“มาร์กาเร็ตที่รัก ผลของการตรวจสอบยีนของไอว่ากำลังจะออกมาในไม่ช้านี้ ถ้าผมคาดเดาไม่ผิด ภายในหนึ่งเดือนเขาน่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลกองทหารเล็กๆ ซักกอง! คุณก็รู้ เขาเป็นความหวังของตระกูลโฮลเซอร์ของเรา อย่างไรก็ตาม ผมกลัวว่าเขาจะดำเนินรอยตามน้องชายของผม ‘บากอท’ คนที่ไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบได้ ตอนนี้ก็อายุใกล้จะ 35 แล้ว เขายังคงเป็นแค่เจ้าหน้าที่อยู่ ผมไม่คิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จอะไรตอนอายุ 40”
“ในทำนองเดียวกัน ผมกลัวว่าไอว่าจะประสบกับชะตากรรมเดียวกัน เขาถูกส่งไปศึกษาที่จักรวรรดิอีสต์แต่ผมรู้สึกว่าการศึกษาของจักรวรรดิอีสต์ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่แม่ที่ให้กำเนิดเขา แต่คุณก็เป็นคนเดียวที่สามารถรับผิดชอบภาระหนักหนาในการฝึกฝนอบรมเขา คุณต้องเป็นเหมือนแม่ที่คอยปกป้องเขา ที่มีอนาคตของตระกูลโฮลเซอร์วางอยู่บนบ่า นั่นเป็นเหตุผลที่ผมหวังว่าระหว่างที่เขาเข้าประจำการที่กองทหาร คุณจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเขา”
นายพลสูงสุดของเมืองมอนเตลาโก พูดอย่างกังวลใจในขณะที่สาวสวยอายุราวๆ สามสิบยืนรับฟังอยู่หน้าโต๊ะของเขา
ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาคนที่สองของนายพลไคล์ เธอมีผมหยักเป็นลอนสีน้ำตาล ตาลึกและจมูกโด่งทำให้เธอแลดูบอบบางน่าทะนุถนอม นอกจากนี้ ส่วนสูงของเธอทำให้เนินนูนบนหน้าอกของเธอเห็นเด่นชัดขึ้น บวกกับชุดเครื่องแบบรัดรูปยิ่งขับเน้นความงามของเธอออกมาอีก
“ดิชั้น? ต้องไปเป็นผู้ช่วยของไอว่าเหรอคะ?”
มาร์กาเร็ตคิดว่าหูของเธอต้องฟังอะไรผิดมาแน่ๆ เธอไม่เคยคิดว่าท่านนายพลจะให้เจ้าหน้าที่ระดับเธอไปเป็นผู้ช่วยของเด็กวัยรุ่น ลูกเลี้ยงของเธอ มันประหลาดเกินไปแล้ว!”
“อย่าดูถูกความสามารถของลูกเรา…โอ…ขอโทษ ผมลืมไป เขาไม่ใช่ลูกชายคุณ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าแม่ผู้ให้กำเนิดเขาเป็นนักรบเลือดมังกรระดับนายพลที่มีชื่อเสียงของจักรวรรดิ ผมก็มีสายเลือดแบบเดียวกัน ดังนั้นลูกชายของเราจะต้องเป็นนักรบเลือดมังกรแน่นอน การตรวจสอบยีนเป็นแค่ขั้นตอนตามพิธีเท่านั้น เมื่อได้ผลลัพธ์ออกมา เขาจะได้รับดินแดนบางส่วนจากจักรวรรดิ ผมหวังว่าอนาคตของเขาจะสดใสกว่าผม!”
ท่านนายพลมองอย่างเชื่อมั่นไปที่สาวสวยตรงหน้าของเขา
ถึงแม้ว่ามาร์กาเร็ตจะไม่เต็มใจ แต่สามีของเธอเป็นผู้บังคับบัญชาและเธอได้แต่ยอมรับคำสั่ง
“คุณคงไม่คิดว่าการทำแบบนี้ไม่เหมาะสมใช่ไหม?”
ท่านนายพลถามขณะที่จ้องมองไปที่เธอ
“ไม่…ไม่มีปัญหาค่ะ!”
มาร์กาเร็ตลังเลในตอนแรก แต่ในชั่วพริบตาเธอตอบกลับด้วยความเด็ดเดี่ยวแสดงถึงความมุ่งมั่นของเธอ แต่เธออยากจะบอกนี้ชายชราหัวแข็งคนนี้ว่า ไอว่า – ลูกเลี้ยงของเธอไม่น่าจะมีอนาคตสดใสกว่าบากอท ตอนแรกเธออยากจะปฏิเสธแต่ฉับพลันเธอก็เปลี่ยนใจ เธออยากจะมี ‘ความสุข’ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้ เพื่อที่เธอจะได้จัดการสั่งสอนไอ้เด็กเวรที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงให้ได้ลิ้มรสศิลปะการต่อสู้ของเธอ โทษฐานที่บังอาจมาถ้ำมองแอบดูเธออาบน้ำ!
“ดีมาก…เห็นคุณตอบรับอย่างรวดเร็วทำให้ผมมีความสุขมาก”
ท่านนายพลเดินเข้ามาตบไหล่ของเธอ
“อนาคตของจักรวรรดิอยู่ในมือของคุณแล้ว!”
“เรียนท่านนายพล ผลการตรวจสอบของท่านไอว่าออกมาแล้วครับท่าน”
ผู้พันเดินเข้ามาและวันทยหัตถ์แสดงความเคารพ แล้วเขาก็โค้งคำนับนำเสนอรายงานการตรวจสอบ มาร์กาเร็ตรับเอารายงานจากผู้พันก่อนที่จะส่งให้กับท่านนายพล
ใบหน้าของนายพลไคล์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขารีบเปิดและจ้องมองลงไปในรายงาน
แต่แล้วใบหน้าตื่นเต้นของนายพลไคล์จู่ๆ ก็แข็งค้าง ริมฝีปากของเขาสั่น
“เป็นไปได้ยังไง?”
มือที่ถือรายงานอยู่สั่นระริก
“มีอะไรผิดพลาดหรือคะ?”
มาร์กาเร็ตสามารถบอกได้จากใบหน้าของนายพลไคล์ว่าเนื้อหาในรายงานดังกล่าวต้องผิดจากความคาดหมายของท่านนายพลเป็นอย่างมาก
“ไอว่า ไม่มียีนเลือดมังกร?”
นายพลไคล์มือสั่นขณะที่ชี้ไปที่บนรายงาน
“คุณแน่ใจนะคะ ว่าเลือดที่ไหลอยู่ในร่างเขามาจากคุณ?”
หลังจากที่มาร์กาเร็ตกล่าวคำพูดเหล่านั้นออกมา เธอรู้สึกทันทีว่าไม่เหมาะสม คำพูดเหล่านี้มีผลกระทบมากต่อความภาคภูมิใจของนายพลไคล์ เธอรีบกล่าวต่อมาอย่างรวดเร็ว
“ดิฉันหมายถึง ในช่วงเวลาที่เขาฝึกอบรมอยู่ในจักรวรรดิตะวันออก ได้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น?”
“เป็นไปไม่ได้…มันเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด นี่จะต้องเป็นฝีมือของไอ้เวรเกร็กแน่ๆ มันเป็นศัตรูของตระกูลโฮลเซอร์ของเรา ผมจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อถามสตีเว่นว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่!”
นายพลไคล์โกรธจนหนวดกระดิก
“ช่วยผมเปลี่ยนชุดกับสั่งเตรียมรถม้าให้ผมด้วย!”
มาร์กาเร็ตช่วยนายพลไคล์เปลี่ยนชุดทหารอย่างรวดเร็วแล้วรีบวิ่งลงมาชั้นล่างและสั่งให้รถม้าเตรียมพร้อม
ไม่นาน รถม้าคันหรูก็พาท่านนายพลออกจากคฤหาสน์ วิ่งมุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลทหารมอนเตลาโก
เมื่อเห็นรถม้าของท่านนายพลวิ่งตะบึงเข้ามา ทหารยามสองคนรีบเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว สารถีสะบัดแส้เร่งให้ม้าวิ่งตรงเข้าไปที่โรงพยาบาล
“ท่านนายพล!”
หัวหน้าทหารยามเห็นรถม้าวิ่งเข้ามาก็ตรงเข้าไปหวังจะหยุดรถม้าเพื่อสอบถามตามหน้าที่ แต่นายพลไคล์กำแส้ม้าแล้วฟาดออกไป เกิดคราบเลือดขึ้นที่คางของหัวหน้าทหารยามทันที เขารีบเอามือกุมคางและถอยมายืนแสดงความเคารพ มองตามรถม้าที่วิ่งตรงเข้าไปที่อาคารโรงพยาบาล ถ้านายพลไคล์ไม่เมตตา แส้นี้เพียงพอที่จะตัดหัวของเขาออกมา
เมื่อถึงอาคารอำนวยการ ท่านนายพลรีบกระโดดลงจากรถม้าด้วยความร้อนใจ เดินตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุ ชุดทหารที่ไม่ได้กลัดกระดุมปลิวไสวอยู่ด้านหลัง
ท่านนายพลเตะประตูสำนักงานให้เปิดออก หลายคนที่อยู่ในนั้นรีบลุกขึ้นมาทันที
“นายพลไคล์?”
คนที่มียศทหารสูงสุดในโรงพยาบาลคือสตีเว่น เขาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลและยังเป็นหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบยีนของเมืองมอนเตลาโกด้วย การตรวจสอบยีนของไอว่าจึงอยู่ภายใต้การจัดการของเขา เป็นเหตุให้นายพลไคล์มาที่นี่
นายพลไคล์ไม่พูดอะไร ตรงเข้ามาจับคอเสื้อแล้วยกร่างของสตีเว่นลอยขึ้นมา
“ผมถามคำเดียว คุณตรวจสอบยีนของลูกชายผมยังไง? รายงานนี้คุณเป็นคนทำใช่ไหม?”
นายพลไคล์จ้องเขม็งไปที่สตีเว่น ที่ทำให้ชื่อเสียงของเขามัวหมองและชื่อเสียงของตระกูลโฮลเซอร์ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
“เราไม่ได้ทำรายงานเท็จ เราทำอย่างเต็มที่ตามขั้นตอนปกติทุกอย่าง ระหว่างการตรวจสอบเลือดมังกรของลูกชายคุณ”
สตีเว่นที่ลอยอยู่ในอากาศตอบกลับอย่างหนักแน่น
“คุณยังจะกล้าพูดอีกเหรอว่าไม่ได้ทำอะไรกับรายงานของลูกชายผม?”
นายพลไคล์คำรามราวกับคนบ้า ดวงตาปูดโปนออกมา สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือการแทงข้างหลัง
“ผมขอสาบานในนามของราชินีโซเฟีย รายงานนี้เราทำอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด!”
คอเสื้อของสตีเว่นถูกนายพลไคล์กำไว้แน่น ทำให้เขาหายใจไม่ออก ในช่วงวิกฤตนี้เขาต้องอ้างชื่อเสียงของราชินีเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้
“ผมขอท้าดวลกับคุณ!”
นายพลไคล์คำรามเหมือนสิงโต เสียงคำรามของเขาก้องไปทั่วอาคารสำนักงาน
ทุกอย่างหยุดนิ่งเป็นเวลาเกือบหนึ่งนาที
“ท่านนายพล โปรดอย่าลืมตำแหน่งของคุณ คุณเป็นนายพล คุณไม่สามารถท้าดวลกับเจ้าหน้าที่ที่ตำแหน่งต่ำกว่า”
แพทย์หญิงที่สวยและสง่าเดินออกมา ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเธอจ้องไปยังนายพลที่กำลังกราดเกรี้ยว
หากคุณได้ยินเสียงของเธอ คุณจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ที่แม้แต่สิงโตอารมณ์ร้อนจะหยุดคำรามต่อหน้าเธอ
“ปัง!”
นายพลไคล์โยนสตีเว่นไปข้างหน้าปลิวผ่านอากาศเหมือนลูกกระสุนตกกระแทกลงบนโซฟาตัวเดิมที่เขาเคยนอนอยู่ ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าส่งเสียงออกมา
“ท่านนายพล เราเข้าใจความรู้สึกของคุณในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบนี้ไม่ได้กระทำโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะว่าเป็นลูกชายของคุณ สมาชิกทั้งหมดของคณะกรรมการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบนี้ หากคุณยังมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลการตรวจสอบ คุณสามารถยื่นฟ้องที่ศาลมอนเตลาโก เรามีความยินดีที่จะเข้ารับการตรวจสอบและการตัดสินของศาล”
ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างสงบ ต่อหน้านายพลที่กำลังโกรธจัด เธอไม่แสดงความหวาดกลัว ดวงตาของเธอสดใสมองไปที่นายพลไคล์
“ท่านนายพล คำพูดของผมอาจไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวคุณ แต่สำหรับคุณรูธ! เธอเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่หาได้ยากในกรรมการตรวจสอบยีนของจักรวรรดิเรา!”
หลังจากที่สตีเว่นถูกโยนลงบนโซฟาเขาไม่กล้าลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะระบายความคับข้องใจของเขาออกมา
รูธแค่เหลือบมองสตีเว่น เธอไม่ได้แสดงอาการใดๆ เธอไม่จำเป็นต้องให้เขายืนยันตำแหน่งของเธอ ขณะที่เธอยืนอยู่ด้านหน้านายพลไคล์ เธอได้ปล่อยพลังฉีแสดงความแข็งแกร่งของเธอ โดเมนความสามารถในการโจมตีไม่น้อยกว่าขั้น 5 หรือ 6 สร้างความประหลาดใจให้กับนายพลไคล์ อย่างไรก็ตามโดเมนการโจมตีของเธอเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่จุดเด่นพิเศษของเธอ
“แล้ว…ลูกชายของผมสืบทอดสายเลือดมังกรชั้นสูง ทำไมถึงได้ผลออกมาแบบนี้?”
ความโกรธของนายพลไคล์ลดลงเล็กน้อยแต่เขาก็ยังคงโกรธ เขาตบกระแทกผลการตรวจสอบลงบนโต๊ะประชุม เมื่อเขายกมือขึ้นรายงานการตรวจสอบจมลงบนโต๊ะประชุมหนึ่งเซนติเมตร
ร่างของสตีเว่นที่นั่งอยู่บนโซฟาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตบโต๊ะ ทุกคนก็แสดงอาการออกมา ยกเว้นรูธที่ยังแสดงอาการสงบอยู่เหมือนเดิม
“ฯพณฯ เราก็ยังงงสับสนเหมือนกัน คุณและภรรยาของคุณทั้งคู่มีสายเลือดมังกรชั้นสูง ทั้งหมดนี้ได้บันทึกไว้ในหอสมุดรวมยีนนักรบเลือดมังกร แต่เมื่อเราฉีดเซรุ่มยีนเลือดมังกรให้กับลูกชายคุณ ผลของเซรุ่มที่แสดงออกมากลับแตกต่างจากนักรบเลือดมังกรคนอื่นๆ นอกจากนี้ ลำดับการเรียงยีนของเขาก็เปลี่ยนแปลงอยู่ในรูปแบบที่ระบุไม่ได้”
รูธพูดออกมาอย่างเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
“ดังนั้น เราจึงไม่สามารถระบุได้ว่า ‘ไอว่า’ ลูกชายของคุณเป็นนักรบเลือดมังกร เรายังคงต้องรอการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจากศาลเมืองมอนเตลาโก แน่นอนว่า ถ้าคุณไม่พอใจกับการตัดสินใจของพวกเขาแล้ว คุณยังสามารถยื่นเรื่องไปยังศาลฎีกาของจักรวรรดิ ประธานผู้พิพากษาศาลฎีกาจะเป็นผู้ให้คำตอบสุดท้ายแก่คุณ!”
คำพูดของรูธไม่หนักหรือเบา แต่เธอทำให้เขาสงบลงได้ คำอธิบายและการแสดงออกที่เยือกเย็นรวมทั้งเสน่ห์ของเธอ ทำให้ไม่มีใครสามารถต้านทานได้
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ผมจะไม่ยอมแพ้ ผมจะรอการตัดสินใจของศาล!”
นายพลไคล์กลับหลังหัน เสื้อทหารขนาดใหญ่สะบัดลมพัดเย็น ทำให้ทุกคนในห้องหนาวไปถึงกระดูก บางคนถึงกับตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ใกล้เขาที่สุด รูธไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยกเว้นเสื้อคลุมแลปสีขาวของเธอปลิวเล็กน้อยก่อนที่จะกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว