คะแนนสอบสุดท้ายจะถูกประกาศในเวลา 00:00 ตรง
ย็อมจุนยอลนั่งตัวเกร็งอยู่กลางห้อง รอตรวจสอบอันดับคะแนนด้วยความประหม่า
‘ถ้านอนน้อยอาจรบกวนตารางเวลาของพรุ่งนี้ได้…’
หากไม่นับวันที่ถ่ายแบบชุดนักเรียน ซึ่งกินเวลานานจนต้องกลับบ้านในช่วงรุ่งสาง เขาไม่ได้อยู่ดึกแบบนี้มานานแล้ว
‘ทำไมเวลาถึงเดินช้านักนะ’
แม้จะตรวจสอบเวลาบนนาฬิกาโฮโลแกรมหลายครั้ง แต่ตัวเลขก็แทบไม่ขยับเลย
ย็อมจุนยอลตั้งใจเรียนในทุกครั้งที่ผ่านมาก็จริง แต่นี่เป็นหนแรกที่เขาทุ่มเททุกสิ่งเพื่อเล็งคว้าอันดับหนึ่งของชั้นปี
‘อาจารย์ต้องเป็นผู้เกี่ยวข้องกับโรงเรียนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นนักเรียนหรือครู… ทุกครั้งจะนัดพบเราในเขตหวงห้าม และดูเหมือนจะตรวจสอบบันทึกการแข่งหมากรุกได้ทันที’
หากอาจารย์ผู้สูงส่งของตนคือหนึ่งในคณะครู สิ่งที่ย็อมจุนยอลควรทำเป็นอันดับแรกเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับก็คือ
สอบให้ได้คะแนนดี
คุณค่าของนักเรียนไม่ได้วัดกันที่คะแนนสอบก็จริง
แต่คะแนนสอบคือเกณฑ์ที่ใช้ประเมินนักเรียนได้ง่ายที่สุด
‘ก่อนหน้านี้เราให้อาจารย์เห็นแต่ด้านแย่ๆ … ถ้าเป็นไปได้ก็อยากสอบได้ที่หนึ่ง’
เขาแพ้ให้กับรุ่นน้องอย่างโชอึยชินในทัวร์นาเมนต์หมากรุกที่อาจารย์ให้ความสนใจ
เพื่อแก้ตัวจากเรื่องนั้น เขาท้าแชมป์เก่าอย่างชอนดงฮาแข่งหมากรุก แต่ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้
การได้เติบโตท่ามกลางเผ่ามังกรและสมาชิกทีมสิงโตแดงอันแข็งแกร่ง อาจทำให้ย็อมจุนยอลชาชินกับความพ่ายแพ้
แต่เขาไม่ชินกับการแพ้เพื่อนรุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะมนุษย์
บี๊บ!
ทันใดนั้น นาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ตอนเที่ยงคืนตรง ส่งเสียงร้องเตือน
เมื่อรีเฟรชหน้าเว็บไซต์ที่กำลังเปิดค้างอยู่ จอโฮโลแกรมขาวโพลนไปชั่วขณะก่อนจะมีข้อความปรากฏขึ้น
[ (สุดท้าย) ผลการสอบปลายภาคของนักเรียนชั้นปีที่ 2 ประจำภาคเรียนที่ 1]
[อันดับ 1: ห้อง 2/1 ชอนดงฮา]
[อันดับ 2: ห้อง 2/1 ย็อมจุนยอล]
[อันดับ 3 ร่วม: ห้อง 2/0 กึมชานซอล, ห้อง 2/0 วังชานซอล]
…
…
…
ได้เห็นผลสอบ ย็อมจุนยอลรู้สึกเหมือนทิวทัศน์รอบตัวถูกย้อมกลายเป็นสีดำ
‘ไม่ได้ที่หนึ่ง!’
เขาพ่ายแพ้ทั้งที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง
ทั้งหมากรุกและสอบปลายภาค
ความรู้สึกว่างเปล่าและไร้ความสามารถ กัดกินจิตใจชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง
‘จะอธิบายกับท่านอาจารย์ยังไงดี…’
สิ่งที่เคยตั้งเป้าไว้ ทั้งเรื่องการเรียนและหมากรุก สุดท้ายก็เป็นแค่ลมปาก
เขาที่เคยประกาศว่า ‘จะบรรลุเทคนิคฮุบกลืนพลังวิเศษให้ได้ในคาบเรียนต่อไป’ ความจริงแล้วแค่จะกลืนลูกไฟเท่ากำปั้นก็ยังลำบาก
เมื่อเปรียบกับอาจารย์ของตน ผู้คอยปกป้องโลกจากความชั่วร้าย และช่วยชีวิตผู้คนไว้นับไม่ถ้วนโดยไม่โอ้อวดตัวเอง ใบหน้าของเด็กหนุ่มพลันร้อนผ่าว
‘เราเป็นศิษย์ที่ไม่ได้เรื่อง…’
นั่งมองโฮโลแกรม ย็อมจุนยอลครุ่นคิดตลอดทั้งคืนถึงสิ่งที่จะบอกกับอาจารย์
สุดท้ายเขาก็เลือกพิมพ์คำว่า ‘ขอโทษ’ แล้วเตรียมตัวไปโรงเรียน
คำตอบถูกส่งกลับมาทันที
[ท่านอาจารย์] ไม่จำเป็นต้องขอโทษ
[ท่านอาจารย์] เธอทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่แล้ว
อาจารย์ใจกว้างผู้คอยเป็นห่วงเป็นใยศิษย์ไม่ได้ความอยู่เสมอ มอบคำตอบในแบบที่ย็อมจุนยอลคาดเดาได้
การที่เขาส่งข้อความไปขอโทษเพราะเดาได้ว่าอาจารย์จะปลอบใจ ยิ่งทำให้ย็อมจุนยอลรู้สึกเกลียดตัวเองมากกว่าเดิม
เมื่อเปิดประตูห้องนอนออกไป เขาพบเรื่องแปลกก็คือ ย็อมบังยอลกับมังกรครามกำลังสนทนากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
แต่ย็อมจุนยอลไม่ใส่ใจจะฟังเนื้อหา
* * *
หลังเลิกเรียน, ห้องชมรมหนังสือพิมพ์ในตึกสหภาพชมรม
วันนี้ประธานชมรมหนังสือพิมพ์ได้เรียกประชุมสมาชิกทุกคนในหัวข้อ ‘ตารางเวลาช่วงวันหยุดฤดูร้อน’
นั่งรออยู่ในห้องประชุมรวมซึ่งกว้างกว่าห้องชมรมปีนึ่งพอสมควร พลางเปิดดีไวซ์อ่านข้อความขณะรอให้ประธานชมรมมาถึง
‘ย็อมจุนยอลไม่ตอบ…’
ไม่มีข้อความใหม่ถูกส่งมาหลังจากคำว่า ‘ขอโทษ’
มองจากมุมคนปกติ ย็อมจุนยอลมีผลสอบที่น่าชื่นชมมากพอแล้ว
แต่เจ้าตัวคงไม่ปลื้ม
‘และตอนนี้ต้องฝืนเก็บซ่อนความผิดหวังอยู่แน่’
หากเขาระบายออกมาตรงๆ ว่า ‘ไม่พอใจกับที่สอง’ หรือ ‘ผิดหวังจังเลยที่พลาดอันดับหนึ่ง’ นั่นจะเป็นการทำร้ายจิตใจคนส่วนใหญ่ที่สอบได้อันดับแย่กว่าตน ซึ่งย็อมจุนยอลทราบถึงจุดนี้ดี
และคำพูดเหล่านั้นจะยิ่งทำให้เผ่ามังกรกับทีมสิงโตแดงเป็นทุกข์มากกว่าเดิม
ย็อมจุนยอลจึงเลือกปิดปากเงียบ
‘อยากปลอบจังแฮะ’
ให้กำลังใจว่า ‘คราวหน้าต้องดีกว่านี้แน่’ จะเข้าท่าไหม?
จะยิ่งทำให้กดดันมากขึ้นไหมนะ?
หรือเอาเป็น ‘ได้ที่สองก็เก่งแล้ว’ ดี?
…คงไม่ได้ คำพูดดังกล่าวไม่ช่วยให้คนฟังรู้สึกดีขึ้นแน่นอน มีแต่จะชวนให้คิดว่า ‘ทำได้ขนาดนี้แล้วยังจะผิดหวังอะไรนักหนา!’
ทำเอานึกถึงสมัยประถม ในตอนที่ฉันกลับถึงบ้านในฐานะ ‘ตัวสำรอง’ ไม่ใช่ตัวแทนประเทศเพื่อไปแข่งหมากรุกโอลิมปิก
…ท่าทีของคนรอบตัว และความรู้สึกของเราในตอนนั้น
ไตร่ตรองอยู่สักพัก ฉันส่งข้อความ
[ฉัน] จะเรียนคาบต่อไปเมื่อไรล่ะ
ข้อความถูกอ่านและตอบกลับอย่างรวดเร็ว
[ย็อมจุนยอล] …ท่านอาจารย์!
[ย็อมจุนยอล] ผมพร้อมเสมอครับ!
[ย็อมจุนยอล] (สติกเกอร์)
สติกเกอร์มังกรแดงที่กะพริบตาถี่อย่างเป็นประกาย
โล่งอกไปที ดูเหมือนจะร่าเริงขึ้นมาแล้ว
พอลองตรวจสอบข้อความถัดไป ประโยคแปลกๆ สะดุดตาฉัน
[อึนซอโฮ] โดนท่านเสือขาวดุด้วยล่ะ…
หมายถึงอะไร?
ไม่มีทางที่เด็กเรียบร้อยอย่างลูกหลานเสือเงินทั้งสาม จะทำอะไรที่ต้องถูกแบคโฮกุนดุ
[อึนอีโฮ] เราเห็นท่านเสือแดงที่หายหน้าไปนานกำลังเศร้า ก็เลยอยากช่วยให้ร่าเริงด้วยการแกล้งสนุกๆ ที่วิญญาณภูเขาสอนมา แต่สุดท้ายก็ไม่รอด
ฟังจากคำอธิบายก็สมควรโดนดุจริงๆ
ขณะเสือแดงกำลังเครียดกับเรื่องที่คิมชินรกตกเป็นเป้าโจมตี ลูกหลานเสือเงินดันเล่นพิเรนทร์เป็นศพอาบเลือดเหมือนที่เคยทำกับวังจีโฮ
โดยระหว่างนั้น แบคโฮกุนกำลังอ่านหนังสือโบราณอยู่ที่ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เสือแดงที่อยู่ในคฤหาสน์ตามลำพัง เกิดตกใจสุดขีดเมื่อเห็นเด็กทั้งสามนอนจมกองเลือด
ผลของการเล่นพิเรนทร์ทำให้ลูกหลานเสือเงินถูกกักบริเวณอยู่แต่ในห้องนั่งเล่นร่วมกับเสือแดง ส่วนวิญญาณภูเขาถูกแบคโฮกุนลากตัวไปฝึกในห้องฝึกประจำคฤหาสน์
‘หนนี้ไม่ใช่ความผิดวิญญาณภูเขา แต่การถูกลากไปฝึกก็ถือเป็นผลดีกับเจ้าตัว… ว่าแต่… ทำไมวังจีโฮถึงยังไม่รู้เรื่องนี้?’
วังจีโฮดูมีอาการเหม่อลอย คงเพราะร่างแบ่งภาคอื่นกำลังยุ่ง
เมื่อฉันหันไปจ้องวังจีโฮที่นั่งข้างๆ
ราวกับสัมผัสถึงสายตา เขาหันมาแล้วมุ่งความสนใจไปยังโฮโลแกรม
ไม่นานหลังจากอ่านบทสนทนาระหว่างฉันกับลูกหลานเสือเงิน สีหน้าของวังจีโฮพลันแข็งกระด้างพร้อมกับกัดกรามแน่น
“วิญญาณภูเขา…”
หนนี้ความผิดส่วนใหญ่เป็นของลูกหลาน แต่ดูเหมือนวังจีโฮจ้องจะโทษวิญญาณภูเขาท่าเดียว
คงเพราะรู้สึกอึดอัดที่ถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในห้องนั่งเล่น สามลูกหลานเสือเงินจึงกระหน่ำส่งข้อความหาฉันโน!วลกูดoทคอม
[อึนแจโฮ] (รูปภาพ)
จากบรรดาทั้งสาม น้องเล็กอึนแจโฮเน้นส่งรูปเป็นพิเศษ
แม้ฝีมือการถ่ายรูปของเขาจะพัฒนาขึ้นมากแล้ว แต่ภาพเจ้าบ่วงในวันนี้ดูจะหลุดโฟกัสผิดปกติ
อย่างไรก็ดี ถึงภาพจะค่อนข้างเบลอ แต่ความน่ารักของเจ้าบ่วงกลับเฉิดฉายทะลุความเบลอออกมา
[อึนแจโฮ] ข้าก็อยากถ่ายรูปดีๆ ให้พี่อยู่หรอกนะ
[อึนซอโฮ] แปลกมากเลย ปกติถ้าบอกว่าจะถ่ายรูปส่งให้พี่อึยชิน มันจะทำท่าน่ารักๆ แต่วันนี้กลับเอาแต่หนี
[อึนอีโฮ] เมื่อเช้าก็ไม่ได้ออกไปส่งอึยชินอปป้านี่นา ป่วยหรือเปล่านะ?
สามลูกหลานเสือเงินผู้ไร้เดียงสา คงคาดไม่ถึงว่าฉันจะทำเรื่องที่ผิดต่อเจ้าบ่วงลงไป
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ
[อึนแจโฮ] (รูปภาพ)
คราวนี้โฟกัสของกล้องคมชัด
เป็นรูปเจ้าบ่วงกำลังหลับ
[อึนแจโฮ] ถ่ายตอนหลับออกมาได้อย่างไร้ที่ติ!
อย่างที่น้องเล็กอึนแจโฮบอก ภาพเจ้าบ่วงกำลังหลับ ทั้งคมชัดและดูสมบูรณ์แบบจริงๆ
“ช่วยเลิกทำหน้าตาซื่อบื้อแบบนั้นสักที”
วังจีโฮเหน็บแนมฉันที่กำลังไล่บันทึกรูปภาพ
ถัดจากคำเหน็บแนมเป็นการตัดพ้อ
“…ไม่เห็นมีใครส่งข้อความหาฉันบ้างเลย”
ฉันไม่เข้าใจว่าเขาจะน้อยใจทำไม ในเมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกับลูกหลานเสือเงินใต้ชายคาเดียวกันทุกวัน
“เอาล่ะ ฟังทางนี้!”
น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยพลังของประธานชมรมหนังสือพิมพ์ดังขึ้น
เขาตรงเข้าประเด็นหลักโดยไม่เสียเวลาอารัมภบท
ถัดมา รองประธานที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ฉายบางสิ่งไปบนกำแพง
[กำหนดการทำข่าวในต่างแดนช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน]
สมาชิกชมรมต่างพากันส่งเสียงอื้ออึงหลังจากเห็นข้อความบนฉากหลังที่เป็นแผนที่โลก
“ปีที่แล้วไม่เห็นมีอะไรแบบนี้เลย! ประธานชมรมขยันชะมัด!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้ไปต่างประเทศ! ใช้ใบอนุญาตเพลเยอร์แทนพาสปอร์ตได้ไหม?”
“มีไปรัสเซียด้วยหรือ ถ้าบังเอิญโชคดี เราอาจได้เห็นรอยแยกเกรด UR ก็ได้! ได้ยินว่าที่นั่นมีรอยแยก UR เกิดบ่อยมากเลยล่ะ”
“ฉันอยากเห็นศูนย์พัฒนาเพลเยอร์ของจีนกับอเมริกา!”
“พักนี้จีนเข้มงวดกับผู้อพยพไม่ใช่หรือ”
“นี่เป็นกิจกรรมชมรมใช่ไหม ถ้าอย่างครูจูเก่อก็ต้องไปด้วยสิ!”
ท่ามกลางเสียงอุทานอย่างตื่นเต้นของสมาชิก ประธานชมรมกล่าวอย่างมีพลัง
“เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งสานสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี จีน และญี่ปุ่นที่กำลังจะมาถึง ชมรมของเราจะเดินทางไปทั่วโลกเพื่อวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง! ขณะเดียวกันก็เพื่อสร้างความกลมเกลียวภายในชมรมหนังสือพิมพ์! ทุกคนไปทำตัวให้ว่างมาซะ!”
หน้าจอถัดไปเป็นตารางกิจกรรม
ภารกิจตระเวนทำข่าวในต่างประเทศเริ่มจากการพักค้างคืนที่โรงแรม ‘อีคารัส’ ซึ่งได้บัตรสมนาคุณมาจากหัวหน้าห้อง 2/0
และออกเดินทางไปยังสนามบินพร้อมกันในเช้าวันถัดไป
ยิ่งดูรายละเอียดก็ยิ่งเหมือนตารางการเที่ยว แต่ก็มีสอดแทรกกิจกรรมการทำข่าวประปราย
“เราไม่ได้คิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อพาครูจูเก่อแจกอลไปเที่ยวต่างประเทศ! แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ทำแบบนั้น!”
นักเรียนปีสามผู้ริเริ่มโครงการ คงอยากไปเที่ยวต่างประกาศกับครูจูเก่อแจกอลก่อนจบการศึกษา
ฉันบันทึกตารางกิจกรรมที่เต็มไปด้วย ‘ความชอบส่วนตัว’ เก็บใส่ดีไวซ์แล้วรอจนกระทั่งจบคาบชมรม
แม้คาบชมรมจะจบลง แต่ฉันยังมีนัดต่อ
‘ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่หอเลยแฮะ’
วันนี้ก็มีนัดแข่งหมากรุก
ตามความต้องการของคู่แข่ง วันนี้จะไม่เล่นกันที่กลุ่มย่อยสเทลเมตหรือสมาคมปีกธรณี
[ฉัน] กิจกรรมชมรมจบแล้วครับ
คำตอบถูกส่งกลับมาทันที
[ชอนดงฮา] ฉันอยู่ที่ร้านแล้ว
จุดนัดพบกับชอนดงฮาคือคาเฟ่ติวหนังสือส่วนตัวในเขตอึนกวาง
ในห้องติวหนังสือสำหรับสี่คน ชอนดงฮากำลังนั่งรออยู่ตามลำพัง
“ต้องขอโทษด้วยที่นัดมาไกลแบบนี้ เมื่อวานคนเยอะมากตอนที่แข่งกับจุนยอล วันนี้ก็เลยอยากเล่นเงียบๆ น่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
บนโต๊ะมีกระดานหมากรุกไม้ที่ชอนดงฮาเตรียมมาเอง
ในห้องติวมีเครื่องชงกาแฟแคปซูลวางอยู่ ข้างกันเป็นแก้วกระดาษ
มีร่องรอยการมิกซ์รสกาแฟ
หลังจากช่วยเก็บโต๊ะ ฉันนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา
“ขอแสดงความยินดีกับที่หนึ่งนะครับ”
“ขอบคุณ”
ชอนดงฮา ที่หนึ่งของชั้นปีสองซึ่งถูกบีบช่องว่างให้แคบลงเพราะย็อมจุนยอลประท้วงข้อสอบสำเร็จมากมาย
แม้จะคะแนนที่ย็อมจุนยอลได้จากการประท้วงจะเพียงพอให้แซง แต่ได้ยินว่าชอนดงฮาเองก็ประท้วงในบางวิชาและได้คะแนนเพิ่มเช่นกัน
“นึกไม่ถึงเลยว่ารุ่นพี่ชอนดงฮาจะท้าผมแข่งหมากรุก”
ชอนดงฮาคือสัญลักษณ์ของ ‘สามัญสำนึก’ และ ‘จิตสำนึก’
จึงค่อนข้างเหนือความคาดหมายที่เขาเป็นฝ่ายท้าแข่งก่อน
“พอดีน้องของฉันเป็นแฟนคลับของซูเปอร์โนว่าไร้นาม ก็เลยสนใจเป็นพิเศษน่ะ”
น้อง?
ชอนดงฮามีน้อง?
ในเกมไม่เห็นมีการกล่าวถึง
ฉันประหลาดใจเรื่องที่เขามีน้อง มากกว่าเรื่องที่ตัวเองมีแฟนคลับ
“แฟนคลับ?”
“ใช่ พอฉันให้ดูข่าวเกี่ยวกับนาย เขาตอบสนองดีมาก”
คำอธิบายค่อนข้างแปลก และเขาก็ไม่พูดถึงน้องอีกเลยหลังจากประโยคนี้
พวกเราแข่งหมากรุกกันภายในห้องติวหนังสืออันเงียบสงบ
เกมแรกฉันชนะ
เกมที่สอง ชอนดงฮาชนะ
หลังจากแบ่งกันไปคนละเกม พวกเรานั่งกินแซนด์วิชโฮลวีตไส้ไข่ของทางร้าน พลางย้อนวิเคราะห์ทั้งสองเกมที่จบลงไป
* * *
ย่างเข้าสุดสัปดาห์, ฉันมีนัดไปหาอะไรกินกับจางนัมอุกและอูซังฮุน
ปกติอูซังฮุนจะเป็นคนจ่าย แต่วันนี้พวกเราตกลงกันว่าจะให้จางนัมอุกเลี้ยงอาหารแพงๆ เพื่อเป็นการชดใช้
“ว่าแต่… หมอนี่มาทำอะไร”
อูซังฮุนทำหน้าไม่พอใจหลังจากเห็นโดซีฮูที่จุดนัดพบ
“ได้ยินว่านัมอุกจะออกมาหาอะไรกินกับพวกนาย ฉันเลยขอตามมาด้วยเพราะมีของที่อยากซื้อ”
“กำลังสงสัยอยู่พอดีว่าไปเอาตั๋วเบสบอลมาจากไหน”
เมื่อคืนมีการเปลี่ยนสถานที่นัดกะทันหัน กลายเป็นสนามจัมชิลแทน โดยมีแผนจะดูเบสบอลเป็นของแถม
โดซีฮูคงหาตั๋วมาให้
“ต้องขอโทษจริงๆ! ไว้คราวหน้าให้ฉันเลี้ยงอีกก็ได้ แต่จูโอกำลังจะออกต่างจังหวัดแล้ว วันนี้ก็เลยต้องมาดูให้ได้น่ะ!”
แม้ในใจจะมีคำพูดมากมาย แต่ได้เห็นจางนัมอุกแต่งชุดเชียร์จูโอดรากอนส์มาเต็มสูบแบบนี้ ฉันตัดสินใจปิดปากเงียบ
ในเมื่อมันทำให้เขามีความสุขหลังจากเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปขัด
แม้วันนี้ TC ไนท์สจะเป็นทีมเหย้า จนบนอัฒจันทร์แทบมองไม่เห็นธงเชียร์ของจูโอดรากอนส์ แต่จางนัมอุกยังคงมองไปรอบๆ สนามด้วยความตื่นเต้น
“สั่งมาร้านละเมนูกันเถอะ!”
“แต่ไก่เปรี้ยวหวานราดชีสหิมะต้องต่อแถวซื้อนะ”
“งั้นก็ให้โดซีฮูต่อแถว ส่วนพวกเราแยกกันไปซื้อจากร้านอื่น”
“หือ…? เอ๋?”
หลังจากใช้โดซีฮูเป็นหุ่นต่อแถว แล้วเราแยกกันไปซื้ออาหารจากร้านอื่นๆ รอบสนาม
ขณะเดินกลับเข้ามา ฉันเห็นท้ายทอยและรูปร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่บริเวณโซนกลาง
‘ทำไมถึงเจออ๊กโทยอนอีกแล้ว!’
อ๊กโทยอนในชุดเชียร์ TC ไนท์สกำลังยืนเกาะรั้ว