MasterGU.noted = ชื่อบทจากเว็บนอก -> Ghost Stories, Pictures, and Clues/เรื่องผี รูปภาพ และเบาะแส (5)
เด็กที่เกิดจากสายเลือดคนดังจะมีอยู่สองแบบ
แบบแรก กลุ่มที่สามารถตอบแทนความคาดหวังของคนรอบข้าง
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือสตาร์เพลเยอร์ย็อมจุนยอล ผู้มีบิดาเป็นหัวหน้าทีมสิงโตแดง และมารดาเป็นลูกหลานเผ่ามังกร
แบบที่สอง กลุ่มที่มิอาจตอบสนองต่อความคาดหวัง
ซงแดซอกอยู่ในกลุ่มนี้
มินกือรินมองซงแดซอกเป็นเพื่อนข้างบ้านสมัยเด็กคนหนึ่ง มิใช่หลานของวีรบุรุษแขนเหล็ก
‘เธอบอกว่าจะไปติวหนังสือที่บ้านเพื่อนร่วมห้อง… แต่นัดกับเราไว้แล้วว่าจะกลับมากินมื้อเย็นด้วยกัน’
มินกือรินซึ่งได้รับแว่นตาจากรองหัวหน้าห้อง พักหลังเริ่มไปโรงเรียนบ่อยขึ้น
ช่วงแรกเป็นแค่การเข้าโฮมรูมแล้วกลับ
แต่หลังๆ เริ่มอยู่กินมื้อเที่ยงและใช้เวลากับเพื่อนร่วมห้องมากขึ้น
บางครั้งก็อยู่ถึงโฮมรูมเย็น จนไม่นานมานี้มีแวะไปเล่นบ้านเพื่อน
‘กือรินกำลังเปลี่ยนไป…’
ยิ่งมินกือรินมีเพื่อนมากขึ้น ซงแดซอกก็ต้องอยู่คนเดียวบ่อยขึ้น
ใจหนึ่งก็รู้สึกโล่งอก แต่อีกใจก็กระวนกระวาย
‘กือรินกลายเป็นแบบนั้นเพราะเรา… ถ้าเธอเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราก็ต้องแสดงความยินดี’
การกลั่นแกล้งที่ทำให้มินกือรินได้รับบาดแผลทางใจ
ซงแดซอกคือหนึ่งในสาเหตุ
ด้วยรูปร่างสูงโปร่งและสง่าผ่าเผย จนดูคล้ายซงมันซอกในช่วงวัยรุ่น
ซงแดซอกเกิดมาพร้อมกับพลังวิเศษอันน่าทึ่ง ในครอบครัวที่มีหน้ามีตา
เด็กหลายคนจึงมองว่าเขาไม่ควรสนิทสนมกับมินกือริน
นั่นคือจุดเริ่มต้นของความริษยา
‘เราควรจะมีความสุขสิ… แล้วทำไมถึงไม่เป็นแบบนั้น!’
กว่าซงแดซอกจะตระหนักได้ว่ามินกือรินถูกกลั่นแกล้งก็สายไปแล้ว อีกทั้งเขายังเป็นหนึ่งในสาเหตุ
แต่ไหนแต่ไร ซงแดซอกได้รับแรงกดดันมหาศาลจากความคาดหวังของคนรอบข้างเป็นทุนเดิม จนจิตใจเปราะบางกว่าเด็กวัยเดียวกัน
ลงเอยด้วย เมื่อได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด จิตใจของเขาแตกสลายจนกลายเป็นเด็กปฏิเสธโรงเรียนเหมือนมินกือริน
‘เลยเวลานัดไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว… ติวหนังสือกันนานกว่าที่คิด? ถ้าติดต่อไปตอนนี้จะรบกวนไหม… เราควรทำยังไงดี’
ที่หน้าบ้าน
ซงแดซอกกำลังยืนพิงกำแพงพลางก้มมองนาฬิกาจากดีไวซ์
‘รออีกสักสิบนาทีค่อยโทรก็แล้วกัน… ไม่สิ ห้านาทีพอ’
แต่ผ่านไปยังไม่ถึงสามนาที เขาร้อนใจจนต่อสายโทรหามินกือรินโดยไม่รู้ตัว
5 วินาที… 12 วินาที… 30 วินาที
ไม่ว่าจะรอสายนานแค่ไหน แต่มินกือรินก็ไม่รับ
หนึ่งครั้ง สองครั้ง… ห้าครั้ง
ในหัวซงแดซอกที่กำลังฟังเสียงรอสาย เต็มไปด้วยจินตนาการในแง่ลบ
‘ต้องลองติดต่อคนอื่น…’
ชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือครูประจำชั้นของมินกือริน—ครูฮัมกึนยอง
แต่กลับติดต่อไม่ได้
‘ทำไมครูถึงไม่รับสาย!’
