่อดีต วาจาเขาถือเป็นคำขาด ผู้เป็นจ้าวแห่งเขตตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง ใครบ้างจะอาจหาญไม่ก้มหัวและเชื่อฟัง?

ตอนนี้ เพื่อเก็บกวาดชายหนุ่มนิรนาม อู่เทียนฮ่าวไม่สนใจกลั่นแกล้งผู้ต่ำต้อยกว่า จึงคิดให้โอกาสอย่างไม่เห็นแก่ตัว ตราบใดที่ชายหนุ่มฉลาดมากพอ ควรรู้ตนว่าต้องทำอย่างไร

เขาเหลือบมองหลู่เฉวียนพลางกล่าวถ้อยคำ “หรือเจ้าสงสัย ว่าฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองนั้น อู่เทียนฮ่าวมีใบหน้าไม่เพียงพอ?”

หลู่เฉวียนเหงื่อตกและกล่าวออกอย่างเร่งรีบ “ท่านผู้อาวุโสโปรดอย่าร้อนใจ ข้าจะจัดการให้ในทันที”

เพียงแต่ในใจเขาซ่อนเร้นความโหดเหี้ยม ต้องหาโอกาสเอาคืนชายชราผู้น่ารังเกียจนี้ให้ได้ในภายภาคหน้า!

หลู่เฉวียนทราบเป็นอย่างดี หากชายหนุ่มผู้นั้นยอมก้มศีรษะขออภัยและเสนอค่าชดใช้ ตัวเขาจะไม่ได้รับค่าชดใช้เหล่านั้นเลย เนื่องจากอู่เทียนฮ่าวจะโกยเข้าตัวเองทั้งหมด!

“ช้าก่อน เจ้าลืมสิ่งใดหรือไม่?”

ขณะหลู่เฉวียนหันหลังกำลังจะจากไป น้ำเสียงไม่แยแสของอู่เทียนฮ่าวก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

หลู่เฉวียนตกตะลึงครู่หนึ่ง มุมปากกระตุกรุนแรง ก่อนวางกล่องหยกในมือลงบนด้านหนึ่งของโต๊ะอย่างระมัดระวัง

เขาฝืนยิ้มแข็งกล่าวออก “ท่านผู้อาวุโสอย่ากังวล สิ่งที่กล่าวไว้ก่อนหน้า ข้าไม่ผิดสัญญา”

อู่เทียนฮ่าวพ่นลมหายใจ เริ่มตัดแต่งกิ่งไม้ด้วยกรรไกรอีกครั้ง

รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก

การฉกฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬครั้งนี้ อาจนำของดีเข้ามามากมาย

ส่วนชายหนุ่มไม่ทราบที่มาคนนั้น…

หึ!

ตัวตนเล็กจ้อยที่สนิทสนมกับคนยากจนในถนนต้นหลิว ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน จะมีอำนาจยิ่งใหญ่ไปได้อย่างไร?

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset