📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 162

บทที่ 162 - ภัยมนุษย์พลิกผัน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วยาม พวกเขายังเดินไม่ถึงเชิงเขาหมอกอำพราง ยังคงก้าวเดินอยู่กลางเขาเมฆา ช้ากว่าตอนฉีเหวินมาไม่ใช่แค่ขั้นหนึ่ง

เขาเมฆาสำหรับฉีเหวินถือว่าเดินจนชินนานแล้ว แต่สำหรับหวงซิ่งเยี่ยคือทางเขาขรุขระ สำหรับบ่าวประจำตระกูลสี่คนถือว่าไม่สบายนัก โดยเฉพาะยามหาบของ ส่วนลี่เหมี่ยนถือว่าดีหน่อย

อย่างน้อยลี่เหมี่ยนก็เป็นจอมยุทธ์ ถึงแม้ไม่นับว่าเป็นยอดฝีมือแห่งยุทธภพอะไร แต่แถบอำเภอตงเยวี่ยถือว่าพอมีแวว ที่ว่าการอำเภอมีแค่นายกองแข็งแกร่งกว่าลี่เหมี่ยน หัวหน้ามือปราบคนอื่นหากไม่ทุ่มสุดตัวย่อมสู้ลี่เหมี่ยนไม่ได้สักคน

มองฉีเหวินซึ่งคล่องแคล่วดุจเหาะเหินข้างหน้า ทั้งมองของเต็มตะกร้าไผ่ด้านหลังเขา ลี่เหมี่ยนทอดถอนใจประโยคหนึ่งอย่างอดไม่ได้

“นักพรตน้อยคนนี้ไม่มีวิชายุทธ์จริงหรือ พลังกายนี้ถ้าบอกว่าเดินเขาจนชินคงเกินจริงอยู่บ้างกระมัง!”

หวงซิ่งเยี่ยมองคานหาบของพวกข้ารับใช้ สี่คนหาบคานคู่ ตะกร้าล่างหาบไม่ใหญ่ มีผ้ามีแพรมีสุรามีขนม พูดถึงน้ำหนักของที่บรรจุน่าจะสู้ตะกร้าไผ่ของฉีเหวินไม่ได้ ถึงอย่างไรในตะกร้าไผ่ของฉีเหวินก็มีเนื้อรมควันไข่ไก่ ยังมีของจำพวกฟักทองและเผือกที่ชาวนามอบให้อีก ล้วนเป็นของหนักทั้งสิ้น

“ฮู่…ฮู่…ไม่แปลกๆ ยิ่งเป็นเช่นนี้…ฮู่…มาอารามเขาเมฆานี้ ยะ ยิ่งถูกต้องแล้ว…ฮู่…”

หวงซิ่งเยี่ยเริ่มอายุมากแล้ว แม้ว่าไม่อ้วนเท่าไหร่ แต่สุดท้ายพลังกายยังด้อยอยู่บ้าง ปีนเขานานขนาดนี้ ยามนี้เขาหอบหายใจแล้ว

ตอนนี้ฉีเหวินยังรู้สึกสบายมาก ความจริงหากเป็นเมื่อก่อนเขาแบกของหนักเดินนานขนาดนี้ย่อมเหนื่อยมากเช่นกัน แต่ช่วงนี้กลับรู้สึกว่าพลังกายดีขึ้นมาก ลงเขาหาบน้ำฝีเท้าล้วนว่องไวนัก

เมื่อตะกายมาถึงเนินเขาราบเรียบ ในที่สุดก็มาถึงเชิงเขาหมอกอำพราง ฉีเหวินหันกลับมาตะโกนบอกทุกคนซึ่งอยู่ห่างไปด้านหลังสองสามจั้งอย่างค่อนข้างยินดี

“ทุกท่านพยายามหน่อย ถึงยอดเขาหมอกอำพรางแล้ว เริ่มปีนเขาได้!”

หา? เริ่มปีนเขา?

เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราทำอะไรกัน

พวกหวงซิ่งเยี่ยต่างอึ้งงันอยู่บ้าง เดิมคิดว่าใกล้ถึงอารามเขาเมฆาแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเจอประโยคนี้ เงยหน้ามองยอดเขาหมอกอำพรางสูงชัน พวกเขากลืนน้ำลายดังอึกตามจิตใต้สำนึก

ไม่นับความสูงของเนินเขาแห่งนี้ ทั้งไม่สนการคำนวณเหนือระดับน้ำทะเลอะไร แค่เริ่มนับจากฝีเท้าของฉีเหวินยามนี้ ยอดเขาหมอกอำพรางสูงประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบจั้ง อารามเขาเมฆาอยู่ตรงความสูงประมาณหนึ่งร้อยจั้ง

แม้ว่าความจริงไม่ถือว่าสูงนัก แต่ความลาดชันมาก ระหว่างขึ้นเขาเดินๆ หยุดๆ พักแล้วพักอีก เมื่ออยู่ห่างจากอารามเขาเมฆาไม่ไกลนัก หวงซิ่งเยี่ยกับพวกบ่าวประจำตระกูลเหนื่อยจนทนไม่ไหวแล้ว แม้แต่ลี่เหมี่ยนซึ่งคอยประคองหวงซิ่งเยี่ยตลอดยังเหงื่อออกเต็มตัว

ฉีเหวินใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากตน ตะโกนไปทางอารามเต๋าอย่างตื่นเต้นยินดี

“อาจารย์ ท่านจี้…มีแขกมา…”

หลังจากตะโกนสองสามครั้ง นักพรตชิงซงกับจี้หยวนซึ่งได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวนานแล้วออกมาพร้อมกัน

“ฮ่าๆๆ…ผู้ศรัทธาทุกท่านมาจากแดนไกล ขออภัยที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับๆ!”

“เชิญๆๆ เชิญเข้ามาพักในอารามเขาเมฆา!”

นักพรตชิงซงทักทายพลางก้าวไปข้างหน้าพร้อมจี้หยวน แต่ละคนรับหาบจากมือข้ารับใช้ ช่วยพวกเขาหาบเข้าอาราม ตรงนี้ไม่ใช่สถานที่บ่ายเบี่ยงไม่รับของกำนัล

ภายในอารามจี้หยวนกับนักพรตสองคนต่างย้ายม้านั่งเก้าอี้ออกมาจากห้องครัวและสองห้องพัก บอกให้พวกเขานั่งพักผ่อนข้างห้องครัว

นอกจากน้ำชาของอารามเต๋าแล้ว ขนมซึ่งพวกหวงซิ่งเยี่ยนำมาถูกนำมารับรองทุกคน

ตอนนี้ผลาญพลังกายไปมาก ต่อให้เป็นของขวัญที่ตนนำมาพวกเขาก็ไม่เกรงใจแล้ว

รอแขกเหล่านี้พักผ่อนครู่หนึ่ง โดยเฉพาะหวงซิ่งเยี่ยหายใจทั่วท้อง นักพรตชิงซงจึงถามจุดประสงค์การมาของอีกฝ่าย

“ไม่ทราบว่าผู้ศรัทธาทุกท่านมาอารามเขาเมฆาของข้าด้วยเรื่องใด ได้ยินฉีเหวินบอกว่ามากล่าวขอบคุณหรือ ของขวัญนี้ออกจะมากไปหน่อยแล้ว”

หวงซิ่งเยี่ยจัดระเบียบความคิดเล็กน้อย คำพูดครั้งนี้ต่างจากคำพูดยามคุยกับฉีเหวินก่อนหน้า เขาอ้าปากขอความช่วยเหลือทันทีโนเวลกูดอทคoม

“นักพรตชิงซง ท่านต้องช่วยข้านะ! ข้าเจอปัญหาใหญ่แล้ว!”

หวงซิ่งเยี่ยวิงวอนพลางลุกขึ้นมาค้อมตัวคารวะประสานมือต่อเนื่อง

“เถ้าแก่หวง นี่ท่าน…เกิดเรื่องอะไรกันแน่”

นักพรตชิงซงซึ่งรีบลุกมาประคองหวงซิ่งเยี่ยทำหน้าแปลกใจ จี้หยวนที่นั่งอยู่ใกล้ประตูห้องครัวขมวดคิ้วเช่นกัน

“ท่านนักพรต เรื่องนี้ข้าคนแซ่หวงต้องกล่าวขอบคุณท่านก่อน วันนั้นท่านตรวงดวงชะตาให้จนช่วยชีวิตข้าไว้…”

หวงซิ่งเยี่ยเล่าเรื่องที่ก่อนหน้านี้บอกกับฉีเหวินระหว่างทางโดยละเอียดอีกครั้งก่อน แต่คราวนี้ลงรายละเอียดกว่ามาก ถึงขั้นเล่าเรื่องที่สงสัยว่าเจ้าที่ช่วยชีวิตออกมาด้วย

“ในเมื่อเถ้าแก่หวงแจ้งทางการแล้ว ที่ว่าการอำเภอยังตามสืบเต็มกำลัง ต่อให้ตัวการหนีรอดชั่วคราวก็น่าจะคุกคามท่านไม่ได้ถึงจะถูก”

นักพรตชิงซงสงสัยอยู่บ้าง

“โธ่ท่านนักพรต ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ดีสิ! ก่อนหน้านี้ข้าน้อยรู้สึกว่าเจ้าที่ช่วยเหลือจึงไปขอบคุณยังศาลเจ้าประจำเมือง! แม้ว่าศาลเจ้าที่ประจำเมืองของพวกเรายังซ่อมแซมไม่เสร็จ แต่ตั้งรูปปั้นเจ้าที่แล้ว ข้าจึงนำข้าวปลาอาหารไปเซ่นไหว้…”

เดิมทีนี่ก็เป็นเรื่องดี ผู้ไม่รู้เรื่องราวด้านข้างฟังแล้วมึนงง หวงซิ่งเยี่ยเว้นช่วงไปก่อนกล่าวต่อ

“เมื่อข้าคนแซ่หวงเซ่นไหว้เสร็จ ใช้ไม้เสี่ยงทายถามเจ้าที่ว่าครั้งนี้สถานการณ์พลิกผันแล้วหรือไม่…แต่โยนไม้เสี่ยงทายลงพื้นสามครั้ง ไม่มีลายลักษณ์มงคลสักครั้ง ข้าคนแซ่หวงลนลานจนเสี่ยงทายติดกันหกครั้ง เก้าครั้งไร้ลายลักษณ์มงคล ครั้งที่สิบแม้แต่ไม้เสี่ยงทายยังแตกไปข้างหนึ่ง…”

“เฮือก…”

นักพรตชิงซงฟังแล้วสูดหายใจสะท้าน ตัวเขาหยั่งรู้มรรคทำนายอย่างลึกซึ้ง รู้อันตรายของคำทำนายยิ่งกว่าหวงซิ่งเยี่ย หากไม่ใช่ว่าจี้หยวนนั่งอยู่ด้านข้าง ตอนนี้เขาคงรักษาความนิ่งสงบไม่อยู่แล้ว

ไม้เสี่ยงทายเหมือนกระบอกเซียมซี เป็นเครื่องมือทำนายอย่างหนึ่งที่มักจัดเตรียมไว้ในศาลเจ้า โดยทั่วไปทำจากปล้องไผ่ของต้นไผ่ทอง ผ่าออกเป็นสองซีก บ้างใช้เปลือกหอยกาบบางชนิดแทน ส่วนใหญ่ยาวหนึ่งนิ้วกว้างสองนิ้ว

ใช้ร่วมกับการเสี่ยงเซียมซีหรือการถามดีร้าย เป็นวิธีสื่อสารโดยง่ายอย่างหนึ่งระหว่างผู้มากราบไหว้กับวิญญาณเทพ บ้างได้ผลบ้างไม่ได้ผล มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัววิญญาณเทพและความเลื่อมใสของผู้มากราบไหว้อยู่บ้าง

ไม้เสี่ยงทายถูกโยนลงมาโดยผู้กราบไหว้จากความสูงสองสามฉื่อ หนึ่งหงายหนึ่งคว่ำสื่อว่าหยินหยางประสานเป็น ‘ลายลักษณ์มงคล’ หรือก็คือ ‘โชคดี’ ถามไม่ละเอียดจะออกหงายคู่ ถ้าออกคว่ำคู่คือ ‘โชคร้าย’

สถานการณ์ของหวงซิ่งเยี่ยเห็นชัดว่าเจ้าที่ไม่มีทางไม่ตอบรับ

“ด้วยเจ้าที่ตอบรับว่าท่านยังอันตราย เถ้าแก่หวงจึงมาหาข้า อยากให้ข้าช่วยท่านตรวจดวงโดยละเอียดหรือ”

นักพรตชิงซงวิเคราะห์เล็กน้อย แต่กลับเห็นหวงซิ่งเยี่ยส่ายหัวด้วยสีหน้ากังวล

“ไม่เพียงเท่านี้ๆ…เจ้าที่ท่าน…”

หวงซิ่งเยี่ยพูดถึงตรงนี้แล้วเหมือนหวาดผวา กล่าวด้วยเสียงตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม

“วันที่สองข้ารู้สึกไม่เป็นสุขจึงไปจุดธูปไหว้ศาลเจ้าที่อีกครั้ง ผลคือพบว่าหน้าศาลเจ้าล้อมรอบด้วยคนในเมืองไม่น้อย จากการสอบถามจึงรู้ว่าเมื่อคืนรูปปั้นเจ้าที่ถูกคนทำลาย ข้าเข้าศาลเจ้าไปดู มือซ้ายของเจ้าที่ถูกคนตัดลงมา…”

หวงซิ่งเยี่ยพูดถึงตรงนี้แล้วสีหน้าไม่น่าดูถึงขีดสุด ตอนนั้นเขาพลันรู้ชัด รูปปั้นเจ้าที่ไม่ได้ถูกโจรขโมยทำลายอย่างที่ชาวบ้านวิจารณ์กันแน่ มีโอกาสสูงว่าถูกสิ่งน่ากลัวบางอย่างทำลาย

ทุกคนในที่นั้นฟังคำพูดของหวงซิ่งเยี่ยแล้ว ทยอยรู้สึกว่ามีลมเย็นพัดจากฝ่าเท้าขึ้นมาถึงศีรษะ แม้แต่ผู้รู้สถานการณ์บางส่วนอย่างลี่เหมี่ยนยังเป็นเช่นนี้

นักพรตชิงซงยิ่งสีหน้าซีดเผือดอยู่บ้าง ต่อให้ปกติเขาหาเรื่องใส่ตัวมากแค่ไหนก็รู้ว่าเรื่องนี้อยู่เหนือระดับความสามารถของตนอย่างแน่นอน

“ถะ เถ้าแก่หวง อะ อารามเขาเมฆาแห่งนี้เป็นแค่อารามเล็กสันโดษ ส่วนข้าเป็นแค่นักพรตต่ำต้อยที่คอยดูดวงให้ผู้อื่น เรื่องนี้ข้าจะจัดการได้อย่างไร…”

หวงซิ่งเยี่ยสีหน้าไม่น่าดูยิ่งกว่าร้องไห้ คารวะวิงวอนอย่างต่อเนื่อง

“นักพรตชิงซง ข้ารู้ว่าตอนนั้นข้ามีตาไร้แวว วันนั้นหน้าอารามความจริงท่านคิดจัดการให้แล้ว เป็นข้าไม่รู้จักดีชั่วมารยาททราม ไม่เชื่อฟังเดินจากไป ขอร้องท่านให้โอกาสข้าอีกครั้ง ข้าคนแซ่หวงจะไม่ลืมบุญคุณท่านนักพรตแน่นอน!”

นักพรตชิงซงลนลานแล้ว เรื่องแบบนี้แปลกประหลาดเกินไป ถึงขั้นลืมว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่างจี้หยวนอยู่ด้านข้าง

“เถ้าแก่หวง ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้า…”

แต่ไม่รอให้ฉีเซวียนพูดจบ จี้หยวนซึ่งสีหน้าเคร่งขรึมกล่าวแทนเจ้าภาพเป็นครั้งแรก

“ขอถามเถ้าแก่หวง เคยไปขอร้องเทพหลักเมืองของศาลหลักเมืองอำเภอตงเยวี่ยหรือไม่”

เสียงจี้หยวนราบเรียบฉะฉานเจือความหนักแน่น คล้ายมีพลังสงบจิตใจบางอย่าง ทำให้ทุกคนในที่นั้นสงบลง

เรื่องนี้ประหลาดทุกด้าน มีความสามารถลงมือกับเจ้าที่ คนธรรมดาอย่างหวงซิ่งเยี่ยกลับกระโดดโลดเต้นมาถึงตอนนี้?

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset