42. ราคาสำหรับเติมเต็มความปรารถนา (6)
* * *
ในอดีตอันไกลโพ้น ยุคสมัยแห่งเทพนิยาย
เมื่อเผ่าเสือที่ขับไล่ศัตรูจากภายนอกสำเร็จ ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติใหม่เพราะถูกเผ่าหมีหักหลัง
เสือขาวผู้แข็งแกร่งกว่าใครบนคาบสมุทรเกาหลีในเวลานั้น ประกาศกร้าวอย่างหนักแน่น:
—พวกหมีที่บังอาจหักหลังพี่น้องและสหายของข้า ไม่คู่ควรที่จะตายด้วยเขี้ยวขาวของข้า
เสือขาวได้ทำการผนึกเขี้ยวขาวอันเจิดจ้า—ดาบใหญ่ที่เสือเงินมอบให้
แล้วก็ชักกรงเล็บล่าหมีสีแดงเข้มออกมา
กรงเล็บล่าหมีได้เข่นฆ่า ฉีกกระชาก และทำลายเผ่าหมีไปมากมาย
กรงเล็บล่าหมีเป็นเพียง ‘อาวุธ’ เรียบง่าย ซึ่งไม่เหมาะกับวิชาต่อสู้อันสูงส่งของเสือขาวแม้แต่น้อย
—พวกเจ้าจะไม่มีวันได้เห็นดาบที่แท้จริง ข้าจะล้างบางพวกหมีชั่วอย่างเหี้ยมโหด ด้วยกรงเล็บอัปลักษณ์เล่มนี้
ต่อหน้าคำประกาศของเสือขาว นักรบเผ่าหมีต่างพากันสิ้นหวัง
เหล่านักรบเผ่าหมีไม่เคยกลัวตาย
พวกมันไม่เสียใจที่หักหลังเผ่าเสือ
การได้สิ้นชีพด้วยดาบที่กวัดแกว่งโดยสุดยอดนักดาบแห่งยุค ในสงครามที่พวกตนออกรบเพื่อเผ่าพันธุ์ ถือเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกมัน
ดังนั้น นักรบเผ่าหมีที่เผชิญหน้ากับเสือขาวต่างรู้สึกถูกหยามเกียรติ เมื่อต้องถูกปลิดชีพโดยกรงเล็บล่าหมี มิใช่เขี้ยวขาว
—ชักเขี้ยวขาวออกมา เสือขาว! แสดงพลังที่แท้จริงของเจ้าซะ!
—หากเจ้าเป็นนักรบ จงใช้ดาบใหญ่ที่เจ้าภาคภูมิใจ มิใช่กรงเล็บอัปลักษณ์นั่น!
นักรบเผ่าหมีทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะข่มขู่ อ้อนวอน หรือขอความเห็นใจจากเสือขาว
อย่างไรก็ดี ตลอดการฆ่าล้างบางเผ่าหมี เสือขาวมิได้อัญเชิญเขี้ยวขาวแม้แต่หนเดียว
ไม่มีใครในเผ่าหมีได้ยลโฉมเขี้ยวขาว จนกระทั่งผู้นำของมันประเมินว่า การปะทะกันในแนวหน้าเริ่มได้ไม่คุ้มเสีย จึงออกคำสั่งให้ล่าถอย
แต่ ณ ตอนนี้
ใต้เจ็ดดาวประจิม, ภายในบาเรียปัดเป่าแห่งหอฝึกสีเงิน ในขอบเขตของโรงเรียนแสงเงิน
จอมลอกเลียน—มือขวาของผู้นำเผ่าหมี ผู้ถูกเผ่าเสือจับตัวมาสอบปากคำ กำลังยืนอยู่ต่อหน้าเขี้ยวขาว
“นี่คือ… เขี้ยวขาว…!”
จอมลอกเลียนที่กำลังลุ่มหลงความเจิดจ้าของดาบที่เสือขาวถือ เปิดปากเสียงระริก
“…ส่งดาบมาให้ข้า”
ซึก!
เมื่อเสือขาวขยับมือ คลื่นพลังงานสีขาวรอบตัว เริ่มเปลี่ยนเป็นรูปร่างของดาบใหญ่
เป็นสัญญาณการเรียกใช้แสงประทาน ‘อัญเชิญอาวุธ’
เมื่อดาบใหญ่เริ่มเป็นรูปร่าง เสือขาวขว้างมันไปทางจอมลอกเลียนโดยไม่พูดไม่จา
หมับ!
จอมลอกเลียนคว้าอาวุธที่เสือขาวขว้างมา จากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะ
“ฮะ… ฮะฮะฮะฮะ!”
จอมลอกเลียนกำด้ามจับแนบแน่น เส้นเลือดหลังมือปูดโปนจนดูคล้ายใกล้ระเบิด
“ฮะฮะฮะ! ฮะฮะฮะฮะฮะฮะ! และแล้วก็มาถึงวันที่ข้าได้จับกรงเล็บล่าหมี!”
ดาบใหญ่ที่เสือขาวส่งให้จอมลอกเลียนคือกรงเล็บล่าหมี
* * *
รถที่ติดตราของมูลนิธิวังมยอง ขับตรงเข้าไปในประตูหลักของโรงเรียนแสงเงิน
‘ปกติต้องจอดรถหน้าประตูหลัก’
ยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้ผ่านบาเรียโรงเรียนแสงเงินนั้นมีน้อยมาก
ดังนั้นถ้าจะนัดพบใคร หรือเรียกแอร์แท็กซี่ ปกติแล้วต้องยืนรออยู่นอกประตูทางเข้าหลัก
เป็นอีกครั้งที่ฉันได้ตระหนักว่า แอร์ชัตเทิลที่กำลังโดยสารอยู่ลำนี้ เป็นของมูลนิธิวังมยอง
ปิ๊งป่อง
ขณะผ่านประตูหลักและมุ่งหน้าไปสู่เขตหอพัก ข้อความจากกงชองวอนถูกส่งมาถึง
[กงชองวอน] ครูกำลังไปที่ตึกหอพักครูพร้อมกับฮันอี
[กงชองวอน] ครูจะรออยู่ที่ห้องรับรองของชั้นแรก นั่งฟังเรื่องราวจากปากฮันอี
คำนึงจากการที่ซาวอลเซอึมกับควอนเลนาคอยเฝ้าอยู่ หมายความว่าฮันอีเล็ดลอดประสาทสัมผัสของทั้งคู่มาได้ แต่หนีไม่พ้นสายตาของกงชองวอน
‘ฮันอีเคลื่อนไหว… แปลว่าเธอได้รับข้อความข่มขู่จากบริษัทรับจ้าง’
ถ้าไม่มีข้อความข่มขู่ คงไม่มีเหตุผลให้ฮันอีเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
ตอนนี้ฉันควรตรงไปที่หอพักครู ตรวจสอบข้อความที่ฮันอีได้รับ แล้วค่อยวางแผนถัดไป
ขณะคิดมาถึงตรงนี้ วังจีโฮข้างๆ ขมวดคิ้วเมื่อได้รับสายโทรศัพท์
“…เจ้าเด็กนี่โทรหาข้าทำไม”
“ใคร”
“ยงเจกอน… ลางไม่ดีเลย เขาไม่เคยโทรมาเล่นๆ”
ยงเจกอนเป็นฝ่ายติดต่อมา?
แม้ยงเจกอนจะสนิทสนมกับเขาไปทั่ว แต่ในเกม เขาแทบไม่เคยโทรหาใครเพียงเพื่อไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ
ผู้เล่นบางคนถึงกับแตกตื่นเมื่อได้รับสายในเกมจากยงเจกอน
‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่’
ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทำไมตาเฒ่าวังจีโฮไม่ยอมรับสายของตัวละครของฉันสักที?
“รับสิ”
ได้ยินฉันรบเร้า วังจีโฮลังเลสักพักก่อนจะเปลี่ยนดีไวซ์เป็นโหมดลำโพง
[สวัสดี ท่านประธานเสือเหลือง]
“มีอะไร? ถ้าไม่เร่งด่วนไว้คุยกันวันหลัง…”
[ชินรกถูกทำร้าย]
คำว่า ‘ชินรกถูกทำร้าย’ ลบสีหน้าทั้งหมดออกจากใบหน้าวังจีโฮ
‘…คิมชินรกคงปลอดภัยแล้ว เพราะถ้าไม่ปลอดภัย ยงเจกอนคงไม่โทรหาวังจีโฮ’
คงคิดแบบเดียวกับฉัน วังจีโฮรีบรวบรวมคลื่นพลังวิเศษกับพลังเวท พลางกัดกรามแน่น
“เด็กคนนั้นปลอดภัยไหม ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
[ตึกวิจัยแสงประทาน 4… ตึกเงาเงิน]
เมื่อวังจีโฮเชิดคาง แอร์ชัตเทิลที่กำลังมุ่งหน้าไปเขตหอพัก รีบเปลี่ยนทิศทางเป็นย่านอาคารวิจัย
‘เดี๋ยวนะ… เขาอยู่ในตึกเงาเงิน? หมายความว่าการทำร้ายเกิดขึ้นในโรงเรียน?’
ในโรงเรียนแสงเงิน
มิหนำซ้ำ เหยื่อคือคิมชินรก ลูกหลานเผ่าเสือ
ขณะความฉงนเริ่มบ่มเพาะ ยงเจกอนเล่าต่อไป
[ท่านอยู่ในคาบสมุทรเกาหลีหรือยัง? จากที่ชินรกเล่า ท่านประธานกำลังเดินทางกลับใช่ไหม]
“ใช่ ฉันถึงโรงเรียนแสงเงินแล้ว กำลังตรงไปหาเจ้า”
[ขอแนะนำให้ไปจับคนร้ายแทนที่จะมาที่นี่]
“รู้ตัวคนร้ายแล้วหรือ เล่าให้ฟังหน่อย”
ยงเจกอนยังไม่ตอบในทันที
มีเสียงดังแทรกเข้ามาจากปลายสายเป็นระยะ
เมื่อลองตั้งใจฟัง มันคล้ายกับเสียงคนเถียงกัน โดยมีเสียงคิมชินรกปะปนเข้ามา
[…ห้ามพูดนะ! …อย่าเพิ่งบอกท่านเสือเหลือง! ให้ข้าคุยกับท่านก่อน!]
แต่ไม่นานเสียงของคิมชินรกก็หายไป
คงถูกยงเจกอนใช้กำลังกำราบเหมือนทุกที
เมื่อปลายสายกลับมาเงียบสงัด ยงเจกอนตอบ
[คนร้ายคือเสือขาว ข้าลองตรวจสอบภาพจากอุปกรณ์บันทึกดูแล้ว เขาพาจอมลอกเลียนออกจากตึกเงาเงินไปด้วย]
“…!”
ได้ยินแบบนั้น วังจีโฮเปิดโฮโลแกรมหน้าต่างใหม่แล้วโทรหาเสือขาว
แต่ไม่ว่าหน้าจอจะแสดงเวลาโทรนานเท่าไร เสือขาวก็ไม่รับสาย
‘แบคโฮกุนทำร้ายคิมชินรก แล้วพาจอมลอกเลียนออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต?’
ดูจากการที่คิมชินรกพยายามห้ามยงเจกอน นี่คงไม่ใช่เรื่องโกหก
นอกจากนั้น หากแบคโฮกุนคือคนร้าย มันก็ลงล็อกเรื่องที่คิมชินรกถูกจัดการอย่างง่ายดาย
เหตุผลที่แบคโฮกุนทำร้ายคิมชินรก ผู้เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทโนเวลกูดอทคoม
ฉันพยายามคิดหา แต่ก็คิดไม่ตก
อย่างไรก็ดี ถ้าแบคโฮกุนทำเรื่องพรรค์นี้ลงไป
ฉันมั่นใจว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“อย่าปล่อยให้คิมชินรกทำเรื่องเหลวไหลล่ะ”
[ไม่ต้องบอกก็จะทำอยู่แล้ว]
เมื่อวางสาย วังจีโฮเปลี่ยนปลายทางอีกครั้ง
คราวนี้ เป้าหมายของแอร์ชัตเทิลคือย่านทิวทัศน์ของโรงเรียนแสงเงิน
“กำลังจะไปหอฝึกสีเงิน?”
“ใช่ เสือขาวออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ และสถานที่เดียวในเขตอึนกวางที่อำนาจผู้พิทักษ์เอื้อมไม่ถึง และเป็นที่ที่เสือขาวน่าจะอยู่ ก็คือหอฝึกสีเงิน”
ฉันเป็นห่วงฮันอีก็จริง แต่กงชองวอนคงไม่ปล่อยให้เธอทำอะไรเสี่ยงอันตราย ดังนั้นถึงจะไปช้าหน่อยคงไม่เป็นไร
“ไปหอฝึกสีเงินกัน”
* * *
ย่านทิวทัศน์ของโรงเรียนแสงเงิน บนทางเดินรอบทะเลสาบสีคราม
วังจีโฮที่ย่างกรายเข้าสู่ดินแดนแห่งหมอกทึบ ถึงกับส่ายหน้า
“บาเรียถูกเพิ่มระดับความเข้มข้น… ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะปลดได้”
ตามที่วังจีโฮพูด บาเรียปัดเป่าที่แบคโฮกุนสร้างมีปริมาณเข้มข้นเป็นพิเศษ สายหมอกรอบทะเลสาบสีครามทั้งหนาและกว้างกว่าปกติ
“…จากเท่าที่ดู สถานการณ์นี้คงไม่อยู่ใน ‘สิ่งที่นายรู้’ สินะ”
วังจีโฮมองเข้าไปในหมอกด้วยใบหน้าเจือความสับสน
“ก็ใช่… แต่เขาต้องมีเหตุผลที่ทำแบบนี้แน่”
นี่มิใช่พัฒนาการที่เกิดขึ้นในเกม แต่ฉันพูดอย่างมั่นใจ
ไม่มีภาพเลยที่เสือขาวจะหักหลังเพื่อนสนิท
แต่ฉันก็ปล่อยผ่านสถานการณ์นี้ไม่ได้เช่นกัน
“ฉันจะปลดบาเรียเอง”
〈แสงประทาน ‘เส้นทางเพลเยอร์’ ถูกใช้งาน〉
การ์ดแบคโฮกุนลอยออกมา กลายเป็นแสง แล้วอันตรธานหายไป
ทันทีหลังจากนั้น แสงประทานและสกิลของแบคโฮกุนถูกใช้อย่างต่อเนื่อง
〈ท่านใช้งานแสงประทานของตัวละคร ‘อัญเชิญเขี้ยวขาว·ตัดสายฟ้าผ่าเมฆา’ 〉
“อัญเชิญเขี้ยวขาวได้ด้วย…!”
เสียงอุทานของวังจีโฮดังแว่ว
〈ท่านใช้งานสกิลของตัวละคร ‘ปัดเป่า’ 〉
เมื่อข้อความระบบแจ้งเตือนการใช้สกิล เขี้ยวขาวพลันส่องสว่าง
ในทิวทัศน์ที่มีเพียงความขาวโพลน เขี้ยวขาวฟันผ่าหมอกเข้าไป
ฉึบ
ปกติแล้วการผ่าหมอกไม่ควรจะมีเสียง แต่เสียงคล้ายบางสิ่งถูกตัดดังขึ้น และหมอกเริ่มจางลง
เมื่อหมอกหายไปทั้งหมด ป้ายเหนือประตูที่เขียนว่า ‘หอฝึกสีเงิน’ ปรากฏสู่สายตา
“…น่าทึ่งมาก ใช้พลังของเสือขาวได้ระดับนี้เชียว”
วังจีโฮที่เปิดสกิล ‘เนตรส่อง’ โดยการรวบรวมพลังเวทไว้รอบดวงตา กล่าวด้วยดวงตาที่ส่องประกายสีทอง
“ใช้พลังของเสือขาวต่อเลย พวกเราจะกระโจนเข้าไป”
แม้จะยกเลิกการอัญเชิญเขี้ยวขาวแล้ว แต่ฉันกระโจนเข้าไปในหอฝึกสีเงินโดยยังสวมแสงประทานของแบคโฮกุนอยู่
เมื่อเข้ามาด้านใน พวกเราสัมผัสถึงแรงปะทะของคลื่นพลังวิเศษได้จากตำแหน่งไกลๆ
คั้ง! บึ้มม!
ต้นตอของเสียงดังมาจากใจกลางโดมเจ็ดดาวประจิม ที่ฉันเคยดวลกับแบคโฮกุนหลายครั้ง
ยิ่งกระโจนเข้าไป เสียงก็ยิ่งใกล้ จนกระทั่งเงียบลง
วังจีโฮที่กระโจนเคียงข้างฉันมาตลอด เร่งความเร็วเพื่อพุ่งไปเปิดประตูห้องโดมเจ็ดดาวประจิม
โครม!
“เสือขาว!”
ใต้ท้องฟ้าเจ็ดกลุ่มดาวที่สร้างจากพลังวิเศษ
จอมลอกเลียนกำลังนอนแน่นิ่ง
แบคโฮกุนผู้ปลดปล่อยพลังแท้จริง จนเรือนผมและนัยน์ตากลายเป็นสีขาว กำลังถือเขี้ยวขาวชุ่มเลือดพลางหันมามองพวกเขา
วังจีโฮหมดคำจะกล่าวไปหลายวินาที จนกระทั่งเปิดปากด้วยท่าทีไม่เข้าใจ
“เจ้า… เขี้ยวขาวที่เสือเงินมอบให้… เจ้าใช้มันกับพวกหมีโสโครก?”
แบคโฮกุนตอบขณะสะบัดเลือดออกจากเขี้ยวขาว
“ข้าทำข้อตกลงกับจอมลอกเลียน… มันบอกว่าอยากดวลดาบกับเขี้ยวขาวสักครั้งในชีวิต”
“แล้วทำไมเจ้าต้องทำตามข้อเรียกร้องของจอมลอกเลียนที่เป็นมือขวาของผู้นำเผ่าหมี? แถมยังผิดคำสาบาน… ทำร้ายคิมชินรก… ใช้เขี้ยวขาวกับเผ่าหมี”
“…ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องคัดค้าน”
ความโกรธเกรี้ยวของวังจีโฮถูกแสดงออกในรูปของพลังเวท
รอบตัวเต็มไปด้วยอนุภาคสีทองอย่างล้นหลาม
แม้วังจีโฮจะแผ่จิตคุกคามใส่แบคโฮกุน แต่อีกฝ่ายยังคงมองกลับมาด้วยสายตาเฉยเมย
“สิ่งตอบแทนจากการช่วยเติมเต็มความปรารถนาให้มัน… ตอนนี้ข้าได้รู้เบาะแสของ ‘พวกเขา’ เพิ่มเติมแล้ว”
“พวกใคร? แล้วสำคัญยังไง? ขึ้นอยู่กับคำตอบ ข้าจะจับกุมเจ้า—นักโทษ—ด้วยอำนาจของผู้พิทักษ์”
แรงกดดันจากพลังเวทสีทอง ทวีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ
ท่ามกลางสถานการณ์ชี้เป็นชี้ตาย แบคโฮกุนเปิดปาก
“เสือคราม กับเทพมนุษย์”
“อะไรนะ…?”
“มันบอกว่า พวกเขากลายเป็นมนุษย์”
พลังเวทที่วังจีโฮปลดปล่อยออกมา หยุดเคลื่อนไหวในบันดล
ในหอฝึกสีเงินที่เงียบไปกะทันหัน เนื่องจากสายลมหยุดไหลเวียน แบคโฮกุนยังคงเล่าต่อ
“ความปรารถนาของเทพมนุษย์คือ ‘กลายเป็นมนุษย์’ และเทพสวรรค์ก็อนุญาต”
* * *
“น้องรัก ไม่ได้เจอกันเสียนาน”
โดยไม่สนใจคำว่า ‘น้องรัก’ ฮงกยูบินยื่นนามบัตรพร้อมกับพูด
“สวัสดีครับ ผมคือฮงกยูบิน หัวหน้าทีมสื่อที่ 1 ของสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลี ยินดีที่ได้รู้จักครับ หัวหน้าชเว”
“ถ้างั้นฉันก็จะเรียกว่าหัวหน้าทีมฮง ตามที่น้องรักต้องการ”
หัวหน้าชเวที่รับนามบัตรไปจากฮงกยูบิน เปิดปากถาม
“ว่าแต่… หัวหน้าทีมฮง ช่วงนี้ ‘นักกวีที่เขียนกวีไม่ได้’ เป็นอย่างไรบ้างล่ะ”
“…อยากจะพูดอะไรกันแน่!”
หัวหน้าชเวเผยสีหน้านอบน้อม ปราศจากจิตมุ่งร้าย
“ฉันกำลังหมายถึงสุดยอดคุณครูที่ยอมละทิ้งความฝันของตัวเอง เพื่อให้ความฝันของนายเป็นจริงไง… นักกวีหยกครามน่ะ ฉันถามว่าเขาสบายดีไหม”