ชื่อถัดมาที่นึกถึงคือจิตรกรฮงคยุงบ๊ก—อาจารย์ของมินกือริน
หากคิดอย่างรอบคอบก็คงเอะใจได้ว่า ไม่มีทางที่มินกือรินจะแวะไปหาฮงคยุงบ๊กในหุบเขาจังหวัดกังวอนยามวิกาลเช่นนี้
แต่ซงแดซอกร้อนรนจนไม่ทันได้ใช้เหตุและผล
“อาจารย์ครับ! ผมแดซอกเอง กือรินน่ะ… กือรินยังไม่กลับจากโรงเรียนเลย ติดต่อก็ไม่ได้ เธอได้ไปหาท่านอาจารย์ไหมครับ”
[…แดซอก? โฮ่! แดซอกเองหรือ กือรินทำไมนะ]
“ก่อนหน้านี้มีคนคอยคอมเมนต์กลั่นแกล้งกือรินในเว็บบอร์ดของโรงเรียนแสงเงินครับ! ถึงพักหลังจะหายไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมติดต่อกือรินไม่ได้เลย!”
ซงแดซอกเอาแต่พูดจาวกวน
ฮงคยุงบ๊กผู้ได้รับสายที่ไม่คาดฝันย่อมงงงวยไปพักหนึ่ง แต่ก็ยังใจเย็นรับฟังอีกฝ่ายซึ่งเปรียบดังหลานชายแท้ๆ
ฮงคยุงบ๊กเปิดปากพูดเมื่อซงแดซอกละล่ำละลักเสร็จ
[ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่าเพิ่งตื่นตูมไปนัก อดทนรออย่างใจเย็นก่อนนะ ตกลงไหม]
“…ครับ”
[ลองติดต่อไปที่บ้านกือรินหรือยัง]
ครอบครัวของมินกือริน
ด้วยความรู้สึกผิด ซงแดซอกเอาแต่หลบหน้าพวกเขานับตั้งแต่เหตุการณ์นั้น
แม้แต่กับมินกือรินเอง ถ้าเธอไม่มายืนรอหน้าประตูทุกวันแล้วยืนกรานว่าจะไม่ไปไหนถ้าเขาไม่เปิด ซงแดซอกก็คงไม่กล้าสู้หน้าเช่นกัน
“ยังครับ… เดี๋ยวผมจะลองติดต่อดู”
[ตกลง… ดูแลตัวเองด้วยนะ วันหลังก็แวะมาหาฉันพร้อมกือรินบ้าง]
หลังวางสายจากฮงคยุงบ๊ก
ซงแดซอกลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจโทรหาแม่ของมินกือริน
[ตายแล้ว… ดูซิใครโทรมา มีอะไรหรือแดซอก? สบายดีไหม]
แม่ของมินกือรินรับสายอย่างอารมณ์ดี แม้ปลายสายจะหายหน้าหายตาไปนาน
แต่ซงแดซอกรีบเข้าเรื่องทันทีโดยไม่คิดจะกล่าวคำทักทาย
“กือรินอยู่ที่บ้านไหมครับ”
[วันนี้กือรินบอกว่าจะไปติวที่บ้านเพื่อน หัวหน้าห้องเพิ่งโทรมาบอกว่าเธอจะกลับดึกน่ะ]
“กือรินได้พูดสายเองไหมครับ”
[ไม่นะ กือรินหลับอยู่ เลยคุยไม่ได้]
มินกือรินไม่ได้พูดเอง?
ใบหน้าซงแดซอกพลันดำมืด
โดยมิได้ตระหนักถึงความรู้สึกของเขา แม่ของมินกือรินเล่าต่อไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
[หัวหน้าห้องของกือรินเป็นฝ่ายโทรมาหาแม่เอง เธอทั้งฉลาดและอ่อนโยนมาก! ดีใจจริงๆ ที่กือรินได้รู้จักกับเพื่อนดีๆ …]
ก่อนที่พลังวิเศษของมินกือรินจะตื่น
เธอเคยถูกเพื่อนรุมลากตัวไปกลั่นแกล้งจนเกือบเกิดเรื่องใหญ่
ถ้ามิใช่เพราะพลังวิเศษตื่นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์จนช่วยให้รอดมาได้…
ซงแดซอกแทบไม่อยากจินตนาการถึง
ขณะในหัวเต็มไปด้วยความคิดแง่ลบ เขาตะคอกขึ้นเสียง
“คุณแม่รู้ได้ยังไงว่ากือรินหลับอยู่ที่บ้านเพื่อนจริงๆ! ไม่ได้ยินเสียงกือรินไม่ใช่รึไง! เธออาจตกอยู่ในอันตรายจนไม่สามารถคุยโทรศัพท์ก็ได้!”
แม่ของมินกือรินเงียบไปทันทีที่ซงแดซอกตะคอก
เขารู้สึกผิดที่ทำตัวเสียมารยาทกับผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ว่างพอจะขอโทษ
“คุณแม่รู้ที่อยู่ของบ้านหลังนั้นไหม ถ้าไม่รู้ก็โทรถามให้หน่อย ผมจะไปดูด้วยตาตัวเองว่ากือรินอยู่ที่นั่นจริงหรือไม่!”
หลังจากได้ที่อยู่มาด้วยความก้าวร้าว
ซงแดซอกวิ่งปรี่ไปยังพิกัดดังกล่าวด้วยความเร็วเต็มฝีเท้า
ถึงจะไม่เคยออกไปไหน แต่เขาก็หมั่นฝึกฝนในร่มทุกวันตามคำแนะนำของกือริน
ส่งผลให้ซงแดซอกไม่เหน็ดเหนื่อย แค่หายใจหอบเพราะความกังวล
‘ที่นี่!’
บ้านที่มีสวนสวยๆ ราวกับหลุดมาจากภาพวาด
แม้จะสัมผัสถึงอันตรายไม่ได้ แต่ซงแดซอกยังคงกระสับกระส่าย
‘ไอ้ระยำที่รังแกกือรินก็ดูปกติจากภายนอก ห้ามประมาทเด็ดขาด!’
ซงแดซอกรีบเข้าประชิดประตูบ้านแล้วรัวกดกริ่ง
ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่องปิ๊งป่องปิ๊งป่อง!
แต่ประตูก็ยังไม่เปิด
มีสัญญาณของคนจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ด้านใน อีกทั้งยังมีการสนทนา แต่เขาจับสัมผัสของมินกือรินไม่ได้
ซงแดซอกรัวกริ่งถี่กว่าเดิม
ปิ๊งป่องปิ๊งป่องปิ๊งป่องปิ๊งป่องปิ๊งป่องปิ๊งป่อง!
แอ๊ด—!
ในที่สุดประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงเสียดสี
และบนโซฟา
มินกือรินกำลังนอนหลับด้วยใบหน้าผ่อนคลาย
* * *
ซงแดซอกผู้มองเข้าไปในบ้านด้วยดวงตาแดงก่ำ พบมินกือรินแล้วจดจ่ออยู่แต่ตรงนั้น
‘ในหัวมีแต่มินกือรินรึไงนะ’
ซงแดซอกวิ่งพรวดเข้าไปทันทีที่เห็นมินกือริน
ความไม่สนโลกทำให้เขาเกือบชนวังจีโฮผู้ยืนกดปุ่มเปิดประตูบ้าน
ฉึบ!
วังจีโฮเบี่ยงตัวหลบอย่างชำนาญจนดูน่าหมั่นไส้
…น่าจะชนๆ ไปเลยนะ
“กือริน”
ซงแดซอกคุกเข่าลงหนึ่งข้าง พลางมองไปยังมินกือรินที่หลับอยู่
ดูเหมือนเสียงเอะอะเมื่อครู่จะทำให้เธอกึ่งหลับกึ่งตื่น
“กระดาษเขียนพู่กัน… ยางทับกระดาษ… ไม่สิ… แท่งไม้… พู่กันหางม้า…”
ได้ยินมินกือรินละเมอออกมา пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ
ซงแดซอกลูบหัวเพื่อนสนิทที่เอาแต่ไล่ชื่ออุปกรณ์วาดภาพ
“รู้แล้ว… ฉันรู้แล้ว…”
“แดซอก…?”
“นอนต่อเถอะ”
หญิงสาวกะพริบตาหนึ่งครั้งแล้วหลับไปด้วยลมหายใจสม่ำเสมอ
ซงแดซอกที่คุกเข่าดูเธอหลับอยู่สักพัก ตัดสินใจอุ้มมินกือรินขึ้นมาทั้งผ้าห่ม
“โฮ่…”
“ว้าว…”
มินกือรินตัวเล็กที่สุดในห้อง 1/0
กับซงแดซอกที่สูงพอๆ กับวังจีโฮ—เด็กที่สูงที่สุดในห้อง
อาจเพราะความต่างด้านส่วนสูงนี้ จึงเกิดเป็นภาพคล้ายเจ้าชายกำลังอุ้มเจ้าหญิง
เด็กๆ พลันหรี่เสียงกระซิบกระซาบเมื่อได้เห็นฉากที่พบได้แค่ในละคร
“บรรยากาศอาจดูน่ากลัว แต่เขาอ่อนโยนจัง”
“ฉันเพิ่งเคยเห็นท่าอุ้มเจ้าหญิงเป็นครั้งแรก… เท่จังเลย!”
ใบหน้าควอนเลนาพลันแดงก่ำขณะมองมินกือรินในอ้อมแขนซงแดซอก
…ฉันก็เคยอุ้มเธอท่าเจ้าหญิงในวันแรกของการเปิดภาคเรียนเหมือนกัน แต่นั่นคงไม่นับสินะ
“ร่างกายดูทรุดโทรม แต่พละกำลังใช้ได้”
“ดูมีพรสวรรค์นะ”
ฮันอีและวังจีโฮต่างประเมินซงแดซอก
เป็นอีกหนึ่งแง่มุมที่ทั้งคู่มีเหมือนกันนอกจากมวยพยัคฆ์
ในสถานการณ์เช่นนี้ คิมยูรี—หัวหน้าห้องผู้มีทักษะการเข้าสังคมดีที่สุด ตอบสนองได้สมเหตุสมผลกว่าใคร
“เพื่อนสมัยเด็กของกือริน… แดซอกใช่ไหม? ฉันได้ยินกือรินพูดถึงบ่อยมาก”
ซงแดซอกชะงักฝีเท้าขณะเตรียมก้าวออกจากบ้าน
“อย่าเพิ่งกลับสิ หิวไหม? ยังมีพิซซ่าเหลืออยู่นะ!”
ได้ยินแบบนั้น ซงแดซอกเริ่มมองไปรอบๆ
ห้องนั่งเล่นที่ดูเหมือนคาเฟ่ซึ่งคิมยูรีตกแต่งเองอย่างสุดฝีมือ
หนังสือเรียนและเครื่องเขียนที่วางเกลื่อนกลาด
พิซซ่าชิคาโก้ก้นลึกบนโต๊ะกลางห้องนั่งเล่น
ไม่มีสิ่งใดเป็นอันตรายกับมินกือรินได้เลย
‘ซงแดซอกคงรู้สึกตัวแล้ว’
เขาคงคิดได้ตั้งแต่เห็นมินกือรินนอนหลับสบายท่ามกลางเพื่อนร่วมห้องนิสัยดี
“…”
ซงแดซอกยืนนิ่งอยู่นานก่อนจะส่ายศีรษะ
หลังจากได้ยินคิมยูรีตอบว่า ‘น่าเสียดายจัง… ไว้คราวหน้ามาใหม่นะ!’
เขาถามกลับด้วยสีหน้าลังเล
“…ขอยืมผ้าห่มได้ไหม”
“แน่นอน! ฝากบอกกือรินด้วยว่าเจอกันพรุ่งนี้!”
ซงแดซอกเตรียมเดินออกไปพร้อมกับมินกือรินในอ้อมแขน แต่อยู่ๆ ก็ชะงักแล้วหันกลับมาฉายโฮโลแกรม
“คราวหน้า… ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับมินกือรินให้รีบติดต่อฉันก่อน”
สิ่งที่อยู่บนโฮโลแกรมคือดีไวซ์โค้ดของซงแดซอก
หลังจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งพรวดพราดเข้ามาราวกับพายุแล้วกลับออกไป
“นี่… คิดว่าพวกเขาคบกันอยู่ไหม”
“ต้องใช่แน่! ว้ายตายแล้ว!”
คิมยูรีและควอนเลนากำลังหน้าแดงก่ำ
ยังไงก็ตามแต่ ถึงวันนี้จะรั้งซงแดซอกไว้ไม่ได้ แต่พวกเราได้ช่องทางติดต่อกับเขามาแล้ว
กลุ่มติวหนังสือครั้งแรกของห้อง 1/0 จบลงทั้งอย่างนั้น
* * *
หอพัก, หลังกลับจากบ้านคิมยูรี
ข้อความค้างอ่านยังกองสุมเหมือนเช่นเคย
ข้อความล่าสุดมาจากอ๊กโทยอน
[อ๊กโทยอน] ผู้มีพระคุณ! ผู้มีพระคุณ!
[อ๊กโทยอน] ได้ยินว่าเจ้าสนิทกับซอโฮ อีโฮ แจโฮ
[อ๊กโทยอน] พันธสัญญาห้ามเข้าเขตอึนกวางของข้ากำลังจะหมดลงแล้ว! ซื้ออะไรไปฝากลูกหลานเสือเงินทั้งสามดีล่ะ?
[อ๊กโทยอน] ผู้มีพระคุณ…
[อ๊กโทยอน] นี่!
[อ๊กโทยอน] ตอบข้าเร็วๆ สิ! ㅡㅡ
ฉันเริ่มเข้าใจหัวอกวังจีโฮผู้มักเอือมระอาอ๊กโทยอน
ถึงจะเป็นของขวัญที่มีใครบางคนเตรียมไว้ให้แล้ว แต่ฉันก็ยังคงตอบในสิ่งที่ลูกหลานเสือเงินอยากได้มากที่สุด
[ฉัน] สวนสนุก
ตอนแรกฉันคาดหวังว่าอ๊กโทยอนจะพิมพ์กลับมาทำนองว่า ‘อย่าแกล้งข้าสิ’ แต่ความจริงต่างออกไป
[อ๊กโทยอน] สวนสนุก? เจ้าบอกว่าสวนสนุกสินะ! ดีล่ะ ข้าจะออกไปหาซื้อเดี๋ยวนี้แหละ! ขอบใจมาก!
…สวนสนุกไม่ใช่สิ่งที่ใครอยากซื้อก็ซื้อได้นะ
วังจีโฮยังต้องซื้อมาจากบริษัทที่ปล่อยขาย
ยังมีอีกวิธีคือการสร้างสวนสนุกขึ้นมาใหม่ แต่นั่นต้องใช้เวลาหลายปีในการเลือกทำเลและก่อสร้าง
ผ่านไปสักพัก มีข้อความใหม่มาจากอ๊กโทยุน
[อ๊กโทยุน] ผู้มีพระคุณ ได้โปรดแกล้งโทยอนแต่พอดีๆ ด้วยเถิด
[อ๊กโทยุน] …แต่ข้าก็เข้าใจความรู้สึกเจ้า
ฉันไม่คิดว่าอ๊กโทยุนจะได้รับผลกระทบจากคำตอบดังกล่าว
ด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ ฉันปิดแชตของพี่น้องกระต่ายแล้วเปิดอ่านข้อความถัดไป
[ฮงกยูบิน] อึยชิน พักนี้เป็นยังไงบ้าง
[ฮงกยูบิน] ช่วงนี้ไม่ต้องทำงานล่วงเวลา ฉันก็เลยมีเวลาว่างเหลือเฟือเลยล่ะ!
[ฮงกยูบิน] อยากไปร้านไหนในนี้เป็นพิเศษไหม ฉันเลี้ยงเอง ^^!!
[ฮงกยูบิน] (ลิงก์)
รายชื่อภัตตาคารและห้างร้านจำนวนมากแสดงขึ้นมาหลังจากกดลิงก์
ทำไมฮงกยูบินถึงดูใจดีแปลกๆ?
ยังไม่ทันจะอ่านชื่อครบทุกร้าน ฮงกยูบินส่งข้อความใหม่เข้ามา
[ฮงกยูบิน] พอดีฉันอยากนัดเจอพวกเด็กๆ ชมรมหนังสือพิมพ์น่ะ ช่วยประสานงานให้หน่อยได้ไหม มีหลายเรื่องอยากถามจากพวกเขา ^^!!!
ฉันเริ่มจับทางได้หลังจากอีกฝ่ายโพล่งชื่อชมรมหนังสือพิมพ์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
‘ยังไม่เลิกหมกมุ่นกับนิตยสารครูแจกอลฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกอีก!’
น่าเสียดายที่คงไม่มีใครในชมรมหนังสือพิมพ์อยากขายฉบับตีพิมพ์ครั้งแรก
พวกเขาคือกลุ่มคนที่ยืนกรานหนักแน่นแม้จะถูกห้อง 2/0 ข่มขู่เชียวนะ
และฉันเคยถามเรื่องนี้ไปแล้ว ไม่มีสมาชิกชมรมคนไหนสนใจจะขายฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกในทุกราคา
[ซองซีวาน] อึยชิน สืบข่าวตำนานสยองขวัญไปถึงไหนแล้ว
ข้อความถัดไปมาจากซองซีวาน ประธานสมาคมปีกธรณีที่เป็นเพื่อนร่วมภารกิจขุดคุ้ยตำนานสยองขวัญ
[ฉัน] ก็คืบหน้าไปบ้างแล้วครับ รุ่นพี่หัวหน้าห้อง 3/0 พาผมเดินไปรอบๆ เขาปีกสวรรค์แล้วเล่าตำนานสยองขวัญเรื่องต่างๆ ให้ฟัง
ฉันแนบไฟล์สรุปข้อมูลที่ได้จากอูกีฮวันไปให้
[ซองซีวาน] กีฮวันดูแลรุ่นน้องห้องศูนย์ดีจังเลยน้า~ ฮะฮะฮะ!
ค่อนข้างมั่นใจว่าอูกีฮวันไม่ได้เล่าเรื่องพวกนี้ด้วยความปรารถนาดี
[ซองซีวาน] ฉันกำลังวางแผนไปตรวจสอบบางแห่งหลังจากได้ข้อมูลที่น่าสนใจมา!
[ฉัน] ข้อมูลที่น่าสนใจ?
[ซองซีวาน] ได้ยินว่าในเขตส่วนกลางมีทางเดินลับ ที่เชื่อมระหว่างห้องสภานักเรียนกับห้องกรรมการรักษาระเบียบอยู่ด้วย
ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน