📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 153

บทที่ 153 - ชื่อเสียงโด่งดังชั่วข้ามคืน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

แม้ว่าตระกูลฉู่ดูเหมือนไม่มีใครสอบเป็นขุนนาง แต่ไม่อาจดูถูกความสามารถของคนตระกูลนี้เช่นกัน กระนั้นไม่อาจดึงดูดความสนใจของจี้หยวนได้เท่าไรนัก เขายังนั่งอยู่บนหออ่านตำราพลางกินซาลาเปา

ยามจี้หยวนอ่านหนังสือจะกินอาหารช้ามาก ซาลาเปาห้าลูกชายฉกรรจ์ทั่วไปกินแค่เจ็ดแปดคำก็หมด ยิ่งเขาเพลินอ่านตำราก็ยิ่งกินช้า

กระทั่งเห็นตะวันคล้อยลงทางตะวันตก จี้หยวนอ่านประวัติศาสตร์ร้อยจังหวัดจนเกือบครบชุดแล้ว เพียงแต่ซาลาเปาในมือยังเหลือเล็กน้อย คล้ายรออ่านตำราจบชุดก่อนค่อยกินหมด

อ่านประโยคสุดท้ายเสร็จ เปิดถึงหน้าหลังของประวัติศาสตร์ร้อยจังหวัดเล่มหก จี้หยวนค่อยโยนเศษซาลาเปาในมือซ้ายเข้าปาก ท่าทางไม่รู้ว่าลิ้มรสซาลาเปาหรือดื่มด่ำกับเนื้อหาตำรา

เปรียบเทียบกับชาติก่อน สภาพจิตใจของจี้หยวนตอนนี้ไม่อาจพูดว่าต่างกันนัก แต่อย่างน้อยก็นิ่งสงบและอดทนมากขึ้น ต่อให้เป็นเช่นนั้นบางครั้งก็ยังหวนนึกถึงมือถือกับอินเทอร์เน็ตบ้าง เรื่องประเพณีท้องถิ่นแต่ละพื้นที่แค่จิ้มหาบนเน็ตสองครั้งก็เจอแล้ว

จี้หยวนลงมาชั้นล่างวางประวัติศาสตร์ร้อยจังหวัดกลับจุดเดิม เมื่อกลับชั้นสามอีกครั้งก็เตรียมนอนเข้าแล้ว แต่เขาไม่ได้หลับจริงๆ อาศัยเวลานอนมาหยั่งรู้วิชาอัศจรรย์ที่ยืมมังกรเฒ่ามา

แม้ของจากมังกรเฒ่าไม่ใช่วิชาจวนเซียนดั้งเดิม แต่ถึงอย่างไรก็เป็นมังกรแท้ ขอแค่มังกรเฒ่าสนใจจริง ทั้งมีเวลาค้นคว้า แย่เพียงใดก็ต้องมีผลผลิตคล้ายของจริง อย่างร่างก่อนใช้วิชาสัตว์เซียนของกวางขาว หลังจากจี้หยวนทำให้สมบูรณ์แล้วคิดว่าค่อนข้างโดดเด่น

สิ่งที่จี้หยวนสนใจที่สุดในแท่งหยกซึ่งยืมมา แน่นอนว่าคือวิชา ‘วัตถุสื่อจิต’ และ ‘ควบคุมเมฆหมอก’ อย่างแรกยามฝึกค่อนข้างสะดวก อย่างหลังคือหนึ่งในวิชาเหาะเหินซึ่งมีชื่อเสียง ต้องกลั่นกรองโดยละเอียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฝึกเลียนแบบในเขตแดนรวมถึงห้วงฝัน

ยามผู้ฝึกเซียนทั่วไปศึกษาวิชาเหินอากาศ ล้วนมีผู้อาวุโสตามคุ้มครอง กลัวว่าไม่ระวังจะตกลงมาตาย

แต่จี้หยวนไม่ได้กลัวตกลงมาตาย ถ้ารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจริง เขาไม่มีทางกลัวเสียหน้าย่อมยอมขอมังกรเฒ่าช่วยคุ้มครองแน่ อย่างมากแค่ทำให้มังกรเฒ่าตกตะลึง ถึงขั้นถูกแซวบ้าง แต่อีกฝ่ายต้องยอมช่วยแน่ เรื่องนี้จี้หยวนมองคน (มังกร) ค่อนข้างแม่นยำมาก ตอนนั้นมังกรเฒ่าอยากผูกมิตรก็เพราะความสามารถของจี้หยวนไม่ใช่หรือ

วิชาอัศจรรย์ของมังกรเฒ่าพิเศษนัก คำอธิบายบางส่วนถึงขั้นละเอียดยิบ หากพูดว่าเป็นการควบคุมเมฆธรรมดา มิสู้บอกว่ามีปัจจัยการควบคุมวารีวาโยและการเปลี่ยนแปลงพิเศษบางส่วนร่วมด้วยยังดีกว่า แตกต่างจากวิชาควบคุมเมฆซึ่งบันทึกในกลยุทธ์เจิดจรัสมาก

สุภาษิตว่าวายุพยัคฆ์เมฆามังกร การควบคุมเมฆหมอกของมังกรเป็นอภินิหารพรสวรรค์ มังกรแท้เป็นผู้นำด้านนี้ เดิมไม่ต้องเรียนรู้อะไร ในเมื่อมังกรเฒ่าขลุกอยู่กับวิชาอัศจรรย์ตระกูลอิง ไม่สนว่าตอนนั้นเขาว่างจนฟุ้งซ่านหรือไม่ แต่ต้องไม่ธรรมดาแน่

จี้หยวนนอนหลับง่ายมาก หยิบห่อผ้าสีเทาซึ่งซ่อนอยู่บนม่านหอวางบนพื้นแทนหมอน จากนั้นค่อยนอนตะแคงรองแท่งหยกไว้ใต้ศีรษะ แค่ไม่กี่ลมหายใจก็เข้าสู่แดนฝัน ฝึกวิชาอัศจรรย์ยามพักผ่อน

ไม่เหมือนผู้ฝึกเซียนทั่วไปเข้าฌานเพื่อฝึกเพิ่มเติม วิธีราบรื่นอย่างจี้หยวนคาดว่าคงมีแค่ยอดบุคคลซึ่งเปลี่ยนเขตแดนเป็นภูผาธาราทั้งซ้อนทับกันตลอดเวลาอย่างเขาที่ใช้ได้

จี้หยวนเพิ่งเข้าสู่แดนฝัน ภายในตรอกเยี่ยนหุยริมถนนสันตินิรันดร์กลับมีคนเพิ่งตื่นจากฝันยาวนาน

หวังลี่ยังสะลึมสะลืออยู่บ้าง ขยี้ตาพลางลืมตาขึ้น สิ่งที่เข้าตาคือฝ้าเพดานของห้องเช่า เขาลุกขึ้นนั่งอย่างอึ้งงัน ยืดเอวบิดขี้เกียจพลางหาว

“หาว…”

ขณะหาวหางตามีน้ำตาไหลออกมา ทำให้ทั้งตัวได้สติไม่น้อย

เห็นว่าภายในห้องมืดสลัวอยู่บ้าง ท้องฟ้าน่าจะมืดแล้ว

ชามตะเกียบบนโต๊ะข้างเตียงหายไป เจ้าของบ้านอาจให้คนมาเก็บแล้ว

ตอนนี้หวังลี่ยังมึนงงเล็กน้อย

“ทำไมข้าถึงหลับกะทันหัน คล้ายว่าฝันยาวนานมาก…”

สายตากวาดผ่านโต๊ะ เห็นด้านบนกระดาษซีดจางเขียนว่า ‘วาสนากวางขาว’

พริบตานั้นสมองเหมือนเกิดไฟฟ้าสถิต ทุกอย่างในห้วงฝันยาวนานเมื่อกลางวันล้วนหวนรำลึกขึ้นมา

ทั้งตัวหวังลี่เปลี่ยนจากมึนงงเป็นไหวสั่น ตื่นเต้นขึ้นมาทีละน้อย เลิกผ้าห่มคลานมาหน้าโต๊ะหนังสือ

“วาสนากวางขาว! วาสนากวางขาว! ข้าต้องจดไว้ นี่คือเรื่องราวซึ่งเทพเซียนถ่ายทอดให้ ข้าต้องรีบจดไว้!”

ภายใต้ความรู้สึกปั่นป่วน หวังลี่รีบหยดน้ำสะอาดลงจานฝนหมึก เริ่มฝนหมึกใหม่อีกครั้ง เรื่องที่ต้องเขียนไม่สั้น แต่โดยสัญชาตญาณของนักเล่าเรื่อง สมองของเขาร้อยเรียงเรื่องราวจนมีสีสันยิ่งกว่าเดิมแล้ว

“เรื่องนี้ต้องมีห้าตอน ไม่ๆ ต้องมีหกตอน จำเป็นต้องมีหกตอนขึ้นไปถึงเล่าจบ…”

ยามพึมพำกับตัวเองมือเขายิ่งตื่นเต้น ท่าทางฝนหมึกเหมือนกำลังจับสั่น

เพิ่งตื่นนอนไม่นาน ความหนาวเย็นพลันถาโถม หวังลี่ตัวสั่น รีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัว

เห็นท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เขาหยิบตะบันไฟบนโต๊ะมาคิดจุดตะเกียงน้ำมัน เมื่อเปิดปลอกกลับพบว่าเพลิงในตะบันไฟนี้หมดแล้ว

“เสี่ยวตง…เสี่ยวตงอยู่หรือไม่…”

หวังลี่คลายผ้าห่มลุกขึ้นจากเตียงเดินมาตรงประตูก่อนตะโกนสองสามประโยค แต่ไม่กล้าเปิดประตู เขารู้ว่าข้างนอกต้องหนาวกว่าแน่

“อ๊ะ มาแล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่ คุณชายหวังตื่นแล้ว กำลังเรียกข้าอยู่”

“นอนมาทั้งวัน คงหิวแล้ว!”

เสียงหัวเราะกับเสียงคุยดังจากห้องด้านข้าง จากนั้นเด็กชายวิ่งเหยาะถึงหน้าห้องหวังลี่ก่อนเปิดประตู

วู้ม…วู้ม…

ลมหนาวยามพลบค่ำพัดเข้ามา หวังลี่ตัวสั่นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

“คุณชายหวังตื่นแล้วหรือ เตรียมของให้ท่านแล้ว วันนี้ปีใหม่ มีเคาหยก[1]กับเป็ดต้มสับ หึๆๆ อร่อยมาก!”

“อ้อๆๆ ดีเลยๆ กำลังหิวจนหน้ามืด จริงสิ นำตะบันไฟใหม่มาให้ข้าด้วย ต้องใช้งาน ในห้องหมดแล้ว!”

เด็กชายเห็นว่าภายในห้องมืดสนิทไม่สว่างเท่าข้างนอก เขาตอบรับเสียงกระจ่างก่อนวิ่งเหยาะจากไป

หลังจากนั้นครึ่งเค่อ ในห้องหวังลี่จุดตะเกียงน้ำมันคลุมตัวครอบ ข้างโต๊ะสี่เซียนมีเครื่องเขียนวางอยู่ อีกด้านหนึ่งวางอาหารปีใหม่ ตรงกลางคือกระดาษขาวกองหนึ่ง

กระดาษแผ่นบนสุดของกองมีตัวอักษรใหญ่แค่สามคำ ‘วาสนากวางขาว’ ซึ่งจี้หยวนเป็นคนเขียนไว้ หวังลี่คิดนำสิ่งนี้มาทำเป็นกระดาษหน้าปก

ด้วยอักษรเลิศล้ำซึ่งเทพเซียนเหลือไว้ ครั้งนี้นักเล่าเรื่องหวังลี่เขียนอักษรอย่างระวังเป็นพิเศษ แม้ยังไม่ถือว่าเป็นอักษรดี แต่พยามยามเขียนอย่างประณีต มิฉะนั้นจะรู้สึกว่าทำให้อักษรเทพเซียนด่างพร้อย

ตอนนี้จี้หยวนซึ่งหลับฝันคล้ายรู้สึกได้ ในฝันเขายังเหาะเหินบนเมฆหมอก โลกภายนอกร่างกายบนหอตำรากลับเผยรอยยิ้มโนเวลกูดอทคฺอม

“สะพานสวรรค์ผ่านโต๊ะพัดกระดาษ ฉากกั้นค้อนเล็กเล่าตำนาน”

ต้าเจินจัดการสอบขุนนางมาหลายครั้ง ปัจจุบันการสอบระดับเมืองหลวงและการสอบหน้าพระที่นั่งจัดขึ้นทุกสามปี

เมื่อก่อนการสอบระดับเมืองเอกทุกรัฐค่อนข้างอิสระ หัวข้อแตกต่างเวลาสอบก็ต่างกัน บ้างไม่กี่ชั่วยามบ้างสอบทั้งวัน แต่เนื้อหาการสอบระดับเมืองหลวงแตกต่างกัน

เนื้อหาการสอบพื้นฐานที่ต้องท่องจำทุกคนต่างเตรียมตัวมา การสอบแต่งกลอนลำนำส่วนใหญ่ต้องเตรียมการมาก่อนเช่นกัน แต่หัวข้อถกกลยุทธ์กับแก้ปัญหาบางส่วนค่อนข้างมาก ด้วยถึงเวลาเลือกผู้เป็นขุนนางอย่างแท้จริงแล้ว เวลาที่ต้องใช้จึงยาวนานไม่น้อย

การสอบระดับเมืองหลวงทุกกระทรวงของราชสำนักจะร่วมกันออกโจทย์โดยกระทรวงพิธีการเป็นผู้นำ เริ่มตั้งแต่วันที่เก้าเดือนยี่ แบ่งเป็นวันที่เก้า สิบสอง สิบห้ารวมสามวัน จัดการสอบสามรอบ ทุกรอบสอบนานติดกันสามวัน

ประมาณช่วงดอกซิ่งเบ่งบาน ทางการจะประกาศผลการสอบระดับเมืองหลวง ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า ‘กระดานดอกซิ่ง’ ระหว่างนี้ผู้มีชื่อบนกระดานถือว่าเป็นอัจฉริยะแล้วจริงๆ

หลังจากประกาศกระดานดอกซิ่งจะพักผ่อนห้าวันก่อนเริ่มการสอบหน้าพระที่นั่งเป็นลำดับสุดท้าย บัณฑิตแห่งยุคทั่วต้าเจินแข่งขันกันจนปรากฏรายชื่อ ถึงแม้ไม่แน่เสมอไปว่าจ้วงหยวนจะเป็นขุนนางใหญ่ แต่อย่างน้อยก็สร้างเกียรติแก่วงศ์ตระกูลได้แล้ว

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่ายังหนาวสะท้าน แต่หัวใจของเหล่าก้งซื่อกลับร้อนระอุ

วันนี้เป็นวันที่สามสิบเดือนยี่ วันประกาศกระดานดอกซิ่ง บัณฑิตมากความสามารถทุกรัฐทั่วต้าเจินล้วนรวมตัวนอกกำแพงสนามสอบแบบปิดของเมืองหลวง รอเจ้าหน้าที่ประกาศผลด้วยความรู้สึกร้อนรนซับซ้อน

เดิมจี้หยวนไม่รู้ว่าสนามสอบแบบปิดอยู่ทางไหน แต่เมื่อยืนมองจากหอตำราของจวนตระกูลฉู่ก็รู้ตำแหน่งแน่ชัดแล้ว ด้วยตรงนั้นปราณบุ๋นรวมกลุ่มหนาทึบ คิดมองข้ามคงยากนัก

‘เดิมอาจารย์อิ๋นก็พรสวรรค์โดดเด่น ช่วงปีใหม่รับปราณพิสุทธิ์จากฟ้าดิน ตอนนี้ปราณยิ่งใหญ่โชติช่วง ความรู้สึกนึกคิดมั่นคงหาใดเปรียบ ผลงานต้องก้าวขึ้นไปอีกขั้นแน่!’

เมื่อมีความมั่นใจต่อสหายเช่นนี้ จี้หยวนไม่ไปสนามสอบแบบปิดเพื่อร่วมสนุกโดยสิ้นเชิง

อิ๋นจ้าวเซียนกับสื่ออวี้เซิงเบียดสู้คนอื่นไม่ได้ ทั้งไม่มีบ่าวประจำตระกูลเบิกทาง ถูกบัณฑิตมากมายบีบจนมาอยู่ตรงมุม

“โธ่เอ๊ย พี่อิ๋น ทำไมท่านไม่ร้อนรนสักนิด ในใจข้าคันยุบยิบเหมือนอุ้งเท้าแมวสะกิดแล้ว!”

ยิ่งใกล้ช่วงประกาศสื่ออวี้เซิงยิ่งตื่นเต้น ตอนนี้เหงื่อจะไหลลงมาแล้ว แต่มองอิ๋นจ้าวเซียนที่อยู่ด้านข้างกลับพบว่ามีท่าทางไม่ทุกข์ร้อน

อิ๋นจ้าวเซียนได้ยินคำพูดของสื่ออวี้เซิง เขาโต้แย้งประโยคหนึ่งอย่างอดไม่ได้

“ใครบอกว่าข้าไม่ร้อนรน ข้าร้อนรนนัก! แต่ร้อนใจไปก็เปล่าประโยชน์ ยิ่งอยู่ข้างหน้าคะแนนเจ้าจะเปลี่ยนเป็นดีขึ้นหรือ”

“ท่านพูดมามีเหตุผล แต่พวกเราอยู่ด้านหลังขนาดนี้แม้แต่กระดานยังมองไม่เห็น!”

อิ๋นจ้าวเซียนยิ้มขื่นเล็กน้อย เป็นเหตุสุดวิสัยไม่ใช่หรือ ยามคิดพูดอะไรหน่อย เสียงหนักแน่นของเจ้าหน้าที่ราชสำนักพลันดังขึ้น

“สำรวม…”

สภาพแวดล้อมซึ่งเดิมอึกทึกครึกโครมนอกกำแพงสนามสอบแบบปิดเงียบสงบลงทันที

“ประกาศผล…”

เมื่อเสียงคำรามของเจ้าหน้าที่ทางการแผ่วลง มีเจ้าหน้าที่สวมหมวกขอบเงินสี่คนพุ่งออกมาจากสนามสอบแบบปิด คนหนึ่งในนั้นถือม้วนกระดาษเหลือง ยาวกว่าความสูงของเจ้าหน้าที่คนนี้

ด้านนอกมีเจ้าหน้าที่ถือกระบองคอยขวางเหล่าบัณฑิต เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ซึ่งวิชายุทธ์ไม่ธรรมดา ต่อให้บัณฑิตเหล่านี้เบียดแค่ไหนก็ไม่ล้ำเส้น ทั้งมีเจ้าหน้าที่ฉาบกำแพงไว้ล่วงหน้าด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่สี่คนร่วมแรงกันคลายออก จากนั้นค่อยย่อตัวกระโดดพร้อมกัน สำแดงวิชาตัวเบาเคลื่อนไหวกลางอากาศ ช่วยกันคว้ามุมกระดาษเหลืองไปแปะบนกำแพง

เสียงฝ่ามือกระทบกำแพงดังปึงๆๆๆ

รอเมื่อเจ้าหน้าที่โรยตัวลง กระดานดอกซิ่งขนาดใหญ่ปรากฏ

หลังจากนั้นครู่หนึ่งอิ๋นจ้าวเซียนรู้สึกถึงบรรยากาศคุ้นเคย คล้ายตอนอยู่จังหวัดชุนฮุ่ยแห่งรัฐจี

ภายในฝูงชนบัณฑิตมากมายทยอยพูดคุย

“อิ๋นจ้าวเซียนเป็นใคร”

“คนผู้นี้อยู่ที่ไหน”

“ข้าสอบติดแล้ว ฮ่าๆๆ ข้าสอบติดแล้ว”

“ข้าก็ด้วย ฮ่าๆๆ!”

“ยินดีด้วยๆ…”

“เฮ้อ…”

“รู้จักอิ๋นจ้าวเซียนหรือไม่”

“ไม่รู้จัก…”

“ข้ารู้จักๆ เคยได้ยินชื่อเสียงบนถนนดาวบุ๋น เป็นเจี้ยหยวนจากรัฐจี!”

“โอ้ ผู้มากความสามารถๆ!”

เสียงดังมาถึงด้านหลัง ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ดังกระหึ่มคำว่า ‘อิ๋นจ้าวเซียน’ ถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า สื่ออวี้เซิงออกอาการยากจะเชื่ออยู่บ้าง อิ๋นจ้าวเซียนเองก็ใจเต้นรัวเช่นกัน

……………………..

[1] เคาหยก หมายถึง อาหารซึ่งทำจากหมูสามชั้นตุ๋นผักกาดแห้ง

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset