📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 167

บทที่ 167
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ในยุคแห่งเทพนิยาย ซึ่งเสียงของเทพสวรรค์ยังคงดังกังวานไปทั่วคาบสมุทรเกาหลี

ช่วงเวลาที่เหล่าพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ถูกยกย่องในฐานะเทพนิยาย

ยังไม่มีแม้แต่ ‘ชื่อแท้’ ให้สมฐานะเผ่าแท้

สมัยนั้นคาบสมุทรเกาหลีคือดินแดนอันโหดร้าย ชนิดที่เผ่าเสือกับเผ่าหมีต้องผนึกกำลังกัน ต่อกรกับศัตรูจากภายนอกที่มิใช่มนุษย์หรือสัตว์ร้าย

ผู้นำของเผ่าเสือและเผ่าหมีที่สัมผัสถึงการมารุกรานของศัตรูจากภายนอก ได้อ้อนวอนขอความเมตตาจากเทพสวรรค์

วิวรณ์หนึ่งถูกส่งลงมา

[เราจักประทานพลังใหม่ แด่ผู้ที่สามารถเอาชีวิตรอดด้วยอาหารเหล่านี้ โดยไม่สัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลาหนึ่งร้อยวัน]

สิ้นเสียงดังกล่าว จิงจูฉ่ายและกระเทียมศักดิ์สิทธิ์ยี่สิบต้นถูกส่งมาจากท้องฟ้าผ่านต้นอารามสวรรค์

ได้เห็นปริมาณอาหาร ผู้นำเผ่าเสือ—เสือเงิน—ตระหนักว่าอย่างมากก็คงมีนักรบแค่สองคน ที่สามารถได้รับพลังจากเทพสวรรค์

หลังจากปรึกษากับผู้นำเผ่าหมี พวกเขาตกลงกันว่าจะเลือกนักรบมาเผ่าละหนึ่งคน

ด้วยเหตุนี้ เสือเงินได้เรียกประชุมเหล่านักรบผู้เหมาะแก่พลังของเทพสวรรค์ เพื่อถ่ายทอดข้อความที่ได้รับ

“ให้กินแต่จิงจูฉ่ายกับกระเทียมตลอดหนึ่งร้อยวันโดยไม่เจอแสงแดด? ใครสนกันล่ะ! ข้าแข็งแกร่งได้โดยไม่ต้องพึ่งพลังนั่น”

เสือเหลืองผู้มีความอดทนต่ำส่ายหน้าทันที

“ข้าก็คิดเหมือนเสือเหลือง”

เสือขาวกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง

“ข้าปรารถนาพลังของเทพสวรรค์… แต่ไม่อยากอยู่ห่างจากเทพมนุษย์นานถึงหนึ่งร้อยวัน ยิ่งพักหลังพระองค์ไม่สนใจข้าเพราะมัวแต่เอ็นดูน้อง”

เสือครามตอบหลังจากคิดหนัก

“ข้าก็ไม่อยาก”

เสือแดงตอบโดยลังเลไม่นาน

ในเมื่อไม่มีใครอาสา เสือเงินจึงเจาะจงเลือกคนที่คิดไว้ในใจ

“เสือแดง ไม่นานมานี้เจ้าเพิ่งลอบเข้าไปในตำหนักของท่านพุงแบก (เทพวายุ) กับท่านอูซา (เทพพิรุณ) สินะ? เพื่อแกล้งนำแป้งปะหน้าพวกท่านขณะบรรทม”

“ท่านรู้ได้ยังไง!”

“ข้ายังรู้ด้วยว่า เจ้าแอบนำชุดน้ำชาชิ้นโปรดของท่านอุนซา (เทพเมฆา) ไปซ่อนจนท่านหัวเสีย”

เสือเงินอ่อนแอมากหากเทียบกับนักรบเหล่านี้ แต่เขารู้วิธีควบคุมคน

กระทั่งตัวปัญหาอันดับหนึ่งอย่างเสือแดงก็ไม่มีข้อยกเว้น

“อดทนแค่ร้อยวันเท่านั้น… ไม่อย่างนั้นแล้ว หากข้ารายงานวีรกรรมนี้ไป พวกท่านคงเสกเมฆาทมิฬและพิรุณกระหน่ำเหนือศีรษะเจ้าสองร้อยวันเต็ม… ยอมเลือกทางที่เดือดร้อนน้อยกว่าเถอะน่า”

เสือแดงไม่พอใจ แต่ก็ยอมจำนนต่อคำพูดของเสือเงิน

ใครบางคนจำเป็นต้องผ่านบททดสอบของเทพสวรรค์ และสี่นักรบเผ่าเสือก็คู่ควรแก่พลังนั้น

อย่างไรก็ดี เสือเหลืองกับเสือขาวแข็งแกร่งตามที่พวกเขาโอ้อวด และเสือครามที่มีลูกศิษย์มากมายก็ไม่อยากแยกกับเทพมนุษย์

“ก็ได้… แต่ท่านต้องทำเหมือนเรื่องพวกนั้นไม่เคยเกิดขึ้น”

“จะลองคิดดูก็แล้วกัน… กับพุงแบกและอูซาจอมโลเลน่ะ ข้าไม่ว่าอะไรหรอก แต่ข้าไม่อยากเห็นอุนซาผู้อ่อนโยนต้องเดือดร้อนเพราะการกลั่นแกล้งของเจ้า”

หลังจากตกลงกันได้ เสือเงินนำทางเสือแดงไปยังถ้ำลึกในแดนศักดิ์สิทธิ์

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่อัดแน่นไปด้วยปราณศักดิ์สิทธิ์ เสือแดงได้พานพบโชคชะตา

“อุงเนียแห่งเผ่าหมี ขอคารวะท่านเสือเงินและท่านเสือแดง”

โชคชะตาที่ว่าก็คือ ยอดสตรีอัจฉริยะแห่งเผ่าหมี

ผู้นำเผ่าหมีถึงกับออกตัวโดยไม่เหนียมอาย ว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่คู่ควรกับนาม ‘อุงเนีย’ ซึ่งเป็นชื่อที่ค่อนข้างสามัญในเวลานั้น

‘คาบสมุทรเกาหลีมีสตรีผู้งดงามและสูงศักดิ์เช่นนี้อยู่ด้วยหรือ…’

เสือแดงพ่ายแพ้ให้แก่เสน่ห์ของอุงเนีย

ในถ้ำมืดที่แสงส่องไม่ถึง

เสือแดงพยายามเกี้ยวพาราสี

“…ข้าไม่มีใจให้บุรุษผู้ใช้วาจาแข็งกร้าว”

เสือแดงเปลี่ยนสำเนียงการพูดทันที

นึกถึงน้ำเสียงอันนุ่มนวลของเสือเงิน คำพูดคำจาภูมิฐานของพุงซา อูซา และอุนซา รวมถึงเสียงอันไพเราะของเทพมนุษย์ เสือแดงเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นการใหญ่

จนกระทั่งวันหนึ่ง เสียงเพลงดังมาจากด้านนอกถ้ำ

ชาวเผ่ามักเผยแผ่พระวจนะของเทพสวรรค์ผ่านท่วงทำนองเพลง

[เทพมนุษย์ได้อ้อนวอนขอความเมตตาจากเทพสวรรค์ ให้พระองค์ทรงช่วยประทานพลัง แด่สองยอดนักรบหาญกล้าผู้เตรียมใจรับบททดสอบนานหนึ่งร้อยวัน!]

เนื้อหาที่สื่อเป็นนัยว่าเทพมนุษย์เอ็นดูอุงเนีย ทำเอาหัวใจเสือแดงพลันดำดิ่ง

เทพมนุษย์ผู้สง่างามและอ่อนโยนองค์นั้นยังคงไร้คู่ครอง และอุงเนียก็มิใช่คนรักของเสือแดง

เสือแดงถามด้วยหัวใจกระวนกระวาย

“อุงเนียคิดเช่นไรกับเทพมนุษย์”

“ข้ามิได้คิดเช่นไร”

อุงเนียผู้หลับตาครุ่นคิดในความมืดอยู่สักพัก มอบคำตอบแก่เสือแดง

“แต่ข้าคิดกับท่าน”

วันที่อุงเนียเริ่มแต่งกายด้วยชุดสีแดงสด—สัญลักษณ์ของเสือแดง—มิใช่วันครบหนึ่งร้อยวันตามที่ให้สัญญากับเทพสวรรค์ หากแต่เป็นวันที่สามสิบเจ็ด ซึ่งปากถ้ำเปิดออกเพราะการอ้อนวอนจากเทพมนุษย์

นับแต่นั้น เสือแดงและอุงเนียผู้รับพลังจากเทพสวรรค์ กลายเป็นทัพหน้าในการต่อกรกับศัตรูจากภายนอก

ทั้งสองสาบานกันเป็นมั่นเหมาะ ว่าจะอยู่ด้วยกันในวันที่ศัตรูจากภายนอกถูกกวาดล้างจนสูญสิ้น

แต่วันนั้นก็ไม่มาถึง เนื่องจากเผ่าหมีเปลี่ยนฝังไปเข้ากับศัตรูจากภายนอกเพื่อต่อต้านเทพสวรรค์แทน

หลังจากสงครามอันยาวนานสิ้นสุดลง เผ่าเสือได้นำพาสันติสุขมาสู่คาบสมุทรเกาหลีด้วยการบดขยี้ศัตรูจากภายนอกทั้งหมด พร้อมกับกำราบเผ่าหมีจนไม่สามารถเหิมเกริมได้อีก

เพื่อยกย่องความสำเร็จของเผ่าเสือ เทพสวรรค์ได้เสด็จเยือนในวันฟ้าเปิด

เมื่อเทพสวรรค์ตรัสถามความปรารถนาของเหล่าพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาทยอยตอบ

“ข้าต้องการพลังที่ไปได้ทุกหนแห่ง”

“ข้าต้องการพลังที่สามารถดำรงอยู่ในทุกหนแห่ง”

“ข้าต้องการรับใช้เทพมนุษย์ตลอดไป”

หลังจากเสือขาว เสือเหลือง และเสือครามบอกความปรารถนา เสือแดงครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะตอบ

“ข้าอยากให้พวกท่านอภัยให้เผ่าหมี”

เทพสวรรค์มอบสามพรแรกในทันที แต่ลังเลกับความต้องการของเสือแดงอยู่นาน

“ข้าก็หวังเช่นเดียวกับเสือแดง”

เสือเงินก้าวออกมาพร้อมกับก้มศีรษะคำนับ จากนั้นเทพมนุษย์ก็ยกมือเพื่อสนับสนุนเสือเงินและเสือแดง

หลังจากไตร่ตรองอยู่สักพัก เทพสวรรค์ได้ยอมรับคำขอนั้น พร้อมกับประกาศไปยังเผ่าเสือและเผ่าหมีภายใต้ฟ้าเปิด

[วีรกรรมของพวกเจ้าจะกลายเป็นเทพนิยายของแผ่นดินนี้ ร่างกายและวิญญาณจะเกิดใหม่ในฐานะ ‘เผ่าแท้’ ผู้หลุดพ้นจากกฎเกณฑ์แห่งมนุษย์และสัตว์ โดยข้าจักถ่ายทอดพลังลงใน ‘ชื่อแท้’ ที่พวกเจ้าได้รับ]

หลังจากเทพสวรรค์หายไป เสือแดงที่กลายเป็นเผ่าแท้ได้หวนกลับมาหาอุงเนียในชุดแต่งงานสีแดง

เทพสวรรค์ทรงตรัสว่าเผ่าแท้มีลูกหลานได้ยาก แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ผลผลิตแห่งความรักของทั้งสองได้ถือกำเนิด

อย่างไรก็ดี ความสุขที่ไขว่คว้ามาได้อย่างยากลำบาก ต้องพังทลายลงราวกับปราสาททราย

ปัจจุบัน เหลือเพียงไม่กี่สิ่งที่เสือแดงต้องปกป้อง

และสิ่งนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย

“ตือหงอเหนง เจ้าได้ฟังอยู่หรือไม่”

“แน่นอนขอรับ! ข้าตั้งใจฟังด้วยสองรูหู!”

ฐานของเผ่าหมู, ห้องนอนตือหงอเหนง

ขณะซ่อนตัวในควันแดง เสือแดงแทบไม่เชื่อหู

…เราคงได้ยินผิดไปเอง ต้องใช่แน่!

แต่เสียงจากอีกฟากของหน้าจอ ทำลายความหวังของเขาจนป่นปี้

“คิมชินรกแห่งโรงเรียนแสงเงินจะต้องตาย… ไม่ว่ายังไงก็ตาม”

“ข้าเข้าใจขอรับ… แต่เราแทบไม่มีคนเหลืออยู่ในโรงเรียนแสงเงินแล้ว ถึงจะฆ่ามันไปก็ไม่มีใครไปแทนตำแหน่ง”

“ถึงอย่างนั้นก็ต้องฆ่า เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกัดกร่อนลูกชายของเสือแดงกับอุงเนีย”

เสือแดงถลึงดวงตาอันแดงก่ำใส่หน้าจอที่ตือหงอเหนงกำลังจ้อง

บนหน้าจออันพร่ามัวซึ่งคอยเปล่งเสียงที่คล้ายกับผ่านเครื่องแปลง สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือนิ้วอันเรียวยาว

ได้ประจักษ์ความช่วยร้ายที่พุ่งเข้าใส่เด็กคนหนึ่ง ผู้ต้องเผชิญความยากลำบากเพียงเพราะเกิดมาเป็นบุตรของตน เสือแดงทำได้เพียงยืนสั่นสะท้านอย่างไร้พลัง

* * *

‘เจ้านั่น’ เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว และตือหงอเหนงก็ฟื้นฟูร่างกายกลับมาถึงจุดที่ทำภารกิจได้

เป้าหมายของมัน: คิมชินรก

เหตุผล: ไม่ทราบ

ชัดเจนแล้วว่า ไม่ใช่แค่เพราะคิมชินรกเป็นครูประจำชั้นห้อง 1/1 และที่ปรึกษาสมาคมปีกธรณีโนlวลกูดอทคoม

‘…จอมบงการเพ่งเล็งเขาทำไม’

มีไม่บ่อยนักที่จอมบงการจะตามกัดใครสักคนไม่ปล่อย

แม้จะซุกซ่อนเจตนาผ่านการยืมมือคนอื่น แต่สวะติดเกมอย่างฉันย่อมเอะใจในความผิดปกติ

เหตุใดมันถึงตามจองเวรฆ่าหรือกัดกร่อนตัวละครใดตัวละครหนึ่งเป็นพิเศษ?

การกัดกร่อนตัวละครอาจสร้างประโยชน์ให้จอมบงการได้บ้างก็จริง แต่ก็ถือว่าเล็กน้อยมาก หากพิจารณาถึงเป้าหมายใหญ่ของมัน

‘ตัวอย่างที่ชัดเจนคือซาวอลเซอึม’

ซาวอลเซอึมถูกจูซูย็อกช่วยออกมา

แสงประทานของเขาจะทำงานก็ต่อเมื่ออยู่ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ ซึ่งจูซูย็อกมีมัน

และทันทีที่ฉากการใช้แสงประทานของซาวอลเซอึมถูกเปิดเผยออกสื่อ จอมบงการได้สั่งให้นาบีรยองไปฆ่าซาวอลเซอึม

จริงอยู่ การฆ่าซาวอลเซอึมจะเป็นการตัดกำลังโรงเรียนแสงเงินและทีมของจูซูย็อกได้มาก

แต่จำเป็นต้องให้หมากตัวสำคัญอย่างนาบีรยองเคลื่อนไหวเชียวหรือ?

นาบีรยองพูดราวกับทิ้งคำบอกใบ้

[ทั้งหมดเป็นเพราะความไร้เดียงสาของเด็กผู้ส่งสารคนนั้น… ใครบางคนคิดว่าการทรมานเขาสักสองสามปีคงช่วยกัดกร่อนเขาได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยน]

มันฟังดูเหมือนว่า หากซาวอลเซอึมถูกกัดกร่อน เขาก็จะมีชีวิตรอด

‘ถ้ากัดกร่อนไม่ได้ก็ต้องฆ่า… คิมชินรกคือหนึ่งในเป้าหมายนั้น’

ได้ฟังรายงานจากเสือแดง วังจีโฮตอบกลับ

“เสือแดง หลังจากนี้เจ้าห้ามเข้าใกล้ฐานของเผ่าหมูอีกเป็นอันขาด”

“ต…แต่ว่า…!”

“แม้ ‘เจ้านั่น’ จะมองไม่เห็นเจ้าผ่านควันแดงที่ถูกยกระดับ แต่หัวใจเจ้าพังเกินกว่าจะรับมือไหว โชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เห็นอีกฝ่ายผ่านหน้าจอ”

วังจีโฮยกมือราวกับสื่อเป็นนัยว่าห้ามคัดค้าน

“หากขัดคำสั่ง ลูกของเจ้าจะถูกลงโทษแทน”

“…ขอรับ”

“แต่ข้ามีตัวเลือกอื่นให้ อยากคุ้มกันคฤหาสน์หลังนี้หรือคอยปกป้องลูกของตัวเอง? เลือกมา”

ถ้าให้ตัวเลือกแบบนี้ เสือแดงก็ต้องตอบว่าปกป้องคิมชินรกอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

แต่ผิดคาด เสือแดงหลับตาลังเลอยู่นาน

“เด็กคนนั้นจะไม่ออกนอกแดนศักดิ์สิทธิ์เว้นเสียแต่จะเป็นกิจกรรมของโรงเรียน”

“ใช่ เพราะงานยุ่งจนออกไปไหนไม่ได้”

“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอรออยู่ที่คฤหาสน์… เด็กคนนั้นจะไม่สบายใจเวลามีข้าอยู่ใกล้ๆ”

เป็นคำตอบที่คาดไม่ถึงจริงๆ

สายสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้คงซับซ้อนกว่าที่ฉันเข้าใจ

“แต่ถ้าเมื่อใดเขาต้องออกนอกแดนศักดิ์สิทธิ์ ได้โปรดอนุญาตให้ข้าตามไปปกป้องด้วย”

“จะลองคิดดู”

เสือแดงเบิกตากว้างก่อนจะก้มหน้าลง

คงเล็งเห็นว่าวังจีโฮในตอนนี้ไม่รับคำโต้เถียง

‘…ทำเป็นปากแข็ง ถ้าคิมชินรกต้องออกนอกเขตอึนกวาง เสือแดงคงได้รับอนุญาตให้ตามไปด้วยแน่’

ขณะเสือแดงปิดปากสนิทแล้วนั่งลง วังจีโฮหันมามองฉัน

“โชอึยชิน ในตอนที่นายทราบว่า ‘เจ้านั่น’ เพ่งเล็งค่ายยุวชน ได้ทราบด้วยหรือไม่ว่าคิมชินรกตกเป็นเป้าหมาย”

แน่นอนว่าไม่

ถ้าอิงจากเวลาในเกม คิมชินรกตายไปครึ่งปีแล้ว

“ไม่… ‘สิ่งที่ฉันรู้’ แตกต่างจากปัจจุบัน”

“… ‘สิ่งที่ฉันรู้’”

วังจีโฮทวนคำพูดฉัน

แม้จะเปล่งเสียงแผ่วเบา แต่สมองของเขากำลังประมวลผลเต็มกำลัง

ฉันเองก็ต้องปรับแนวคิดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อมูลใหม่

“วันนี้คงมีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลยล่ะ”

วังจีโฮพูดแบบนั้นขณะสำรวจสีหน้าของฉัน

ลงเอยด้วย ฉันประชุมโต้รุ่งกับวังจีโฮ แบคโฮกุน และเสือแดงจนถึงเช้า

เมื่อรุ่งสางมาเยือน โฮโลแกรมนับสิบตัวกำลังถูกฉายบนโต๊ะในห้องรับแขก ทั้งหมดคือแผนที่และข้อสรุป

“ได้กินมื้อเช้ากับอึยชินอปป้าด้วยล่ะ!”

“ถ้ารู้ว่าพี่จะไม่นอน ข้าคงมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว…”

ฉันค้างคืนที่นี่ แต่ไม่ได้นอนสักงีบ

ขณะยิ้มรับอย่างคลุมเครือ ฉันก้มหน้าจัดการ ‘ผักห่อ’ และโจ๊กเนื้อถั่วเขียวที่เป็นมื้อเช้า

“งั้นฉันแวะกลับไปเปลี่ยนชุดที่หอพักก่อน”

“ที่นี่มีชุดนักเรียนสำรองอยู่เพียบ”

“ไม่มีไซซ์ของฉัน”

“มีชุดที่เหมาะกับนายอยู่”

ในเมื่อวังจีโฮปรับเปลี่ยนอายุได้ตามใจชอบ ความสูงย่อมไม่ใช่ปัญหา

บางที เขาคงมีชุดนักเรียนทุกไซซ์เพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์

“ไม่จำเป็น ยังไงฉันก็ต้องกลับไปเอากระเป๋านักเรียนอยู่ดี”

พูดจบ ฉันเตรียมเดินออกจากประตูหน้าด้วยหัวใจว่างเปล่า

หลังจากประชุมกับเผ่าเสือเสร็จ ฉันอ้อนวอนขอโทษเจ้าบ่วงที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องนั่งเล่น แต่อีกฝ่ายยังไม่ยอมให้อภัย

เกลียดยาวิเศษของเผ่ากวางขนาดนั้นเลย?

เมื่อลองมานึกดู มันก็สมเหตุสมผล

ความเคียดแค้นที่มีต่อวังจีโฮ เอ่อล้นในใจขณะฉันฝืนกลืนหนองน้ำจากนรกนั่นเข้าไป

ลงเอยด้วย ฉันต้องออกจากคฤหาสน์วังมยองโฮโดยไม่มีเจ้าบ่วงเดินมาส่ง

‘ทั้งที่เราควรจะได้ออกมาเดินเล่นด้วยกัน…!’

หลังจากกลับห้องมาเปลี่ยนชุดนักเรียนด้วยหัวใจอันปวดร้าว

ปิ๊งป่อง!

คำทักทายตอนเช้าจากศิษย์รักอย่างย็อมจุนยอล ถูกส่งมาพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนดีไวซ์

อย่างไรก็ดี คำเกริ่นผิดแผกไปจากทุกที

[ย็อมจุนยอล] สวัสดีครับอาจารย์

[ย็อมจุนยอล] ขอโทษครับ

[ย็อมจุนยอล] (ลิงก์)

เขาแนบลิงก์

สองลิงก์

หนึ่งคือบันทึกการแข่งหมากรุกกับชอนดงฮาเมื่อวาน

อีกหนึ่งคือผลคะแนนสุดท้ายหลังจากสิ้นสุดการประท้วงข้อสอบ

เป็นลิงก์ประกาศรายชื่อนักเรียนที่สอบได้สิบอันดับแรกของทุกชั้นปี

ในบรรดารายนามเหล่านั้น ย็อมจุนยอลได้อันดับที่สองของชั้นปีสอง

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset