📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 126

บทที่ 126
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

MasterGU.noted = ชื่อบทจากเว็บนอก -> Ghost Stories, Pictures, and Clues/เรื่องผี รูปภาพ และเบาะแส (2)

‘ยิ่งมองก็ยิ่งดูธรรมดา ไม่มีเค้าหัวโจกกลุ่มเด็กแสบของโรงเรียนแสงเงินเลยสักนิด’

หัวหน้าห้อง 3/0 กำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟเทียมผสมกับแสงจันทร์

หน้าตายังกับพวกตัวประกอบ ถ้าไม่ตั้งใจจำก็จะถูกลืมได้ง่ายมาก

ฉันคงจดจำไม่ได้ หากไม่ใช่เพราะเขาเคยปรากฏตัวในฉากอันน่าตื่นตาตื่นใจ

แต่สิ่งที่แปลกที่สุด คือเรื่องที่เขายังสวมชุดนักเรียนในเวลาแบบนี้

‘ถ้าอ่านชื่อจากป้ายชื่อ… อูกีฮวัน? หมายถึงอูกีฮวันคนนั้น?’

ห้อง 3/0 ในปีแรกแทบไม่มีบทบาทต่อเนื่องเรื่องของเกม

แต่ฉันเคยได้ยินชื่ออูกีฮวัน

[ยังไงเสีย ที่หนึ่งกับที่สองก็คงหนีไม่พ้นโดวอนอูกับอูกีฮวัน]

คำพูดที่ได้ยินเป็นประจำในหมู่นักเรียนปีสามช่วงเทศกาลสอบ

‘เจ้าของผลการเรียนระดับท็อปตลอดสามปี คือหัวโจกของแก๊งเด็กมีปัญหาประจำโรงเรียนแสงเงิน?’

ถึงจะมีกรณีอย่างซองกุกอุนที่อยู่ห้องศูนย์ตลอดสามปีเช่นกัน แต่รายนั้นได้เป็นประธานนักเรียนด้วย

ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ ฉันจึงต้องทักทายก่อน

“สวัสดีครับรุ่นพี่”

“สวัสดี รองหัวหน้าห้อง 1/0 สินะ มาทำอะไรในเวลาแบบนี้ล่ะ”

แปลกมาก

‘ตอบเหมือนคนปกติ…!’

ไม่หลงเหลือความบ้าคลั่งเหมือนเมื่อครั้งประกาศว่า ‘ครูประจำชั้นของพวกเราแข็งแกร่งเกินไป’

ไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นชายที่หมกมุ่นอยู่กับการตามหาพลังจักรวาล จนทำให้ประธานนักเรียนโดวอนอู และประธานสมาคมปีกธรณีซองซีวานต้องปวดหัวไปตามๆ กัน

“ผมอยู่ชมรมหนังสือพิมพ์ครับ กำลังเก็บข้อมูลของตำนานสยองขวัญ”

“อย่างนี้นี่เอง ทำงานกันดึกดื่นขนาดนี้เชียว? ฉันอ่านหนังสือพิมพ์โรงเรียนเป็นประจำ คราวก่อนพวกนายก็เขียนถึงการป้องกันไฟป่า และรณรงค์ให้นักเรียนเลิกสูบบุหรี่ใช่ไหม ตัวต้นเหตุชื่อบังยุนซบสินะ… ชมรมหนังสือพิมพ์คงเหนื่อยแย่เลย”

“…ขอบคุณครับ”

เป็นหนึ่งในการตอบสนองที่ดูปกติที่สุดนับตั้งแต่ฉันถูกส่งมายังโลกใบนี้

ยิ่งได้คุยก็ยิ่งรู้สึกตงิดใจ

“แต่ถ้าจะมาทำข่าวล่ะก็…”

“ครับ?”

อูกีฮวันที่หางเสียงแผ่วลงไป พลันกล่าวด้วยสายตาดุร้าย

“ถ้ามาที่ภูเขาปีกสวรรค์ในเวลาแบบนี้เพราะคิดจะทำข่าวพลังจักรวาล… ฉันไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางหรอกนะ! ห้อง 3/0 จำเป็นต้องต่อรองกับพลังจักรวาล ไสหัวไปซะ!”

ไม่ใช่คนปกติอย่างที่คิดจริงๆ

คงเป็นเพราะมุนแซรอนกับชมรมหนังสือพิมพ์คนอื่นๆ คอยตามป้วนเปี้ยนห้อง 3/0 เพื่อทำข่าวของพลังจักรวาลอยู่บ่อยครั้ง

“ผมมาเก็บข้อมูลตำนานสยองขวัญจริงๆ”

ฉันพูดพร้อมกับฉายโฮโลแกรมข้อมูลที่เตรียมไว้เผื่อต้องอธิบายกับใครสักคน

[ในคืนไร้จันทร์ ทุกเส้นทางบนเขาปีกสวรรค์จะนำไปสู่ประตูปรภพ]

บทความข่าวที่ฉันบันทึกเก็บไว้

แผนที่เส้นทางหลักบนเขาปีกสวรรค์

ข้อมูลที่แบ่งกันเฉพาะในหมู่เพลเยอร์—ข้อมูลเกี่ยวกับประตูปรภพที่รวบรวมได้จากชุมชนเพลเยอร์

บทความของชมรมหนังสือพิมพ์ที่ฉันเป็นคนเขียนครึ่งหนึ่ง

อูกีฮวันอ่านโฮโลแกรมของฉันอย่างตั้งใจ

“ตำนานสยองขวัญ… นั่นสินะ นี่ก็เข้าหน้าร้อนแล้ว ถ้าจะมาเก็บข้อมูลก็คงไม่แปลกเท่าไร…”

อูกีฮวันที่เคยตั้งข้อสงสัย กล่าวราวกับเป็นเจ้าของภูเขาปีกสวรรค์

“ตกลง ฉันอนุญาตให้นายเข้าไปในเขตภูเขาได้ รุ่นน้องห้องศูนย์!”

เขาปีกสวรรค์คือถิ่นของเผ่าเสือไม่ใช่รึไง

คราวก่อนก็แอบสร้างฐานทัพลับจนถูกเผ่าเสือรื้อทิ้งไปทีหนึ่งแล้ว ดูเหมือนจะยังไม่เข็ดหลาบสินะ

“พักหลังชมรมหนังสือพิมพ์เลิกงับข่าวลือเกี่ยวกับสวนลอยฟ้าแล้วสินะ… ก็ได้… ฉันจะป้อนข่าวที่สมเหตุสมผลมากกว่าเดิมให้ก็แล้วกัน”

น้ำเสียงของอูกีฮวันฟังดูห้วนขึ้น

ฉันละอายใจอย่างบอกไม่ถูกที่เคยคิดว่าเขาเป็นคนปกติ

“ฉันจะเล่าทุกความลับเกี่ยวกับเขาปีกสวรรค์ให้เอง ตามมาสิ!”

จริงๆ ก็ไม่จำเป็น

แต่ฉันไม่รู้ว่าควรปฏิเสธอย่างไรดี

‘คงจะแปลกน่าดูถ้าคนของชมรมหนังสือพิมพ์ที่กระสันทำข่าวเกี่ยวกับภูเขาปีกสวรรค์จนดึกดื่น บอกปัดแหล่งข่าวที่ยืนกรานว่าตนรู้ลึก…’

ทัวร์ตำนานสยองขวัญบนเขาปีกสวรรค์จึงเริ่มขึ้น

หลังจากฉันพยายามคิดหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวตลอดทาง

‘…มีประโยชน์กว่าที่คิดแฮะ’

อูกีฮวันผู้คลั่งไคล้พลังจักรวาล แท้จริงแล้วเป็นผู้เชี่ยวชาญเขาปีกสวรรค์คนหนึ่ง

เขาแนะนำทุกส่วนของภูเขาอย่างไหลลื่น

ไม่ว่าจะทางลัด ทางเบี่ยง บ่อน้ำแร่ สิ่งก่อสร้าง ศาลา และสะพานที่ซ่อนอยู่ทั่วทั้งภูเขา

ข้อมูลที่ไม่มีในหน้าเว็บไซต์โรงเรียนพรั่งพรูอย่างไม่ขาดสาย

“ถัดไปคือหน้าผาเล็กๆ ที่ทอดยาวไปตามลำธารศิลาดำ ตรงนั้นคือสะพานสำหรับข้ามไปยังหน้าผาอีกฝั่ง…”

ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหน อูกีฮวันก็เล่าถึงตำนานสยองขวัญได้หมด

คนตายเดินเตร็ดเตร่ไปบนสะพานเมฆ ซึ่งอยู่ระหว่างหน้าผาสีขาวกับหน้าผาสีดำ

บ่อน้ำห้าแห่งที่ผุดขึ้นบนสันเขาซึ่งนำไปสู่ยอดเขาเมฆขาว

โทเกปีที่กระโดดโลดเต้นอยู่บนผาหินถล่ม

ใกล้กับศิลาอ่านดารา ผีตนหนึ่งจะปรากฏกายในยามหิมะตก

เสียเห่าของสุนัขนำทางแห่งปรภพ ซึ่งดังมาจากอีกฟากหนึ่งของช่องแคบลมกรีด

‘เสียงเห่าของสุนัข… หรือว่าจะเป็นเจ้าบ่วง?’

แต่เสียงเห่าน่ารักๆ ของเจ้าบ่วงไม่น่าจะถูกลือเป็นตำนานสยองขวัญไปได้

สุนัขนำทางแห่งปรภพ… เหลวไหลสิ้นดี

คงเป็นเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น หรือไม่ก็เสียงแว่วที่คล้ายกัน

“แต่พอลองมานึกดู ปีนี้ยังไม่ได้ยินเสียงเห่าของสุนัขนำทางเลยแฮะ”

“สุนัขนำทางอะไรนั่นคงไม่มีอยู่แต่แรกแล้วครับ ตำนานสยองขวัญมีข่าวลือปะปนอยู่เป็นปกติ”

“แต่ฉันได้ยินหลายรอบเลยนะ”

“รุ่นพี่คงหูแว่วน่ะครับ”

“…ทำไมนายถึงยืนกรานปฏิเสธตำนานเรื่องนี้จังเลย? ช่างเถอะ ข้ามไปที่เรื่องอื่นดีกว่า”

อูกีฮวันเอียงคอเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถามอะไรมากกว่านั้น

พวกเราเดินตระเวนไปรอบๆ เขาปีกสวรรค์จนถึงรุ่งสาง

“ขอแค่ไม่เข้ามายุ่มย่ามเรื่องของพลังจักรวาล ฉันยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่”

หลังจากแลกดีไวซ์โค้ดกับอูกีฮวันที่ยังคงพูดจาเหลวไหล

ฉันมุ่งหน้ากลับหอพัก

‘การได้เจอกับอูกีฮวันถือว่าผิดแผน แต่ข้อมูลตำนานสยองขวัญจากเขาช่วยให้เราสืบได้ง่ายขึ้นมาก’

ถึงจะยังไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับประตูปรภพ แต่ฉันได้ฟังเรื่องผีใหม่ๆ อีกทั้งยังได้เห็นทางเบี่ยง ทางลัด สิ่งก่อสร้าง และสะพานลับบนภูเขาปีกสวรรค์

แผนที่โฮโลแกรมเต็มไปด้วยโน้ตที่เขียนขึ้นระหว่างเดินสำรวจพร้อมกับอูกีฮวัน

‘มีตำนานผีอันไหนเป็นของจริงบ้างเนี่ย’

ฉันหวนนึกถึงใบหน้าวังจีโฮ ผู้มักยิ้มกรุ้มกริ่มขณะฉันเอ่ยถึงตำนานผี

‘หมอนั่นต้องรู้อะไรแน่’

หลังจากนึกถึงเขาซึ่งเป็นเด็กเพี้ยนอันดับหนึ่งในห้องและผู้พิทักษ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ ฉันพลอยนึกถึงยาวิเศษของเผ่ากวางที่สร้างความทุกข์ระทมตลอดหนึ่งสัปดาห์เต็ม

‘จะว่าไป สายตาเราดีขึ้นรึเปล่านะ’

คล้ายกับฉันมองทิวทัศน์ได้ชัดเจนขึ้นแม้จะอยู่ในที่แสงน้อย

‘ไหนลองทดสอบหน่อย’

ฉันมองไปทางภูเขาปีกสวรรค์ผ่านหน้าต่างหอพัก

‘เผ่าเสือจะยิ่งแข็งแกร่งในที่มืด’

หากเป็นในเกม ระยะการค้นหาของแบคโฮกุนจะยิ่งกว้างขึ้นถ้าสภาพแวดล้อมยิ่งมืด

หลังจากลองจ้องจุดไกลๆ อยู่ราวสองสามวินาที

ทัศนวิสัยของฉันเปลี่ยนทันที เมื่อคลื่นพลังวิเศษทยอยมารวมตัวรอบดวงตา

‘อะ…!’

ท่ามกลางความมืดมิดในจุดที่พระอาทิตย์ยังไม่สว่าง

สนต้นหนึ่งบนเทือกเขาปีกสวรรค์

ลูกสนบนต้นนั้น

กลีบสนรอบลูกสน

ทุกสิ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

มันอยู่ห่างออกไปมาก แต่ฉันกลับมองเห็นทั้งหมดโดยไม่เกี่ยงระยะทางและแสงสว่าง

‘นี่สินะ เนตรของเผ่าเสือ!’

เมื่อลองกะพริบตา ความเจ็บปวดอันแผดร้อนเริ่มครอบงำดวงตาฉัน

ยังไม่ถึงกับทนไม่ไหว แต่การมองเห็นของฉันถูกผนึกไว้ชั่วคราวหลังจากเผลอหลับตาตามสัญชาตญาณ

‘การสูญเสียทัศนวิสัยระหว่างต่อสู้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก’

ดูเหมือนร่างกายจะยังปรับตัวให้เข้ากับเนตรใหม่ไม่ได้

คงต้องฝึกกันอีกสักพักโนlวลกูดอทคoม

ทันใดนั้น ข้อเท็จจริงสำคัญเรื่องหนึ่งผุดเข้ามาในหัว

‘เผ่าเสือมีสกิลสำหรับเนตรโดยเฉพาะ…!’

ถ้าได้เนตรของเผ่าเสือมา ก็ควรจะได้สกิลนั้นมาด้วย

แม้จะยังเคืองตาอยู่เล็กน้อย แต่ฉันสามารถทิ้งตัวนอนอย่างอารมณ์ดี เมื่อตระหนักว่าตอนนี้มีหมากในมือเพิ่มขึ้นอีกตัว

คุ้มค่ากับการทนดื่มยานรกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์เต็ม

* * *

กลางดึก

ในบ้านที่ตกแต่งเหมือนคาเฟ่

หลังจากอยู่ติวหนังสือกับเพื่อนที่ห้องสมุดโรงเรียนจนถึงดึกดื่น คิมยูรีกลับมาถึงเคหสถานอันว่างเปล่า

สีหน้าของเธอกำลังดำมืด

‘เหมือนกับเราหลอกใช้ดาอินเลย…’

ปัจจุบันเหลืออีกราวหนึ่งเดือนก่อนจะสอบปลายภาค

การติวหนังสือสอบจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติขนาดนั้น

แต่ที่เธออยู่จนดึกดื่นก็เพราะไม่อยากอยู่คนเดียว

‘…ทางสมาคมน่าจะส่งผลคำร้องมาแล้ว’

คิมยูรีเปิดอ่านข้อความที่เปิดในโรงเรียนไม่ได้

[แผนกจัดการความปลอดภัยของเพลเยอร์ ทีมสนับสนุนเยาวชน]

เธอตรวจสอบเนื้อหาด้วยฝ่ามือสั่นเทาหลังจากยืนยันชื่อผู้ส่ง

[หัวเรื่อง: ตอบกลับ: ไม่สามารถขยายเวลาการผนึกแสงประทานได้]

ใบหน้าของคิมยูรีหม่นหมองตั้งแต่ได้อ่านบรรทัดแรก

ถ้าจะให้สรุปเนื้อหา ใจความกล่าวถึงประเด็นที่ทางสมาคมเพลเยอร์ไม่สามารถต่ออายุผนึกแสงประทานให้คิมยูรี เนื่องจากเทคโนโลยีการสร้างผนึกในปัจจุบันยังไม่ก้าวหน้าพอ

เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอได้รับแจ้งจากสมาคมว่าจะไม่ต่ออายุผนึกให้

และข้อความเมื่อครู่คือจดหมายตอบกลับ หลังจากคิมยูรียื่นคำร้องให้พิจารณาใหม่

‘ไม่จริง…’

คิมยูรีไม่มีวันลืมสีหน้าผิดหวังของพ่อตัวเอง หลังจากได้รับแจ้งครั้งแรกว่าไม่สามารถต่ออายุผนึกแสงประทานได้

พ่อที่คอยปลอบขวัญเธอมาตลอด กลับต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยปัญหาโรคหัวใจ

ถึงจะไม่มีใครบอก แต่คิมยูรีเดาได้ว่าความกังวลทำให้หัวใจของพ่ออ่อนแอลง

‘ทำยังไงดี… เราควรทำยังไงดี!’

ใต้สายหนังนาฬิกาเส้นหนา ใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวของเครื่องแบบฤดูใบไม้ผลิ

ตราผนึกแสงประทานค่อยๆ จางลง

หญิงสาวนั่งสั่นเทาอยู่ตามลำพังภายในห้องนั่งเล่นโดยมิอาจข่มตาหลับ

* * *

เช้าวันถัดมา

ห้องเรียน 1/0

“ยูรี เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนหรือ ขอบตาดำมาเชียว”

“ตาแดงนิดๆ ด้วย”

เมื่อเปิดประตูห้องเรียน ฉันได้ยินเสียงควอนเลนากับฮันอี

“ฮะฮะ… เมื่อคืนนอนดึกเพราะมัวแต่อ่านหนังสือสอบปลายภาคน่ะ”

คิมยูรีตอบด้วยน้ำเสียงสดใสตามปกติ

ใบหน้าอาจดูอิดโรย แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตของนักเรียนที่อ่านหนังสือสอบจนดึกดื่น

อย่างไรก็ดี ฉันที่มีข้อมูลจากในเกม ย่อมมองต่างออกไป

‘คงได้รับจดหมายแจ้งจากสมาคมว่า ไม่สามารถยืดอายุผนึกแสงประทานต่อไปได้อีก… ทรงนี้น่าจะไม่ได้นอนเลยสักงีบ’

เด็กๆ ในห้องเริ่มแตกตื่นกับคำตอบของคิมยูรี

“กว่าจะสอบปลายภาคก็ตั้งเดือนกรกฎาคมเลยไม่ใช่หรือ ยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะ อย่าเพิ่งหักโหมสิ!”

“หัวหน้าห้อง… เธอโอเคไหม”

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ…!”

อาจเห็นว่าคิมยูรียิ้มอย่างร่าเริง แต่เกินครึ่งเป็นการแสร้งทำ

ฉันตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยวิธีเท่าที่จะคิดออก

“ถึงจะยังเร็วไปหน่อย แต่เรามาตั้งกลุ่มติวหนังสือกันเลยดีไหม คราวนี้ฉันอยากให้ทุกคนเข้าร่วมกันพร้อมหน้า”

จังหวะการหยิบมาพูดถือว่าไม่น่าเกลียด เพราะอยู่ในขอบเขตของการสอบปลายภาค

เมื่อเด็กๆ ได้ยินข้อเสนอของฉัน

“คราวก่อนมีแค่กลุ่มของเด็กหอในสินะ เพราะมีแต่เด็กหอที่เข้าห้องติวของสมาคมปีกธรณีได้…”

“ใช่… แล้วนักเรียนที่มาเช้าเย็นกลับก็กลัวว่าจะดึกเกินไป… แต่คราวนี้อยากติวด้วยกันจัง”

“…ถ้าไม่ดึกมาก ฉันเอาด้วย”

ความเห็นเป็นไปในเชิงบวก

“ถ้าอย่างนั้นไปจองห้องพักในเขตอึนกวางเอาไว้ไหม… หรือว่าเราจะขออนุญาตใช้ห้องเรียน 1/0 จนดึก?”

คิมยูรีลุกขึ้นทันที

“นี่นี่… บ้านของฉันยังว่างนะ!”

พูดออกมาสักที

คิมยูรีพูดในสิ่งที่ฉันต้องการ

‘ในเกมอธิบายว่าคิมยูรีในช่วงเวลานี้ จะเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้านโล่งๆ ด้วยสมองที่เต็มไปด้วยความคิดด้านลบ’

แผนของฉันคือการสร้างกลุ่มติวที่บ้านของเธอ เพื่อยืดเวลาให้คิมยูรีได้อยู่กับเพื่อนนานที่สุด

“จะดีหรือ… ถ้าพวกเรารบกวนบ้านเธอนานๆ …”

“ที่จริงฉันกังวลกับเกรดของตัวเองมาก ถ้ามียูรีคอยช่วยก็เยี่ยมเลย… แต่เกรงใจจัง”

“ไม่เป็นไรเลยสักนิด! ตรงกันข้าม ฉันค่อนข้างเหงาที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ถ้าจัดกลุ่มติวที่บ้านจะดีมากเลย!”

คิมยูรีกล่าวอย่างร่าเริง

เธอรวบรวมความกระตือรือร้นแล้วเริ่มวางแผนทันที ตามแบบฉบับของหัวหน้าห้องที่พึ่งพาได้

ดูเหมือนนักเรียนที่มาโรงเรียนทุกคนจะเข้าร่วมกลุ่มติวนี้

“ไม่ชอบมาพากลอย่างที่นายบอกจริงๆ”

“หือ…?”

ระหว่างที่เด็กๆ ปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจับกลุ่มติว

วังจีโฮกระซิบคุยกับฉัน

“คอมเมนต์แย่ๆ เกี่ยวกับมินกือรินไง หลังจากลองสืบก็ได้พบเรื่องที่ชวนให้ปวดหัว”

เรื่องที่ชวนให้ปวดหัว?

“มีพวกไม่เกรงกลัวกฎหมายบางกลุ่มซื้อขายไอดีของเว็บบอร์ดโรงเรียน เกือบทุกคนที่คอมเมนต์แย่ๆ ถึงมินกือรินเป็นไอดีที่ซื้อมา”

ทำไมถึงต้องลงทุนทำขนาดนั้นเพื่อคอมเมนต์กลั่นแกล้งมินกือริน?

“ไม่ใช่แค่ไอดีสองไอดีด้วยสิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลเว็บไซต์ของโรงเรียนแสงเงินทำพลาดมหันต์… ทั้งครูที่หมดสัญญาและนักเรียนที่ถูกไล่ออกต่างก็ขายไอดีให้กับคนกลุ่มนี้”

“พวกที่กลายเป็นคนนอกไปแล้ว ขายไอดีให้คนร้าย?”

“ใช่”

ฉันเคยรู้สึกว่าบางครั้งบรรยากาศในบอร์ดทั่วไปก็มีกลิ่นตุๆ อย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้รู้เหตุผลแล้ว

“เป็นเพราะนาย ทางเราถึงได้ขุดเจอเรื่องประหลาดและซับซ้อนเต็มไปหมด… ตัวตนของผู้ขายเอย ตัวจริงของผู้ซื้อเอย รวมถึงประวัติการตอบคอมเมนต์ของไอดีที่มีปัญหา และความพยายามในการปลุกระดมผู้คน… อันดับแรก ทางโรงเรียนระงับไอดีที่มีการซื้อขายเพื่อไม่ให้คอมเมนต์กลั่นแกล้งได้อีก แต่คงใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะจับคนร้ายได้”

เมื่อวังจีโฮพูดจบ คาบโฮมรูนเริ่มขึ้นพร้อมกับยงเจกอนที่เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี

ฉันนั่งฟังการโฮมรูมของครูเผ่ามังกร พลางครุ่นคิดเกี่ยวกับหมากถัดไปที่จะเดิน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset