MasterGU.noted = ชื่อบทจากเว็บนอก -> Ghost Stories, Pictures, and Clues/เรื่องผี รูปภาพ และเบาะแส (6)
*ผู้แปล*ขอเปลี่ยนจาก ซงซีวาน → ซองซีวาน, และ ซงกุกอุน → ซองกุกอุน (เป็นคนละตระกูลกับซงมันซอก) ขออภัยในความผิดพลาดเป็นอย่างสูง
**MasterGU.edited แก้ย้อนหลังให้แล้ว
………….
[ซองซีวาน] ในคืนนี้ ฉันจะไปตรวจสอบพร้อมกับรุ่นน้องคนที่แจ้งเบาะแสมาให้ ฮะฮะฮะ!
[ซองซีวาน] อึยชินอยากมาด้วยกันไหม
ซองซีวานคงอยากยืนยันให้แน่ใจว่ามีทางลับอยู่จริงไหม
[ฉัน] ครับ เจอกันที่ไหนดี
หลังจากยืนยันคำตอบของซองซีวาน ฉันเตรียมตัวออกไปอีกครั้ง
* * *
เขตส่วนกลาง
หน้าหอประชุมกรรมการรักษาระเบียบ
ซองซีวานกำลังยืนอยู่กับนักเรียนที่ฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
“สวัสดีครับ”
“…”
อีกฝ่ายทำเพียงพยักหน้ารับเบาๆ ให้คำทักทายของฉัน
‘เพิ่งเจอเรื่องแย่ๆ มารึไง? สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ’
ท่ามกลางบรรยากาศกระอักกระอ่วน ซองซีวานพูดแทรกขึ้นมา
“อึยชินกับอีดัมเพิ่งเคยเจอกันใช่ไหม ทางนี้คือคเยอีดัม เป็นรุ่นน้องปีสองในสมาคมปีกธรณี”
คงหมายถึงรุ่นน้องปีสองที่หลงใหลตำนานสยองขวัญคนนั้น
นึกว่าจะเป็นพวกช่างจ้อมากกว่านี้
กระทั่งหลังจากซองซีวานช่วยแนะนำตัว คเยอีดัมก็ยังเอาแต่เงียบ
“ฮะฮะฮะ! อีดัมเป็นพวกขี้อายน่ะ”
ตั้งแต่ย้ายมาโลกนี้ ฉันเพิ่งเคยเจอคนเงียบขนาดนี้เป็นครั้งแรก
‘แต่พูดน้อยก็ยังดีกว่าพูดมาก’
นามสกุล ‘คเย’ ถือว่าหาได้ค่อนข้างยากในเกาหลี
นามสกุลของเขาดันไปเหมือนกับ ‘ไอ้สิบโทน่ารำคาญ’ สมัยที่ฉันยังเป็นทหาร
แม้จะปลดประจำการไปแล้ว แต่เมื่อบังเอิญเดินสวนกันตามที่ต่างๆ ไอ้ ‘คเย’ นั่นยังเอาแต่พูดมากไม่เปลี่ยน
ถึงจะนามสกุลเดียวกัน แต่ถ้านิสัยตรงกันข้าม ฉันก็ยินดีอ้าแขนต้อนรับ
“โชอึยชินครับ ฝากตัวด้วยนะครับ”
“…”
คเยอีดัมยังคงพยักหน้าลูกเดียวโดยไม่พูด
ซองซีวานเริ่มเดินนำทางหลังจากพวกเราทักทายกันเสร็จ
“เอาล่ะ เข้าไปในหอประชุมของกรรมการรักษาระเบียบกันเถอะ!”
“ยามวิกาลแบบนี้ เราสามารถเข้าตึกของกรรมการรักษาระเบียบได้โดยไม่ต้องใช้โค้ดยืนยันหรือครับ”
“ไม่ต้องห่วง โค้ดของอีดัมเคยลงทะเบียนกับตึกไว้แล้ว”
ไหนบอกว่าคเยอีดัมคือรุ่นน้องในสมาคมปีกธรณี?
หรือว่าจะเป็นทั้งกรรมการรักษาระเบียบ และสมาคมปีกธรณีพร้อมกัน?
“ตอนปีหนึ่งอีดัมเคยสังกัดกรรมการรักษาระเบียบน่ะ เพิ่งย้ายมาอยู่กับสมาคมปีกธรณีตอนปีสอง ดูเหมือนทางกรรมการรักษาระเบียบจะลืมยกเลิกโค้ด”
ไม่มีทางที่กรรมการรักษาระเบียบซึ่งนำโดยโอเยจี อีกทั้งยังมีชอนดงฮากับมาจินซึงคอยสนับสนุนจะสะเพร่าขนาดนั้น
พวกเขาอาจเก็บโค้ดไว้ เผื่อว่าคเยอีดัมจะกลับไปอยู่กับกรรมการรักษาระเบียบอีกครั้ง
คงจากกันด้วยดีสินะ
“ไปกันเถอะ!”
เมื่อเดินตามซองซีวานเข้าไปในหอประชุมของกรรมการรักษาระเบียบ สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือตราสัญลักษณ์ขนาดใหญ่
เป็นตราโรงเรียนแสงเงินที่มีคำว่า ‘ระเบียบ’ เขียนควบคู่ไว้
อาจเพราะในล็อบบี้แทบไม่มีของตกแต่งอย่างอื่น มันจึงดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
‘ตราสัญลักษณ์ที่ถูกเผาทำลายในเกม…’
ตอนยังไม่ชำรุดเป็นแบบนี้เองสินะ
“อีดัม ช่วยนำทางหน่อย”
คเยอีดัมพยักหน้ารับคำพูดซองซีวานแล้วเริ่มเดินไปทางบันได
ซองซีวานอธิบายความเป็นมาเป็นไปขณะเราสามคนเดินลงชั้นล่าง
“ถ้าว่ากันตามตรง ต่อให้มีสมาคมลับระหว่างสภานักเรียนกับกรรมการรักษาระเบียบอยู่จริง นักเรียนของทั้งสององค์กรคงไม่ปากโป้งพูดออกมาง่ายๆ แน่ โชคดีที่รุ่นน้องคนหนึ่งของฉันเคยสังกัดกรรมการรักษาระเบียบ ทางนี้ก็เลยสะดวกขึ้นมาก”
“รุ่นพี่เกริ่นไปว่าอะไร”
“ฮะฮะ! ฉันแค่เล่าตำนานสยองขวัญให้ฟังโดยไม่ได้บอกอะไรเลย เขาไปตามสืบอยู่คนเดียวจนพบทางลับ”
คเยอีดัมมีทักษะด้านการสืบข่าวน่าทึ่งไม่เบา
“ตอนนี้จึงสรุปได้แล้วว่า มีชุมนุมลับระหว่างสภานักเรียนกับกรรมการรักษาระเบียบอยู่จริง เอ่อ… ฉันเองก็ไม่รู้ว่าองค์กรนั้นชื่ออะไร ขอเรียกว่า ‘สมาคมลับ’ ไปก่อนก็แล้วกัน เห็นว่าองค์กรนี้เริ่มชักชวนสมาชิกใหม่ในช่วงจบปีหนึ่งน่ะ”
เงื่อนไขยุ่งยากซับซ้อนดีแท้
‘ในอีเวนต์ที่ทำให้แฟนเพลเมโกเดนตายเลิกเล่นครั้งใหญ่ ทั้งสภานักเรียนและกรรมการรักษาระเบียบปีสามถูกฆ่าตายเกลี้ยง ส่วนปีสองก็เหลือแค่ไม่กี่คน องค์กรนี้จึงดำรงต่อไปไม่ได้’
พอจะเริ่มเข้าใจแล้วว่า เหตุใดจูซูย็อกกับอันดาอินในเกมถึงไม่เคยถูกชักชวน
ขณะรวบรวมเบาะแสจากคำพูดซองซีวานพลางอนุมานในใจ
อีกฝ่ายหยุดเดินแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเจือความงุนงง
“หือ… สุดทางแค่นี้?”
ชั้นใต้ดินของหอประชุมกรรมการรักษาระเบียบที่ซับซ้อนราวกับวงกต
คเยอีดัมหยุดเดินที่ทางตัน
“…”
ผนังอันว่างเปล่า
ซองซีวานผู้ก้าวเท้าออกไป ยืนจ้องผนังอยู่สักพักก่อนจะใช้มือเคาะ
แต่ก็ไม่เป็นผล
“เราอาจต้องมีเบาะแสมากกว่านี้… ทำยังไงกันดีล่ะ”
เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง
ที่นี่มีแฟนคลับตัวยงของเกมกากแห่งชาติอยู่ทั้งคน
ฉันเข้าใจกลไกของวงกตในเพลเมโกอย่างปรุโปร่ง
“อาจจะต้องใช้คลื่นพลังวิเศษ”
“หือ…?”
ระหว่างการสำรวจในเกม หากพบสถานที่ต้องสงสัย
สิ่งแรกที่ผู้เล่นต้องทำคือการเลือกเมนู ‘แผ่คลื่นพลังวิเศษ’
ซู่ว!
เมื่อคลื่นพลังวิเศษของฉันไหลไปสัมผัสกับผนัง
คูงงงงง—
ผนังขยับ โครงสร้างของทางเดินเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
“สุดยอด… คิดถูกจริงๆ ที่พาอึยชินมาด้วย! รู้ได้ยังไงว่าต้องทำแบบนี้?”
เพราะฉันคือสวะติดเกมยังไงล่ะ
“…”
แตกต่างจากซองซีวานที่ชื่นชมด้วยเสียงร่าเริง คเยอีดัมเอาแต่หรี่ตาจ้องหน้าฉัน
ไม่มีทางรู้เลยว่า ชายผู้เงียบขรึมที่หลงใหลตำนานสยองขวัญรายนี้คิดอะไรอยู่
คูงง!
เมื่อทางเดินใต้ดินแปลงโฉมเสร็จ เสียงอึกทึกหยุดลงพร้อมกัน
“เข้าไปกันเถอะ!”
ทางลับที่ซองซีวานเดินนำเข้าไป
ดูเหมือนจะเชื่อมกับหอประชุมสภานักเรียน
‘ต้องมีบางสิ่งอยู่ในชั้นใต้ดิน ณ จุดกึ่งกลางระหว่างหอประชุมสภานักเรียน กับหอประชุมกรรมการรักษาระเบียบแน่’
พวกเผ่าเสือรู้ไหมว่ามีของแบบนี้ซ่อนอยู่?
และถ้ามีใครบางคนแอบสร้างขึ้นมาโดยไม่ให้เผ่าเสือรู้ คนผู้นั้นทำได้อย่างไร และทำไปเพื่ออะไร
‘ซองกุกอุนน่าจะรู้คำตอบนี้อยู่แล้ว’
แต่ก่อนจะไปถามจากปากซองกุกอุน ฉันต้องบรรลุภารกิจที่เขามอบหมายให้ได้
“ไม่อยากเชื่อว่าใต้ดินโรงเรียนเราจะมีของแบบนี้อยู่ด้วย!”
ซองซีวานที่เดินนำพูดอย่างตื่นเต้น
เมื่อเดินไปตามทางสักพัก พวกเราพบกับทางแยก
“คำนึงจากทิศ… ถนนเส้นนี้คงพาไปยังหอประชุมสภานักเรียน… อีกเส้นต้องมีอะไรแน่”
ฉันก็คิดเหมือนกับซองซีวาน
หลังจากเดินเท้าราวสิบนาทีไปตามทางที่เขาแนะนำ
เราสามคนมาถึงห้องที่คลุมด้วยโลหะต่างโลก
‘ยังกับห้องซิมูเลเตอร์…’
แต่ก็มีบางจุดต่างจากห้องซิมูเลเตอร์ที่เคยเห็นในโรงเรียนหรือในเกม
“ฉันเคยเห็นมันที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สมัยใหม่! ยุคนี้ไม่มีใครใช้จอ LCD กันแล้วมั้ง แม้กระทั่งสมาร์ตโฟน… น่าแปลกจัง”
หน้าจอ LCD (Liquid Crystal Display) แทบจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้เพราะเทคโนโลยีโฮโลแกรม
ด้านล่างจอ LCD มีแผงควบคุม
ซองซีวานก้มลงไปตรวจสอบอย่างตื่นเต้นแล้วกล่าว
“คงเป็นเครื่องซิมูเลเตอร์รุ่นเก่า แต่ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”
เป็นห้องซิมูเลเตอร์อย่างที่คิด
“ลองเปิดเครื่องดูไหม”
ฉันกับคเยอีดัมต่างพยักหน้าเมื่อได้ยินซองซีวานถาม
* * *
สำนักงานของส.ส. ซองกุกอุนในเขตอึนกวาง
แม้คณะผู้ช่วยจะทยอยกลับไปเกือบหมดแล้ว แต่ซองกุกอุนยังคงนั่งอ่านเอกสารกระดาษอยู่ในสำนักงาน
“ท่านมีแผนจะเลิกงานกี่โมงครับ”
เมื่อได้ยินคำถามของหัวหน้าผู้ช่วย—จอนมูยอง ซองกุกอุนตอบโดยไม่ละสายตาจากแผ่นกระดาษ
“หลังจากอ่านรายงานของสมาคมเพลเยอร์และบันทึกการตรวจสภาพดาวเทียมจบ”
“เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน ท่านแจ้งว่าจะเลิกงานหลังจากอ่านรายงานทางบัญชีของสำนักงานศึกษาจังหวัดคยองกีจบ”
“อย่างนั้นหรือ…”
“ครับ แล้วก็เมื่อสองชั่วโมงก่อน ท่านก็พูดอีกอย่าง”
“ฮะฮะฮะ!”
แทนที่จะแก้ตัว ซองกุกอุนหัวเราะอย่างร่าเริงพร้อมกับเร่งความเร็วในการพลิกหน้าโนเวลกูดอทคอม
ก่อนที่เขาจะอ่านจบหน้าสุดท้ายแล้วเปลี่ยนเอกสาร
จอนมูยองถามแทรก
“ทำไมท่านถึงขอให้ซองซีวานตรวจสอบตำนานสยองขวัญ? แล้วทำไมต้องรอจนเขาอยู่ปีสาม?”
ซองกุกอุนชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ซีวานผ่านคนเดียวได้ไม่ยากก็จริง แต่ถ้ามีคู่หูก็จะดีกว่าไม่ใช่หรือ… ฉันเองก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนั้นจนกระทั่งนายอยู่ปีสามเหมือนกัน”
“แต่ปัจจุบันมีนักเรียนปีสองและปีสามฝีมือดีอยู่เต็มโรงเรียนแสงเงิน”
“ใช่ มีเพียบเลยล่ะ… แต่เกือบทั้งหมดถ้าไม่ใช่ลูกหลาน ก็เป็นเด็กในตระกูลที่เกี่ยวพันกับเผ่าแท้อย่างใกล้ชิด”
จอนมูยองผู้ได้เห็นซองกุกอุนเริ่มทำหน้าบึ้งตึง รีบกลืนคำพูดลงคอ
‘จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เชื่อใจพวกลูกหลานกับเผ่าแท้สินะ’
ซองกุกอุนเล่าต่อ
“ตอนนี้พวกเราไม่สามารถควบคุมคุณภาพสมาชิกใหม่ของ ‘สมาคมลับ’ ที่มีอยู่ในตำนานสยองขวัญได้อีกแล้ว”
“…ถึงจะคอยกำชับว่า ‘จงระวังเผ่าแท้กับลูกหลานให้ดี’ แต่คงไม่มีใครไล่ตรวจสอบสมาชิกใหม่ทีละคน ว่าเป็นลูกหลานเผ่าแท้หรือเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดหรือไม่”
“ถูกต้อง นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ฉันจึงอยากให้ซีวานเข้าไปในห้องนั้นกับคนที่มีประวัติชัดเจน”
ซองกุกอุนลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อพูดจบ แล้วมองไปทางโรงเรียนแสงเงินผ่านหน้าต่างสำนักงาน
“ฉันชอบไหวพริบและพลังวิเศษของอึยชินก็จริง แต่สิ่งที่ชอบยิ่งกว่าคือความขาวสะอาดของประวัติ”
* * *
โปรแกรมในเครื่องซิมูเลเตอร์คือการจำลองรอยแยกประเภท ‘หอคอยใต้ดิน’ เกรด SSR
เป็นหอคอยที่มีบันไดวนลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้เจอกับบอสใหญ่ที่ชั้นล่างสุด
ตามปกติแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจู่โจมด้วยสมาชิกแค่สามคน แต่ซองซีวานทำให้มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ซ่า…!
ด้านหลังซองซีวานคือเอฟเฟกต์ของเอนามีที่กลายเป็นอากาศธาตุ
ตอนนี้เขาโค่นเอนามีเกรด SR+++ ไปสี่ตัวและ SR อีกสองตัว
“มาลุยกันต่อ!”
หมัดมวยและมีดสั้น
ซองซีวานต่อสู้ด้วยการผสมผสานสองสิ่งนี้
วิชาหลักคือหมัดมวย แต่มีดสั้นก็ถูกใช้ในจังหวะที่เหมาะเหม็งเสมอ
‘หากมองผิวเผินจะคิดว่าไม่น่านำมารวมกันได้’
ผัวะ!
กำปั้นของซองซีวานที่สวมสนับ พุ่งสวบเข้าไปที่ท้องของเอนามี
ในมือถือมีดสทิลเลตโต้ (Stiletto) ที่เสกจากการ์ด
“ตรงนั้นคือจุดอ่อนสินะ!”
มีดสทิลเลตโต้บางๆ ที่เคลือบคลื่นพลังวิเศษเข้มข้น
มองผิวเผินเหมือนโจมตีได้ไม่แรง แต่ค่า HP ของเอนามีพลันลดฮวบเมื่อถูกแทงใส่จุดตายระหว่างซอกเกล็ด
คี๊—!
เสียงกรีดร้องแหลมเล็กของเอนามีจำลองดังกึกก้อง
ในเสียงเหล่านั้นมีคลื่นพลังวิเศษแฝงมาด้วย
‘เป็นประเภทโจมตีด้วยเสียง? ซองซีวานปลอดภัยไหม’
ซองซีวานผู้ยืนใกล้เอนามีมากกว่าใคร ยังคงมีสีหน้านิ่ง
เขาเสกมีดสทิลเลตโต้เพิ่มอีกสามเล่มโดยไม่หวั่นไหว พลางแทงสลับกับชกใส่เอนามีที่อาละวาด
การโหมบุกของซองซีวานทำให้เอนามีสลายไปโดยแทบมิอาจต้านทาน
ซู่ว…!
“ถ้ามีแค่นี้ ฉันคนเดียวก็ไหว พวกเราลงไปต่อกันเถอะ!”
สมาคมปีกธรณีมิได้เลือกประธานจากฝีมือการต่อสู้ แต่บังเอิญว่าซองซีวานแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
สองศาสตร์ที่ดูละเอียดอ่อนผสมผสานกันอย่างลงตัวผิดคาด
แต่ทำไมถึงเลือกใช้มีดสทิลเลตโต้ที่ดูจะเล็กเกินไปหน่อย?
ฉันได้คำตอบหลังจากครุ่นคิดสักพัก
‘การสวมอุปกรณ์ประเภทสนับเกราะ จะทำให้ไม่สามารถถืออาวุธใหญ่อย่างดาบหรือปืน นั่นคือเหตุผลที่เลือกสทิลเลตโต้ซึ่งมีน้ำหนักเบาและวงแคบกว่า’
การต่อสู้ในที่แคบยังคงดำเนินไป ทั้งหมดคือการโซโล่ของซองซีวาน
อาจมีกลไกกับดักปะปนอยู่ระหว่างทาง แต่ทีมของพวกเรามุ่งหน้าไปได้เรื่อยๆ โดยอาศัยไหวพริบของสวะติดเกมอย่างฉัน
คนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในหมู่พวกเราคือคเยอีดัม
แต่ฉันเองก็แทบไม่ต้องทำอะไรเหมือนกัน
“สภานักเรียนกับกรรมการรักษาระเบียบแอบฝึกกันอย่างลับๆ รึไงนะ? หืม… ถึงอุปกรณ์จะเก่า แต่เอนามีก็เก่งเอาเรื่องอยู่นา”
ซองซีวานพึมพำขณะใช้หลังมือปาดเหงื่อ
เขายังดูผ่อนคลาย แม้จะต้องแบกรอยแยกนี้ตามลำพัง
ทันใดนั้น มวลอากาศหนักขึ้นกะทันหัน
“ดูเหมือนจะถึงห้องบอสแล้วครับ”
“…ใช่ หลังจากตรงนี้ไป อึยชินกับอีดัมต้องช่วยฉันสู้ด้วยนะ”
ด้านหน้าพวกเราคือประตูที่ดูแล้วคงขอบเขตของชั้นล่างสุด
ซองซีวานมองตรงไป พลางตรวจสภาพเครื่องป้องกันและนับจำนวนมีดสั้นที่เหลืออยู่
ในทางกลับกัน…
‘แปลกมาก… ไม่มีการแจ้งเตือนเอนามีจากเมนูพิเศษ’
ถึงจะเป็นเครื่องซิมูเลเตอร์รอยแยก แต่เมื่อเข้าใกล้ห้องบอสถึงระดับหนึ่ง เมนูพิเศษของฉันจะแจ้งเตือน ‘<คำเตือน: เอนามีกำลังเข้ามาใกล้>’ เสมอ
“ผมไม่คิดว่าจะมีบอสนะ”
“หือ? อีดัมว่าไงบ้าง”
คเยอีดัมส่ายหน้าขณะจ้องประตูห้องบอส
สื่อเป็นนัยว่าไม่มี
“ระบบรวนเพราะเป็นเครื่องรุ่นเก่ารึเปล่านะ ลองเปิดดูหน่อยก็แล้วกัน”
เมื่อซองซีวานเอื้อมมือไปวางบนประตู
อูงงงง—!
ข้อความหนึ่งลอยขึ้นเหนือบานประตูที่กำลังส่งเสียงกลไก
[มีเพียงมนุษย์ที่ผ่านเข้าไปได้]
“หือ? กำลังจะบอกว่าลูกหลานกับเผ่าแท้เข้าไปไม่ได้สินะ… เราสามคนเป็นมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา!”
ประตูเริ่มเปิดออกหลังจากซองซีวานทาบมือลงไป
ข้างในเต็มไปด้วยแสงสว่าง
พวกเรามองเห็นร่างของใครบางคนได้จางๆ
“หือ… เขาคือ…!”
ซองซีวานพึมพำด้วยใบหน้าตกตะลึง แต่เสียงของเขาถูกกลบโดยเสียงข้อความจากระบบ
< ‘พลังโชคชะตา’ ถูกกระตุ้น>
วิ้ง!
หลังจากแสงจ้าปกคลุมทัศนวิสัยของฉันแล้วค่อยๆ เลือนหายไป
รอบตัวไม่มีใครเหลืออยู่อีกแล้ว
มันดูคล้ายมิติก่อนๆ ที่ฉันถูกโยนเข้ามาหลังจากพลังโชคชะตาทำงาน
แต่มีข้อแตกต่างอยู่หนึ่งจุด
‘นั่นมันอะไร’
‘หน้าจอ’ บานหนึ่งกำลังลอยอยู่ท่ามกลางมิติสีดำ
บี๊บ
หน้าจอสว่างขึ้น บนจอมีร่างของใครบางคน
ตัวละครที่ฉันเคยเห็นในเกม
‘ประธานสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลีในยุคมืด!’
อีกฝ่ายเริ่มกล่าวอย่างสุขุม
[ฉันไม่เชื่อใจทั้งเผ่าแท้และลูกหลาน เหตุผลที่ตัดสินใจทิ้งสิ่งนี้เอาไว้ในโรงเรียนแสงเงินซึ่งมีเผ่าแท้อยู่เบื้องหลัง ก็เพราะว่าไม่มีที่ใดปลอดภัยกว่านี้อีกแล้ว]
เสียงที่คล้ายกับซองกุกอุนดังขึ้น
คงนำไปเทียบกับในเพลเมโกไม่ได้ เพราะในเกมไม่มีการพากย์เสียง แต่ถ้าลองหลับตาฟังก็มีสิทธิ์เข้าใจว่าเป็นคนเดียวกันอยู่ไม่น้อย
[ฉันได้ทิ้งมรดกของตัวเองไว้ในโรงเรียนที่จบมา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลี]
ใบหน้าของอดีตประธานสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลีหายไป แทนที่ด้วยภาพวาดหนึ่ง
[นี่คือหนึ่งในเบาะแสที่ฉันทิ้งไว้]
บนจอคือภาพ ‘อีมูกีสู่สวรรค์’
เป็นภาพที่ยังวาดไม่เสร็จ ซึ่งภายหลังถูกทำให้สมบูรณ์โดยมินกือริน
—
MasterGU.edited = ว่าจะองค์กร