รถม้าเริ่มต้นจากศูนย์กลางที่พำนักอาศัยของเมืองมอนเตลาโก มีถนนวิ่งเป็นเส้นตรงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก เส้นทางนี้จะเป็นทางนำไปสู่พระราชวังของจักรวรรดิ มีต้นไม้ทั้งสองฝั่งปกคลุมถนนทั้งหมดอยู่ภายใต้ร่มเงา รู้สึกได้ถึงความเย็นและความสดชื่นที่นี่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ด้านบนของต้นไม้เหล่านี้ก็เหี่ยวแห้งหลุดร่วง คงเหลือเพียงกิ่งก้านเปล่าเปลือยที่สั่นไหวอยู่ในสายลมเย็น
ตอนนี้ไอว่าไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับความหนาวเย็น เขากำลังจินตนาการถึงรูปลักษณ์ของพระราชินีจากคำบอกเล่าของมาร์กาเร็ต
ภายในใจของไอว่า เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดอย่างที่หาผู้เทียบเคียงไม่ได้ในจักรวรรดิฮาส
ที่ระยะห่างไม่ถึงกิโลเมตรจากพระราชวัง ไอว่าก็รู้สึกได้ถึงความภูมิฐานและความสง่างามของมัน ช่วงเวลาที่เขาเป็นเด็ก ไอว่ามาเล่นที่นี่บ่อยๆ กับเพื่อนฝูงของเขา พวกเขามักจะเดินเล่นกันบริเวณภายนอกกำแพงสูงชันของพระราชวังในขณะที่พยายามจินตนาการถึงรูปโฉมของพระราชินี ในจินตนาการของพวกเขานั้นพระราชินีเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ มันไม่เกี่ยวข้องกับความงามของเธอ พวกเขาไม่เคยคิดว่าพระราชินีโซเฟียเป็นผู้หญิงงามในจินตนาการ แต่กลับคิดว่าเป็นดั่งพระราชินีปีศาจ!
จนกระทั่งอายุ 17 ปี ไอว่าก็ยังไม่เคยเข้ามาที่พระราชวัง จากนั้นเขาก็ถูกส่งไปจักรวรรดิอีสต์ ห่างจากจากเมืองมอนเตลาโกหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อไปศึกษาโดยพ่อของเขา
การส่งไอว่าไปศึกษาที่จักรวรรดิอีสต์เป็นการตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวของนายพลไคล์ ไม่ได้ถูกจัดการโดยจักรวรรดิ เหตุผลที่ทำให้ส่งเขาไปที่จักรวรรดิอีสต์ก็เพราะว่า เป็นเวลามากกว่า 50 ปีแล้วที่ไม่มีสงครามเกิดขึ้นระหว่างจักรวรรดิฮาสกับจักรวรรดิอีสต์ พ่อค้าหลายคนที่เดินทางมาจักรวรรดิฮาสมาจากที่นั่น ทั้งหมดต่างพูดกันว่าจักรวรรดิอีสต์เป็นสถานที่ลึกลับ จุดชนวนความสงสัยขึ้นในใจแม้กระทั่งคนหัวแข็งอย่างนายพลไคล์ ทำให้เขาส่งลูกชายของเขาไปศึกษายังต่างประเทศพร้อมกับเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์เพิ่มขึ้นไปด้วย ถ้าเขาไม่ได้วางแนวทางอนาคตของลูกชายของเขาเสียแต่เนิ่นๆ มันก็จะเป็นการยากลำบากสำหรับตระกูลโฮลเซอร์ที่จะรักษาตำแหน่งของเขาไว้ในจักรวรรดิ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกร็กได้บรรลุถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยอาศัยอำนาจของครอบครัวเขาและลูกชายบางคนของเขายังดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพ นับเป็นช่วงเวลาสูงสุดสำหรับตระกูลเฮอร์แมน แต่นายพลไคล์มีไอว่าเป็นลูกชายเพียงคนเดียว เขายังเด็กและยังไม่สามารถต่อสู้กับตระกูลเฮอร์แมนได้ นั่นทำให้นายพลไคล์กังวลใจ ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่อยากส่งลูกชายที่พึ่งจะกลับมาเข้าพบพระราชินี ถ้าลูกชายของเขาได้รับการยอมรับจากพระราชินีและได้รับตำแหน่งหน้าที่ นั่นจะช่วยยกสถานะของตระกูลโฮลเซอร์ ถึงตอนนั้นกระทั่งเกร็กเองก็ยังไม่กล้าที่จะดูหมิ่นตระกูลโฮลเซอร์ของเขา
พระราชินีได้พูดแล้วว่าให้ไอว่าเข้ามาพบกับเธอด้วยตัวเอง ถึงนายพลไคล์จะไม่ค่อยมั่นใจกับตัวลูกชาย เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาปลอบใจตัวเองด้วยการเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่ลูกชายของเขาได้รับมาจากโลกภายนอกในช่วงเวลาที่ผ่านมา 2 ปี
รถม้าหยุดลงนอกประตูของพระราชวัง ไอว่าที่ก้าวลงมาจากรถม้าสวมใส่ชุดที่ติดตราประจำตระกูลโฮลเซอร์ไว้บนหน้าอกของเขา
ในเวลาเดียวกัน รถม้าหรูหราอีกคันก็ควบขับมาจากถนนสายอื่น เมื่อไอว่าพร้อมที่จะเข้าไปในพระราชวัง รถม้าคันนั้นก็หยุดลงอย่างรวดเร็วตรงหน้าของเขา
ที่ทำให้ไอว่าเกิดความสนใจก็คือผู้ชายและผู้หญิงคู่หนึ่งที่นั่งคู่กันมาในรถม้า ผู้ชายดูอายุมากกว่า 20 กว่าปี มองดูมั่นใจและสง่างาม สวมใส่ชุดเครื่องแบบทหาร สำหรับผู้หญิงเธอสวมใส่กระโปรงยาวถึงหัวเข่า เธอดูสวยงามและบอบบาง อายุประมาณ 17-18 ปี จมูกโด่ง ตาสีฟ้า ขนตายาวงอนและผมสีน้ำตาลสวมหมวกไว้บนหัวของเธอ
ทั้งคู่ก้าวช้าๆ ลงจากรถม้า ไอว่ามีความรู้สึกเดจาวูหลังจากได้เห็นตราประจำตระกูลเฮอร์แมนบนหน้าอกของพวกเขา เขาจำได้ว่าทั้งคู่เป็นลูกชายและลูกสาวของนายกฯ คนปัจจุบัน เกร็ก!
หลังจากลงมาจากรถม้า สาวคนนั้นก็ดึงแขนของผู้ชายมาทางไอว่า ในความทรงจำของเธอ หนุ่มหล่อแบบนี้ไม่เคยมีในตระกูลโฮลเซอร์
“ถ้าฉันคาดเดาไม่ผิด คุณน่าจะเป็นนายน้อยไอว่า? แน่นอน คุณคงไม่ได้วางแผนมาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ให้พระราชินีเป็นผู้ชมหรอกนะ?”
เฟเดอเรอร์กล่าว
“ผมไม่กล้าหรอก ผมได้รับบัญชาจากองค์ราชินีถึงได้มาที่นี่”
ไอว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับนายน้อยตระกูลเฮอร์แมน เฟเดอเรอร์ ชายปากเสียคนนี้ ดังนั้นแทนที่เขาจะโต้เถียงกับคนแบบนี้เขากลับโค้งร่างกายให้อย่างสุภาพแทน
อาศัยตราประจำตระกูลของพวกเขา ทั้งสามเดินผ่านทหารยาม ผ่านเข้าไปในพระราชวังที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ภายในจักรวรรดิฮาส ไม่เคยมีการปลอมแปลงตัวเป็นสมาชิกของทั้งสองตระกูลใหญ่ ดังนั้น ทหารยามพระราชวังจึงให้บุคคลในตระกูลทั้งสองผ่านเข้าไปอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องมีการตรวจเช็ค ตราประจำตระกูลเหล่านี้เหมือนกับเครื่องหมายผ่านตลอดในจักรวรรดิฮาส
ทั้งสามคนมารออยู่หน้าประตูของสำนักงานของพระราชินี ไม่นาน ก็มีคนออกมาแจ้งให้สองนายน้อยและคุณหนูดอลลี่ให้เข้าไปพบกับพระราชินีข้างใน
พวกเขาเข้าไปในสำนักงานของพระราชินีพร้อมกัน ถึงแม้จะเรียกว่าเป็นสำนักงาน มันก็กล่าวได้ว่าเป็นห้องโถงหรูหรา พระราชินีนั่งอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของโต๊ะตัวใหญ่ พร้อมด้วยหญิงสาวทั้งสองด้าน ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้สวมเครื่องแบบ แต่ทันทีที่ไอว่าก้าวเข้ามาภายในห้องโถงนี้ เขาก็รู้สึกสัมผัสได้ถึงไอเย็นแผ่วเบาที่แผ่กระจายออกมาจากทั้งสองสาว สำหรับทุกคนที่จะเข้ามาในสำนักงานของพระราชินี สองสาวสวยที่มีทักษะสูงกว่าขั้นที่ 10 จะเป็นผู้ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
ไอว่าที่มีความแข็งแรงแค่ขั้นที่ 3 เกือบจะล้มลงเนื่องจากแรงที่มองไม่เห็นนี้ ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหว แต่เขารู้ว่าสาวสวยที่ยืนอยู่ด้านข้างพระราชินีรับรู้ถึงความอ่อนแอของเขา เอามือปิดปากหัวเราะอย่างอดไม่ได้
หลังจากที่พวกเขาทำความเคารพ พระราชินีก็อนุญาตให้พวกเขานั่งร่วมโต๊ะกับพระองค์ได้ ไอว่านั่งลงที่ด้านหนึ่ง ในขณะที่คู่พี่ชายน้องสาว เฟเดอเรอร์กับดอลลี่นั่งลงที่อีกด้านหนึ่ง
หลังจากพระราชินีเหลือบไปมองไอว่าครั้งหนึ่ง ร่องรอยของความสุขก็ส่องประกายลึกๆ ออกมาจากดวงตา แต่แล้วเธอก็รีบเปลี่ยนสายตาของเธอไปที่หน้าของเฟเดอเรอร์แทน
“เฟเดอเรอร์…วันนี้เธอมีเรื่องสำคัญอะไรที่จะมารายงานฉันหรือ?”
นี่เป็นคำถามตามปกติของพระราชินี แต่มันก็ไม่ได้ไร้เหตุผล ในความเป็นจริง แต่ละคนและทุกคนที่เข้ามาหาพระองค์ในพระราชวัง ทั้งหมดมีเรื่องสำคัญที่จะมารายงานทั้งนั้น ถ้าไม่มี ใครล่ะจะกล้าเข้ามาคุยเล่นกับพระราชินี?
“พระองค์ท่าน…เมื่อเร็วๆ นี้ ทางภาคใต้ เผ่าแทนเซียได้เข้ามาโจมตีรบกวนประชาชนของจักรวรรดิเราอยู่บ่อยๆ ผมใคร่ขอร้องพระองค์ท่านให้โอกาสผมอีกครั้ง ให้ผมนำทหารของผมไปรบและเข่นฆ่าชาวเผ่าแทนเซีย!”
เฟเดอเรอร์ยืนขึ้นและกล่าวอย่างทะเยอทะยาน
“บรรดาผู้หญิงแทนเซียไม่ใช่พวกมังสวิรัติ ถ้าเธอต้องการที่จะสร้างผลงานแล้วละก็ ฉันรู้สึกว่ามันจะดีกว่าถ้าส่งเธอไปรบทางทิศตะวันตก บางทีสภาพภูมิประเทศแถบนั้นจะเหมาะกับกลยุทธ์ของเธอมากกว่า”
พระราชินีกล่าว
ได้ยินพระราชินีกล่าวว่าผู้หญิงแทนเซียยากที่จะจัดการ เฟเดอเรอร์รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เพราะว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาพึ่งพ่ายแพ้ต่อผู้หญิงแทนเซียมา เขายังคงไม่สามารถกล้ำกลืนความโกรธแค้นนี้ได้จนถึงตอนนี้ เขาไม่คาดคิดว่าความกล้าที่เขาจะลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งเพื่อที่จะได้รับความชื่นชมจากพระราชินีจะได้ผลในทางกลับกันแบบนี้ พระราชินียังคงไม่เชื่อมั่นในการต่อสู้ระหว่างทหารของเฟเดอเรอร์กับชนเผ่าแทนเซีย เพราะว่าเฟเดอเรอร์ได้ประสบความพ่ายแพ้ต่อพวกเขาติดต่อกันมาสองครั้งแล้ว บรรดาชนเผ่าแทนเซียมักจะต่อสู้เหนือบริเวณชายแดนจักรวรรดิฮาส และไม่เป็นอันตรายต่อรากฐานของจักรวรรดิ ในสายตาของพระราชินี การรบกวนของเผ่าแทนเซียก็เหมือนกับการข่มขู่เล็กๆ น้อยๆ ของอันธพาล ไม่คุ้มที่จะลงไปจัดการกับเรื่องจุกจิกแบบนี้
พระราชินีหันมองไปที่ไอว่า
“ฉันได้ยินจากพ่อของเธอว่าเธอไปที่จักรวรรดิอีสต์เพื่อร่ำเรียนเป็นเวลาสองปี แน่นอนว่าเธอต้องเรียนรู้มาอย่างมากมายใช่ไหม?”
“พระองค์ท่าน…ผมกลัวว่าพ่อของผมคงพูดเกินจริงไปมาก ผมแค่ออกไปเที่ยวเล่นเป็นเวลาสองปีมากกว่า”
สองสาวใช้ด้านข้างของพระราชินีตกใจช๊อคไปกับคำตอบของไอว่า ทำไมเขาไม่ตอบว่าเขาเรียนอะไรมาบ้างตอบกลับมา!
เมื่อได้ยินคำถามของพระราชินี หน้าผากของไอว่าถึงกับมีเหงื่อซึมออกมา แต่ทว่า พระราชินีกลับมีความสุขที่มองเห็นความลำบากใจของไอว่าที่แสดงออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นว่าเขาอายุยังน้อยกลับรู้จักการถ่อมตน นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งจริงๆ
“ที่จริงแล้วการเรียกตัวเธอกลับมาจากจักรวรรดิอีสต์เป็นความต้องการของฉัน จักรวรรดิฮาสกำลังต้องการใช้คน เธอจะมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร? ถ้าฉันจะให้เธอมาเป็นมหาดเล็กของฉัน?”
หลังจากได้ฟังเสียงนุ่มนวลของพระราชินี ไอว่ารู้สึกเหมือนกับได้อาบน้ำกลางสายลมในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อเขาเข้ามาในห้องโถง เขารู้สึกกระสับกระส่ายหลังจากมองไปที่ใบหน้าสวยงามของเธอ ติดอยู่ที่สถานะพระราชินีทำให้ไอว่าไม่กล้าที่จะแอบมองเธอ เขาใช้โอกาสนี้ เงยหน้าอย่างช้าๆ เป็นธรรมชาติมองไปที่พระราชินี เขารู้สึกงงงวยที่รู้สึกถึงอารมณ์อ่อนโยนและนิ่มนวลในส่วนลึกของดวงตาเธอ
“ไอว่า…ยินดีที่จะรับใช้พระองค์ท่าน!”
ไอว่ารีบตอบกลับทันที เพียงแค่พบหน้าพระราชินีเป็นครั้งแรก ไอว่าก็อยากจะทำงานรับใช้เธอ เขาต้องการที่จะติดตามเธอไปทุกวัน ทุกสถานที่ เพื่อที่จะได้มีโอกาสมองใบหน้าสวยงามของเธอ สูดดมกลิ่นหอมมีเสน่ห์จากร่างกายของเธอ
เฟเดอเรอร์ ที่กำลังรอให้พระราชินีอนุญาตให้เขานำกองทัพ คิดอย่างรวดเร็วที่จะใช้โอกาสนี้ทำให้ไอว่าเสียหน้า และเป็นการกู้หน้าเขาด้วย ดังนั้น เขาจึงแกล้งทำเป็นยักไหล่เบาๆ มองตรงไปที่ไอว่าแล้วพูดแบบยิ้มๆ
“พระองค์ท่าน…การให้นายน้อยไอว่ากลับมาจากจักรวรรดิอีสต์เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเหมาะสม”
พระราชินีขมวดคิ้วของเธอ ถามขึ้นมา
“ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?”
ไม่มีใครกล้าพูดถึงความผิดพลาดของพระราชินีต่อหน้าของเธอ ไม่คิดว่าเฟเดอเรอร์จะใจกล้าขนาดนี้ มองเห็นสีหน้าของพระราชินีเปลี่ยนไป ดอลลี่จะยื่นมือของเธอไปดึงแขนเสื้อของพี่ชายของเธอเพื่อไม่ให้เขาพูดออกมา แต่มีหรือที่เฟเดอเรอร์จะฟัง? นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้แสดงความฉลาดของเขา เขาจะพลาดมันไปได้อย่างไร!
ดังนั้น เฟเดอเรอร์จึงยืนขึ้นอีกครั้งและกล่าว
“มองดูจากลักษณะของนายน้อยไอว่า พระองค์ท่าน…ควรจะปล่อยให้นายน้อยไอว่าอาศัยอยู่ในจักรวรรดิอีสต์และเป็นสายลับดีกว่า? ในกรณีที่เกิดปัญหาใดๆ เกิดขึ้นระหว่างเรากับจักรวรรดิอีสต์ บางทีบุคคลอย่างนายน้อยไอว่าน่าจะยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง!”
หลังจากพูดจบ เฟเดอเรอร์มีความภูมิใจมากกลับไปนั่งที่ตำแหน่งเดิมของเขา มองไปที่ดอลลี่ หวังว่าจะได้รับการมองอย่างชื่นชมกลับมาจากใบหน้าของเธอ
ในความเป็นจริง ดอลลี่ไม่เข้าใจว่าพี่ชายของเธอจะทำแบบนี้ไปทำไม มือที่เดิมจะเอื้อมไปดึงแขนเสื้อของเฟเดอเรอร์รีบชักคืนกลับมาอย่างรวดเร็วด้วยความรังเกียจ ‘เมื่อไหร่พี่ชายของเธอจะรู้จักพูดในสิ่งที่ควรพูด ในเมื่อคุณไม่รู้จักเขา คุณไปเหน็บแนมสบประมาทเขาแบบนั้นได้อย่างไร?’
ดอลลี่เหลือบมองไปที่เฟเดอเรอร์แวบหนึ่ง แล้วถอยระยะห่างออกมาจากเขา
“ฮ่า ฮ่า…ไม่เป็นไร มองไปที่ชุดทหารของคุณ นายน้อยเฟเดอเรอร์น่าจะเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ นำทัพออกไปสู้รบบ่อยๆ ผมได้ยินว่าเกร็กมีลูกชายที่สู้รบเก่งมาก เป็นนายพลไร้พ่าย ผมคิดว่าที่จักรวรรดิสามารถชนะศึกสงครามต่างๆ น่าจะเกี่ยวข้องกับความสามารถที่โดดเด่นนี้ของนายน้อยเฟเดอเรอร์อย่างแน่นอน!”
แม้ว่าไอว่าจะไม่คุ้นเคยกับเฟเดอเรอร์แต่ก็เคยได้ยิน ‘ชื่อเสีย’ ของเขาจากนายพลไคล์
ทุกครั้งที่เฟเดอเรอร์ออกไปสู้รบ เขาจะพ่ายแพ้อย่างย่อยยับกลับมาทุกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเขาปกป้องเอาไว้ เขาจะต้องถูกลดตำแหน่งโดยพระราชินีไปนานแล้ว ในวันนี้ เห็นสภาพที่เขาพยายามอวดเบ่งตัวเอง ยกตนข่มและหัวเราะเยาะไอว่า ไอว่าช่วยไม่ได้ที่จะต้องพูดประชดต่อหน้าพระราชินี พบเจอกับคนประเภทนี้ ถ้าคุณไม่กำหลาบเขา เขาก็จะตามมาตอแยคุณตลอด! นี่เป็นธรรมชาติของไอว่า ถ้าคุณไม่รุกรานผม ผมก็จะไม่รุกรานคุณ แต่ถ้ามีใครบางคนมารุกรานผม ผมจะตอบโต้กลับไปอย่างรุนแรงกับเขาให้สาสม!”
แม้ว่าการฟังคนอื่นมาดูถูกพี่ชายของเธอจะทำให้ใจของเธอไม่มีความสุข แต่ดูเหมือนว่าดอลลี่จะยอมรับมันได้ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของพี่ชายเธอที่จงใจก่อเรื่องขึ้นเอง หัวใจของเธอแอบสนับสนุนไอว่าอย่างที่ไม่คาดคิด แม้ว่าอายุของไอว่าจะไม่มาก เธอรู้สึกได้ถึงความเป็นผู้ใหญ่จากตัวเขา เธอลอบแอบมองไปที่ไอว่า ความหล่อเหลาของเขาที่แสดงออกกับพี่ชายของเธอไม่ได้มีร่องรอยของการตอบโต้ หากแต่เหมือนกับการแสดงตามปกติของจักรพรรดิ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกเคารพและชื่นชมในดวงตาของเธอ
พระราชินีต้องการพูดเล็กน้อยเพื่อช่วยเหลือไอว่า ให้เฟเดอเรอร์มองดูเขาในทางที่ดีขึ้น เธอไม่คิดว่าไอว่าจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง พระราชินีแอบซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้า พูดกันตามความจริง ระหว่างมื้อค่ำเมื่อวานกับนายพลไคล์ พระราชินีแค่ไว้หน้าแก่นายพลเฒ่า ไม่ได้คิดอะไรมากนักกับเด็กอายุ 19 ปี แต่หลังจากเห็นเขาแล้ว ไม่เพียงแต่รูปร่างของเขาจะต่างไปจากที่เธอจินตนาการถึง เขายังมีสติปัญญาชาญฉลาดโดดเด่นเป็นพิเศษ ในอนาคตเขาจะเป็นบุคลากรที่มีความสามารถของจักรวรรดิได้อย่างแน่นอน แต่เธอยังไม่ทราบว่าไอว่าเรียนรู้อะไรมาบ้างที่จักรวรรดิอีสต์ แต่เห็นเขาถ่อมเนื้อถ่อมตัว เธอรู้ว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะถามเขา
นี่ถ้าไม่เห็นแก่หน้านายกฯ เกร็ก พระราชินีจะต้องตำหนิเฟเดอเรอร์ ผู้ชายที่ไร้ประโยชน์ หยิ่งผยองในตัวเองแล้วก็ไล่เขาออกไป แต่เนื่องจากสาวสวยที่ด้านข้างของเฟเดอเรอร์ พระราชินีชื่นชอบเธอมาก เธอไม่เหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลเฮอร์แมนที่ชื่นชมยินดีกับความหรูหรายิ่งใหญ่เพื่อที่จะอวดตัวเองเสมอ แต่เธอกลับมีหัวใจที่ดีและซื่อสัตย์ นอกจากนี้เธอยังเป็นคนที่ฉลาดกว่าเฟเดอเรอร์ พี่ชายของเธออีกด้วย
“เฟเดอเรอร์ ถ้าเธอไม่มีธุระเรื่องอื่นอีก เธอก็กลับไปได้ ฉันยังมีธุระต้องคุยปรึกษากับน้องสาวของเธอกับไอว่า”
พระราชินียังคงสั่งอย่างสุภาพให้เขากลับออกไป การกระทำแบบนี้ทำให้เฟเดอเรอร์ยากที่จะไปโอดครวญกับพ่อของเขา เพราะว่าพระราชินีมีความรู้สึกที่ดีกับลูกสาวของเกร็ก ถ้าเฟเดอเรอร์พูดเรื่องนี้กับพ่อของเขา มันก็จะนำไปสู่การถูกดุด่าโดยเกร็กเท่านั้น – ทำไมน้องสาวของเขาคนเดียว ถึงได้รับชื่นชอบจากพระราชินี?
—————————
ปล. สาวๆ นักรบเผ่าแทนเซียจ๋า รอคิวหน่อยน้าาาาา เราได้เจอกันตัวเป็นๆ ดิ้นได้แน่ๆ
ช่วงนี้ต้องขอตัว ขอจัดการกับสาวๆ แถวนี้ก่อน ^^
